ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพีบทที่ 646 ‘ซือคงจิง’ อีกคน

Now you are reading ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี Chapter บทที่ 646 ‘ซือคงจิง’ อีกคน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เยี่ยนจ้าวเกอมุ่งหน้าไปทางเหนือ เห็นบนผิวราบเรียบของทะเลปรากฏเกาะน้อยเกาะหนึ่ง บนนั้นมีควันไฟลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า

เมื่อมองอย่างละเอียดแล้ว ถึงขั้นที่เห็นไฟลุกไหม้ปกคลุมเกาะ ย้อมท้องฟ้าใกล้ๆ ให้กลายเป็นสีแดง

ชายหนุ่มเข้าไปใกล้ ก่อนจะซ่อนอยู่ในก้อนเมฆ เห็นเงาจอมยุทธ์สวมเกราะอ่อนมากมายบนเกาะรางๆ

ลักษณะของเกราะ ก็คือรูปแบบของราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋อง

ผู้นำคือจอมยุทธ์ระดับมหาปรมาจารย์คนหนึ่ง ผู้ที่อยู่ใต้บังคับบัญชามีจอมยุทธ์ระดับหลอมกายเป็นหลัก ในจำนวนนี้ยังมีจอมยุทธ์ระดับมหาปรมาจารย์อีกเล็กน้อย

ด้านหน้าพวกเขา คือบ้านที่กลายเป็นทะเลเพลิง

หน้าประตูใหญ่ แผ่นป้ายแผ่นหนึ่งลุกไหม้ตกอยู่บนพื้น มองเห็นตัวหนังสือ ‘พรรคหลีซาน’ อย่างคลุมเครือ

ด้านนอกตัวบ้าน มีคนกลุ่มหนึ่ง ทั้งเด็กทั้งคนแก่ ถูกทหารราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องจับตาดูอยู่

ทุกคนมองบ้านที่ถูกทะเลเพลิงกลืนกินด้วยความโศกสลด

มีบางคนใบหน้าปรากฏแววหวาดกลัว มีบางคนมองจอมยุทธ์ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องอย่างโกรธแค้น มีบางคนรู้สึกหวั่นวิตก ในจำนวนนี้ยังมีเด็กกำลังร้องไห้อยู่ด้วย

พวกเขาล้วนเป็นคนในพรรคหลีซาน

อาจจะพูดได้ว่า เคยเป็นคนของพรรคหลีซาน เพราะตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ‘พรรคหลีซาน’ มีความเป็นไปได้อย่างยิ่งว่าจะกลายเป็นแค่ประวัติศาสตร์

จอมยุทธ์มหาปรมาจารย์แห่งราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องที่เป็นผู้นำกลุ่ม พูดด้วยความเย็นชา “นี่คือจุดจบของผู้ที่สบคมกับกบฏ ตอนนี้ต้องใช้คนตามสถานการณ์ ฝ่าบาทมีพระมหากรุณาธิคุณให้ลดโทษ ให้ไปรับใช้หอแดงในแต่ละที่ ผู้ขัดขืนจะถูกฆ่าไม่มีละเว้น”

ในบ้านที่กลายเป็นทะเลเพลิงเบื้องหน้ามีศพอยู่มากมาย นั่นล้วนเป็นจอมยุทธ์พรรคหลีซานที่ลงมือต่อต้าน ถูกฆ่าตายคาที่

ในกลุ่มคนของพรรคหลีซานมีคนกล่าวอย่างเคียดแค้นว่า “สำนักเราไม่ได้เข้าร่วมการต่อต้านต้าเสวียน เพียงแต่อยู่ที่ทางเหนือของทะเลหวงเจีย จำเป็นต้องฟังคำสั่งของหอกระบี่ทะเลเหนือ แต่ไม่เคยโจมตีจอมยุทธ์ของราชวงศ์ต้าเสวียอ๋องจริงๆ พวกท่านเหตุใดต้องบีบคั้นผู้คนเช่นนี้ด้วย?”

จอมยุทธ์มหาปรมาจารย์ของราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องผู้นั้นมองมา แรงกดดันหนาหนักพลันทำคนในพรรคหลีซานต้องกลั้นหายใจ บนไหล่คล้ายมีภาระมากมายกดทับ

เขากล่าวอย่างราบเรียบ “ตอนแรกข้าไม่คิดจะอธิบายให้พวกเจ้าฟัง พวกเจ้าแค่ยอมเชื่อฟังก็พอแล้ว แต่วันนี้ข้าอารมณ์ดี จะแหกกฎพูดมากหน่อยก็แล้วกัน”

“ฟังคำสั่งของโจรกบฎทะเลเหนือ ก็เป็นโทษที่ไม่อาจให้อภัยแล้ว ข้าย่อมรู้ว่าพรรคหลีซานเล็กๆ ของพวกเจ้าไม่มีความกล้าโจมตีทหารต้าเสวียนอย่างข้า ไม่เช่นนั้นวันนี้ล้างสำนักพวกเจ้า จะมีใครมีความอดทนกล่าวว่าจาไร้สาระกับพวกเจ้าบ้าง?”

จอมยุทธ์พรรคหลีซานต่างเคียดแค้นชิงชัง

จอมยุทธ์มหาปรมาจารย์ผู้นั้นโบกมืออย่างไม่ใยดี “พาตัวไปให้หมด กฎเดิม ไม่ให้อยู่ที่เกาะนี้ แยกเป็นกลุ่มละห้าคน แล้วส่งไปรับใช้ที่ห้องแดงของเมืองบนเกาะอื่น หากมีผู้ใดหลบหนี ให้ลงโทษทั้งกลุ่ม”

จอมยุทธ์ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องที่อยู่ใต้บังคับบัญชาของเขาต่างฟังคำสั่ง คุมตัวจอมยุทธ์พรรคหลีซานเหล่านั้น เตรียมผละจากเกาะน้อย

เยี่ยนจ้าวเกอมองเหตุการณ์นี้พร้อมขมวดคิ้วเล็กน้อย “ผู้สืบทอดของผู้วิเศษเซิงเข้าร่วมสงคราม ทำให้ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องมีความมั่นใจเต็มเปี่ยมจริงๆ ก่อนหน้านี้ทั้งปราบปรามและปลอบประโลม ใช้พระเดชพระคุณควบคุม ตอนนี้กลับไม่ใช่ไม้อ่อน ทำตัวโหดเหี้ยมทันที”

ในตอนนั้นเอง ปราณกระบี่ยิ่งใหญ่หลายสายโจมตีมาจากที่ไกล มาใกล้เกาะน้อยในชั่วพริบตา เหมือนรุ้งสะเทือนฟ้าก็ไม่ปาน

ทหารราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องบนเกาะพากันตกใจ “คนของหอกระบี่ทะเลเหนือ?”

ผู้มาเยือนยืนนิ่งอยู่รอบๆ ต่างก็ใส่อาภรณ์สีขาวขาว สะพายกระบี่คมกว้างไว้ด้านหลัง

เยี่ยนจ้าวเกอมองอีกฝ่าย สัมผัสปราณกระบี่ที่ระเบิดออกมาบนร่างพวกเขา มันไม่ได้คมกล้า แต่ว่ายิ่งใหญ่ เหมือนกับคลื่นทะเลอย่างไรอย่างนั้น

คนของหอกระบี่ทะเลเหนือมาถึงบนเกาะเล็ก เมื่อพบเห็นทหารราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องก็ไม่กล่าวมากความ พากันลงมือทันที

กระบี่คมกว้างด้านหลังพวกเขาออกจากฝัง ปราณกระบี่พลันคลุ้มคลั่งขึ้นอีกครั้ง พุ่งใส่ศัตรูบนเกาะด้วยสภาวะเทียมฟ้า

จอมยุทธ์มหาปรมาจารย์คนนั้นยังไม่ทันเอ่ยปาก กระบี่จิตราของอีกฝ่ายก็มาถึงเบื้องหน้าแล้ว

เขาเดือดดาล หยิบดาบสองเล่มตรงเอวออกพร้อมกัน ในขณะที่ขวางกระบี่จิตราของอีกฝ่าย ก็ลงมือโต้ตอบไปด้วย

จอมยุทธ์ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องภายใต้การนำของมหาปรมาจารย์ผู้นี้ พลันตั้งกระบวนทัพลวงทหารที่ใช้ในยามปกติทันที

แต่ว่ามือกระบี่ของหอกระบี่ทะเลเหนือเหล่านั้น ก็ตั้งทัพกระบี่ของตัวเอง ต่อสู้กับกระบวนทัพของราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องในทันทีเช่นกัน

ผู้นำของหอกระบี่ทะเลเหนือเป็นมหาปรมาจารย์ขั้นซ่อนจิต มีพลังแข็งแกร่งกว่า กดดันมหาปรมาจารย์ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องผู้นั้นจนโงหัวไม่ขึ้น

ถึงแม้ว่าทางด้านราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องจะเหี้ยมหาญ แต่ก็รับมือยอดฝีมือที่มีจำนวนมากกว่าของอีกฝั่งไม่ได้ ไม่ทันไรก็พ่ายแพ้

เยี่ยนจ้าวเกอยักไหล่ ‘ดูเหมือนจะเป็นลูกศิษย์ของหอกระบี่ทะเลเหนือที่ออกเดินทางอยู่ด้านนอก พอได้ยินว่าทางสำนักถูกราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องโจมตี จึงรีบกลับมา’

สถานที่ที่หอกระบี่ทะเหนืออยู่ถูกราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องล้อมไว้แล้ว การได้พบลูกศิษย์หอกระบี่ทะเลเหนือที่บริเวณรอบนอก สะท้อนให้เห็นว่าก่อนหน้านี้พวกเขาออกเดินทาง พอได้ยินข่าวจึงกลับมา

พวกเขาไม่อาจฝ่าวงล้อมของราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋อง แต่ก็ไม่คิดจะเอาหินกระทบไข่ด้วยการกลับสำนัก เพียงคอยเคลื่อนไหวหาโอกาสอยู่รอบนอก ดูว่าจะช่วยเหลือสำนักได้หรือไม่

แต่พวกเขาก็คงไม่รู้สถานการณ์ในวงล้อมเช่นกัน

‘ดูเหมือนต้องจับคนของราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องมาเค้นข้อมูลเสียแล้ว’ เยี่ยนจ้าวเกอยักไหล่ มุมปากยกโค้งขึ้นเล็กน้อย ‘สถานะของคนตรงหน้านี้ยังไม่สูงพอ’

คนของพรรคหลีซานในตอนนี้รู้สึกดีขึ้นมาก

แต่ว่าวินาทีถัดมา รอบๆ ก็ปรากฏกลิ่นอายของยอดฝีมือ

จอมยุทธ์หอกระบี่ทะเลเหนือสีหน้าเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย “มีการดักซุ่ม เป็นหลุมพราง!”

จอมยุทธ์พรรคหลีซานมองลำแสงสายหนึ่งพาดผ่านท้องฟ้ามาถึงเหนือเกาะน้อยอย่างงงงัน กลิ่นอายอันน่าสะพรึงสะกดทุกสิ่งรอบๆ ทำให้คนสยิวกาย

กลับเป็นยอดฝีมือราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องที่อยู่ในระดับมหาปรมาจารย์ขั้นห้า ขั้นกำเนิดญาณระยะกลาง

เขามองคนของหอกระบี่ทะเลเหนือพลางแค่นเสียง “โจรกบฏทะเลเหนือ จะถูกทำลายอยู่รอมร่อ ยังกล้าอาละวาดอีกหรือ?”

“ข้ากำลังรอพวกเจ้าส่งตัวเองเข้าตาข่ายอยู่พอดี พวกข้าจะได้จับตะพาบในไห ไม่เช่นนั้นพวกหนูตะเภาอย่างพวกเจ้าหลบซ้ายเลี่ยงขวา ทำให้การตามหาเสียเวลาเกินไป”

ขณะที่พูด ฝ่ามือหนึ่งก็ลดต่ำลง เกิดเป็นพายุขึ้นหลายกลุ่ม

แต่ใครจะรู้ว่าจอมยุทธ์หอกระบี่ทะเลเหนือผู้นั้นแม้ใบหน้าจะมีแววประหลาดใจ แต่ไร้ความหวาดกลัว กลับยิ่งอย่างเย็นชา

สายตาของมหาปรมาจารย์กำเนิดญาณผู้นั้นเคร่งขรึมขึ้น รู้สึกผิดปกติ

ในอากาศพลันมีประกายกระบี่สว่างขึ้น ฟันพายุหนาหนักขาดในกระบี่เดียว ทำให้การโจมตีของมหาปรมาจารย์ขั้นกำเนิดญาณผู้นี้หายไปไร้ร่องรอย

จอมยุทธ์ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องคนอื่น รวมถึงมหาปรมาจารย์ขั้นซ่อนจิตคนนั้นที่เป็นผู้นำกลุ่ม ร่างกายต่างสั่นสะท้านขึ้นมา

ที่หน้าผากของพวกเขามีประกายกระบี่สว่างขึ้นติดๆ กัน

นอกจากมหาปรมาจารย์ขั้นกำเนิดญาณผู้นี้แล้ว จอมยุทธ์ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องที่อยู่รอบๆ ไม่ว่าจะมีพลังฝึกปรือสูงหรือต่ำ ล้วนตายในชั่วพริบตาเดียว

มหาปรมาจารย์ขั้นกำเนิดญาณผู้นี้สยิวกาย เพียงมองดูความสามารถของอีกฝ่าย เขาก็รู้แล้วว่าที่เขายังรอดอยู่ไม่ใช่เพราะพลังของตนแข็งแกร่ง แค่อีกฝ่ายไม่คิดจะฆ่าตนเท่านั้น

เงาคนครั้งนี้โผล่ขึ้นกลางอากาศ ใส่อาภรณ์สีขาว สะพายกระบี่คมกว้างไว้ด้านหลัง แต่กลับเป็นสตรี

‘คิดตกปลา กลับตกได้ปลาที่แข็งแกร่งกว่าพวกเจ้า’ เยี่ยนจ้าวเกอเดิมทีกำลังมองเรื่องสนุก รอจนเขาเห็นยอดฝีมือที่เป็นสตรีแห่งหอคลื่นโหมโผล่มาชัดแล้ว ก็อดตื่นตะลึงไม่ได้

‘…บังเอิญนัก’

เยี่ยนจ้าวเกอกะพริบตา

สตรีตรงหน้านี้ ภายนอกมองไปอายุราวยี่สิบปี อายุจริงเยอะกว่าอายุภายนอกไม่น้อย แต่หากยึดตามพลังฝึกปรือของอีกฝ่าย ยังคงบอกได้ว่าอายุน้อยเกินไป

เรื่องพวกนี้ยังไม่ใช่สิ่งที่ทำให้เยี่ยนจ้าวเกอสนใจที่สุด

สิ่งที่ทำให้เขาสนใจอย่างแท้จริงก็คือ นี่คือ ‘ซือคงจิง’ อีกคนชัดๆ

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพีบทที่ 646 ‘ซือคงจิง’ อีกคน

Now you are reading ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี Chapter บทที่ 646 ‘ซือคงจิง’ อีกคน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เยี่ยนจ้าวเกอมุ่งหน้าไปทางเหนือ เห็นบนผิวราบเรียบของทะเลปรากฏเกาะน้อยเกาะหนึ่ง บนนั้นมีควันไฟลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า

เมื่อมองอย่างละเอียดแล้ว ถึงขั้นที่เห็นไฟลุกไหม้ปกคลุมเกาะ ย้อมท้องฟ้าใกล้ๆ ให้กลายเป็นสีแดง

ชายหนุ่มเข้าไปใกล้ ก่อนจะซ่อนอยู่ในก้อนเมฆ เห็นเงาจอมยุทธ์สวมเกราะอ่อนมากมายบนเกาะรางๆ

ลักษณะของเกราะ ก็คือรูปแบบของราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋อง

ผู้นำคือจอมยุทธ์ระดับมหาปรมาจารย์คนหนึ่ง ผู้ที่อยู่ใต้บังคับบัญชามีจอมยุทธ์ระดับหลอมกายเป็นหลัก ในจำนวนนี้ยังมีจอมยุทธ์ระดับมหาปรมาจารย์อีกเล็กน้อย

ด้านหน้าพวกเขา คือบ้านที่กลายเป็นทะเลเพลิง

หน้าประตูใหญ่ แผ่นป้ายแผ่นหนึ่งลุกไหม้ตกอยู่บนพื้น มองเห็นตัวหนังสือ ‘พรรคหลีซาน’ อย่างคลุมเครือ

ด้านนอกตัวบ้าน มีคนกลุ่มหนึ่ง ทั้งเด็กทั้งคนแก่ ถูกทหารราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องจับตาดูอยู่

ทุกคนมองบ้านที่ถูกทะเลเพลิงกลืนกินด้วยความโศกสลด

มีบางคนใบหน้าปรากฏแววหวาดกลัว มีบางคนมองจอมยุทธ์ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องอย่างโกรธแค้น มีบางคนรู้สึกหวั่นวิตก ในจำนวนนี้ยังมีเด็กกำลังร้องไห้อยู่ด้วย

พวกเขาล้วนเป็นคนในพรรคหลีซาน

อาจจะพูดได้ว่า เคยเป็นคนของพรรคหลีซาน เพราะตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ‘พรรคหลีซาน’ มีความเป็นไปได้อย่างยิ่งว่าจะกลายเป็นแค่ประวัติศาสตร์

จอมยุทธ์มหาปรมาจารย์แห่งราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องที่เป็นผู้นำกลุ่ม พูดด้วยความเย็นชา “นี่คือจุดจบของผู้ที่สบคมกับกบฏ ตอนนี้ต้องใช้คนตามสถานการณ์ ฝ่าบาทมีพระมหากรุณาธิคุณให้ลดโทษ ให้ไปรับใช้หอแดงในแต่ละที่ ผู้ขัดขืนจะถูกฆ่าไม่มีละเว้น”

ในบ้านที่กลายเป็นทะเลเพลิงเบื้องหน้ามีศพอยู่มากมาย นั่นล้วนเป็นจอมยุทธ์พรรคหลีซานที่ลงมือต่อต้าน ถูกฆ่าตายคาที่

ในกลุ่มคนของพรรคหลีซานมีคนกล่าวอย่างเคียดแค้นว่า “สำนักเราไม่ได้เข้าร่วมการต่อต้านต้าเสวียน เพียงแต่อยู่ที่ทางเหนือของทะเลหวงเจีย จำเป็นต้องฟังคำสั่งของหอกระบี่ทะเลเหนือ แต่ไม่เคยโจมตีจอมยุทธ์ของราชวงศ์ต้าเสวียอ๋องจริงๆ พวกท่านเหตุใดต้องบีบคั้นผู้คนเช่นนี้ด้วย?”

จอมยุทธ์มหาปรมาจารย์ของราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องผู้นั้นมองมา แรงกดดันหนาหนักพลันทำคนในพรรคหลีซานต้องกลั้นหายใจ บนไหล่คล้ายมีภาระมากมายกดทับ

เขากล่าวอย่างราบเรียบ “ตอนแรกข้าไม่คิดจะอธิบายให้พวกเจ้าฟัง พวกเจ้าแค่ยอมเชื่อฟังก็พอแล้ว แต่วันนี้ข้าอารมณ์ดี จะแหกกฎพูดมากหน่อยก็แล้วกัน”

“ฟังคำสั่งของโจรกบฎทะเลเหนือ ก็เป็นโทษที่ไม่อาจให้อภัยแล้ว ข้าย่อมรู้ว่าพรรคหลีซานเล็กๆ ของพวกเจ้าไม่มีความกล้าโจมตีทหารต้าเสวียนอย่างข้า ไม่เช่นนั้นวันนี้ล้างสำนักพวกเจ้า จะมีใครมีความอดทนกล่าวว่าจาไร้สาระกับพวกเจ้าบ้าง?”

จอมยุทธ์พรรคหลีซานต่างเคียดแค้นชิงชัง

จอมยุทธ์มหาปรมาจารย์ผู้นั้นโบกมืออย่างไม่ใยดี “พาตัวไปให้หมด กฎเดิม ไม่ให้อยู่ที่เกาะนี้ แยกเป็นกลุ่มละห้าคน แล้วส่งไปรับใช้ที่ห้องแดงของเมืองบนเกาะอื่น หากมีผู้ใดหลบหนี ให้ลงโทษทั้งกลุ่ม”

จอมยุทธ์ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องที่อยู่ใต้บังคับบัญชาของเขาต่างฟังคำสั่ง คุมตัวจอมยุทธ์พรรคหลีซานเหล่านั้น เตรียมผละจากเกาะน้อย

เยี่ยนจ้าวเกอมองเหตุการณ์นี้พร้อมขมวดคิ้วเล็กน้อย “ผู้สืบทอดของผู้วิเศษเซิงเข้าร่วมสงคราม ทำให้ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องมีความมั่นใจเต็มเปี่ยมจริงๆ ก่อนหน้านี้ทั้งปราบปรามและปลอบประโลม ใช้พระเดชพระคุณควบคุม ตอนนี้กลับไม่ใช่ไม้อ่อน ทำตัวโหดเหี้ยมทันที”

ในตอนนั้นเอง ปราณกระบี่ยิ่งใหญ่หลายสายโจมตีมาจากที่ไกล มาใกล้เกาะน้อยในชั่วพริบตา เหมือนรุ้งสะเทือนฟ้าก็ไม่ปาน

ทหารราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องบนเกาะพากันตกใจ “คนของหอกระบี่ทะเลเหนือ?”

ผู้มาเยือนยืนนิ่งอยู่รอบๆ ต่างก็ใส่อาภรณ์สีขาวขาว สะพายกระบี่คมกว้างไว้ด้านหลัง

เยี่ยนจ้าวเกอมองอีกฝ่าย สัมผัสปราณกระบี่ที่ระเบิดออกมาบนร่างพวกเขา มันไม่ได้คมกล้า แต่ว่ายิ่งใหญ่ เหมือนกับคลื่นทะเลอย่างไรอย่างนั้น

คนของหอกระบี่ทะเลเหนือมาถึงบนเกาะเล็ก เมื่อพบเห็นทหารราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องก็ไม่กล่าวมากความ พากันลงมือทันที

กระบี่คมกว้างด้านหลังพวกเขาออกจากฝัง ปราณกระบี่พลันคลุ้มคลั่งขึ้นอีกครั้ง พุ่งใส่ศัตรูบนเกาะด้วยสภาวะเทียมฟ้า

จอมยุทธ์มหาปรมาจารย์คนนั้นยังไม่ทันเอ่ยปาก กระบี่จิตราของอีกฝ่ายก็มาถึงเบื้องหน้าแล้ว

เขาเดือดดาล หยิบดาบสองเล่มตรงเอวออกพร้อมกัน ในขณะที่ขวางกระบี่จิตราของอีกฝ่าย ก็ลงมือโต้ตอบไปด้วย

จอมยุทธ์ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องภายใต้การนำของมหาปรมาจารย์ผู้นี้ พลันตั้งกระบวนทัพลวงทหารที่ใช้ในยามปกติทันที

แต่ว่ามือกระบี่ของหอกระบี่ทะเลเหนือเหล่านั้น ก็ตั้งทัพกระบี่ของตัวเอง ต่อสู้กับกระบวนทัพของราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องในทันทีเช่นกัน

ผู้นำของหอกระบี่ทะเลเหนือเป็นมหาปรมาจารย์ขั้นซ่อนจิต มีพลังแข็งแกร่งกว่า กดดันมหาปรมาจารย์ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องผู้นั้นจนโงหัวไม่ขึ้น

ถึงแม้ว่าทางด้านราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องจะเหี้ยมหาญ แต่ก็รับมือยอดฝีมือที่มีจำนวนมากกว่าของอีกฝั่งไม่ได้ ไม่ทันไรก็พ่ายแพ้

เยี่ยนจ้าวเกอยักไหล่ ‘ดูเหมือนจะเป็นลูกศิษย์ของหอกระบี่ทะเลเหนือที่ออกเดินทางอยู่ด้านนอก พอได้ยินว่าทางสำนักถูกราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องโจมตี จึงรีบกลับมา’

สถานที่ที่หอกระบี่ทะเหนืออยู่ถูกราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องล้อมไว้แล้ว การได้พบลูกศิษย์หอกระบี่ทะเลเหนือที่บริเวณรอบนอก สะท้อนให้เห็นว่าก่อนหน้านี้พวกเขาออกเดินทาง พอได้ยินข่าวจึงกลับมา

พวกเขาไม่อาจฝ่าวงล้อมของราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋อง แต่ก็ไม่คิดจะเอาหินกระทบไข่ด้วยการกลับสำนัก เพียงคอยเคลื่อนไหวหาโอกาสอยู่รอบนอก ดูว่าจะช่วยเหลือสำนักได้หรือไม่

แต่พวกเขาก็คงไม่รู้สถานการณ์ในวงล้อมเช่นกัน

‘ดูเหมือนต้องจับคนของราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องมาเค้นข้อมูลเสียแล้ว’ เยี่ยนจ้าวเกอยักไหล่ มุมปากยกโค้งขึ้นเล็กน้อย ‘สถานะของคนตรงหน้านี้ยังไม่สูงพอ’

คนของพรรคหลีซานในตอนนี้รู้สึกดีขึ้นมาก

แต่ว่าวินาทีถัดมา รอบๆ ก็ปรากฏกลิ่นอายของยอดฝีมือ

จอมยุทธ์หอกระบี่ทะเลเหนือสีหน้าเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย “มีการดักซุ่ม เป็นหลุมพราง!”

จอมยุทธ์พรรคหลีซานมองลำแสงสายหนึ่งพาดผ่านท้องฟ้ามาถึงเหนือเกาะน้อยอย่างงงงัน กลิ่นอายอันน่าสะพรึงสะกดทุกสิ่งรอบๆ ทำให้คนสยิวกาย

กลับเป็นยอดฝีมือราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องที่อยู่ในระดับมหาปรมาจารย์ขั้นห้า ขั้นกำเนิดญาณระยะกลาง

เขามองคนของหอกระบี่ทะเลเหนือพลางแค่นเสียง “โจรกบฏทะเลเหนือ จะถูกทำลายอยู่รอมร่อ ยังกล้าอาละวาดอีกหรือ?”

“ข้ากำลังรอพวกเจ้าส่งตัวเองเข้าตาข่ายอยู่พอดี พวกข้าจะได้จับตะพาบในไห ไม่เช่นนั้นพวกหนูตะเภาอย่างพวกเจ้าหลบซ้ายเลี่ยงขวา ทำให้การตามหาเสียเวลาเกินไป”

ขณะที่พูด ฝ่ามือหนึ่งก็ลดต่ำลง เกิดเป็นพายุขึ้นหลายกลุ่ม

แต่ใครจะรู้ว่าจอมยุทธ์หอกระบี่ทะเลเหนือผู้นั้นแม้ใบหน้าจะมีแววประหลาดใจ แต่ไร้ความหวาดกลัว กลับยิ่งอย่างเย็นชา

สายตาของมหาปรมาจารย์กำเนิดญาณผู้นั้นเคร่งขรึมขึ้น รู้สึกผิดปกติ

ในอากาศพลันมีประกายกระบี่สว่างขึ้น ฟันพายุหนาหนักขาดในกระบี่เดียว ทำให้การโจมตีของมหาปรมาจารย์ขั้นกำเนิดญาณผู้นี้หายไปไร้ร่องรอย

จอมยุทธ์ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องคนอื่น รวมถึงมหาปรมาจารย์ขั้นซ่อนจิตคนนั้นที่เป็นผู้นำกลุ่ม ร่างกายต่างสั่นสะท้านขึ้นมา

ที่หน้าผากของพวกเขามีประกายกระบี่สว่างขึ้นติดๆ กัน

นอกจากมหาปรมาจารย์ขั้นกำเนิดญาณผู้นี้แล้ว จอมยุทธ์ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องที่อยู่รอบๆ ไม่ว่าจะมีพลังฝึกปรือสูงหรือต่ำ ล้วนตายในชั่วพริบตาเดียว

มหาปรมาจารย์ขั้นกำเนิดญาณผู้นี้สยิวกาย เพียงมองดูความสามารถของอีกฝ่าย เขาก็รู้แล้วว่าที่เขายังรอดอยู่ไม่ใช่เพราะพลังของตนแข็งแกร่ง แค่อีกฝ่ายไม่คิดจะฆ่าตนเท่านั้น

เงาคนครั้งนี้โผล่ขึ้นกลางอากาศ ใส่อาภรณ์สีขาว สะพายกระบี่คมกว้างไว้ด้านหลัง แต่กลับเป็นสตรี

‘คิดตกปลา กลับตกได้ปลาที่แข็งแกร่งกว่าพวกเจ้า’ เยี่ยนจ้าวเกอเดิมทีกำลังมองเรื่องสนุก รอจนเขาเห็นยอดฝีมือที่เป็นสตรีแห่งหอคลื่นโหมโผล่มาชัดแล้ว ก็อดตื่นตะลึงไม่ได้

‘…บังเอิญนัก’

เยี่ยนจ้าวเกอกะพริบตา

สตรีตรงหน้านี้ ภายนอกมองไปอายุราวยี่สิบปี อายุจริงเยอะกว่าอายุภายนอกไม่น้อย แต่หากยึดตามพลังฝึกปรือของอีกฝ่าย ยังคงบอกได้ว่าอายุน้อยเกินไป

เรื่องพวกนี้ยังไม่ใช่สิ่งที่ทำให้เยี่ยนจ้าวเกอสนใจที่สุด

สิ่งที่ทำให้เขาสนใจอย่างแท้จริงก็คือ นี่คือ ‘ซือคงจิง’ อีกคนชัดๆ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+