ตำนานเทพกู้จักรวาล 735 ยอดอัจฉริยะแห่งยุคโบราณ

Now you are reading ตำนานเทพกู้จักรวาล Chapter 735 ยอดอัจฉริยะแห่งยุคโบราณ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ใน​มือ​นักพรต​เต๋า​มีเข็มทิศ​ และ​ดูเหมือน​เขา​จะท่องบ่น​อะไร​บางอย่าง​ขณะที่​เข็มทิศ​กระดิก​ดัง​เค​ร้งค​ร้าง​ แปร​เปลี่ยนเป็น​อักษร​รู​น​ต่างๆ​

หลวงจีน​ถือ​สร้อย​ประคำ​เส้น​หนึ่ง​ และ​ลูกประคำ​ก็​หมุน​วน​ไป​อย่าง​ต่อเนื่อง​ เมื่อ​ลูกประคำ​สอง​ลูก​เข้ามา​กระทบ​กัน​ พวก​มัน​ก็​จะส่งเสียง​แป้ก​เบา​ๆ อีก​มือหนึ่ง​ของ​เขา​ถือ​บาตร​สีดำ​และ​ข้างใน​บาตร​ก็​มียา​วิญญาณ​จำนวน​หนึ่ง​ ไม่รู้​ว่า​เขา​ได้​มัน​มาจาก​การ​บิณฑบาต​หรือไม่​

เสื้อผ้า​ของ​ทั้งสอง​คน​เก่า​ขาด​ เสื้อ​ของ​นักพรต​ซีด​ขาว​จาก​การ​ซัก​ซ้ำแล้วซ้ำเล่า​ และ​ยังมี​รอย​ปะ​จำนวน​หนึ่ง​ แต่​ก็​นับ​ได้​ว่า​สะอาดสะอ้าน​ ในอีกทางหนึ่ง​ เสื้อผ้า​ของ​หลวงจีน​ไม่ได้รับ​การ​ปะ​เย็บ​ และ​มีลม​โผล่​ออก​มาจาก​รู​แหว่ง​วิ่น​เหล่านั้น​

จาก​สภาพ​แล้ว​ ทั้งสอง​คน​คง​มีชีวิต​ที่​ไม่ง่ายดาย​นัก​

ฉิน​มู่อด​ไม่ได้ที่​ฉงน​สงสัย​ ใน​ยุค​นี้​มีนักพรต​กับ​หลวงจีน​แล้ว​หรือ​

จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​ก็​ตกตะลึง​เมื่อ​เขา​สังเกตเห็น​หลวงจีน​กับ​นักพรต​

ฉิน​มู่และ​จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​เดิน​เข้าไป​ และ​ได้ยิน​หลวงจีน​สนทนา​กับ​นักพรต​ “ชุมนุม​สระ​หยก​ยัง​นับว่า​ดี​ ข้า​บิณฑบาต​ยา​วิญญาณ​มาได้​จำนวน​หนึ่ง​ อย่าง​น้อย​ก็​มีอาหาร​ เสื้อผ้า​ และ​ค่าเดินทาง​”

ฉิน​มู่มอง​ไป​ที่​เขา​ด้วย​สีหน้า​ประหลาด​

นักพรต​กล่าว​ “อย่า​เพิ่ง​พูด​ ข้า​กำลัง​คิด​เรื่อง​ปัญหา​พีชคณิต​ รอ​ให้​ข้า​คิด​คำนวณ​เสร็จ​ก่อน​”

หลวงจีน​กล่าว​ด้วย​รอยยิ้ม​ “เจ้าคำ​นว​น​ไป​จะได้​อะไร​ขึ้น​มา ทำไม​เจ้าไม่ดำเนิน​ตามรอย​ข้า​ เมื่อ​สุบิน​ของ​ข้า​ย่างกราย​สู่เต๋า​ ก็​จะมีทุกสิ่งทุกอย่าง​ใน​ความฝัน​ของ​ข้า​ การเปลี่ยนแปลง​ใน​โลก​อัน​มากมาย​ไร้​ประมาณ​ และ​จะสามารถ​เสาะหา​แก่นแท้​แห่ง​เต๋า​ได้​จาก​ที่นั่น​”

นักพรต​ไม่ลำบาก​เงยหน้า​ขึ้น​มาและ​ยังคง​ขยับ​เข็มทิศ​ของ​เขา​ต่อ​ “ถึงอย่างไร​ความฝัน​ก็​ยัง​เป็น​แค่​มายา​ภาพ​ มีแต่​พีชคณิต​ที่​เป็น​เต๋า​อัน​ยิ่งใหญ่​ที่​แท้จริง​ ข้า​รู้สึก​ว่า​ทุกสิ่งทุกอย่าง​ใน​จักรวาล​ได้​ถูก​รังสรรค์​ขึ้น​มาบน​รากฐาน​แห่ง​พีชคณิต​ ตราบเท่าที่​เข้า​สำเร็จ​เชี่ยวชาญ​พีชคณิต​ ข้า​ก็​จะสามารถ​เข้าใจ​แง่อัศจรรย์​ทั้งหมด​ใน​จักรวาล​ พีชคณิต​จะเปล่งแสง​จำรัส​ในอนาคต​!”

ขณะที่​หลวงจีน​รอจังหวะ​พูด​อยู่​นั่นเอง​ เขา​ก็​เห็น​ฉิน​มู่และ​จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​เดิน​เข้ามา​ และ​รีบ​ยก​บาตร​ไป​ตรงหน้า​พวกเขา​พลาง​เขย่า​มัน​ ยา​วิญญาณ​ไม่กี่​เม็ด​ใน​นั้น​กลิ้ง​กรอกแกรก​

“สหาย​ที่​ไม่ว่า​จะมาพบกัน​ด้วย​วาสนา​หรือไม่​ โปรด​บริจาค​สักหน่อย​เถอะ​ พวกเรา​ศิษย์​พี่น้อง​อดอาหาร​มาหลาย​วัน​แล้ว​” หลวงจีน​กล่าว​

จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​มีสีหน้า​พิกล​ และ​เขา​คุ้ยหา​ใน​ถุงสัมภาระ​ของ​เขา​และ​นำ​ยา​วิญญาณ​จำนวน​หนึ่ง​ออกมา​ เพื่อ​ใส่ลง​ไป​ใน​บาตร​

“ผู้​ใจบุญ​ย่อม​ได้รับ​กุศล​” หลวงจีน​แย้มยิ้ม​และ​หันไป​มอง​ที่​ฉิน​มู่

ฉิน​มู่ก็​นำ​ยา​วิญญาณ​มาหอบ​หนึ่ง​ใส่เข้าไป​จน​เต็ม​บาตร​เหล็ก​

หลวงจีน​ส่าย​หัว​ “ไม่ต้อง​มาก​ขนาด​นั้น​ ข้า​บิณฑบาต​ไป​เพื่อ​การ​ฝึก​บำเพ็ญ​ ต้องการ​เสบียง​แค่​พอใช้​หนึ่ง​วัน​ ให้​ข้า​มากเกินไป​หมายความว่า​ข้า​ก็​จะต้อง​ชะลอ​การ​ฝึก​บำเพ็ญ​ไป​อีก​หลาย​วัน​” หลังจาก​กล่าว​เช่นนั้น​ เขา​ก็​นำ​ยา​วิญญาณ​ที่​เกินเลย​มาส่งคืนให้​กับ​ฉิน​มู่

ฉิน​มู่ไม่รับ​มัน​กลับมา​และ​กล่าว​ด้วย​รอยยิ้ม​ “ไต้​ซือ​ นี่​คือ​ของ​ที่​ท่าน​สมควร​ได้​ พวกเรา​มีวาสนา​ผูกพัน​กัน​เป็น​อย่างยิ่ง​ ในอนาคต​ เมื่อ​ท่าน​พบ​กับ​คน​ที่​มีนาม​ว่า​มู่ ท่าน​ก็​จะเข้าใจ​เอง​”

หลวงจีน​มอง​ไป​ที่​เขา​และ​กล่าว​ “ไฉน​ประสก​ถึงไม่กล่าว​ให้​ชัดเจน​สักหน่อย​ล่ะ​”

ฉิน​มู่ส่าย​หัว​และ​กล่าว​ “ความฝัน​ไพศาล​ ท่าน​รู้​ได้​อย่างไร​ว่า​ท่าน​มิได้​อยู่​ใน​ความฝัน​ใน​ขณะนี้​ ไฉน​ข้า​จะต้อง​กล่าว​ให้​ชัดเจน​ล่ะ​ มีโลก​มากมาย​ไร้​ประมาณ​ใน​ความฝัน​ และ​ความฝัน​ก็​แปร​เปลี่ยนเป็น​สรรพสัตว์​ทั้งหลาย​ ไต้​ซือ​จะกระจ่างแจ้ง​เอง​ในอนาคต​”

หลวงจีน​ฉงน​ฉงาย​ และ​เขา​ก็​แย้มยิ้ม​ออกมา​ “ความฝัน​ไพศาล​? นั่น​นับ​ได้​ว่า​เป็น​แก่นแท้​สมาธิของ​เต๋า​ของ​ข้า​”

ฉิน​มู่มอง​ไป​ที่​นักพรต​ที่​กำลัง​ศึกษา​อย่าง​ขะมักเขม้น​ และ​เข็มทิศ​ของ​นักพรต​ผู้​นี้​ก็​ซับซ้อน​เป็น​อย่างยิ่ง​ การเปลี่ยนแปลง​ใน​ศาสตร์​การคำนวณ​ของ​เขา​ได้​วิวัฒน์​ไป​จนถึง​ปัญญา​แก่น​แกน​ใน​ตำรา​คำนวณ​บรม​ปริศนา​แล้ว​ แต่ทว่า​ หาก​เขา​ต้องการ​สร้างสรรค์​ตำรา​คำนวณ​บรม​ปริศนา​ขึ้น​มาจาก​ศูนย์​ ก็​คงจะ​ยากเย็น​จน​เหลือประมาณ​

มัน​ยาก​ที่จะ​เริ่มต้น​ขึ้น​มาตั้งแต่แรก​ และ​ยิ่งไปกว่านั้น​ ก็​ไม่มีใคร​ที่จะ​สามารถ​วิเคราะห์​อนุมาน​ตำรา​พีชคณิต​ทั้ง​เล่ม​ได้​

ฉิน​มู่ยื่นมือ​ออก​ไป​และ​ปรับ​หมุน​เข็มทิศ​ให้​

นักพรต​ผู้​นั้น​กะ​จะตี​มือ​เขา​ให้​กระเด็น​ออก​ไป​ แต่​ทันใดนั้น​ เขา​ก็​ตกตะลึง​กับ​สิ่งที่​เห็น​บน​เข็มทิศ​ เขา​กลายเป็น​ลิงโลด​ยินดี​ “ใช่ ปัญหา​นี้​ได้​เร้า​รุม​ข้า​มาหลาย​วัน​แล้ว​ แต่กลับ​สามารถ​ไข​ออกมา​ได้​แบบนี้​! ยอดเยี่ยม​ ยอดเยี่ยม​! ศิษย์​พี่​ผู้​นี้​ เจ้าคิดถึง​วิธี​แก้ปัญหา​แบบนี้​ได้​อย่างไร​”

เขา​มอง​ไป​ที่​ฉิน​มู่ด้วย​สายตา​รุ่มร้อน​ เขา​รอ​อย่าง​ตื่นเต้น​ให้​ฉิน​มู่อธิบาย​แนวคิด​ของ​ตน​

ฉิน​มู่กล่าว​อย่าง​ผ่าเผย​ “ข้า​เคย​ได้​รับคำ​ชี้แนะ​จาก​นักพรต​ ข้า​จึงสามารถ​คิด​หา​วิธี​แก้​โจทย์​แบบ​นั้น​ได้​ ขอบคุณ​มาก​!”

เขา​โค้ง​คารวะ​เพื่อ​แสดง​ความ​ขอบคุณ​

นักพรต​รีบ​กล่าว​ “ทำไม​เจ้าถึงมาขอบคุณ​ข้า​กับ​การ​ที่​เจ้าช่วย​ข้า​แก้​โจทย์​ปัญหา​ของ​ข้า​ล่ะ​”

ฉิน​มู่กล่าว​ด้วย​รอยยิ้ม​ “ท่าน​จะทราบ​เอง​ในอนาคต​ นักพรต​ เมื่อ​ท่าน​พบ​กับ​คน​ชื่อ​มู่ใน​กาล​ข้างหน้า​ เขา​ก็​จะพูดถึง​เรื่อง​นี้​กับ​ท่าน​”

นักพรต​ตะลึง​ไป​

ฉิน​มู่ยิ้ม​น้อย​ๆ และ​เดิน​หลบ​พวกเขา​เพื่อ​มุ่งไป​ยัง​ราช​วัง​ข้างหน้า​

จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​ลังเล​เล็กน้อย​ และ​เดินตาม​ฉิน​มู่ไป​ เขา​กล่าว​ด้วย​เสียง​เบา​ “จิต​เจตนา​เจ้าไม่ซื่อ​ และ​เจ้าจะประจบ​สร้าง​บุญคุณ​มากเกินไป​ไหม​ หลวงจีน​และ​นักพรต​เมื่อครู่นี้​น่าจะเป็น​สอง​ตัวตน​ผู้​นั้น​ในอนาคต​ใช่หรือไม่​ ตอนนี้​เจ้าให้ยา​วิญญาณ​แก่​พวกเขา​ไม่เท่าไร​ และ​ช่วย​ดึง​หมุน​เข็มทิศ​ให้​ ก็​เพราะ​เจ้าต้องการ​จะหยิบยืม​อิทธิพล​อำนาจ​ของ​พวกเขา​ในอนาคต​ หากว่า​เจ้าใช้ความใส่ใจ​แบบนี้​กับ​…”

ฉิน​มู่ขัดจังหวะ​เขา​และ​กล่าว​ “หากว่า​เจ้าไม่ใช้ความใส่ใจ​พวก​นี้​กับ​การ​คาดเดา​จิต​เจตนา​ของ​ข้า​ และ​ใช้มัน​ในอนาคต​ บางที​เจ้าก็​คงจะ​ไม่…”

จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​อึ้ง​ไป​เล็กน้อย​ “ไม่อะไร​”

ฉิน​มู่มีสีหน้า​สลดใจ​และ​ส่าย​ศีรษะ​ “ไม่มีอะไร​มาก​หรอก​ ข้า​เพียงแค่​คาดเดา​ว่า​พวกเขา​คือ​พุทธเจ้า​พรหม​ และ​เจ้าสำนัก​เต๋า​แห่ง​สำนัก​เต๋า​ เจ้าน่าจะ​เข้าไป​ผูกมิตร​กับ​พวกเขา​ พวกเขา​จะคืน​กรร​มดี​ให้​กับ​เจ้าในอนาคต​”

จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​ดูจะ​ครุ่นคิด​และ​ถามหยั่ง​ “เจ้ารู้จัก​ข้า​? เจ้ารู้​ว่า​จะเกิด​อะไร​ขึ้นกับ​ข้า​ในอนาคต​? เจ้ามาจาก​ยุคสมัย​หลังจาก​ข้า​?”

เขา​นั้น​ชาญฉลาด​กว่า​คน​ทั่วไป​ แม้ว่า​ฉิน​มู่จะกล่าว​แค่​ประโยค​สอง​ประโยค​ที่​ดู​ไม่สลักสำคัญ​ แต่​เขา​ก็​สามารถ​อนุมาน​ข้อมูล​ได้​มาก​ไป​กว่า​ถ้อยคำ​เหล่านั้น​

ฉิน​มู่ส่าย​ศีรษะ​แล้ว​กล่าว​ “ข้า​ไม่รู้​ว่า​ตัวจริง​ของ​เจ้าเป็น​แบบ​ไหน​กัน​แน่​ ข้า​ไม่เคย​พบ​เจ้ากับ​ตัว​มาก่อน​ กลับ​ไป​และ​ตามหา​พวกเขา​ทั้งสอง​สิ”

จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​ลังเล​และ​ส่าย​ศีรษะ​ “ข้า​ไม่เหมือน​เจ้า ข้า​ไม่จงใจทำ​แบบ​นั้น​หรอก​ หากว่า​ข้า​จงใจทำ​ ข้า​ก็​อาจจะ​เปลี่ยนแปลง​อนาคต​ เมื่อ​อนาคต​เปลี่ยนแปลง​ไป​ ข้า​ก็​อาจจะ​ไม่ได้​ถือกำเนิด​มาด้วยซ้ำ​ และ​ตัวตน​ถูกลบ​หาย​ ข้า​ได้​บอก​มาก่อนหน้านี้​แล้ว​อย่างไร​ ว่า​ข้า​เป็น​เพียง​ผู้​ผ่าน​ทาง​ที่นี่​ เป็น​ประจักษ์พยาน​ของ​ประวัติศาสตร์​ ข้า​อยาก​จะได้​พบ​กับ​ผู้ก่อตั้ง​อารยธรรม​ในอนาคต​ทั้งหลาย​เหล่านั้น​เป็น​อย่างยิ่ง​”

วัว​แก่​เดินตาม​ไป​ข้างหลัง​พวกเขา​และ​ขมวดคิ้ว​เมื่อ​ได้ยิน​บทสนทนา​ เพียงแค่​เมื่อครู่นี้​เอง​ ทั้งสอง​คน​ดูเหมือน​จะอดใจ​รอ​ไม่ไหว​ที่จะ​กระทืบ​กันและกัน​ให้​ตาย​คา​เท้า​ และ​บัดนี้​เขา​ก็​มาพูดจา​กัน​อย่าง​สนิทสนม​

หัวใจ​ของ​บุรุษ​เหมือน​ดินฟ้าอากาศ​ใน​เดือน​หก​ เปลี่ยนแปลง​ไปมา​เดา​ไม่ได้​

วัว​แก่​ลังเล​และ​มอง​ไป​ที่​หลวงจีน​และ​นักพรต​ เขา​คิดในใจ​ ข้า​ควร​ไป​ผูกมิตร​กับ​พวกเขา​ไหม​ ข้า​อาจจะ​สามารถ​ได้​ผลประโยชน์​บางอย่าง​ในอนาคต​ก็​เป็นได้​…

ฉิน​มู่และ​จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​ได้​เดิน​ห่าง​ออก​ไป​แล้ว​ ดังนั้น​เขา​จึงไม่สามารถ​มัว​มาคิด​เรื่อง​การ​ไป​ผูกมิตร​กับ​หลวงจีน​และ​นักพรต​คู่​นั้น​ได้​อีกต่อไป​ เขา​รีบ​เดินตาม​ให้​ทัน​ฉิน​มู่พลาง​คิด​อยู่​กับ​ตนเอง​ ถึงอย่างไร​พวกเรา​ก็​มีเวลา​หลาย​เดือน​ เมื่อ​อารมณ์​ของ​สอง​คน​นี้​เป็นปกติ​แล้ว​ ข้า​ก็​ค่อย​ไป​ผูกมิตร​กับ​สอง​ผู้อาวุโส​ยุค​บรรพกาล​และ​เก็บเกี่ยว​ผลประโยชน์​! ฮี่ๆ เมื่อ​เวลา​นั้น​มาถึง แม้แต่​นาย​ผู้เฒ่า​ก็​จะต้อง​มอง​ข้า​อย่าง​ประหลาดใจ​แน่ๆ​…

หลวงจีน​และ​นักพรต​มอง​ส่งตามหลัง​พวกเขา​ และ​ก็​พา​กัน​ส่าย​หัว​ นักพรต​กล่าว​ “ช่างเป็น​คน​ที่​ประหลาด​จริงๆ​ แต่ทว่า​ พีชคณิต​ของ​คน​ผู้​นี้​ดูจะ​ล้ำเลิศ​กว่า​ข้า​ เพียงแต่​หัวใจ​เขา​ไม่ได้​จดจ่อ​อยู่​ที่นี่​ ศิษย์​พี่​ หลังจาก​การ​ชี้แนะ​ของ​เขา​ ข้า​ก็​สามารถ​ค้นพบ​เต๋า​ของ​ข้า​!”

หลวงจีน​ผงกหัว​และ​กล่าว​ด้วย​รอยยิ้ม​ “ข้า​เอง​ก็​กำลังจะ​ค้นพบ​เต๋า​ของ​ข้า​”

ทั้งสอง​คน​มอง​กันและกัน​ จากนั้น​ก็​หัวเราะ​ด้วย​เสียง​อัน​ดัง​

ฉิน​มู่ จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​ และ​วัว​แก่​เข้าไป​ใน​ราช​วัง​ใน​อาณาเขต​ลับ​สระ​หยก​ และ​พวกเขา​ก็​เห็น​ผู้คน​เดิน​ไปมา​ขวักไขว่​ สถานที่​นี้​คับคั่ง​ครึกครื้น​ แต่​พวกเขา​หา​โอรส​หยิน​สวรรค์​ไม่เจอ​เลย​สักนิด​ เขา​คงจะ​ไป​ตามหา​ตัว​วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​

วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​ได้​เชิญเขา​มาร่วมงาน​ชุมนุม​ ดังนั้น​ความสัมพันธ์​ระหว่าง​พวกเขา​คง​ไม่ผิวเผิน​

มีผู้คน​มากมาย​ที่มา​ร่วมงาน​ชุมนุม​ และ​พวกเขา​ส่วนใหญ่​ก็​กำลัง​ถกเถียง​สนทนา​ว่า​วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​กำลังจะ​ประกาศ​เรื่อง​ใด​ บ้าง​ก็​กล่าวว่า​วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​ได้​คิดค้น​สมบัติ​เท​วะ​ชิ้น​ที่​แปด​ บ้าง​ก็​กล่าวว่า​วิญญูชน​สวรรค์​ได้​ค้นพบ​วิธีการ​ที่​ทำให้​จิตวิญญาณ​ดั้งเดิม​เป็น​อมตะ​ บางคน​ก็​ถึงกับ​กล่าวว่า​วิญญูชน​สวรรค์​กำลังจะ​แต่งงาน​ มีการ​คาดเดา​มากมาย​เต็มไปหมด​

ฉิน​มู่มอง​ไป​รอบ​ๆ และ​เห็น​ผู้ฝึก​วิชา​เท​วะ​จำนวนมาก​จับตัว​กัน​เป็น​กลุ่ม​ๆ พวกเขา​สนทนา​อย่าง​ตื่นเต้น​เกี่ยวกับ​สิ่งที่​พวกเขา​ได้​เรียนรู้​มา อวด​มรรคา​ วิชา​ และ​ทักษะ​เท​วะ​ที่​พวกเขา​ตรึกตรอง​เข้าใจ​ได้​

เขา​และ​จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​รับฟัง​อยู่​ครู่หนึ่ง​ มรรคา​ วิชา​ และ​ทักษะ​เท​วะ​เหล่านี้​ทั้ง​หยาบกร้าน​และ​เรียบง่าย​ มัน​ยัง​ห่างไกล​จาก​ความ​เพริศแพร้ว​พิสดาร​ของ​มรรคา​ วิชา​ และ​ทักษะ​เท​วะ​จาก​อนาคต​ ดังนั้น​จึงไม่ใช่เรื่องใหญ่​สำหรับ​พวกเขา​ทั้งสอง​

