ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพีบทที่ 1410 มาถึงตรงหน้า

Now you are reading ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี Chapter บทที่ 1410 มาถึงตรงหน้า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ถึงสวี​เฟย​จะเป็นห่วง​เรื่อง​ของ​สือจ​วิน​กับ​อิ๋งอวี่เจิน​ แต่​โดย​เปลือกนอก​เขา​ไม่แสดงให้เห็น​ ไม่ได้​วางตัว​เปิดเผย​เหมือน​เช่น​วันวาน​

สือจ​วิน​คำนับ​เยี่ยน​จ้าว​เก​อ​ด้วยความยินดี​

“ใช่แล้ว​ กลับมา​แล้ว​” เยี่ยน​จ้าว​เก​อก​ล่า​วอ​ย่าง​สะทก​สะท้อน​ “พวก​ข้า​นำ​ซาก​สังขาร​ของ​จักรพรรดิ​เจิด​จรัส​กลับมา​แล้ว​”

สวี​เฟย​กับ​สือจ​วิน​แม้ไม่ทราบ​ถึงการดำรงอยู่​ของ​โถงเซียน​ แต่​ย่อม​เคย​ได้ยิน​ชื่อ​ของ​จักรพรรดิ​เจิด​จรัส​หู​เย​ว่​ซิน​มาก่อน​

เยี่ยน​จ้าว​เก​อ​ก็​เคย​บอกเล่า​เรื่องราว​ของ​หู​เย​ว่​ซิน​กับ​จักรพรรดิ​ประกาย​กาฬ​อิ่น​เทียน​เซี่ย​อย่าง​คลุมเครือ​ ดังนั้น​สวี​เฟย​กับ​สือจ​วิน​สอง​ศิษย์​อาจารย์​จึงกล่าว​ด้วย​สีหน้า​เคร่งขรึม​ “ผู้อาวุโส​เป็น​แบบอย่าง​ วิญญาณ​ได้​กลับ​สู่บ้าน​ นี่​เป็นเรื่อง​ดี​”

“สาย​สืบทอด​ของ​ราชัน​พระ​พฤหัสบดี​ล้วน​เข้มแข็ง​กล้าหาญ​ พวกเรา​คนรุ่นหลัง​ นอกจาก​ทำ​เรื่องราว​เล็กน้อย​นี้​แล้ว​ก็ได้​แต่​มุมานะ​บากบั่น​ ไม่ทำให้​พวกเขา​ผิดหวัง​” เยี่ยน​จ้าว​เก​อ​วางท่า​ผ่อนคลาย​ มอง​สือจ​วิน​พร้อม​กล่าว​ด้วย​รอยยิ้ม​ “หลาย​ปี​มานี้​จวิน​เอ๋อร์​มีพัฒนาการ​ชัดเจน​ ครั้งนี้​ข้า​นำ​ของดี​มาให้​แก่​เจ้า”

สือจ​วิน​ถามอย่าง​สงสัย​ “ของดี​หรือ​”

เยี่ยน​จ้าว​เก​อห​ยิบ​ใย​ไหม​ที่​ได้​จาก​ปีศาจ​กระเรียน​ออกมา​ “ของ​วิเศษ​ชี้นี้​จะช่วย​แก้ไข​ภัย​มาร​บน​ร่าง​ของ​เจ้ากับ​พี่สะใภ้​อวี่เจิน​ หลังจาก​แก้ไขปัญหา​ที่​หยั่งลึก​เหล่านี้​ ต่อจากนี้​เจ้าจะทะยาน​ขึ้น​ฟ้า ไม่มีการขัดขวาง​อีก​”

พอ​ได้ยิน​คำพูด​ของ​เยี่ยน​จ้าว​เก​อ​ สือจ​วิน​ก็​เอ่ย​อย่าง​ดีใจ​ “อาจารย์​อา​เยี่ยน​อุตส่าห์​อวยพร​ ศิษย์​จะกล้า​ไม่ขยัน​ได้​อย่างไร​ แต่ว่า​ใย​ไหม​นี้​มีแค่​เส้น​เดียว​ ถ้าหากว่า​จำนวน​มีจำกัด​ ควรจะ​ดูแล​ทาง​มารดา​ข้า​ก่อน​”

เขา​กล่าว​อย่าง​รู้สึก​ผิด​อยู่​บ้าง​ “ข้า​รู้​ว่า​อาจารย์​อา​เยี่ยน​ท่าน​ อาจารย์​อา​เจ้าสำนัก​ ยังมี​อาจารย์​ของ​ข้า​สมควร​มีความคิด​อยู่แล้ว​ ข้า​ไม่จำเป็นต้อง​สอด​ปาก​ แต่ว่า​ใน​ใจก็​มีความกังวล​มาโดยตลอด​”

เยี่ยน​จ้าว​เก​อ​กับ​สวี​เฟย​ต่าง​หัวเราะ​ เยี่ยน​จ้าว​เก​อ​ส่ายหน้า​ “วางใจ​เถอะ​ นี่​ไม่ได้​ใช้ได้​กับ​แค่​คน​คนเดียว​ พวก​เจ้าสอง​แม่ลูก​ ไป​จน​ตลอด​พวก​กษัตริย์​ดารา​ ต่าง​ดูแล​ได้​ทั่วถึง​”

“อ้อ​ เช่นนั้น​ก็ดี​ เช่นนั้น​ก็ดี​” สือจ​วิน​ได้ยิน​พลัน​หัวเราะ​ขึ้น​

เยี่ยน​จ้าว​เก​อ​เข้าไป​ใน​ห้อง​พร้อมกับ​พวกเขา​สอง​คน​ มาถึงโถงหลัง​

ที่นั่น​มีโลงศพ​น้ำแข็ง​วาง​อยู่​โลง​หนึ่ง​ สตรี​นาง​หนึ่ง​หลับตา​พริ้ม​ราวกับ​หลับใหล​อยู่​ใน​โลงศพ​ เป็น​อิ๋งอวี่เจิน​ มารดา​ของ​สือจ​วิน​

เยี่ยน​จ้าว​เก​อ​ดีดนิ้ว​เบา​ๆ มีแสงสว่าง​วาบ​ขึ้น​มา ปลด​ผนึก​ค่าย​กล​ที่​สลัก​ไว้​บน​โลงศพ​น้ำแข็ง​ออก​

ถึงแม้ว่า​มาร​ดิน​โบ่​วจะ​ต้อง​ระวัง​ ไม่มีทาง​เคลื่อนไหว​ง่ายๆ​ ทว่า​การ​เตรียมการ​ส่วนหนึ่ง​ที่​ควร​กระทำ​ยัง​เป็น​สิ่งที่​ขาด​ไป​ไม่ได้​

หลังจาก​ปลด​ผนึก​ค่าย​กล​ เยี่ยน​จ้าว​เก​อ​ก็​เปิด​โรง​ศพ​น้ำแข็ง​ ยื่นมือ​ข้าง​หนึ่ง​ออก​ไป​วาง​อยู่​บน​หน้าผาก​ของ​อิ๋งอวี่เจิน​

พร้อมกับ​ที่​เยี่ยน​จ้าว​เก​อ​เคลื่อน​ปราณ​เซียน​ พลัน​มีตรา​อาคม​ชิ้น​หนึ่ง​ลอย​ขึ้น​เหนือ​หน้าผาก​ของ​อิ๋งอวี่เจิน​

หลังจาก​ตรา​อาคม​นี้​ปรากฏ​ขึ้น​มา เยี่ยน​จ้าว​เก​อ​พลัน​รู้สึก​ได้​ว่า​เหมือน​มีดวงตา​คู่​หนึ่ง​กำลัง​มอง​เขา​อยู่​ใน​ความว่างเปล่า​ ความรู้สึก​นี้​ปรากฏ​แวบเดียว​แล้ว​หาย​ไป​ใน​ชั่วพริบตา​ ทำให้​คน​อด​สงสัย​ไม่ได้​ว่า​ความรู้สึก​เมื่อ​ครู่​เป็น​ความรู้สึก​คิด​ไป​เอง​

เยี่ยน​จ้าว​เก​อ​สีหน้า​ไม่เปลี่ยนแปลง​ เขี่ย​ปลายนิ้ว​ใส่ใย​ไหม​ เมื่อ​ใย​ไหม​ขาด​ออกมา​ส่วนหนึ่ง​แล้วก็​เหมือน​ถูกลม​พัด​ คลุม​ลง​บน​ตรา​อาคม​บน​หน้าผาก​ของ​อิ๋งอวี่เจิน​อย่าง​แม่นยำ​

จากนั้น​เยี่ยน​จ้าว​เก​อ​ก็​เก็บ​ใย​ไหม​ ตวัด​นิ้ว​ใน​อากาศ​ เขียน​ตรา​อาคม​หลาย​สาย​ จากนั้น​ก็​ลอย​ลง​ตาม​ลำ​ลับ​ หล่น​ลง​บน​ผิว​หน้าผาก​ของ​อิ๋งอวี่เจิน​

ครู่​ต่อมา​ ค่าย​กล​อาคม​ที่​ขนาด​กะทัดรัด​เป็น​มันวาว​ทว่า​ซับซ้อน​ก็​หลอม​รวม​เข้าไป​ด้านใน​

หลังจาก​ทำ​ทุกอย่าง​เสร็จ​ เยี่ยน​จ้าว​เก​อ​ชัก​มือ​กลับมา​ประกบ​กัน​ ใช้ตรา​ผนึก​อีกครั้ง​

สตรี​ใน​โลงศพ​น้ำแข็ง​ไม่เคลื่อนไหว​ ไม่มีความรู้สึก​ใดๆ​ ไม่มีการเปลี่ยนแปลง​ใดๆ​ เหมือน​กำลัง​หลับ​ลึก​

“พวกเรา​ไป​เถอะ​” เยี่ยน​จ้าว​เก​อ​พยักหน้า​ คน​ทั้ง​สามเดิน​ออกมา​พร้อมกัน​ จากนั้น​เยี่ยน​จ้าว​เก​อ​หันไป​มอง​สือจ​วิน​

สือจ​วิน​นั่งขัดสมาธิ​ทันที​ รวม​กาย​ใจเป็นหนึ่ง​ หลับตา​ลง​ เก็บ​ซ่อน​ลมปราณ​

เยี่ยน​จ้าว​เก​อ​ใช้วิธี​เดิม​ ตัด​ใย​ไหม​ออก​ส่วน​เล็ก​ๆ สลัก​ค่าย​กล​อาคม​แล้ว​วาง​ลง​บน​หน้าผาก​ของ​สือจ​วิน​

สือจ​วิน​นั่ง​นิ่ง​ ตอนนี้​มีความ​ปราดเปรียว​ต่อ​การควบคุม​ร่าง​ของ​ตัวเอง​เป็นพิเศษ​ เพียง​รู้สึก​ว่า​จิตใจ​ของ​ตัวเอง​สั่น​ไหว​เล็กน้อย​ เหมือนกับ​สดชื่น​และ​คล่องแคล่ว​กว่า​ก่อนหน้า​ แต่​ก็​คล้าย​ขุ่นมัว​ติดขัด​กว่า​เดิม​

ความรู้สึก​ย้อน​แย้ง​ที่​ขัดกัน​อย่าง​สิ้นเชิง​ปรากฏ​ขึ้น​พร้อมกัน​ คล้าย​ใช่แต่​ก็​ไม่ใช่ ลี้ลับ​น่าอัศจรรย์​

พอ​ได้ยิน​คำบรรยาย​ของ​สือจ​วิน​ เยี่ยน​จ้าว​เก​อ​ก็​พยักหน้า​ “แบบนี้​ถูกต้อง​แล้ว​ หมายถึง​การ​คาดเดา​ก่อนหน้า​ของ​ข้า​ถูกต้อง​”

สือจ​วิน​กับ​สวี​เฟย​สอง​ศิษย์​อาจารย์​ได้ยิน​คำพูด​นี้​ ต่าง​รู้สึก​ฮึกเหิม​

“จวิน​เอ๋อร์​ตั้งใจ​ฝึกฝน​ไป​ก่อน​ ทาง​พี่สะใภ้​อวี่เจิน​เจ้าไม่ต้อง​เป็นห่วง​เกินไป​ ตอนนี้​ยัง​ไม่ถึงเวลา​ที่​เรา​จะต้อง​ปะทะ​กับ​อีก​ฝ่าย​” เยี่ยน​จ้าว​เก​อ​ผุด​กาย​แล้ว​บอกลา​ “อีก​ฝ่าย​กำลัง​รอโอกาส​ แต่ว่า​โอกาส​ของ​พวก​มัน​ก็​เป็น​โอกาส​ของ​พวกเรา​เช่นกัน​ ถึงเวลา​นั้น​ต้อง​ดู​ว่า​ใคร​มีฝีมือ​เหนือกว่า​”

เขา​มอง​ตา​ของ​สือจ​วิน​ตรงๆ​ “ใน​การต่อสู้​กับ​มาร​ การ​ช่วยเหลือ​จาก​โลก​ภายนอก​สุดท้าย​เป็น​อันดับ​รอง​ รากฐาน​ยังอยู่​ที่​ความตั้งใจ​ของ​ตัวเอง​”

สือจ​วิน​ปั้นหน้า​จริงจัง​ “ศิษย์​เข้าใจ​ ขอบคุณ​อาจารย์​อา​เยี่ยน​ที่​สั่งสอน​”

“ข้า​ยังมี​หน้าที่​ต้อง​จัดการ​ใน​สำนัก​ จะไป​พร้อมกับ​ศิษย์​น้อง​เยี่ยน​เจ้า” สวี​เฟย​หันไป​ทาง​สือจ​วิน​ “บทเรียน​วันนี้​เอา​ถึงเท่านี้​ ต่อจากนี้​เจ้าตั้งใจ​ศึกษา​ดู​ การ​ทำลาย​นภา​เห็น​เท​วะ​สำแดง​ไม่อาจ​รีบร้อน​ จำเป็นต้อง​มีการสั่งสม​”

สือจ​วิน​ส่งสอง​คน​ออก​ประตู​ “ท่าน​อาจารย์​วางใจ​ ศิษย์​จะระวัง​”

หลัง​ออกจาก​ที่อยู่​ของ​สือจ​วิน​แม่ลูก​ เยี่ยน​จ้าว​เก​อ​ก็​รำพึงรำพัน​ “พริบตาเดียว​ก็​ผ่าน​ไป​หลาย​ปี​ขนาด​นี้​แล้ว​”

“ใช่แล้ว​ หลาย​สิบ​ปี​แล้ว​…” สวี​เฟย​เหม่อลอย​อยู่​บ้าง​

“ศิษย์​พี่​สวี​ หลาย​ปี​มานี้​ลำบาก​ท่าน​แล้ว​” เยี่ยน​จ้าว​เก​อ​เอ่ย​ “ข้า​คร้าน​จะสนใจ​เรื่องราว​ใน​สำนัก​ ทั้งหมด​อาศัย​ท่าน​ช่วย​บิดา​จัดการ​ดูแล​”

การ​ฝึก​ยุทธ์​บำเพ็ญ​เพียร​ต้อง​ใช้เวลา​ การ​จัดการ​ภารกิจ​ประจำวัน​ใน​สำนัก​ก็​จำเป็นต้อง​ใช้เวลา​เช่นกัน​ แม้ไม่ต้อง​ทำ​ทุกอย่าง​ด้วยตัวเอง​ สามารถ​ใช้คน​ได้​ แต่​หลาย​ๆ เรื่องราว​ยังคง​ต้อง​ให้​ผู้นำ​ตัดสินใจ​ ถ้าไม่ใช่เพราะ​คน​รุ่น​หนุ่มสาว​สามารถ​รับ​งานใหญ่​ได้​แล้ว​ ผู้อาวุโส​ใน​เขา​กว่าง​เฉิงก็​ไม่อาจ​ผ่อนคลาย​ได้​

ตัว​สวี​เฟย​เป็น​อัจฉริยะ​เชิงวรยุทธ์​เช่นกัน​ ทั้ง​ยัง​มุมานะ​ใน​การฝึกฝน​วิชา​ ตามปกติ​แม้จะเก็บงำ​ประกาย​ แต่ว่า​ทุกๆ​ ก้าว​ใน​การพัฒนา​ล้วน​เดิน​อย่าง​มั่นคง​สุดขีด​ ไม่มีจุด​ที่​ติดขัด​ด้วย​คอขวด​

ระหว่างทาง​ ขณะที่​ช่วย​แบ่งเบาภาระ​ของ​เยี่ยน​ตี๋​ หยวน​เจิ้งเฟิง และ​ฟางจุ่น​ควบคุม​ภารกิจ​ใน​สำนัก​ ระดับ​พลัง​ฝึกปรือ​ก็​ไม่ได้​ลดลง​ บัดนี้​ไป​ถึงระดับ​จอม​ยุทธ์​ศักดิ์สิทธิ์​ขั้น​หก​ ขั้น​เท​วะ​สำแดง​ระยะ​ท้าย​แล้ว​

หาก​พูดถึง​แค่​ระดับ​ใน​เขา​กว่าง​เฉิง สวี​เฟย​เป็นรอง​เพียง​เยี่ยน​จ้าว​เก​อ​ เฟิงอวิ๋น​เซิง หยวน​เจิ้งเฟิง และ​ฟางจุ่น​เท่านั้น​

มีศักยภาพ​และ​ขีดความสามารถ​ใน​การฝึกฝน​วรยุทธ์​ล้ำเลิศ​ จัดการ​เรื่องราว​ประจำวัน​ใน​สำนัก​ได้​อย่าง​เป็นระเบียบ​ ทั้ง​กอปร​ด้วย​ความยุติธรรม​เด็ดขาด​

นอกจาก​เยี่ยน​จ้าว​เก​อ​ที่​มีสถานการณ์​พิเศษ​ เขา​ถูก​คิด​ว่า​เป็น​คน​ที่​มีความเป็นไปได้​มาก​ที่สุด​ว่า​จะได้​รับช่วง​ควบคุม​เขา​กว่าง​เฉิงต่อ​

สวี​เฟย​รู้สึกตัว​ กล่าว​ด้วย​รอยยิ้ม​เปิดเผย​ “เจ้าพูด​อะไร​ของ​เจ้ากัน​ ใน​ฐานะ​ศิษย์​ของ​สำนัก​ ไม่อาจ​ผลักไส​ภาระ​แก่​ผู้อื่น​ ยิ่งไปกว่านั้น​หาก​พูด​กัน​จริงๆ​ เจ้าเคลื่อนไหว​ด้านนอก​มาหลาย​ปี​ ได้​กระทำ​เรื่องใหญ่​มากมาย​ เรื่อง​ไหน​ไม่สะท้าน​ฟ้าดิน​บ้าง​ ยัง​ลำบาก​กว่า​เรื่องราว​ยิบ​ย่อย​ประจำวัน​ใน​สำนัก​อีก​ แต่​เจ้ากลับ​กระ​ทำสำเร็จ​ได้​ นี่​จึงเรียก​ว่า​ความสามารถ​”

“ไม่ว่า​เรื่องเล็ก​หรือ​เรื่องใหญ่​ก็​ต้อง​มีคน​ไป​ทำ​ คน​ที่​ทำ​เรื่องจริง​ได้​ล้วน​สุดยอด​ทั้งสิ้น​” เยี่ยน​จ้าว​เก​อ​หัวเราะ​ฮ่าๆ

สวี​เฟยอด​ยิ้ม​ไม่ได้​ “ไม่ต้อง​ให้​ข้า​ชมเชย​ เจ้าก็​ชมตัวเอง​ไป​หมด​แล้ว​”

หลังจาก​หยอกล้อ​กัน​เสร็จ​ สีหน้า​เขา​เปลี่ยนเป็น​จริงจัง​ ถามเสียง​เบา​ “จ้าว​เก​อ​ ภัยพิบัติ​ที่​เกาะเกี่ยว​สำนัก​เรา​กับ​นพ​ยมโลก​มาถึงตรงหน้า​แล้ว​ใช่หรือไม่​”

………………..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด