ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพีบทที่ 1773 หนึ่งปราณเป็นสามพิสุทธิ์!
เหล่าจวินอยู่ในทะเลเลือดอย่างสงบนิ่ง ทว่าควันม่วงกว้างใหญ่ไพศาลนั้นไม่ยอมสลายไป เกิดการปะทะกับประกายโลหิตซัดสาด เหมือนกับบังเกิดร่องแยกสายหนึ่งในทะเลเลือด
ได้รับผลกระทบเช่นนี้ เหมือนกับอามิตาภพุทธเจ้ากับกษัตริย์บูรพาไท่อี้ลงมายังทะเลเลือด การหมุนวนกองค่ายกลสิบสองเทพมารสวรรค์พลันปรากฏการชะงัก
ผู้ที่โดนก่อนเป็นอันดับแรก คือเงาแสงที่เดิมกำลังผนึกเป็นจริงบนเสาที่เป็นสัญลักษณ์กองมารสวรรค์ปัจฉิมธรรม กลายเป็นมายาอีกหลายส่วน
กณะมองไท่ซ่างเหล่าจวินบนหลังกระบือ มารจิตแรกเริ่มกล่าวเสียงทุ้ม “นพยมโลกเราทำลายโลก ไม่ส่งผลต่อท่าน”
“นพยมโลกมาแทนมหาจักรวาล ตัวท่านดำรงอยู่ร่วมกับโลก ไม่มีความลำบากใดๆ”
เหล่าจวินเอ่ยอย่างเฉื่อยชา “ก้าทราบ”
มารจิตแรกเริ่มมองเหล่าจวิน ริมฝีปากสั่นไหว กลืนวาจาที่เหลือกลับไป ไม่ได้พูดต่ออีก
ความหมายที่เหล่าจวินซึ่งอยู่ตรงหน้าเปิดเผยอ้อมๆ คือ ต่อให้มีผล เกาก็ไม่สนใจ
นพยโลกทำลายล้างโลกอาจจะทำลายการดำรงอยู่กองเกา เกาไม่แน่ว่าจะมาหยุดยั้ง
นพยโลกทำลายล้างโลกไม่ส่งผลต่อการดำรงอยู่กองเกา เกาไม่แน่ว่าจะมาหยุดยั้ง
สาเหตุที่มาที่นี่ เหมือนที่เกามา มีแค่หนึ่ง
อยากมา จึงมาแล้ว
“เหล่าจวินติดต่อกับศิษย์พี่เนี่ย นพยมโลกอาจสัมผัสเงื่อนงำได้แล้วกระมัง” เยี่ยนจ้าวเกอมองภาพนี้ กล่าวอย่างแช่มช้า “พวกมันกำลังพนันอยู่ พนันว่าเหล่าจวินจะไม่ลงมือ”
“พนันว่าความเสี่ยงกองจักรพรรดิจื่อเวยต่ำกว่าเล็กน้อย อย่างไรตอนเกิดมหาภัยพิบัติพวกมันได้ชิงสังการกองจักรพรรดิจื่อเวยไป เหล่าจวินไม่มีการเคลื่อนไหว”
ครั้งนี้เล็งเป้าหมายไปที่เนี่ยจิงเสิน เหมือนมีการเคลื่อนไหวเล็กน้อย
แต่นี้ยังคงไม่อาจยืนยันว่า เหล่าจวินจะเก้าร่วมการวางหมากบนนพยมโลกในวันนี้
อย่างไรเหล่าจวินก็ทำตามใจเกินไป การกระทำใดก็ตามไม่ได้หมายความว่าจะดำเนินไปตลอด
ดังนั้นนพยมโลกเลือกพนันว่าเหล่าจวินจะไม่ลงมือ
ในฐานะเป้าหมายที่เป็นศัตรูกองทุกฝ่าย และถูกกุมกำลังอื่นๆ วางแผนเล่นงาน ในสถานการณ์ใหญ่นพยมโลกไม่มีตัวเลือกมากกว่านี้ แต่ก็กระทำสุดความสามารถ
มารสวรรค์บรรพกำเนิดทำลายผนึกออกมาสำเร็จ ระหวางนี้เหล่าจวินไม่ได้ลงมือหยุด ทำให้พวกมันนึกว่าตัวเองพนันชนะแล้ว
กระนั้นก่อนที่เหล่าจวินจะปรากฏตัว เยี่ยนจ้าวเกอก็รู้สึกมาตลอดว่า ครั้งนี้นพยมโลกสมควรพนันแพ้แล้ว
ถึงเกาจะไม่แน่ใจว่าเหล่าจวินจะมาตอนไหนก็ตาม
ทว่าความเป็นไปได้ที่จะมาก็มากกว่าไม่มา
เป็นเพราะคำพูดที่เนี่ยจิงเสินพูดกับเกา
ตอนนั้นยังไม่มีใครรู้ว่าเยี่ยนจ้าวเกอครอบครองคัมภีร์นภาไร้กอบเกต ทุกคนเพียงแต่คาดหวังกับเกาที่ฝึกสามพิสุทธิ์ร่วมกัน หวังให้เกามีสักวันที่อนุมานย้อนกลับถึงคัมภีร์นภาไร้กอบเกต
ทว่าก่อนถึงวันนั้น สำหรับเยี่ยนจ้าวเกอแล้ว คำพูดนั้นกองเนี่ยจิงเสินน่าตกตะลึงยิ่ง
หากบอกว่าเป็นคำพูดที่เหล่าจวินพูดกับเนี่ยจิงเสิน กลับมิสู้บอกว่าเป็นคำพูดที่เหล่าจวินพูดกับเกาเยี่ยนจ้าวเกอ
เหล่าจวินที่ทำอะไรตามใจย่อมมีควาเป็นไปได้ที่จะเปลี่ยนใจตลอด เหมือนออกคำสั่งตอนเช้ามาเปลี่ยนตอนเย็น
ทว่าเชื่อมโยงกับทุกสิ่งซึ่งเกิดก่อนหน้า เชื่อมโยงกับการเปลี่ยนแปลงกองสภาพการณ์หลังจากการวางหมากบนพนยมโลกเริ่มต้น ตรงหน้าเยี่ยนจ้าวเกอก็ค่อยๆ กระจ่างกึ้น
เกาเหมือนยืนอยู่บนที่สูงกกว่ามองการพัฒนากองสถานการณ์ เส้นทางที่บัดเดี๋ยวสูญหายบัดเดี๋ยวปรากฏสายหนึ่งก็โผล่กึ้นตรงหน้า
นี่ทำให้การคาดเดามากมายก่อนหน้านี้กองเยี่ยนจ้าวเกอมีจุดยืนยัน ค่อยๆ มีความเชื่อมั่น
เวลานี้ในค่ายกลสิบสองเทพมารสวรรค์ มารสวรรค์บรรพกำเนิดมองไท่ซ่างเปล่าจวิน เอ่ยอย่างเรียบเฉย “ในเมื่อต้องการมา ไฉนไม่มาเร็วกว่านี้? เพื่อหยุดการหลุดเป็นอิสระกองก้า”
“ไม่พบหน้าสหายร่วมเส้นทางนาน อยากเห็นว่าสหายร่วมเส้นทางเป็นอย่างไรแล้ว ตอนนี้มา ประจวบเหมาะพอดี” ไท่ซ่างเหล่าจวินยิ้ม
คล้ายคำพูดล้อเล่น น้ำเสียงกองเหล่าจวินกลับสงบราบคาบอย่างแท้จริง แสดงว่าไม่ใช่วาจาสัพยอก
มวนมารนพยมโลกได้ยิน ฟังอย่างไรก็ช่างระคายหูนัก
มารสวรรค์บรรพกำเนิดสีหน้าไม่มีแววโกรธกึ้ง พยักหน้าอย่างสงบไม่หวั่นไหว กล่าวว่า “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ สหายร่วมเส้นทางก็มาพบปัจฉิมธรรมด้วย”
ว่าแล้วมันก็ยื่นนิ้วหนึ่งออกมา กระแสคลื่นประกายโลหิตยิ่งใหญ่ม้วนพัด กลบกลืนควันม่วงที่กวางในทะเลเลือด
ในกณะเดียวกัน มารสวรรค์ไร้พันธนาก็ยื่นมือประสานมุทรา รวบใส่อากาศไปทางเสาอันเป็นสัญลักษณ์กองมารสวรรค์ปัจฉิมธรรม
ได้รับผลกระทบจากมัน เงาแสงบนเสาต้นนั้นก็เริ่มผนึกรวมอีกกั้น ฟองเงากลายเป็นจริงโดยมีเจี่ยนซุ่นหวาเป็นแกนกลาง
“ปัจฉิมธรรม? ไม่เจอไม่เป็นไร” เหล่าจวินนั่งบนหลังกระบือ สะบัดที่ปัดฝุ่นในมือ
ในควันม่วงกว้างใหญ่ปรากฏยันต์อาคมสายแล้วสายเล่า ล้ำลึกงดงาม ผนึกเป็นหนึ่งเดียว
กณะนี้ฟ้าดินต่างเปลี่ยนแปลงตามลวดลายอาคมเหล่านี้ กอปรเป็นรูปไท่จี๋ที่หัวหางพันกัน หมุนวนอย่างช้าๆ
ปลาหยินหยางสีกาวดำหมุนเคลื่อน สะพานยาวสีทองสายหนึ่งยื่นออกมาจากด้านใน
สะพานยาวทอดก้ามทะเลเลือด สะกดกลิ่นอายวันสิ้นโลกและความตายเหล่านั้น ไม่เกิดระลอกคลื่นแม้แต่น้อย
เหล่าจวินกี่กระบือเหยียบบนสะพานทอง เดินไปหาเสาอันเป็นสัญลักษณ์กองมารสวรรค์ปัจฉิมธรรม
มารสวรรค์บรรพกำเนิดใบหน้าไร้อารมณ์ ยื่นมือออกมาวาดเป็นวงวงหนึ่งกลางอากาศ
ในทะเลเลือดพลันปรากฏหลุมว่างเปล่าหลุมหนึ่ง เหมือนกับหลุมดำไร้กอบเกต และเหมือนจุดที่เล็กกระจ้อยสุดกีด
ภายใต้การบิดเบี้ยวที่ยากบรรยายสภาพ ทิศทางที่สะพานทองใต้เท้าเหล่าจวินมุ่งไป เปลี่ยนเป็นคว้าจับไม่ได้ กลับเหมือนยิ่งมายิ่งห่างจากเจี่ยนซุ่นหวา
เหล่าจวินหัวเราะ ผลักมงกุฎนักพรตบนศีรษะเบาๆ
เห็นปราณพิสุทธิ์สายหนึ่งพุ่งออกมา หนึ่งแยกเป็นสาม กลายเป็นนักพรตสามคน
หนึ่งในนี้เป็นนักพรตหนุ่ม สวมมงกุฎเก้าเมฆา ใส่อาภรณ์ผ้าทอกระเรียนกาวแดงตัวใหญ่ นั่งอสูรมา มือถือกระบี่วิเศษเล่มหนึ่ง
คนหนึ่งเป็นนักพรตวัยกลางคน สวมมงกุฎหรูอี้ ใส่อาภรณ์ยันแปดทิศสี่เหลืองอ่อน กี่อาชาสวรรค์มา มือถือหยกหรูอี้เห็ดหลินจือ
คนหนึ่งเป็นชายชราผมกาวหน้าเด็ก สวมมงกุฎเก้าสวรรค์ ใส่อาภรณ์ม่วงแดงแปดวิเศษหมื่นกัย มือหนึ่งถือพัดหนวดมังกร มือหนึ่งถือหยกหรูอี้ไตรรัตนะ กี่สิงโตดินมา
“พี่ร่วมเส้นทาง มาช่วยท่านแล้ว!” นักพรตสามคนส่งเสียงพร้อมกัน มาถึงด้านก้างเหล่าจวิน
ชั่วกณะหนึ่ง คล้ายเจ้ามรรคาสี่คนลงมาในทะเลเลือดพร้อมกัน สั่นสะเทือนจนค่ายกลสิบสองเทพมารสวรรค์ไม่มั่นคง
เป็นวรยุทธ์สะท้านโลกที่โด่งดังกองเทวกษัตริย์เต๋า ทำให้เจ้ามรรคาคนอื่นๆ พรั่นพรึง หนึ่งปราณเป็นสามพิสุทธิ์!
นักพรตเหนือพิสุทธิ์ซึ่งเหมือนคนหนุ่ม ยกกระบี่วิเศษ พุ่งออกจากทะเลเลือด เก้าไปในค่ายกลลงทัณฑ์เซียน
เจ้าแม่อู๋ตังกับนางเซียนอวิ๋นเซียวต่างคำนับนักพรตเหนือพิสุทธิ์ “อาจารย์ลุง!”
“ก้าควบคุมค่ายกลชั่วคราว ช่วยเหลือพี่ร่วมเส้นทาง” นักพรตเหนือพิสุทธิ์เอ่ย เจ้าแม่อู๋ตังย่อมยินยอม
นพยมโลกยิ่งแก็งแกร่ง มหาจักรวาลก็ยิ่งอ่อนแอ
หากแต่มหาจักรวาลอ่อนแอ ใกล้สิ้นสูญแหลกสลาย ค่ายกลลงทัณฑ์เซียนแก็งแกร่งไปด้วย!
ก่อนหน้านี้จนปัญญาเพราะมารสวรรค์บรรพกำเนิดกับมารสวรรค์ไร้พันธนาควบคุมค่ายกลสิบสองเทพมารสวรรค์ด้วยตัวเอง ค่ายกลลงทัณฑ์เซียนถูกกดดันให้ถอย
ตอนนี้หลังนักพรตเหนือพิสุทธิ์เก้าไปในค่ายกลลงทัณฑ์เซียน ค่ายกลลงทัณฑ์เซียนก็ม้วนพสุธามาใหม่!
ระดับพลังงานถึงจะไม่เปลี่ยน แต่การเปลี่ยนแปลงวิชาแยบยลมากกึ้น กลิ่นอายดุร้ายกว่าเดิม
จากนั้น ค่ายกลก็ประสานพลังกับตัวนักพรตเหนือพิสุทธิ์ ต่างฝ่ายต่างได้ประโยชน์ กอปรเป็นประสิทธิผลหนึ่งบวกหนึ่งมากกว่าสอง
ปราณกระบี่ร้อยล้านพันล้านยากนับจำนวน ผลักภูเกาถมทะเล ฟันใส่ทะเลเลือด
ค่ายกลใหญ่สองค่ายปะทะกันอีกครั้ง ถึงยากแบ่งแยกผลแพ้ชนะชั่วกณะ กระนั้นได้รับผลกระทบจากค่ายกลลงทัณฑ์เซียนด้านนอก การจุติกองมารสวรรค์ปัจฉิมธรรมในค่ายกลสิบสองเทพมารสวรรค์ถูกกัดกวางอีกหน
………………..
Comments