ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพีบทที่ 1298 ร่างมหาชาลเซียนสวรรค์ ไม่เสื่อมสลายหลุดพ้นซึ่งทุกสิ่ง

Now you are reading ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี Chapter บทที่ 1298 ร่างมหาชาลเซียนสวรรค์ ไม่เสื่อมสลายหลุดพ้นซึ่งทุกสิ่ง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ไม่ว่าจะอยู่บนโลกซ้อนโลก หรือว่ามรกตท่องฟ้า

ไม่ว่าจะอยู่มุมใดในโลก ตอนนี้เมื่อเงยหน้ามองไป ต่างเห็นแสงไฟละลานตาบริเวณหนึ่ง ครอบคลุมท้องฟ้า ไม่มีจุดสิ้นสุด

ยิ่งอย่าว่าแต่โลกเบื้องล่างและมิติพิเสษมากมาย ยามลืมตาดู สิ่งที่เห็นมีแต่สีแดงเพลิง

หลังจากได้รับการกระตุ้นะจากเสียงที่ลี้ลับนั้น คนธรรมดาทั่วไปส่วนใหญ่ต่างเลอะเลือน เพียงรู้สึกหวั่นเกรงต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกที่ราวกับปาฏิหาริย์ พากันก้มกราบกราน

จอมยุทธ์สำนักเต๋า ไม่ว่าจะสูงหรือต่ำ ทุกคนหลังจากความมึนงงในตอนแรก ล้วนลิงโลดแทบคลุ้มคลั่ง

ในวันนี้มีจักรพรรดิราชันฟ้าตำหนักสวรรค์ดโกวเฉินซึ่งเป็นหนึ่งในสี่เทวราชสำนักเต๋าในตำนานปรากฏขึ้นก่อน

จากนั้นก็มียอดฝีมือที่เกิดมาหลังวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่เลื่อนสู่ตำแหน่งเซียนสวรรค์ชั้นมหาชาล จะไม่ให้ผู้คนรู้สึกพลุ่งพล่านถึงขีดสุดได้อย่างไร

ปรากฎการณ์มากมายที่เหมือนกับปาฎิหาริย์ ต่างกำลังบอกว่านี่ไม่ใช่ความฝัน

คนที่เข้าใจเรื่องราวในวันนี้ ยิ่งรู้สึกสั่นสะเทือน

เหล่ายอดฝีมือที่พลังฝึกปรือสูงถึงระดับหนึ่งเงยหน้ามองไป เห็นอย่างชัดเจนว่า บุรุษผมสั้นร่างสูงใหญ่ผู้หนึ่ง ค่อยๆ ทลายนภาออกไปอยู่ด้านนอกสวรรค์ชั้นก้าว เริ่มเปลี่ยนเป็นยากสัมผัส ยากทำคามเข้าใจ ยากบรรยาย

“ยินดีกับราชันพระอังคารที่ได้เลื่อนสู่ระดับเซียนสวรรค์ชั้นมหาชาล หลุดพ้นซึ่งทุกสิ่ง”

นิวาสสถานที่ถูกปิดผนึกมานานหลายปีสองแห่งบนเขาแหนเขียวในมรกตท่องฟ้าต่างเปิดออกพร้อมกัน

หญิงชราอายุหหกสิบปีแต่เค้าหน้าสง่างามเห็นบุคลิกในวันวานคนหนึ่ง กับสตรีอาภรณ์เขียวอายุราวๆ สามสิบปีคนหนึ่ง ยืนอยู่เหนือเขาแหนเขียว

พวกนางพอออกฌาน ทั่วทั้งเขาแหนเขียวสั่นสะเทือน

คนหนึ่งเป็นกษัตริย์เถา ที่มีชื่อเสียงมาหลายพันปี ไม่ว่าผู้ใดพบก็ต้องเรียกว่าบูรพาจารย์ผู้อาวุโส

อีกคนหนึ่งเป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งบนมรกตท่องฟ้าในตอนนี้อย่างแท้จริง ผู้ฝึกกระบี่อันดับหนึ่งซึ่งเป็นผู้สืบทอดกระแสตรงสายเหนือพิสุทธิ์แห่งเขาแหนเขียว กษัตริย์ลี้ลับเกาชิงเสวียน

ยามนี้ คนทั้งสองทำท่าคำนับไปยังทะเลเพลิงซึ่งกระจายอยู่ทั่วท้องฟ้าอย่างจริงจัง

ด้านข้างพวกนาง หลงจักรพรรดิน้ำพุออกฌานมาเช่นกัน จักรพรรดิสัญญะเมฆแห่งเขาธุลีวิญญาณ หลงเสวี่ยจี้จักรพรรดิราชันพิสุทธิ์ จักรพรรดิปฐพีศานติและจักรพรรดิสัจอุรุซึงก่อนหน้านี้ยังรักษาบาดแผล ต่างเรียงแถว

ด้านหลังพวกเขา ยังมีผู้สืบทอดกระแสตรงสายเหนือพิสุทธิ์แห่งมรกตท่องฟ้าอีกมากมาย

ทุกคนต่างคำนับทะเลเพลิงด้านบนตามกษัตริย์ลี้ลับและกษัตริย์เถา

“ยินดีกับราชันพระอังคารที่ได้เลื่อนสู่ระดับเซียนสวรรค์ชั้นมหาชาล หลุดพ้นซึ่งทุกสิ่ง”

ในความตื่นตระหนกระคนแทรกด้วยความอับใจ ในความอับจนมีความปลาบปลื้ม ในความปลาบปลื้มมีความเหน็ดเหนื่อยยิ่งกว่า นอกจากความเหน็ดเหนื่อยคือความวิตกกังวล

ราชันพระเสาร์เจี่ยงเซิ่นที่ในใจเต็มไปด้วยรสชาติต่างๆ ยืนอยู่ใต้การคุ้มครองจากแสงดาวของจักรพรรดิโกวเฉิน มองดูแสงเพลิงเข้าใกล้ไม่หยุดยั้ง ถึงขั้นเริ่มเผาไหม้แสงดาว

ในเสียงถอนใจยาวนาน เขาคำนับไปยังทะเลเพลิงนั้นเช่นกัน

หยางเซ่อราชันพระเกตุที่อยู่ด้านข้างมีสีหน้าลึกลับอยู่บ้าง เคลื่อนไหวอย่างเดียวกัน

“ยินดีกับราชันพระอังคารเลื่อนสู่ระดับเซียนสวรรค์ชั้นมหาชาล หลุดพ้นซึ่งทุกสิ่ง”

เป็นเพราะว่ายอดฝีมือในจักรวาลสำนักเต๋ายามนี้มีมากเกินไป ด้านในตำหนักโอสถที่ซ่อนตัวลำบากเป็นพิเศษ แทบจะปรากฏรูปร่าง ร่างสูงใหญ่ร่งหนึ่งตั้งตรง ทั่วทั้งร่างมีเปลวเพลิงลุกไหม้

ภายใต้การครอบคลุมของเปลวเพลิง ร่างของเขาเปลี่ยนกลับไปกลับมาระหว่างร่างมนุษย์และหอกวงเดือนเล่มมหึมา

สืบเนื่องจากแสงเพลิง ทำให้คนมองไม่เห็นหน้าตาของเขา

เวลานี้ แสงเพลิงพลันสลายไปอย่างเงียบๆ เผยให้เห็นใบหน้าของบุรุษอันทรหด

เขาคำนับทะเลเพลิงซึ่งแผ่พุ่งไปทั่วจักรวาลอย่างจริงจังเช่นกัน

ต้นผมขาวที่สูงใหญ่ด้านในตำหนักโอสถต้นนั้น ยานี้กิ่งใบพลันสั่นไหวอย่างเร่งร้อนกว่าเดิม

ดอกสีขาวหิมะที่ขึ้นดก ร่วงหล่นจากต้น ไร้สิ้นสุด เหมือนกับหิมะโปรยปราย

ดอกเก่าร่วงหล่นอย่างต่อเนื่อง แต่พอถูกแสงเพลิงนั้นสาดส่อง ดอกใหม่ก็ผลิบานขึ้นมากกว่าเดิม เหมือนกับถูกย้อมด้วยสีทองจางๆ ชั้นหนึ่ง

“ยินดีกับราชันพระอังคารเลื่อนสู่ระดับเซียนสวรรค์ไร้สิ้นสุด หลุดพ้นซึ่งทุกสิ่ง”

กลางความว่างเปล่าไร้สิ้นสุดด้านนอกจักรวาลสำนักเต๋า คนหนุ่มอาภรณ์ขาวในแสงสว่างจุดนั้นหัวเราะเริงร่า คำนับไปยังจักรวาลสำนักเต๋าที่ถูกแสงเพลิงเติมเต็ม

“เป็นฉากอันอลังการนัก สั่วหมิงจาง ท่านไม่ทำให้ข้าผิดหวังจริงๆ” คนหนุ่มอาภรณ์ขาวคล้ายชมเชยคล้ายถอนใจ “ต้องขอบคุณท่าน เมื่อเป็นแบบนี้ ความสนใจของใต้เท้าโกวเฉินจะต้องถูกท่านดึงดูดไว้ เทวกษัตริย์ไร้ประมาณจะต้องรีบมา พวกท่านต้องยอมถอยเพราะสาเหตุนี้”

ในจักรวาลสำนักเต๋า ทะเลเพลิงทั่วฟ้าม้วนคลุมทุกที่ ห้อมล้อมแสงดาวของจักรพรรดิโกวเฉินและแสงวิเศษพลังศรัทธาของโถงเซียนเส้นทางนอกรีต จากนั้นก็ค่อยๆ ยกตัวขึ้น

เหล่ายอดฝีมือที่มายังที่นี่ตรงหน้าถึงกับถูกแสงเพลิงม้วนออกไปจากจักรวาลสำนักเต๋า

“ก่อนที่ความสนใจของใต้เท้าโกวเฉินจะกลับมายังโลกซ้อนโลก ข้ามีเวลามากพอ”

คนหนุ่มอาภรณ์ขาวปรบมือกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ทุกอย่างในวันนี้พร้อมแล้ว ลมบูรพาก็มาถึงแล้วเช่นกัน…”

ขณะที่ยินดี สีหน้าของเขาพลันแปรเปลี่ยนเล็กน้อย

ในจักรวาลสำนักเต๋ามีแสงเพลิงสายหนึ่งพุ่งมา ฟันใส่แสงสว่างที่คนหนุ่มอาภรณ์ขาวอยู่!

“เกาหาน ท่านใช้ผู้สืบทอดของจวินหวงยืมดาบข้าสังหารคน ท่านทำสำเร็จแล้ว” เป็นเสียงของสั่วหมิงจาง “แต่การยืมดาบของข้า ไม่ว่าอย่างไรท่านก็ต้องจ่ายราคามาบ้าง”

คนหนุ่มอาภรณ์ขาว ก็คือราชันพระอาทิตย์ที่ถูกเรียกเป็นเก้านพเคราะคุนหลุนใหม่เหมือนสั่วหมิงจางและเจี่ยงเซิ่น ภายหลังออกจากโลกซ้อนโลก ไปจากจักรวาลสำนักเต๋า

แสงเพลิงเหมือนกับผ่าไม้ไผ่ ฟันแสงสว่างที่เกาหานอยู่ออก

“ซู้ด…” เกาหานร่างกลายเป็นลำแสง ถอยหลังอย่างรวดเร็ว

ความเร็วของเขาถูกเพิ่มระดับถึงขีดสุด

บนศีรษะของเกาหานถึงกับปรากฏแสงสว่างสองหย่อม!

ยอดฝีมือผู้โชกโชนที่รอดจากวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่เหมือนกับราชันพระเสาร์เจี่ยงเซิ่น หลิงชิงราชันพระจันทร์ เจี่ยนซุ่นหวาราชันพระราหู ไม่เพียงแต่อยู่ในระดับสุญญาตาที่ห้าปราณมุ่งสู่ต้นกำเนิด ยิ่งฝึกฝนสองบุปผาบนกระหม่อมสำเร็จ ก้าวสู่ระดับสูงสุดของเซียนกำเนิด เหนือกว่าเจี่ยงเซิ่น!

ทว่าตอนนี้พอเผชิญแสงเพลิงนั้น เกาหานไม่มีความคิดจะต้านทานแม้แต่น้อย

ในเก้านพเคราะห์คุนหลุนใหม่ ไม่มีใครเป็นคู่ต่อสู้ของสั่วหมิงจางเมื่ออยู่ในระดับเดียวกัน ยิ่งอย่าว่าแต่ตอนนี้ระดับยังกดทับคน

แสงเพลิงไล่ตามเกาหาน ฟันใส่ศีรษะของเขา

ไม่มีดวงอาทิตย์ลาลับฟ้า ไม่มีพระอาทิตย์ตกทางทิศตะวันตก ไม่มีสุริยันหายไปหลังเขาทิศประจิม ไม่มีแสงโพล้เพล้ดับลง

เหมือนเปลี่ยนจากดวงตะวันกลางหาวเป็นราตรีอนธการในชั่วพริบตา!

ถูกตัดทิ้งอย่างไร้เค้าลาง ไร้กระบวนการ

แสงอาทิตย์โชติช่วงหายไปในทันที

สองบุปผาบนศีรษะเกาหาน ถูกฟันทิ้งไปดอกหนึ่ง!

นี่ไม่ใช่การดับสลายไปชั่วคราว แต่ถูกทำลายโดยสิ้นเชิง คิดจะฝึกฝนตั้งแต่ต้น ต้องใช้เวลามากกว่าเดิม!

เกาหานถูกสั่วหมิงจางตัดพลังฝึกปรือจากระดับสูงสุดของเซียนกำเนิด

แสงเพลิงยังคงมีสภาวะ ฟันใส่บุปผาอีกดอกหนึ่งบนศีรษะเกาหาน!

“สั่วมังกรอัคคี นิสัยของท่านไม่เปลี่ยนแม้แต่น้อย” เกาหานเอ่ยเสียงเนิบนาบ แสงที่เหลืออยู่บนศีรษะหายไปในหัว จากนั้นหมุนร่างวูบหนึ่ง ใช้ร่างของตัวเองรับการโจมตีนี้

ถึงจะลงมือ แต่สุดท้ายสั่วหมิงจางก็ยังคิดถึงว่ามาจากสามพิสุทธิ์สายหลักเหมือนกัน ไม่ได้กะเอาให้ตาย เพียงเตรียมฟันใส่สองบุปผาบนศีรษะของเกาหาน ทำลายห้าปราณในอกของเขา

เกาหานฝืนรับการโจมตีนี้ ถึงจะรักษาพลังฝึกปรือไว้ได้ แต่ว่าตัวเองได้รับบาดเจ็บสาหัส แทบสิ้นชีวิต รีบหนีไปยังที่ไกล ไม่กล้ารั้งอยู่อีก

หลังโจมตีเสร็จ สั่วหมิงจางก็มิได้ไล่ตาม

เปลเพลิงโหมกระพือ กีดกันแสงวิเศษพลังศรัทธาหลายสาย ออกจากจักรวาลสำนักเต๋าพร้อมกัน

ภายใต้การตัดฟ้า แม้การโจมตีของอีกฝ่ายจะเหมือนกระแสคลื่น ก็ไม่สนใจ เหมือนกับทำนบที่แข็งแกร่งขึ้นฝืนยันน้ำกลับไป!

………………..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด