ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพีบทที่ 1591 ของวิเศษที่พิเศษ
สายฟ้าระเบิดติดต่อกัน ขณะไหลซัด ไม่เพียงโอบล้อมมหาสถามปราบต์โพธิสัตว์ ถึงขั้นระเบิดใส่หนอนเก้าเศียร กดดันจนหนอนเก้าเศียรไม่อาจไม่ลดสภาวะโจมตีต่อทางเยี่ยนจ้าวเกอชั่วขณะ
ทว่ามหาสถามปราบต์โพธิสัตว์ก็ไม่ได้รีบร้อน แต่มองดูกระบี่ลงทัณฑ์เซียนในมือเยี่ยนจ้าวเกอ คล้ายนึกอะไรออก
แสงสีเขียวบนกระบี่ลงทัณฑ์เซียนเงียบสงัด ทำลายทุกสรรพวิชา แต่ขณะที่สร้างอานุภาพอันน่าสะพรึง กลับกระตุ้นตัวตนในระดับสูงกว่าได้โดยง่าย
สายลมและก้อนเมฆกระเพื่อมระหว่างจักรพรรดิ จักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋ใช้ม่านแสงสายฟ้าที่สร้างขึ้นจากวิชาลับสายฟ้าอนัตตา เปลี่ยนเป็นไม่มั่นคงขึ้นมาอย่างกะทันหัน เหมือนกับได้รับแรงกดดันที่มาโดยฉับพลัน
“มีเจ้ามรรคาคิดเคลื่อนไหวแล้ว” ไม่เพียงแต่ตัวจักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋ แม้แต่มหาสถามปราบต์โพธิสัตว์กับหนอนเก้าเศียรที่อยู่ตรงข้าม จิตใจเหมือนกระจกใส
เจ้ามรรคาไม่ได้มาอย่างแท้จริง แต่ว่าความสนใจของอีกฝ่ายก็มาอยู่ตรงนี้อย่างชัดเจน
วิชาลับของจักรพรรดิอายวุัฒนาหนานจี๋สามมารถขัดขวางการส่งข่าวของมหาสถามปราบต์โพธิสัตว์กับหนอนเก้าเศียรที่อยู่ในระดับมหาชาล แต่ว่าเกิดเจ้ามรรคามีความคิดเคลื่อนไหวก็สามารถลบเลือนได้อย่างรวดเร็ว
ในสถานการณ์เช่นนี้ จักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋จำเป็นต้องหลบหนีซ่อนตัวให้เร็วที่สุด
เยี่ยนจ้าวเกอไม่ควบคุมกระบี่ลงทัณฑ์เซียนต่อ ถึงแม้กระบี่ลงทัณฑ์เซียนจะเป็นศาสตราวุธ เยี่ยนจ้าวเกอในฐานะเจ้าของเดิมทียังไม่ได้ไปถึงระดับมหาชาล แต่ว่าสถานการณ์ในวันนี้มีความพิเศษ ยากจะบอกว่าเจ้ามรรคาสักคนจะทำลายกฎหรือไม่
ดังนั้นพอพวกเยี่ยนจ้าวเกอกับจักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋กดดันคู่ต่อสู้ของแต่ละคนได้ ก็เริ่มออกจากอาณาบริเวณปัจจุบันทันที
มหาสถามปราบต์โพธิสัตว์กับมหาเทวะเก้าเศียรเเปลี่ยนจากตั้งรับเป็นโจมตี
ตอนนี้หนอนเก้าเศียรสงบเพลิงโทสะ เยือกเย็นลงแล้ว ขอแค่ถ่วงเวลาการหนีของพวกเยี่ยนจ้าวเกอได้ก็พอ
ระหว่างคู่ต่อสู้ระดับเดียวกัน ถ้าหากไม่คิดสู้ตาย ต้องการถอยหนีอย่างเดียว โอกาสสำเร็จมีสูงยิ่ง
แต่จะถอยอย่างไร สถานการณ์แตกต่างกันไป
เมื่อไม่มีความได้เปรียบด้านความเร็วอย่างเผิงท่องเมฆหมื่นลี้ ยามเผชิญการพัวพันของมหาสถามปราบต์โพธิสัตว์และหนอนเก้าเศียร พวกเยี่ยนจ้าวเกอกับจักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋คิดจะถอนตัว ไม่ใช่ใช้เวลาแค่ชั่วครู่
แต่หากถ่วงเวลาไว้ได้ จนคนอื่นมาถึง จะจากไปได้หรือไม่ก็ยากจะบอกแล้ว
มหาสถามปราบต์โพธิสัตว์กับหนอนเก้าเศียนรู้เรื่องนี้ดี จึงพัวพันไม่ลดละ เล็งเป้าหมายที่เยี่ยนจ้าวเกอและกระบี่ลงทัณฑ์เซียนโดยเฉพาะ
แต่ว่าในตอนนั้นเอง ม่านแสงสายฟ้าเปิดออก พลังที่หนักอึ้งและมีสภาวะยิ่งใหญ่มาจากด้านนอก
แสงพุทธของมหาสถามปราบต์โพธิสัตว์กับพายุของหนอนเก้าเศียรปะทะกับแสงสว่างสีเหลืองมัวซัวและหนักอึ้งนั้น หนึ่งพุทธหนึ่งปีศาจต่างขมวดคิ้ว “มารดาแห่งแผ่นดิน!”
เหมือนกับดินไร้สิ้นสุดครอบคลุมสี่ทิศ ช่วยขวางทางทัพไร้ตามให้แก่พวกเยี่ยนจ้าวเกอ
สายฟ้าด้านจักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋ดังขึ้น สายฟ้าพุ่งลงบนดิน ดินไม่แหลกสลาย กลับมีต้นไม้สูงเทียมฟ้าจำนวนนับไม่ถ้วนเติบโตอย่างบ้าคลั่ง
พริบตานั้น จักรวาลอันกว้างใหญ่ปรากฏป่ายุคดึกดำบรรพ์ในทันใด
ความกว้างใหญ่ของพื้นที่ที่ป่าคลอบคลุม เหมือนกับถมเต็มจักรวาลทะเลดาว ความสูงใหญ่ของต้นไม้ที่อยู่ด้านในเหนือกว่าจินตนาการของคนทั่วไป แต่ละต้นเหมือนกับเสาค้ำฟ้า
กิ่งใบหนาแน่นเหมือนกับกรงขัง ถึงกับจองจำยอดฝีมือชั้นมหาชาลอย่างหนอนเก้าเศียรกับมหาสถามปราบต์โพธิสัตว์ไว้ด้านใน
วินาทีถัดมา พายุพัดโหม ตัดต้นไม้ใหญ่ทีละต้นๆ เหมือนกับมีด
แสงพุทธสว่างไสว สาดส่องโลกอันมืดมิดใต้เงาต้นไม้ ไม่ได้พองออกด้านข้าง พองออกไปด้านข้าง ผลักป่าไม้คว่ำลงอย่างต่อเนื่อง
มหาสถามปราบต์โพธิสัตว์กับหนอนเก้าเศียรออกจากวงล้อมได้อย่างผ่อนคลาย
แต่ตรงหน้าไม่มีเงาของพวกเยี่ยนจ้าวเกอกับจักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋แล้ว
มหาสถามปราบต์โพธิสัตว์อุ้มศพของอรหันต์แคะหู อรหันต์ถุงผ้าที่กายทองมัวหม่นยืนอยู่ด้านข้าง นักบวชศาสนาพุทธสองท่านต่างถอนใจ
จ้าวปีศาจร้อยตาสงบจิตใจ สีหน้าไม่น่าดูถึงขีดสุด
หนอนเก้าเศียรกลายเป็นร่างมนุษย์ใหม่ สีหน้าน่าเกลียดยิ่งกว่าจ้าวปีศาจร้อยตา “มารดาแห่งแผ่นดิน...”
มหาสถามปราบต์โพธิสัตว์ยังคงมีสีหน้างบนิ่งเหมือนเดิม เพียงแต่ยามมองไปยังศพของอรหันต์แคะหู ใบหน้าปรากฏความเมตตาสงสารขึ้น
ในความว่างเปล่ามีเงาคนส่ายวูบวาบอย่างเลือนราง เดี๋ยวปรากฏเดี๋ยวสูญหาย
ครู่ต่อมาทีปังกรพุทธะกับยอดฝีมือศาสนาพุทธคนอื่นๆ รวมถึงเหล่าปีศาจที่มีเผิงท่องเมฆหมื่นลี้เป็นผู้นำก็ปรากฏขึ้นมาในอาณาบริเวณแห่งนี้
“สหายร่วมเส้นทางโฮ่วถู่ลงมือรับตัว ไม่อาจรั้งพวกเขาไว้ได้” มหาสถามปราปต์โพธิสัตว์กล่าว
ทีปังกรพุทธสีหน้าเป็นปรกติ “ถึงกับเป็นสหายร่วมเส้นทางโฮ่วถู่ลงมืออีกแล้ว เพียงแต่ไม่ทราบว่าสหายร่วมเส้นทางเสวียนตูได้เข้าร่วมหรือไม่”
ท่านถามเสียงเบา “ครั้งก่อนเป็นวังหยก ครั้งนี้หรือว่าเป็นวังมรกตท่อง”
“ฉวยโอกาสตามหาวังมรกตท่อง?” เผิงท่องเมฆหมื่นลี้กล่าวอย่างเย็นชา
ทีปังกรพุทธใคร่ครวญ “หากบอกว่าเป็นของวิเศษสายเหนือพิสุทธิ์ มีอยู่ชิ้นหนึ่งค่อนข้างพิเศษอย่างแท้จริง…”
พิธีถึงขั้นที่เทียบได้กับค่ายกลลงทัณฑ์เซียน ถึงแม้จะมีการถกเถียงมากมายก็ตาม
ธงหกวิญญาณ
ครั้งสงครามสถาปนาเทพยุคโบราณตอนต้น หลังจากเทวกษัตริย์รัตนวิเศษแห่งเหนือพิสุทธิ์สูญเสียค่ายกลลงทัณฑ์เซียนก็ได้สร้างของวิเศษชิ้นใหม่ เขียนชื่อเทวกษัตริย์บรรพกำเนิด เทวกษัตริย์เต๋า นักพรตเจียอิ่น นักพรตจุ่นถีกับชื่อของคนอีกสองคน ล้วนเป็นบุคคลสำคัญในสงครามสถาปนาเทพทั้งสิ้น
น่าเสียดายภายหลังค่ายกลหมื่นเซียนถูกคู่ต่อสู้ทำลายอีกครั้ง ตอนเทวกษัตริย์รัตนวิเศษเผชิญกับการกลุ้มรุมของเจ้ามรรคาคนอื่น เดิมคิดผลักดันธงหกวิญญาณ
แต่ว่าเซียนติ้งกวงหูยาวศิษย์ของเขาซึ่งรักษาธงหกวิญญาณแทนปฏิเสธไม่ทำตาม ฉวยโอกาสตอนสถานการณ์สับสนนำธงหกวิญญาณไปซ่อน จึงไม่อาจนำมาใช้ได้
หลังจากการต่อสู้ในค่ายกลหมื่นเซียนจบลง เซียนติ้งกวงหูยาวก็นำธงหกวิญญาณไปพบเจ้ามรรคาคนอื่นๆ
ชื่อคนหกชื่อบนธงหกวิญญาณ มีอยู่สองคนทที่รับพลังจากของวิเศษไม่ไหว พวกเจ้ามรรคาจึงตัดชื่อคนสองคนนั้นทิ้งไป
จากนั้นเจ้ามรรคาทั้งสี่ก็แสดงอิทธิฤทธิ์ รับการโจมตีจากธงหกวิญญาณ ผลลัพธ์คือปลอดภัยไร้เรื่องราว ทำให้ชนชาวโลกยอมรับนับถือ
ตัวธงหกวิญญาณที่ใช้พลังไปแล้ว เดิมทีมีเทวกษัตริย์เต๋าสายเอกพิสุทธิ์ถือครอง ภายหลังสามพิสุทธิ์รวมเป็นหนึ่งหลุดพ้น ธงหกวิญญาณนี้กลับสู่สายเหนือพิสุทธิ์ ถูกวางกลับไปที่วังมรกตท่อง
เพียงแต่หลังจากนั้นวังมรกตซ่อนตัวเองไม่มีร่องรอย ธงหกวิญญาณยังอยู่หรือไม่กลายเป็นคำถาม
ของวิเศษชิ้นนี้มีความพิเศษยิ่ง เจตนาเดิมคือเทวกษัตริย์รัตนวิเศษต้องการพลิกจากชนะเป็นแน่ จึงสร้างขึ้นเพื่อรับมือกับเจ้ามรรคาคนอื่นๆ
หลังเรื่องราวคล้ายพิสูจน์ว่าแผนการนี้ล้มเหลวแล้ว
แต่ในนี้มีข้อถกเถียงส่วนหนึ่ง
อย่างเช่นธงหกวิญญาณที่ตัดชื่อไปสองชื่อ ไม่สมบูรณ์หรือไม่ พลังบรรลุถึงการคาดการณ์ในตอนแรกของเทวกษัตริย์รัตนวิเศษหรือไม่
หนำซ้ำ เซียนติ้งกวงหูยาวกราบธงวิญญาณ กับเทวเกษัตริย์รัตนวิเศษซึ่งเป็นเจ้ามรรคากราบธงวิญญาณ ประสิทธิผลเหมือนกันหรือไม่
แน่นอนว่าธงคันนี้ เป็นเทวกษัตริย์รัตนวิเศษไม่ใช้ตัวเองเอง แต่ให้เซียนติ้งกวงหูยาวถือไว้ ก็มีข้อถกเถียงเช่นกัน
ธงวิญญาณมีอานุภาพเท่าไหร่กันแน่ กลายเป็นกลุ่มก้อนปริศนาไม่ไม่เล็กไม่ใหญ่ในยุคโบราณตอนต้น
แต่ว่าของวิเศษชิ้นนี้มีความพิเศษอย่างแท้จริง
พิเศษจนพวกทีปังกรพุทธะและมหาสถามปราบต์โพธิสัตว์สามารถผลักเรือตามน้ำ ทำเป็นไปตรวจสอบสุดกำลัง เหมือนกับถูกล่อเสือออกจากถ้ำ ถูกแบ่งพลังสมาธิ ‘มองข้าม’ กระบี่สังหารเซียน
เทียบกับธงเหลืองโบ่วกี้ ธงหกวิญญาณมีพลังโน้มน้าวใจยิ่งกว่า
“วังมรกตท่องเหมือนกับวังหยก ว่างเปล่าแต่แรกเหมือนกันกระมัง” เผิงท่องเมฆหมื่นลี้ถาม
ทีปังกรพุทธะตอบ “มีคนรู้ดียิ่งกว่า”
ท่านมองพวกเผิงท่องเมฆหมื่นลี้
เผิงท่องเมฆหมื่นลี้ขมวดคิ้ว จากนั้นก็พูดกับอนุเทวะเผ่าปีศาจตนหนึ่งด้นข้าง “ติดต่อแดนอภิรดีศูนย์กลาง ถามนันทิเกศวรติ้งกวงดู”
Comments