ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพีบทที่ 1655 เงาร่างที่คุ้นเคย

Now you are reading ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี Chapter บทที่ 1655 เงาร่างที่คุ้นเคย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เห็นมหาวิทยราชมยุรีปรากฏตัวเหมือนที่ฝ่ายตนคาดไว้ พวกเยี่ยนจ้าวเกอย่อมดีใจ

แต่พอเห็นสมันตภัทรโพธิสัตว์ถึงกับมาที่นี่พร้อมกับมหาวิทยราชมยุรี สถานการณ์ก็ไม่ได้น่าดูชมขนาดนั้นแล้ว

สมันตภัทรโพธิสัตว์สมควรยังยืนอยู่บนจุดยืนของแดนสุขาวดีตะวันตกโดยรวม ไม่มีทางทำเพื่อน้ำใจส่วนตัว ใช้จุดยืนส่วนตัวมาช่วยเหลือมหาวิทยราชมยุรี

เช่นนั้นสองคนตรงหน้าจับมือมาด้วยกัน ความเป็นไปได้ที่มากที่สุดอาจจะเกรงว่าเป็น หลังจากมหาวิทยราชมยุรี แดนสุขาวดีตะวันตกไม่ได้ฝืนจะเก็บสารีริกธาตุศากยมุณีไว้ต่อ แต่ว่าบรรลุข้อตกลงหรือการประนีประนอมในระดบหนึ่งกับมหาวิทยราชมยุรี

พวกเขาสองฝ่ายตอนนี้ยังคงเป็นคนฝ่ายเดียวกัน!

“ทีปังกรพุทธะ วัชรอภิณฑ์พุทธะแน่วแน่เสียจริง” เยี่ยนจ้าวเกอถอนใจคำหนึ่ง

เยี่ยนจ้าวเกอเห็นธงวิเศษบัวเขียว ถึงขั้นเดาเนื้อหาคร่าวๆ ในการแลกเปลี่ยนของสองฝ่ายออก

แดนสุขาวดีตะวันตกปล่อย สารีริกธาตุศากยมุณีชิ้นนี้ให้ มหาวิทยราชมยุรี แลกเปลี่ยนกับการลงมือของท่าน ช่วยพวกเขาหยุดยอดฝีมือเผ่าปีศาจที่มาสร้างความยุ่งยากในครั้งนี้ หรือแม้แต่พวกเยี่ยนจ้าวเกอที่อาจปรากฏตัวขึ้นไว้ที่นี่

ผู้ใดกล้าออกหน้า ผู้นั้นก็เผชิญกับการร่วมมือจู่โจมจากมหาวิทยราชมยุรีกับแดนสุขาวดีตะวันตกโดยตรง

ธงวิเศษบัวเขีวเป็นความมั่นใจที่พวกท่านบรรลุข้อตกลงในครั้งนี้

เมื่อมีธงวิเศษคันนี้อยู่วัชรอภิณฑ์พุทธะคุ้มครอง สารีริกธาตุศากยมุณี มหาวิทยราชมยุรีต้องหยุดฝีเท้า

ทว่ามหาวิทยราชมยุรีแข็งแกร่ง อาจจะขังพวกวัชรอภิณฑ์พุทธะกับสารีริกธาตุไว้ที่นี่ ไม่อาจออกไปได้

ถึงเวลานอกจากอามิตาภพุทธเจ้าลงมือไกล่เกลี่ย เหล่านักบวชศาสนาพุทธก็คิดวิธีการอื่นไม่ออก ถึงอย่างไรธงวิเศษบัวเขียวก็ได้แต่ป้องกัน

สองฝ่ายไม่ว่าใครก็ทำอะไรอีกฝ่ายไม่ได้ ได้แต่ยื้อยันอยู่ที่เดิม ผลลัพธ์แบบนี้ไม่ว่าจะเป็นแดนสุขาวดีตะวันตกหรือมหาวิทยราชมยุรีก็ไม่ยินดีจะเห็น

ดังนั้นต่างฝ่ายต่างถอยก้าวหนึ่ง บรรลุข้อแลกเปลี่ยชั่วคราว ทุกฝ่ายได้สิ่งที่ต้องการ

มหาวิทยราชมยุรีได้สารีริกธาตุศากยมุณี ส่วนแดนสุขาวดีตะวันตกฉวยโอกาสกำจัดยอดฝีมือทางเผ่าปีศาจและสำนักเต๋า ลดทอนกำลังของอีกฝ่าย

ปัจจุบันพวกเยี่ยนจ้าวเกอซ่อนร่องรอย ไมได้เผยโฉมในทันที แต่พวกจอมปีศาจประสบภัยแล้ว เผชิญกับความร้ายกาจของมหาวิทยราชมยุรี สมันตภัทรโพธิสัตว์กับวัชรอภิณฑ์พุทธะโดยตรง

เยี่ยนจ้าวเกอ เฟิงอวิ๋นเซิง จักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋มองหน้ากัน

สถานการณ์ในตอนนี้เท่ากับพวกเขาเล่นงานเผ่าปีศาจแล้ว

ไม่ว่าจะเป็นเผ่าปีศาจหรือตัว แดนสุขาวดีตะวันตกเอง ก่อนหน้านี้ต่างไม่คิดให้มหาวิทยราชมยุรีเข้าร่วม

ตอนนี้มหาวิทยราชมยุรีถูกพวกเยี่ยนจ้าวเกอกับเกาหานชักนำมา ด้วยการตัดสินใจตามโอกาส ทางแดนสุขาวดีตะวันตกแม้ผลลัพทธ์จะไม่เป็นอย่างที่คิด แต่ก็ยังพอฝืนรับได้

พวกเยี่ยนจ้าวเกอจากสำนักเต๋ายังไม่ปรากฏตัว ยังคงคอยสังเกต ค้นหาพื้นที่เหลือสำหรับเป็นนกขมิ้นคอยด้านหลังขณะตั๊กแตนจับจั๊กจั่น[1]

เผ่าปีศาจที่เดียวดาย พวกเขาที่ตอนแรกวางแผนเพียงปะทะกับนักบวชศาสนาพุทธอย่างพวกวัชรอภิณฑ์พุทธะ ชนใส่แสงศักดิ์สิทธิ์ห้าสีของข่งซวนโดยตรง

วินาทีนี้ ในสายตาที่จอมปีศาจอย่างเซียนหัวมังกรกับราชาปีศาจกระทิงมองไปยังพวกวัชรอภิณฑ์พุทธะกับสมันตภัทรโพธิสัตว์ เต็มไปด้วยความแค้นเคืองและความงุนงง

พวกเขายากจะเข้าใจจริงๆ ว่า ทั้งๆ ที่ทุกฝ่ายกำลังค้นหาสารีริกธาตุศากยมุณีในที่ลับ เพื่อขับไล่ มหาวิทยราชมยุรีแท้ๆ โจรหัวล้านเหล่านี้ไฉนจึงเรียกมหาวิทยราชมยุรีมาด้วยตัวเองกัน?

แค้นเคืองส่วนแค้นเคือง งุนงงส่วนงุนงง ตรงหน้าพวกเขา มหาวิทยราชมยุรียิ่งเดินยิ่งเข้าใกล้พร้อมใบหน้าสงบนิ่งแล้ว

“ไปเถอะ ไม่อย่างนั้นไม่มีวิธีไปแล้ว” ราชาปีศาจกระทิงส่ายศีรษะพลางพูด

พวกเซียนหัวมังกรก็มีแต่ต้องถอย

แต่ว่าข้อแลกเปลี่ยนที่ครั้งนี้มหาวิทยราชมยุรีบรรลุกับแดนสุขาวดีตะวันตก ไม่เพียงแต่เป็นการขับไล่ศัตรูหรือคุ้มครองเท่านั้น แต่เป็นการหยุดพวกจอมปีศาจที่อยู่รอบๆ ไว้ที่นี่โดยสิ้นเชิง

ดังนั้นพวกปีศาจที่ควบคิดถอยไป มหาวิทยราชมยุรีกลับเดินขึ้นหน้าทีละก้าวๆ

แน่นอนว่าหางตาของท่างยังคงจับจ้องวัชรอภิณฑ์พุทธะกับสารีริกธาตุศากยมุณีอยู่

ถึงแม้ความน่าเชื่อถือและจริยธรรมของวัชรอภิณฑ์พุทธะกับสมันตภัทรโพธิสัตว์จะดีกว่าทีปังกรพุทธะมาก แต่สำหรับข่งซนแล้ว การป้องกันที่จำเป็นส่วนหนึ่งก็ยังคงไม่อาจขาดไป

โชคดีที่จริยธรรมของวัชรอภิณฑ์พุทธะค่อนข้างดีจริงๆ ยืนนิ่งอยู่ที่เดิมไม่เคลื่อนไหว ไม่มีความคิดฉวยโอกาสหนีหน้าที่แต่อย่างไร

สมันตภัทรโพธิสัตว์กับนักบวชศาสนาพุทธที่เหลือ ยิ่งขึ้นไปด้านหน้าพร้อมกัน ต้องการช่วยมหาวิทยราชมยุรีรั้งพวกจอมปีศาจอย่างราชาปีศาจกระทิง กับเซียนหัวมังกรไว้

เหล่าจอมปีศาจทั้งตกใจทั้งโมโห แต่กลับยากจะต้านทานอานุภาพแสงศักดิ์สิทธิ์ห้าสีของมหาวิทยราชมยุรี ได้แต่หาวิธีหลบหนีสุดกำลัง

“คนของเผ่าปีศาจที่มาในครั้งนี้ยังน้อยไปบ้าง มหาวิทยราชมยุรีพอเข้าร่วมการต่อสู้ สถานการณ์รบก็เปลี่ยนจ้างโดยสิ้นเชิง” เยี่ยนจ้าวเกอส่งกระแสเสียงให้เฟิงอวิ๋นเซิงกับจักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋

“ต่อให้เผ่าปีศาจคิดไม่ถึงว่ามหาวิทยราชมยุรีจะมา ก็สมควรคิดถึงธงวิเศษบัวเขียวกระมัง?” เฟิงอวิ๋นเซิงขมวดคิ้ว พูดว่า “ต่อให้ไม่มีมหาวิทยราชมยุรี หากทำลายธงวิเศษบัวเขียวไม่ได้ พวกเขาจะชิงสารีริกธาตุศากยมุณีกับแดนสุขาวดีตะวันตกอย่างไร?”

ทำลายธงวิเศษบัวเขียวไม่ได้ สถานการณ์ก็ควรชะงักงัน

พวกเยี่ยนจ้าวเกอกล้ามา เป็นเพราะในร้อยปีมานี้ หุบเหวโกหลาหลสูญของเฟิงอวิ๋นเซิงมีความก้าวหน้าอีกครั้ง

ถึงแม้จะไม่มีความมั่นใจมากพอว่าจะทำลายธงวิเศษบัวเขียวได้ แต่ก็มีโอกาสทุ่มเทสุดกำลังดู

ในจอมปีศาจที่อยู่รอบๆ ณ ตอนนี้ ถึงแม้ยอดฝีมือรวมกันดุจหมู่เมฆ แต่หากต้องบอกว่าผู้ใดมีความมั่นใจในการทำลายธงวิเศษบัวเขียว ขณะนี้เยี่ยนจ้าวเกอมองไม่ออกจริงๆ

“สรรพวิชาแห่งมหามรรคา ต่างมีเกิดมีข่ม” จักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋ยามนี้เอ่ยอย่างแช่มช้า “ธงวิเศษบัวเขียว หรือธงเหลืองโบ่วกี้ ไม่ใช่แข็งแรงไม่อาจทำลาย ไร้จุดอ่อนโดยสิ้นเชิง”

เยี่ยนจ้าวเกอตาเป็นประกาย “ท่านหมายถึง…นพยมโลก?”

เพิ่งพูดถึงตรงนี้ เสียงไม่ทันขาดลง เห็นความว่างเปล่าไกลออกไปพลันฉีกเป็นช่องว่าง

ความมืดยิ่งใหญ่ทะลักออกมาจากในช่องว่าง กระจายทั่วความว่างเปล่า

ความว่างเปล่าที่เดิมดำสนิท ถูกความมืดนี้แพร่ใส่ ก็เปลี่ยนเป็นไม่มีแสงสว่างสักจุดโดยสิ้นเชิง ถึงขั้นเกิดความรู้สึกมันเลี่ยมขึ้นมา

ในความมืดบังเกิดหมอกดำ ขยายอย่างต่อเนื่อง กัดกินความว่างเปล่ารอบๆ ในหมอกดำเห็นสายฟ้าแลบสีแดงผ่าพุ่ง

เป็นจอมมารแห่งนพยมโลกมายังที่นี่

ถ้าไม่ใช่ที่นี่มีผู้ยิ่งใหญ่ระดับสุดยอดฝั่งพุทธและปีศาจรวมตัวกันหนาแน่น เพียงแค่จอมมารเหล่านี้มาถึง ก็มากพอจะเปลี่ยนอาณาบริเวณรอบๆ เป็นเขตมารได้แล้ว

“น้ำทะเลในหุบเหวทะเลมารแห่งนพยมโลก สามารถแพร่เชื้อใส่ธงวิเศษบัวเขียว ธงเหลืองโบ่วกี้ ธงแดนเมฆสรม่วง ธงแสงดินทักษิณของวิเศษสี่อย่าง สร้างผลการสะกดข่ม” จักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋กล่าวอย่างแช่มช้า

เผ่าปีศาจครั้งนี้มาที่นี่ ไม่ใช่ว่าไร้การเตรียมตัวโดยสิ้นเชิง

ถึงจะนพยมโลกจะเป็นศัตรูส่วนรวม แต่ในเวลาอื่นที่ไม่มีอุปสรรค ก็มีการแลกเปลี่ยนส่วนหนึ่งกับคนอื่นๆ

ครั้งนี้เผ่าปีศาจติดต่อนพยมโลก อาศัยน้ำทะเลในเหวทะเลมาร มาทำลายธงวิเศษบัวเขียวของแดนสุขาวดีตะวันตก

ความสนใจในตอนนี้ของเยี่ยนจ้าวเกอกับเฟิงอวิ๋นเซิง กลับมิได้อยู่ที่ธงวิเศษบัวเขียว และสารีริกธาตุศากยมุณี ถึงขั้นไม่อยู่บนร่างมหาวิทยราชมยุรี

เวลานี้สายตาของพวกเขารวมอยู่บนเงาร่างที่ปรากฏตัวขึ้นเป็นคนแรกสุดในความมืดไร้สิ้นสุดนั้น

บนเงาร่างสายนี้มิได้ปล่อยปราณมารซัดสาดอย่างจอมมารตนอื่น แต่เป็นความสงบราบคาบ

และดวงตาก็ไม่ได้กะพริบแสงโลหิตเหมือนจอมมารตนอื่นๆ ในสองตาของเขามีแสงสว่างสีทองหม่นวูบไหว

………………..

[1] ตั๊กแตนจับจั๊กจั่น นกขมิ้นคอยด้านหลัง เปรียบเปรยว่า ฝ่ายหนึ่งกำลังเห็นโอกาส แต่ไม่รู้ว่าเบื้องหลังมีอันตราย

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด