ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพีบทที่ 693 ทะเลหวงเจียเปลี่ยนฟ้า
เยี่ยนจ้าวเกอรู้ว่าที่เจิ้งหมิงบอกว่าต้องการตรวจสอบ น่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เยี่ยซินโดนซุ่มโจมตีก่อนหน้านี้
บางทีเรื่องนี้อาจจะมีความเร้นลับมากมาย แต่เยี่ยนจ้าวเกอยังไม่คิดจะมีส่วนร่วม
ในเมื่อความบังเอิญและวาสนาเป็นตัวเองตั้งใจสร้างขึ้นมา สถานการณ์ของทะเลหวงเจียในวันนี้จะไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว
ถึงแม้ว่าพวกเจิ้งหมิงจะไม่ก้าวก่ายการต่อสู้ระหว่างเยี่ยนจ้าวเกอกับสำนักแสงสว่าง แต่เขาก็เคยเป็นแขกบนเรือนภาร่อนวายุ แค่ข่าวนี้หลุดออกไป สำนักแสงสว่างจะไม่สนใจก็ไม่ได้
คังผิงมุ่งหน้าไปพบประมุขอาคเนย์ที่เขาโถงทอง ผลลัพธ์ยากจะคาดเดา
แต่ว่าก่อนที่ประมุขอาคเนย์จะตัดสินใจอย่างชัดเจน ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องที่อยู่ในทะเลหวงเจียจำเป็นต้องลดธง หยุดตีกลองรบ ทำตัวสงบเสงี่ยมชั่วคราว
คังผิงมาตรว่าจะออกจากทะเลหวงเจีย ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องก็ยังมีพลังแข็งแกร่ง พวกเขาทำตัวสงบลง ขุมกำลังฝ่ายต่อต้านต้าเสวียนในขณะที่โล่งใจ ก็ไม่อาจสร้างสภาวะตอบโต้ที่มีประโยชน์ขึ้นมาได้
ปัจจุบันหากสงครามที่ดุเดือดเลือดพล่านในทะเลหวงเจียหยุดลงชั่วคราว ก็เป็นเรื่องที่คาดเดาได้
แม้ว่าถ้าหากยึดตามความคิดของเยี่ยนจ้าวเกอ ทางที่ดีก็คือให้ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องทำลายที่อยู่ของสำนักแสงสว่างได้ก่อนหน้านี้ก็ตาม
ทว่าหอกระบี่ทะเลเหนือ เกาะมนุษย์สำริด หรือแม้แต่สำนักความมืดต่างไม่อยากเห็นภาพนี้ สุดท้ายน่าจะเป็นเพราะสงครามโดยรวมระหว่างราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องและขุมกำลังต่อต้านต้าเสวียน ชะตาชีวิตของสำนักแสงสว่างยากจะคาดเดายิ่ง
บางทีอาจจะล่มสลายไม่อาจฟื้นคืน ปัจจัยพื้นฐานถูกทำลาย หรืออาจจะได้รับประโยชน์มากมาย อาศัยสภาวะผงาดขึ้นมา
ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าหากมงกุฎจันทราตกไปอยู่ในมือของราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องที่แข็งแกร่งยิ่งกว่า ก็เท่ากับเป็นการขี่พยัคฆ์กลืนหมาป่าอย่างไม่ต้องสงสัย
เทียบกันแล้ว สำหรับเยี่ยนจ้าวเกอ สถานการณ์ในตอนนี้มีพื้นที่ให้เคลื่อนไหวมากกว่าเดิม
เมื่อไม่มีแรงกดดันภายนอกจากราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋อง ความขัดแย้งด้านในกองทัพต่อต้านต้าเสวียนก็ผุดขึ้นมาใหม่จากผิวน้ำ
เดิมทีตนก็มีบุญคุณกับหอกระบี่ทะเลเหนืออยู่แล้ว ปัจจุบันอาศัยสภาวะเอาชนะราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋อง ทำให้ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องที่ในตอนแรกครอบครองอำนาจในการรุก ถูกกดดันให้เปลี่ยนจากโจมตีเป็นป้องกัน ดับเพลิงสงคราม เป็นการช่วยเหลือขุมกำลังต่อต้านต้าเสวียนทุกฝ่ายอย่างยิ่งใหญ่โดยไม่ต้องสงสัย
นอกจากนี้แล้ว ยังมีผลพลอยได้อื่นๆ อีก
เยี่ยนจ้าวเกอสายตาเคร่งขรึมเล็กน้อย จิตใจเชื่อมโยงกับตราประทับตะวันที่อยู่ในความเงียบงันอีกครั้ง
หลังจากวิกฤติการณ์ครั้งใหญ่ ตนรู้ถึงลำดับประวัติศาสตร์ของโลกแปดพิภพเป็นอย่างดี แต่สำหรับโลกซ้อนโลก ยังมีของแปลกหน้าอยู่มากมาย
วันนี้สามารถติดต่อกับผู้สืบทอดของประมุขอาคเนย์ได้แล้ว จะต้องมีผลพลอยได้ที่ยอดเยี่ยมอย่างไม่ต้องสงสัย
สิ่งต่างๆ อย่างเช่น ข้อมูล ความรู้ ข่าวสาร ส่วนใหญ่แล้วต่อให้ใช้ทองคำพันแท่งก็แลกไม่ได้ สามารถแสดงผลที่เหนือกว่าจินตนาการในเวลาที่เหมาะสมและในสถานที่ที่เหมาะได้ ย่อมมีค่าควรเมือง
ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้ยังเกี่ยวข้องกับตราประทับตะวันของตนด้วย
อืม บางทีอาจจะมีมงกุฎจันทรากับดาบเทพอาทิตย์ยะเยือกอีก…
เยี่ยนจ้าวเกอหางตากวาดมองเฟิงอวิ๋นเซิงแวบหนึ่ง สายตาของหญิงสาวสบกับเขา คนทั้งสองกะพริบตาพร้อมกัน
สีหน้าของนางไม่มีสิ่งใดผิดแผก ทว่ามือที่ถือดาบของนางเกร็งขึ้นจนเห็นเส้นเอ็นปูดโปนขึ้นมาหลายเส้น
ดาบเทพอาทิตย์ยะเยือกยังคงมีลักษณะปกติเหมือนเดิม ถูกเก็บอยู่ในฝัก ดูธรรมดาถึงขีดสุด
เยี่ยนจ้าวเกอมองเจิ้งหมิงพลางเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ท่านมีธุระต้องไปทำ ได้โปรดจัดการให้เต็มที่ ช่วยส่งข้ากับสหายลงเรือก็พอแล้ว”
เจิ้งหมิงเอ่ย “ไปด้วยกันอีกสักระยะย่อมได้อยู่แล้ว สหายเยี่ยนหากอยากอยู่บนเรือต่อก็ย่อมได้ สหายเยี่ยนเตรียมไปจัดการธุระส่วนตัวตอนไหน ค่อยไปจากเรือเองก็ได้ ไม่ต้องเกรงใจ”
“ขอขอบคุณยิ่ง” เยี่ยนจ้าวเกอค้อมศีรษะ
ไป๋จื่อหมิงที่มองความเป็นไปของเรื่องราวอยู่ด้านข้าง ไม่คิดจะสอดมือมาโดยตลอด มีแต่จุ๊ปากประหลาดใจ
สถานการณ์ในตอนนี้มีสักกี่ส่วนที่เป็นสถานการณ์ที่คนหนุ่มผู้นี้คาดไว้ตั้งแต่ตอนขึ้นเรือ
ความลึกลับในโลกซ้อนโลกยังคงไม่อาจหยั่งคาด ขณะเดินทางอยู่ด้านในนี้ หากไม่เตรียมพร้อม บางทีอาจจะถึงกาลพินาศ
สิ่งที่น่ากลัวและน่าเศร้าที่สุดก็คือ หลายๆ ครั้งต่อให้ตายไปแล้ว ก็ยังไม่รู้ว่าเหตุใดตนถึงต้องประสบกับโชคชะตาเช่นนี้
ในป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ มีต้นไม้สูงเสียดฟ้าจำนวนนับไม่ถ้วน ต่างแตกกิ่งก้านสาขา คลุมฟ้าคลุมตะวัน
รากสานกันซับซ้อนด้านใต้ดินโคลน ซ่อนเรื่องราวที่คนไม่ทราบไว้เหลือคณานับ
ชายชราตอนนี้พลันคร่ำครวญ
คิดถึงในอดีต ตนเต็มไปด้วยความฮึกเหิม หลังจากปีนสู่จุดสูงสุดของโลกใบเดิม ก็ลำบากฝึกฝนอยู่หลายปี ในที่สุดก็ข้ามขีดจำกัดสำเร็จ ก้าวไปยังจุดที่อยู่สูงกว่ายอดเขา
ตอนลอยขึ้นมายังโลกซ้อนโลกก็มีปณิธานยิ่งใหญ่ การคบหากับพวกเจิ้งหมิงสำเร็จ เท่ากับการหยั่งเท้าก้าวแรกอย่างมั่นคงบนโลกซ้อนโลก มีจุดเริ่มต้นที่ยอดเยี่ยมยิ่ง
ทว่าไม่คาดคิดเลย ว่าทิศทางของลมในกาลต่อมายิ่งมายิ่งไม่ถูกต้อง
ค่ายกลบูชาฟ้า แม้แต่ศิษย์สายตรงของประมุขอาคเนย์อย่างเจิ้งหมิงและเฉินจื้อเหลียงยังให้ความสำคัญ ส่วนที่ไม่ธรรมดา มองแค่จุดเดียวก็ทราบแล้ว
เมื่อมาถึงในหุบเขา ที่นี่ยิ่งมียอดฝีมือด้านวรยุทธ์ในขั้นสะพานเซียนเฝ้าอยู่ มีพลังน่าตกตะลึง
เมื่อครู่สองฝ่ายคุมเชิงกัน สงครามแค่สะกิดนิดเดียวก็จะปะทุขึ้นทันที แม้ไป๋จื่อหมิงจะเคยผ่านคลื่นลมในโลกที่เคยอยู่ก่อนหน้านี้ชนจนชาชิน ก็ยังต้องแอบปาดเหงื่อ
ถึงแม้ว่าความฮึกเหิมจะลดต่ำลง แต่ไป๋จื่อหมิงก็ปรับสภาพจิตใจอย่างรวดเร็ว ทราบว่าพลังของตนในตอนนี้หากเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องทำนองนี้ จะอันตรายเป็นอย่างยิ่ง
เขามองออกว่า ขอบเขตที่ต้องปะทะกันในเรื่องนี้ เป็นไปได้อย่างยิ่งว่าไม่ได้อยู่ที่หุบเขานี้
สองฝ่ายที่ต่อสู้กันอย่างแท้จริง ไม่ใช่พวกคังผิงและเจิ้งหมิง แม้แต่จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสะพานเซียนอย่างคังผิง บางทีอาจจะเป็นแค่ผู้ส่งสานส์เท่านั้น
เมื่อคิดเช่นนี้ เขาก็รู้สึกว่าตนเป็นปลาที่ติดร่างแหไปด้วยโดยแท้
หลังจากมองเยี่ยนจ้าวเกออีกครั้ง สายตาของเขาก็อดเปลี่ยนเป็นซับซ้อนไม่ได้ ‘คนหนุ่มอย่างท่านกำลังเล่นกับไฟอยู่’
ด้านในหุบเขา ไม่ว่าจะเป็นพวกเจิ้งหมิงหรือคังผิง สายตาที่มองเรือนภาร่อนวายุอยู่ต่างปั่นป่วน
คังผิงส่งกระแสเสียงกับภรรยาและสหายร่วมสำนักของตน “รีบรายงานเรื่องนี้กับองค์จักรพรรดิอย่างละเอียด ตอนนี้ข้าจะไปที่เขาโถงทองแล้ว”
“ก่อนที่องค์จักรพรรดิจะออกคำสั่ง หรือข้าส่งข่าวกลับมา ให้รักษาความสงบทางทะเลหวงเจียไว้ ห้ามวู่วาม รีบแจ้งให้ท่านอาจารย์อาสองท่านกับเสวียนมู่อ๋องถอยทัพ ตอนนี้ไม่อาจสู้ได้อีก”
“ผลึกปอดแดนทะเลกำลังจะหมด หากไม่มีมาชดเชย ค่ายกลบูชาฟ้าก็ทนต่อไปไม่ได้อยู่ดี หยุดไว้เสีย”
คังฮูหยินกับฉีเหว่ยต่างมีสีหน้าเสียใจ
การหยุดในครั้งนี้ เท่ากับความพยายาอย่างยากลำบากของคนไม่ต่ำกว่าหนึ่งรุ่นเมื่อร้อยปีก่อนต้องสูญเปล่า
ทั้งๆ ที่เป็นรูปเป็นร่างแล้ว สามารถมองเห็นรุ่งอรุณแห่งความหวังได้แล้ว ตอนนี้กลับเป็นแค่ฟองเงา
นี่ทำให้แม้จะเป็นคนที่มีสภาพจิตใจแข็งแกร่งถึงเพียงไหน ก็เกือบจะคลุ้มคลั่ง
คังฮูหยินเอ่ยเสียงทุ้ม “เยี่ยนจ้าวเกอนั่น…”
คังผิงสีหน้าเยือกเย็น “อย่าเพิ่งไปยุ่งกับเขา ก่อนองค์จักรพรรดิจะตัดสินใจ ห้ามกระตุ้นโทสะของประมุขอาคเนย์”
“แต่ให้จับตาดูเขาไว้ ตรวจสอบว่าเบื้องหลังของเขาแท้จริงแล้วมีร่องรอยของราชันพระอาทิตย์หรือไม่”
ฉีเหว่ยสายตาเย็นชากว่าเดิม “เรื่องราวพังเพราะเด็กน้อยผู้นี้ ถ้าหากเบื้องหลังเขาไม่มีใคร จะทำให้เขาทรมานจนอยากตายให้ได้! ข้าต้องการให้เขาเสียใจว่าเหตุใดตัวเขาถึงเกิดมาจากครรภ์ของมารดา!”
คังผิงว่า “แจ้งเสวียนมู่อ๋อง สงบเสงี่ยม และสงบเสงี่ยม ปล่อยขุมกำลังต่อต้านต้าเสวียนในทะเลหวงเจียไป อย่าไปคุมคามพวกเขา”
“เด็กน้อยผู้นี้มีความแค้นกับสำนักแสงสว่าง มอบสภาพแวดล้อมที่เปิดโล่งให้พวกเขาไปกัดกันเอง! หากผ่านด่านนี้ไปได้ ทะเลหวงเจียจะเป็นแผ่นดินของเรา”
Comments