ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพีบทที่ 1316 ทุกท่าน ขอต้อนรับสู่โลกใบใหม่

Now you are reading ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี Chapter บทที่ 1316 ทุกท่าน ขอต้อนรับสู่โลกใบใหม่ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ไม่เพียงแค่เขตบนโลกซ้อนโลกจำนวนมากที่ถูกดึงออกไป โลกเบื้องล่างหลายใบที่เกี่ยวข้องกับโลกซ้อนโลก วินาทีนี้ล้วนถูกจักรวาลในตำหนักโอสถบรรจุไว้

เทียบกับเขตมากมายบนโลกซ้อนโลกที่ถูกดึงออกมาแล้ว โลกใบอื่นค่อนข้างมั่นคง เพราะว่าเขตแดนของตัวเองสมบูรณ์ดี

ถึงแม้ว่าเมื่อเทียบกับโลกซ้อนโลกแล้ว เขตแดนของพวกมันจะเปราะบางเป็นอย่างยิ่ง แต่ภายใต้การดูแลอย่างใส่ใจของเยี่ยนจ้าวเกอก็ไม่มีปัญหาใด

กระนั้นการเคลื่อนที่ครั้งนี้ยังสร้างคลื่นสูงเทียมฟ้าในโลกเบื้องล่างแต่ละใบ

การเคลื่อนไหวปราณวิญญาณในโลกแต่ละใบยังปั่นป่วนสับสน

โลกลอยน้ำ กลางขุนเขาทิศตะวันตก บนภูเขาหิมะสะพานหยก ด้านในที่อยู่ของพรรคกระเรียนหิมะ

ซู่อวิ๋น เฉินนั่ว เฉินหนงล้วนอยู่พร้อมหน้า ต่างเงยมองท้องฟ้า

ท้องฟ้ากระจ่างใสนับหมื่นลี้ในตอนแรก ตอนนี้กลับเต็มไปด้วยสีสันนาๆ แสงสว่างหลายสายไหลเวียนและกะพริบกลางความว่างเปล่า ทำให้คนที่เห็นยากลืมเลือน

ด้านข้างพวกนาง ยอดฝีมือโลกลอยน้ำที่มีหลัวจิ่งฮ่าวเจ้าสำนักเขามังกรเขียวเป็นผู้นำ ขณะนี้รวมตัวกันที่นี่ มองปรากฏการณ์ที่เหมือนกับภัยพิบัติวันสิ้นโลก ไม่กล้าส่งเสียงใด

หลายปีมานี้ ถึงแม้พรรคกระเรียนหิมะจะยังคงเก็บตัวอยู่บนโลกลอยน้ำ แต่ว่าคนที่อยู่ที่นี่ก็ทราบแล้วว่า สำนักของจอมยุทธ์ที่ดูแปลกแยก เน้นฝึกฝนลมปราณสำนักนี้ จึงเป็นเจ้าชีวิตที่แท้จริงในโลกซึ่งมีจอมยุทธ์เลือดปีศาจเป็นทางสายหลัก

สำนักอื่นๆ ต่อให้แข็งแกร่ง ก็ต้านทานคน ‘เบื้องบน’ พรรคกระเรียนหิมะไม่ได้

สืบเนื่องจากชีวิตของตัวเองยังไม่แน่นอน เพื่อลดความเกี่ยวข้องกับซูอวิ๋นอย่างเต็มที่ ก่อนหน้านี้ถึงแม้เสวี่ยชูฉิงสามารถเคลื่อนไหวบนโลกซ้อนโลกได้อย่างเปิดเผย แต่ยังคงไม่ได้ลงมาพบพวกซูอวิ๋นที่โลกลอยน้ำ

ทว่าเขากว่างเฉิงก็ช่วยส่งข่าวให้ ซูอวิ๋นจึงทราบแล้วว่าเสวี่ยชูฉิงปลอดภัย

“ท่านแม่…” เฉินหรงมองซู่อวิ๋นด้วยความวิตกอยู่บ้าง

ซู่อวิ๋นยิ้มเล็กน้อย “ไม่ต้องกังวล รอคอยผลลัพธ์ก็พอ มาตรว่าโลกลอยน้ำจะถูกทำลาย พวกเราก็ทำอะไรไม่ได้ มิสู้เผชิญด้วยเยือกเย็น”

ถึงจะไม่ทราบแผนการบนโลกซ้อนโลกของเยี่ยนจ้าวเกอกับเสวี่ยชูฉิง และไม่ทราบว่าปัจจุบันนี้กำลังเกิดการเปลี่ยนแปลงสะท้านฟ้าสะท้านดินอะไรขึ้นในจักรวาลสำนักเต๋ากับโลกซ้อนโลกที่อยู่ด้านนอกโลกลอยน้ำ หากแต่การเปลี่ยนแปลงยิ่งใหญ่เช่นนี้บนโลกลอยน้ำ ไม่ใช่ฝีมือที่ผู้ใดในโลกลอยน้ำสามารถกระทำได้

เป็นได้แค่การเปลี่ยนแปลงจากข้างบนสู่ข้างล่าง ซึ่งเกิดบนโลกที่ระดับสูงกกว่า

“แต่ข้าเชื่อว่า นายหญิงกับนายน้อย ยังมีเหล่าท่านเขย ต่างได้รับการคุ้มครองจากฟ้า” ซู่อวิ๋นกล่าวอย่างสงบ

คนอื่นๆ ที่อยู่รอบๆ ได้ยินดังนั้น ก็ใจเย็นลงมาก แม้จะยังคงกระวนกระวาย แต่ก็ไม่ได้เคร่งเครียดเหมือนเดิม

ทุกคนล้วนมองท้องฟ้าอย่างสงบนิ่ง รอคอยผลลัพธ์สุดท้าย

ในโลกผืนสมุทร คนทุกคนก็ร้อนรนเช่นกัน

โลกืนสมุทรที่ต้องผ่านภัยพิบัติหลายครั้งเพราะผลกระทบจากสุสานมังกร มีการเตรียมใจ ทั้งยังมีความรู้สึกปราดเปรียวเป็นพิเศษ ต่อการเปลี่ยนแปลงของฟ้าดินที่รุนแรง

สุสานมังกรได้กลายเป็นประวัติศาสตร์ไปแล้ว แต่ว่าภัยพิบัติที่ม้วนคลุมโลกทั้งใบคล้ายยังคงไม่หายไป

กระนั้น หลังจากได้เห็นความน่ากลัวที่แทบทำลายล้างโลก จากการลอยขึ้นหลังจากเข้าฌานของเยี่ยนจ้าวเกอในอดีต จอมยุทธ์บนโลกผืนสมุทรมีความเข้าใจต่อเรื่องเหนือคนมีคน เหนือฟ้ามีฟ้า มากกว่าคนในโลกเบื้องล่างใบอื่นๆ

วินาทีนี้ ไม่ว่าความสัมพันธ์ในอดีตจะดีหรือร้าย คนส่วนใหญ่จากสำนักอื่นๆ ล้วนไปรวมตัวที่เขาหงส์วิเศษ

ทุกคนทราบว่า บนเขาหงส์วิเศษ มีคนของเขากว่างเฉิงอาศัยอยู่

และเป็นเพราะว่าการติดต่อกับเขากว่างเฉิงบนโลกซ้อนโลก จึงทำให้เขาหงส์วิเศษกลายเป็นผู้ปกครองยุทธจักรบนโลกผืนสมุทรในตอนนี้

เยี่ยนจ้าวเกอเซียนผู้ถูกเนรเทศ เทพนิยายชั่วนิรันดร์ในยุทธจักรของโลกผืนสมุทร เป็นคนของเขากว่างเฉิง

“วันนี้โลกผืนสมุทรเกิดการเปลี่ยนแปลง เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวของสำนักเราบนโลกเบื้องบน ทุกคนรอคอยให้เรื่องปิดฉากลงอย่างสงบเถอะ”

คนหนุ่มอายุราวๆ ยี่สิบสามสิบปีคนหนึ่งกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรื่อง “ขอให้สหายร่วมเส้นทางทุกท่านช่วยกันระวังความผิดปกติบางส่วนให้มาก”

เกาเทียนจง เจ้าสำนักคนปัจจุบันของเขาหงส์วิเศษ ยอดฝีมืออันดับหนึ่งบนโลกผืนสมุทรในตอนนี้ เป็นตัวแทนจอมยุทธ์โลกผืนสมุทรทุกคน กล่าวว่า “ท่านหลานเกรงใจแล้ว พวกเรามีพลังฝึกปรือต่ำต้อย ไร้ความสามารถช่วยเหลือ เพียงขอแค่เขากว่างเฉิงไร้อุปรสรรค ได้รับชัยชนะก็พอ”

ถึงเขาจะเป็นจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสาม บุรุษตรงหน้ายังเป็นมหาปรมาจารย์ แต่เกาเทียนจงก็ยังแสดงมารยาทอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง

ปัจจุบันผู้อาวุโสของเขากว่างเฉิงล้วนมุ่งหน้าไปบำรุงร่างกายบนโลกซ้อนโลกที่มีปราณวิญญาณเต็มเปี่ยมกว่า และมีสภาพแวดล้อมดีกว่าแล้ว

คนรุ่นใหม่เติบโตขึ้น แบกรับหน้าที่ที่เคยอยู่บนบ่าของเหล่าผู้อาวุโส

ผู้อาวุโสที่เป็นตัวแทนเขากว่างเฉิงบนโลกซ้อนโลกในตอนนี้ ก็คือหลานเหวินเหยียนศิษย์น้องรุ่นเดียวกันของพวกเยี่ยนจ้าวเกอ

“ขอบคุณคำอวยพรของผู้อาวุโส” หลานเหวินเหยียนกล่าวด้วยรอยยิ้ม “พวกศิษย์พี่เยี่ยนกับอาจารย์อาเจ้าสำนักจะต้องจัดการได้แน่”

ศิษย์เขากว่างเฉิงที่นั่งอยู่ข้างๆ เขา ต่างมีท่าผ่อนคลาย มีทั้งความเชื่อมั่นต่อสำนัก และการตกตะกอนของสภาพจิตใจ ไม่แตกตื่นต่อการเปลี่ยนแปลง

โลกแปดพิภพ หอคลื่นโหม

อันชิงหลินเป็นผู้นำ ด้านหลังยังมีคนอื่นๆ ในหอคลื่นโหม ต่างคนต่างมองไปยังท้องฟ้าเหนือศีรษะ

เทียบกับโลกเบื้องล่างใบอื่นๆ แล้ว ที่นี่หลังจากผ่านการปรับปรุงเป็นพิเศษโดยเขากว่างเฉิง การโคจรปราณวิญญาณจึงมั่นคงกว่าโลกเบื้องล่างใบอื่นๆ มาก

กระนั้นตอนนี้ได้รับผลกระทบจากโลกภายนอก วัฏจักรปราณวิญญาณของโลกแปดพิภพก็เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงเช่นกัน

“ข่าวที่ส่งมาจากทางเขากว่างเฉิงบอกว่า โลกซ้อนโลกเกิดการเปลี่ยนแปลงใหญหลวงจริงๆ” มีคนกล่าวเสียงเบา

อันชิงหลินพยักหน้า “คิดมากไปก็เปล่าประโยชน์ พวกเราอดทนรอคอยเถอะ”

สถานการณ์เดียวกันเกิดขึ้นในที่อยู่ของขุมกำลังระดับสุดยอดแต่ละที่บนโลกแปดพิภพเช่นกัน

คนในเขากว่างเฉิงบนทวีปนภา ต่างกลับสำนักหมดสิ้น ต่างคนต่างสงบใจฝึกฝน รอคอยฝุ่นหายตลบ

เรื่องราวที่คล้ายกันนี้เกิดขึ้นในโลกเบื้องล่างทุกๆ ใบอย่างต่อเนื่อง

เพียงแต่มีแค่คนส่วนหนึ่งที่ทราบเรื่อง คนส่วนใหญ่ล้วนไม่ทราบ ต่างหวาดหวั่นพรั่นกลัว

เวลานี้ กลางจักรวาลในตำหนักโอสถเหมือนลอยไว้ด้วยฟองอากาศขนาดมหึมาหลายฟอง

ที่ถูกฟองอากาศเหล่านี้คลุม ก็คือมหาสมุทรแสงบริเวณหนึ่งที่เกิดจากการดึงมิติเวลาในโลกซ้อนโลกออกมา

ทุกสิ่งนี้หลั่งไหลเข้ามาในตำหนักโอสถ ทำให้จักรวาลในตำหนักที่เดิมทีกว้างใหญ่ไร้ขอบเขต คล้ายเปลี่ยนเป็นแน่นขนัดหลายส่วน

ในหอเซียนม่วง เยี่ยนจ้าวเกอยิ้มเล็กน้อย “ทุกท่าน ขอต้อนรับสู่โลกใบใหม่”

ตำหนักหยกขาวในที่สุดก็นำพาหลายสิ่งหลายอย่างออกจากโลกซ้อนโลก ทำลาย ‘กำแพง’ ไร้รูปร่าง ผละจากจักรวาลสำนักเต๋าได้โดยสิ้นเชิง

หลังจากเข้ามาในมิตินอกเขตแดนที่ราวกับไร้สิ้นสุด เยี่ยนจ้าวเกอไม่ได้ผ่อนคลาย ผลักดันพิธีกรรมในหอเซียนม่วงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ตำหนักโอสถเริ่มเกิดการเปลี่ยนแปลง

แสงส่างสีทองกำลังจะดับลง ทะเลเมฆสีม่วงหายไป ตำหนักใหญ่ที่เหมือนกับหยกสีขาว ค่อยๆ กลายเป็นโปร่งแสง หลอมรวมในความว่างเปล่าอันมืดมิด ราวกับหายไป

“แม้จะออกจากจักรวาลสำนักเต๋ามายังมิตินอกเขตแดนได้แล้ว แต่ยังมีความเป็นไปได้ที่จะเปิดเผยร่องรอย พวกเรายังคงต้องระวังตัว”

เยี่ยนจ้าวเกอผ่อนลมหายใจยาว หันไปมองเฟิงอวิ๋นเซิงกับเยว่เจิ้นเป่ยที่เข้ามาในหอเซียนม่วง ภายใต้การนำทางของเขา

“แต่ว่าขั้นแรกของแผนการในที่สุดก็สำเร็จแล้ว ต่อจากนี้…”

เยี่ยนจ้าวเกอคลี่ยิ้ม กล่าวว่า “…แม่นางสะใภ้ ในที่สุดเจ้าก็กลับมาเสียที!”

พูดยังไม่ทันจบ เฟิงอวิ๋นเซิงก็โผสู่อ้อมอกของเขา

………………..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด