ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพีบทที่ 1164 เทพสำนักเต๋า

Now you are reading ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี Chapter บทที่ 1164 เทพสำนักเต๋า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

‘ราชันพระอาทิตย์ เกาหาน…’ ขณะที่เยี่ยนจ้าวเกอไตร่ตรอง เขาก็เกิดความรู้สึกไม่พอใจ

มีคนกำลังวางแผนเล่นงานตนอยู่อย่างไม่ต้องสงสัย

ถึงแม้เป้าหมายที่แท้จริงของอีกฝ่ายใช่ว่าจะเป็นเขา แต่กลับยึดถือให้เขาเป็นส่วนหนึ่งในแผนการแล้ว

เยี่ยนตี๋ขมวดคิ้วเช่นกัน

“หาเป็นไรไม่” เยี่ยนจ้าวเกอใคร่ครวญอยู่หนึ่ง พลันยิ้มขึ้น “ต่างฝ่ายต่างได้ผลประโยชน์ สิ่งสำคัญคือผู้ใดจะหัวเราะเป็นคนสุดท้าย”

“เขาคิดยืมมือท่านแม่ในการดึงราชันพระอังคารออกมา ในนี้จะต้องมีเหตุผล เมื่อทำความเข้าใจได้ว่าปัญหาอยู่ตรงไหน พวกเราก็ใช่ว่าจะควบคุมไม่ได้”

เสวี่ยชูฉิงกล่าวอย่างซึมเซา “ความเป็นไปได้ที่มากที่สุดยังมาจากความแตกต่างทางด้านความคิดในอดีตของโลกซ้อนโลก”

เป็นเพราะว่าสืบทอดลูกศิษย์เพียงคนเดียว และอยู่ในสภาพเลวร้าย เพื่อป้องกันเหตุไม่คาดฝัน ผู้สืบทอดของจักรพรรดิเจิดจรัสจึงต้องมอบความรู้ทั้งหมดที่ตนรักษาไว้ให้แก่ศิษย์ ป้องกันไม่ให้เกิดการขาดช่วง

ดังนั้นเสวี่ยชูฉิงจึงทราบความลับที่คนอื่นไม่ทราบมากมาย

“หลังจากโลกซ้อนโลกในตอนแรกสุดผ่านโลหิต ความมืด และอุปสรรคมากมาย ในที่สุดสถานการณ์ก็ค่อยๆ มั่นคง” เสวี่ยชูฉิงเล่า “แต่ว่าระหว่างยอดฝีมือที่เป็นผู้ดูแลกลับมีความเห็นต่างกัน สุดท้ายบานปลายจนไม่อาจแก้ไข ก่อให้เกิดการแตกแยก มีบางคนออกไป มีบางคนอยู่ คนที่เหลืออยู่สุดท้ายก็กำหนดสถานการณ์บนโลกซ้อนโลกได้โดยสมบูรณ์ ต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน”

พูดถึงตรงนี้ เสวี่ยชูฉิงพลันหยุดนิ่ง

“ข้าทราบเรื่องศาสนาพุทธ โถงเซียน และเทวกษัตริย์ไร้ประมาณหมดแล้ว” เยี่ยนจ้าวเกอยิ้ม

เสวี่ยชูฉิงพอฟัง สีหน้าเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ “เจ้ายังไม่ได้อยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นประมุข…”

เยี่ยนจ้าวเกอโบกสองมือให้แก่นาง “ท่านไม่ต้องห่วง ข้าไม่เป็นไร เหมือนอย่างที่ท่านมีผังเหอถูครึ่งหนึ่งคอยคุ้มครองจึงไม่เป็นไร ข้าเองก็มีวิธีของข้า ถึงแม้กงจักรมหาประกายกาฬของจักรพรรดิประกายกาฬจะยังไม่สมบูรณณ์ แต่ข้าได้ศึกษาจิตของความไร้สิ้นสุดที่อยู่ด้านในโดยละเอียด คนผสานกับของวิเศษ ไม่ถูกเทวกษัตริย์ไร้ประมาณเพาะเมล็ดพันธุ์ไว้”

ครั้นได้ยินดังนั้น สีหน้าของเสวี่ยชูฉิงอ่อนโยนลงมาก ทว่ายังคงกังวลไม่คลาย

“ท่านบอกเล่าเรื่องราวของโลกซ้อนโลกต่อเถอะ” เยี่ยนจ้าวเกอหันเหหัวข้อ

เสวี่ยชูฉิงมองเขาอย่างล้ำลึก พลางระบายลมหายใจยาว

“ในเมื่อเจ้ารู้แล้ว เช่นนั้นข้าก็ไม่จำเป็นต้องหลีกเลี่ยง” นางกล่าวอย่างแช่มช้า “ผู้สืบทอดสายเอกพิสุทธิ์หายากนัก เก้านพเคราะห์คุนหลุนใหม่ที่บุกเบิกโลกซ้อนโลกล้วนเป็นผู้สืบทอดสายหยกพิสุทธิ์ แต่ระหว่างพวกเขามีความเห็นไม่ตรงกัน จนกระทั่งสุดท้ายขัดแย้งจนไม่อาจแก้ไข ในที่สุดก็เดินไปตามทางของใครของมัน ส่วนหนึ่งเอนเอียงไปทางพัฒนาอย่างมั่นคง ค่อยๆ สั่งสม รอโอกาสฟื้นฟูสำนักเต๋าสายหลักของพวกเรา อีกสวนหนึ่งค่อนข้างหัวรุนแรง คิดว่าการสั่งสมพลังของตัวเองสำคัญ แต่ก็จำเป็นต้องคอยบุกจู่โจม ขัดขวางการพัฒนาของโถงเซียนเต๋านอกรีตด้วย”

เสวี่ยชูฉิงว่า “ฝ่ายแรกไม่จำเป็นต้องอธิบาย กษัตริย์ดินและกษัตริย์ลี้ลับอยู่ในกลุ่มนี้ ต่อมากษัตริย์ดาราที่อยู่บนโลกซ้อนโลกก็มีจุดยืนค่อนข้างเป็นกลางเช่นกัน ส่วนฝ่ายหลังมีราชันพระอาทิตย์ ราชันพระจันทร์ รวมถึงบูรพาจารย์ของข้า”

“ท่านพ่อกับราชันพระราหูได้รับการยืนยันว่าเสียชีวิตไปแล้ว จึงไม่ต้องพูดถึง ราชันพระอังคารมีจุดยืนเป็นกลางเหมือนกับกษัตริย์ดารา” เสวี่ยชูฉิงเว้นเล็กน้อย กล่าวว่า “ตามคำพูดของอาจารย์ย่า ที่บอกว่าราชันพระอังคารเป็นกลาง กลับไม่ได้หมายความว่าเขาไม่มีจุดยืนชัดเจน”

เยี่ยนจ้าวเกอมองเสวี่ยชูฉิง “เอ่อ ท่านแม่ ท่านรอเดี๋ยว ถ้าราชันพระพฤหัสบดีอยู่ฝ่ายหัวรุนแรง เช่นนั้นจักรพรรดิเจิดจรัสไปจนถึงเหล่าผู่สืบทอดเช่นท่าน…”

“แน่นอนว่าจงใจเสแสร้ง จากนั้นก็ปิดบังเอาไว้” เสวี่ยชูฉิงกล่าวอย่างมีเหตุผล

เยี่ยนจ้าวเกอหนังหน้ากระตุกเล็กน้อย “อืม ปิดบังถือว่าสำเร็จ ยังลากจักรพรรดิประกายกาฬลงน้ำด้วย…”

เสวี่ยชูฉิงกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง “จักรพรรดิประกายกาฬฝากชื่อมาพันปี ยินยอมสละร่างเพื่อความถูกต้อง พวกเราลูกศิษย์สำนักเต๋าสายหลักทุกคนสมควรจดจำให้ขึ้นใจ”

“เช่นนี้หมายถึงว่าข่าวลือเป็นจริง” เยี่ยนจ้าวเกอปั้นสีหน้าจริงจังขึ้นมาทันที “ศิลาฟ้ากำเนิดที่แท้มีความสามารถใดกันแน่”

เสวี่ยชูิงกล่าวอย่างเนิบนาบ “ถ้าเทวกษัตริย์ไร้ประมาณได้ศิลาฟ้ากำเนิดที่สมบูรณ์ไป เช่นนั้นเขาสามารถชำระล้างสำนักเต๋าสายหลักของพวกเราได้อย่างง่ายดาย แม้ว่าจะเป็นยอดฝีมือที่ได้ผลักเปิดประตูเซียน เมื่อได้ยินชื่อของเขา วิญญาณก็จะถูกสลักเป็นรอยตรา ขอแค่เทวกษัตริย์ไร้ประมาณยินยอม เพียงแค่คิด พวกเราก็กลายเป็นสาวกของเขาทันที!”

เยี่ยนจ้าวเกอใช้นิ้วเคาะหว่างคิ้วของตัวเอง พริบตาเดียวห้วงสมองบังเกิดความคิดมากมาย

ในหอหนังสือวังเทพไม่มีข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับศิลาฟ้ากำเนิด สุดท้ายแล้วนี่เป็นสิ่งของที่มีเฉพาะหลังวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ หรือว่าความเป็นมาของมันเร้นลับยิ่งกว่าที่ตนคาดไว้กันแน่

“ท่านแม่ เช่นนั้นชิ้นส่วนศิลาฟ้ากำเนิดตอนนี้อยู่ที่ใด” เยี่ยนจ้าวเกอถามเสียงเบา “อยู่บนมือท่านจริงๆ หรือ”

เสวี่ยชูฉิงส่ายหน้า “เคยมี แต่ตอนนี้ไม่แล้ว”

นางมองฟ้าดินรอบๆ อย่างมีเจตนา “ตอนนี้กระจายอยู่ทุกที่”

“พวกศิษย์น้องซือคงหรือว่า…”

“พวกศิษย์หลานซือคงหรือว่า…”

เยี่ยนจ้าวเกอกับเยี่ยนตี๋พลันเข้าใจ

“ดูเหมือนจะมีเด็กคนหนึ่งเข้าเขากว่างเฉิงกระมัง พวกท่านได้พบมาไม่ต่ำกว่าหนึ่งคนแล้ว” เสวี่ยชูฉิงพยักหน้า “อืม ไม่ผิด เหมือนอย่างที่พวกท่านคาดเดา”

เยี่ยนตี๋เอ่ยอย่างแช่มช้า “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ โลกซ้อนโลกก็กลายเป็นผู้ได้รับผลประโยชน์จากการกระทำของจักรพรรดิประกายกาฬ”

“พวกกษัตริย์ดินใช่ว่าจะไม่รู้เรื่องนี้” เสวี่ยชูฉิงถอนใจคำหนึ่ง “แต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้น โดยเปลือกนอกแล้วกลับไม่อาจยอมรับ บางทีมีเพียงแต่เวลาเท่านั้นจึงจะมอบความยุติธรรมให้จักรพรรดิประกายกาฬกับอาจารย์ย่าได้”

“เทวกษัตริย์ไร้ประมาณมีความเป็นมาอย่างไรกันแน่?” เยี่ยนตี๋ถามเสียงทุ้ม “สำนักเต๋าให้กำเนิดบุคคลเช่นนี้ขึ้นตอนไหน”

เสวี่ยชูฉิงส่ายหน้าเล็กน้อย “มีความเป็นมาอย่างไรกันแน่ ไม่มีผู้ใดล่วงรู้ แต่แน่ใจว่าจะต้องจุติจากเทพองค์ใดองค์หนึ่งในสำนักเต๋าเรา! ไม่อย่างนั้นต่อให้มีศิลาฟ้ากำเนิดคอยชั่วเหลือ เขาก็ไม่อาจชำละล้างผู้สืบทอดสำนักเต๋าสายหลักของพวกเราได้ง่ายดายเช่นนี้”

เยี่ยนจ้าวเกอเงยหน้ามองฟ้า “เทพ…หรือ?”

เทพในที่นี้ เป็นคำเรียกขาน ไม่ใช่หมายถึงระดับ

คำว่า ‘เทพ’ ในชื่อของบรมครูสายสามพิสุทธิ์กับคำว่า ‘เทวกษัตริย์’ ในชื่อคน เช่น เทวกษัตรย์กว่างเฉิง เทวกษัตริย์วิเศษคณานับ เทวกษัตริย์เหวินซู่กว่างฝ่า และเทวกษัตริย์ประพฤติเต๋าเป็นคนละเรื่องกัน

นีกพรตลู่ยา เจิ้นหยวนจื่อ รวมถึงยอดฝีมือระดับสี่เทวราชสำนักเต๋าในตำนาน ในชื่อแม้ไม่มีคำว่า ‘เทวกษัตริย์’ แต่ก็ไม่มีใครสงสัยในความแข็งแกร่งของพวกเขา

ผู้ยิ่งใหญ่ระดับสุดยอดใช่จะต้องถูกเรียกว่าเทวกษัตริย์

แต่ว่ายอดฝีมือที่ถูกเรียกว่าเทวกษัตริย์จะต้องไม่ธรรมดา

“สามารถตั้งป้อมประจัญหน้ากับพระศรีอาริย์ได้ เช่นนั้นหมายความว่ามีความรุดหน้าบนพื้นฐานเดิมเช่นนั้นหรือ” เยี่ยนจ้าวเกอพึมพำ “แต่ถ้าหากก้าวเท้าก้าวนั้น ไหนเลยไม่ใช่…”

เขานวดขมับของตัวเอง “ผู้ยิ่งใหญ่ระดับสุดยอดสำนักเต๋ามีทั้งหมดไม่กี่คน ไม่ทราบว่าคนที่รอดจากวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่มีกี่คน สุดท้ายคนผู้หนึ่งในคนไม่กี่คนนั้นสามารถก้าวเท้าก้าวนั้นได้ ก็ยิ่งน้อยกว่าเดิม”

“แต่ว่าผู้ยิ่งใหญ่สำนักเต๋าจำนวนมากหายสาบสูญ ไม่ทราบเป็นหรือตาย ไม่ทราบที่อยู่ชัดเจน ดังนั้นยากจะคาดคะเนว่าสถานะที่แท้จริงของเทวกษัตริย์ไร้ประมาณเป็นผู้ใด” เสวี่ยชูฉิงว่า “ที่ได้รับการยืนยันว่ายังมีชีวิตอยู่ ข้ารู้อยู่สามคน”

………………..

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพีบทที่ 1164 เทพสำนักเต๋า

Now you are reading ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี Chapter บทที่ 1164 เทพสำนักเต๋า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

‘ราชันพระอาทิตย์ เกาหาน…’ ขณะที่เยี่ยนจ้าวเกอไตร่ตรอง เขาก็เกิดความรู้สึกไม่พอใจ

มีคนกำลังวางแผนเล่นงานตนอยู่อย่างไม่ต้องสงสัย

ถึงแม้เป้าหมายที่แท้จริงของอีกฝ่ายใช่ว่าจะเป็นเขา แต่กลับยึดถือให้เขาเป็นส่วนหนึ่งในแผนการแล้ว

เยี่ยนตี๋ขมวดคิ้วเช่นกัน

“หาเป็นไรไม่” เยี่ยนจ้าวเกอใคร่ครวญอยู่หนึ่ง พลันยิ้มขึ้น “ต่างฝ่ายต่างได้ผลประโยชน์ สิ่งสำคัญคือผู้ใดจะหัวเราะเป็นคนสุดท้าย”

“เขาคิดยืมมือท่านแม่ในการดึงราชันพระอังคารออกมา ในนี้จะต้องมีเหตุผล เมื่อทำความเข้าใจได้ว่าปัญหาอยู่ตรงไหน พวกเราก็ใช่ว่าจะควบคุมไม่ได้”

เสวี่ยชูฉิงกล่าวอย่างซึมเซา “ความเป็นไปได้ที่มากที่สุดยังมาจากความแตกต่างทางด้านความคิดในอดีตของโลกซ้อนโลก”

เป็นเพราะว่าสืบทอดลูกศิษย์เพียงคนเดียว และอยู่ในสภาพเลวร้าย เพื่อป้องกันเหตุไม่คาดฝัน ผู้สืบทอดของจักรพรรดิเจิดจรัสจึงต้องมอบความรู้ทั้งหมดที่ตนรักษาไว้ให้แก่ศิษย์ ป้องกันไม่ให้เกิดการขาดช่วง

ดังนั้นเสวี่ยชูฉิงจึงทราบความลับที่คนอื่นไม่ทราบมากมาย

“หลังจากโลกซ้อนโลกในตอนแรกสุดผ่านโลหิต ความมืด และอุปสรรคมากมาย ในที่สุดสถานการณ์ก็ค่อยๆ มั่นคง” เสวี่ยชูฉิงเล่า “แต่ว่าระหว่างยอดฝีมือที่เป็นผู้ดูแลกลับมีความเห็นต่างกัน สุดท้ายบานปลายจนไม่อาจแก้ไข ก่อให้เกิดการแตกแยก มีบางคนออกไป มีบางคนอยู่ คนที่เหลืออยู่สุดท้ายก็กำหนดสถานการณ์บนโลกซ้อนโลกได้โดยสมบูรณ์ ต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน”

พูดถึงตรงนี้ เสวี่ยชูฉิงพลันหยุดนิ่ง

“ข้าทราบเรื่องศาสนาพุทธ โถงเซียน และเทวกษัตริย์ไร้ประมาณหมดแล้ว” เยี่ยนจ้าวเกอยิ้ม

เสวี่ยชูฉิงพอฟัง สีหน้าเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ “เจ้ายังไม่ได้อยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นประมุข…”

เยี่ยนจ้าวเกอโบกสองมือให้แก่นาง “ท่านไม่ต้องห่วง ข้าไม่เป็นไร เหมือนอย่างที่ท่านมีผังเหอถูครึ่งหนึ่งคอยคุ้มครองจึงไม่เป็นไร ข้าเองก็มีวิธีของข้า ถึงแม้กงจักรมหาประกายกาฬของจักรพรรดิประกายกาฬจะยังไม่สมบูรณณ์ แต่ข้าได้ศึกษาจิตของความไร้สิ้นสุดที่อยู่ด้านในโดยละเอียด คนผสานกับของวิเศษ ไม่ถูกเทวกษัตริย์ไร้ประมาณเพาะเมล็ดพันธุ์ไว้”

ครั้นได้ยินดังนั้น สีหน้าของเสวี่ยชูฉิงอ่อนโยนลงมาก ทว่ายังคงกังวลไม่คลาย

“ท่านบอกเล่าเรื่องราวของโลกซ้อนโลกต่อเถอะ” เยี่ยนจ้าวเกอหันเหหัวข้อ

เสวี่ยชูฉิงมองเขาอย่างล้ำลึก พลางระบายลมหายใจยาว

“ในเมื่อเจ้ารู้แล้ว เช่นนั้นข้าก็ไม่จำเป็นต้องหลีกเลี่ยง” นางกล่าวอย่างแช่มช้า “ผู้สืบทอดสายเอกพิสุทธิ์หายากนัก เก้านพเคราะห์คุนหลุนใหม่ที่บุกเบิกโลกซ้อนโลกล้วนเป็นผู้สืบทอดสายหยกพิสุทธิ์ แต่ระหว่างพวกเขามีความเห็นไม่ตรงกัน จนกระทั่งสุดท้ายขัดแย้งจนไม่อาจแก้ไข ในที่สุดก็เดินไปตามทางของใครของมัน ส่วนหนึ่งเอนเอียงไปทางพัฒนาอย่างมั่นคง ค่อยๆ สั่งสม รอโอกาสฟื้นฟูสำนักเต๋าสายหลักของพวกเรา อีกสวนหนึ่งค่อนข้างหัวรุนแรง คิดว่าการสั่งสมพลังของตัวเองสำคัญ แต่ก็จำเป็นต้องคอยบุกจู่โจม ขัดขวางการพัฒนาของโถงเซียนเต๋านอกรีตด้วย”

เสวี่ยชูฉิงว่า “ฝ่ายแรกไม่จำเป็นต้องอธิบาย กษัตริย์ดินและกษัตริย์ลี้ลับอยู่ในกลุ่มนี้ ต่อมากษัตริย์ดาราที่อยู่บนโลกซ้อนโลกก็มีจุดยืนค่อนข้างเป็นกลางเช่นกัน ส่วนฝ่ายหลังมีราชันพระอาทิตย์ ราชันพระจันทร์ รวมถึงบูรพาจารย์ของข้า”

“ท่านพ่อกับราชันพระราหูได้รับการยืนยันว่าเสียชีวิตไปแล้ว จึงไม่ต้องพูดถึง ราชันพระอังคารมีจุดยืนเป็นกลางเหมือนกับกษัตริย์ดารา” เสวี่ยชูฉิงเว้นเล็กน้อย กล่าวว่า “ตามคำพูดของอาจารย์ย่า ที่บอกว่าราชันพระอังคารเป็นกลาง กลับไม่ได้หมายความว่าเขาไม่มีจุดยืนชัดเจน”

เยี่ยนจ้าวเกอมองเสวี่ยชูฉิง “เอ่อ ท่านแม่ ท่านรอเดี๋ยว ถ้าราชันพระพฤหัสบดีอยู่ฝ่ายหัวรุนแรง เช่นนั้นจักรพรรดิเจิดจรัสไปจนถึงเหล่าผู่สืบทอดเช่นท่าน…”

“แน่นอนว่าจงใจเสแสร้ง จากนั้นก็ปิดบังเอาไว้” เสวี่ยชูฉิงกล่าวอย่างมีเหตุผล

เยี่ยนจ้าวเกอหนังหน้ากระตุกเล็กน้อย “อืม ปิดบังถือว่าสำเร็จ ยังลากจักรพรรดิประกายกาฬลงน้ำด้วย…”

เสวี่ยชูฉิงกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง “จักรพรรดิประกายกาฬฝากชื่อมาพันปี ยินยอมสละร่างเพื่อความถูกต้อง พวกเราลูกศิษย์สำนักเต๋าสายหลักทุกคนสมควรจดจำให้ขึ้นใจ”

“เช่นนี้หมายถึงว่าข่าวลือเป็นจริง” เยี่ยนจ้าวเกอปั้นสีหน้าจริงจังขึ้นมาทันที “ศิลาฟ้ากำเนิดที่แท้มีความสามารถใดกันแน่”

เสวี่ยชูิงกล่าวอย่างเนิบนาบ “ถ้าเทวกษัตริย์ไร้ประมาณได้ศิลาฟ้ากำเนิดที่สมบูรณ์ไป เช่นนั้นเขาสามารถชำระล้างสำนักเต๋าสายหลักของพวกเราได้อย่างง่ายดาย แม้ว่าจะเป็นยอดฝีมือที่ได้ผลักเปิดประตูเซียน เมื่อได้ยินชื่อของเขา วิญญาณก็จะถูกสลักเป็นรอยตรา ขอแค่เทวกษัตริย์ไร้ประมาณยินยอม เพียงแค่คิด พวกเราก็กลายเป็นสาวกของเขาทันที!”

เยี่ยนจ้าวเกอใช้นิ้วเคาะหว่างคิ้วของตัวเอง พริบตาเดียวห้วงสมองบังเกิดความคิดมากมาย

ในหอหนังสือวังเทพไม่มีข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับศิลาฟ้ากำเนิด สุดท้ายแล้วนี่เป็นสิ่งของที่มีเฉพาะหลังวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ หรือว่าความเป็นมาของมันเร้นลับยิ่งกว่าที่ตนคาดไว้กันแน่

“ท่านแม่ เช่นนั้นชิ้นส่วนศิลาฟ้ากำเนิดตอนนี้อยู่ที่ใด” เยี่ยนจ้าวเกอถามเสียงเบา “อยู่บนมือท่านจริงๆ หรือ”

เสวี่ยชูฉิงส่ายหน้า “เคยมี แต่ตอนนี้ไม่แล้ว”

นางมองฟ้าดินรอบๆ อย่างมีเจตนา “ตอนนี้กระจายอยู่ทุกที่”

“พวกศิษย์น้องซือคงหรือว่า…”

“พวกศิษย์หลานซือคงหรือว่า…”

เยี่ยนจ้าวเกอกับเยี่ยนตี๋พลันเข้าใจ

“ดูเหมือนจะมีเด็กคนหนึ่งเข้าเขากว่างเฉิงกระมัง พวกท่านได้พบมาไม่ต่ำกว่าหนึ่งคนแล้ว” เสวี่ยชูฉิงพยักหน้า “อืม ไม่ผิด เหมือนอย่างที่พวกท่านคาดเดา”

เยี่ยนตี๋เอ่ยอย่างแช่มช้า “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ โลกซ้อนโลกก็กลายเป็นผู้ได้รับผลประโยชน์จากการกระทำของจักรพรรดิประกายกาฬ”

“พวกกษัตริย์ดินใช่ว่าจะไม่รู้เรื่องนี้” เสวี่ยชูฉิงถอนใจคำหนึ่ง “แต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้น โดยเปลือกนอกแล้วกลับไม่อาจยอมรับ บางทีมีเพียงแต่เวลาเท่านั้นจึงจะมอบความยุติธรรมให้จักรพรรดิประกายกาฬกับอาจารย์ย่าได้”

“เทวกษัตริย์ไร้ประมาณมีความเป็นมาอย่างไรกันแน่?” เยี่ยนตี๋ถามเสียงทุ้ม “สำนักเต๋าให้กำเนิดบุคคลเช่นนี้ขึ้นตอนไหน”

เสวี่ยชูฉิงส่ายหน้าเล็กน้อย “มีความเป็นมาอย่างไรกันแน่ ไม่มีผู้ใดล่วงรู้ แต่แน่ใจว่าจะต้องจุติจากเทพองค์ใดองค์หนึ่งในสำนักเต๋าเรา! ไม่อย่างนั้นต่อให้มีศิลาฟ้ากำเนิดคอยชั่วเหลือ เขาก็ไม่อาจชำละล้างผู้สืบทอดสำนักเต๋าสายหลักของพวกเราได้ง่ายดายเช่นนี้”

เยี่ยนจ้าวเกอเงยหน้ามองฟ้า “เทพ…หรือ?”

เทพในที่นี้ เป็นคำเรียกขาน ไม่ใช่หมายถึงระดับ

คำว่า ‘เทพ’ ในชื่อของบรมครูสายสามพิสุทธิ์กับคำว่า ‘เทวกษัตริย์’ ในชื่อคน เช่น เทวกษัตรย์กว่างเฉิง เทวกษัตริย์วิเศษคณานับ เทวกษัตริย์เหวินซู่กว่างฝ่า และเทวกษัตริย์ประพฤติเต๋าเป็นคนละเรื่องกัน

นีกพรตลู่ยา เจิ้นหยวนจื่อ รวมถึงยอดฝีมือระดับสี่เทวราชสำนักเต๋าในตำนาน ในชื่อแม้ไม่มีคำว่า ‘เทวกษัตริย์’ แต่ก็ไม่มีใครสงสัยในความแข็งแกร่งของพวกเขา

ผู้ยิ่งใหญ่ระดับสุดยอดใช่จะต้องถูกเรียกว่าเทวกษัตริย์

แต่ว่ายอดฝีมือที่ถูกเรียกว่าเทวกษัตริย์จะต้องไม่ธรรมดา

“สามารถตั้งป้อมประจัญหน้ากับพระศรีอาริย์ได้ เช่นนั้นหมายความว่ามีความรุดหน้าบนพื้นฐานเดิมเช่นนั้นหรือ” เยี่ยนจ้าวเกอพึมพำ “แต่ถ้าหากก้าวเท้าก้าวนั้น ไหนเลยไม่ใช่…”

เขานวดขมับของตัวเอง “ผู้ยิ่งใหญ่ระดับสุดยอดสำนักเต๋ามีทั้งหมดไม่กี่คน ไม่ทราบว่าคนที่รอดจากวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่มีกี่คน สุดท้ายคนผู้หนึ่งในคนไม่กี่คนนั้นสามารถก้าวเท้าก้าวนั้นได้ ก็ยิ่งน้อยกว่าเดิม”

“แต่ว่าผู้ยิ่งใหญ่สำนักเต๋าจำนวนมากหายสาบสูญ ไม่ทราบเป็นหรือตาย ไม่ทราบที่อยู่ชัดเจน ดังนั้นยากจะคาดคะเนว่าสถานะที่แท้จริงของเทวกษัตริย์ไร้ประมาณเป็นผู้ใด” เสวี่ยชูฉิงว่า “ที่ได้รับการยืนยันว่ายังมีชีวิตอยู่ ข้ารู้อยู่สามคน”

………………..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+