แต่ทว่า​ สำหรับ​ยุค​นี้​ มัน​ไม่ใช่เรื่องเล็ก​ๆ เลย​

หากว่า​พวกเรา​สนทนา​ถึงวิชา​ฝึกปรือ​และ​ทักษะ​เท​วะ​ของ​อารยธรรม​ในอนาคต​ ก็​คงจะ​ทำให้​พวกเขา​แตกตื่น​เป็นอย่างมาก​แน่ๆ​

ฉิน​มู่ส่าย​ศีรษะ​ มรรคา​ วิชา​ และ​ทักษะ​เท​วะ​แห่ง​อารยธรรม​อนาคต​นั้น​เพริศแพร้ว​พิสดาร​จน​เกินไป​ หากว่า​เขา​บอก​ผู้​คนใน​ยุค​สมัยนี้​ การ​ทำให้​โลก​หล้า​ตื่นตระหนก​ยัง​นับว่า​เป็นเรื่อง​น้อย​ๆ แต่​การเปลี่ยนแปลง​ในอนาคต​จะน่าสะพรึงกลัว​เกินไป​

เขา​ไม่อาจ​เสี่ยงอันตราย​นี้​ได้​

เขา​มอง​ไป​ที่​จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​ และ​จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​ก็ได้​คาดเดา​แล้ว​ว่า​เขา​คือ​คน​ที่​มาจาก​อนาคต​ ดังนั้น​เขา​จึงบอก​ให้​เขา​อย่า​พยายาม​เปลี่ยนแปลง​อดีต​ เมื่อ​มาคิด​ๆ ดู​แล้ว​ ถ้อยคำ​ของ​จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​ก็​มีเหตุมีผล​อยู่​

ทุกคน​ที่​เข้าร่วม​การ​ชุมนุม​ล้วนแต่​งมงาย​ใน​การ​สนทนา​ และ​ก็​จะมีใคร​บางคน​อธิบาย​มรรคา​ วิชา​ และ​ทักษะ​เท​วะ​ของ​ตน​อยู่​เสมอ​ นับว่า​เป็น​สภาวะ​ของ​ร้อย​สำนักคิด​เบ่งบาน​พร้อมๆ กัน​จริงๆ​

ความคิด​อัศจรรย์​บางอย่าง​เหล่านั้น​ก็ได้​ทำให้​ฉิน​มู่และ​จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​ตกตะลึง​ไป​ในทันที​ พวกเขา​อด​ไม่ได้​ที่จะ​เงี่ย​หูฟัง​อย่าง​ถี่ถ้วน​ เพราะว่า​นั่น​คือ​รูปลักษณ์​ของ​ทักษะ​เท​วะ​ที่​พวกเขา​ไม่เคย​คิดถึง​มาก่อน​

เพราะว่า​ผู้คน​ในอนาคต​ได้​อยู่​ใน​ระบบ​อัน​ตายตัว​ของ​การ​ฝึกปรือ​บ่ม​เพาะ​สมบัติ​เท​วะ​แล้ว​ พวกเขา​ไม่จำเป็นต้อง​เค้น​สมอง​คิด​ และ​สักแต่ว่า​ฝึกปรือ​ตามที่​บรรพชน​ได้​กระทำ​มาก็​พอ​ พวกเขา​สามารถ​บรรลุ​ความสำเร็จ​อัน​สูงส่ง แต่​ก็​จะขาดหาย​ความคิดสร้างสรรค์​ไป​แทน​

แต่ทว่า​ ใน​ยุค​นี้​ไม่มีกฎเกณฑ์​อะไร​มากมาย​ ดังนั้น​จึงง่าย​ที่จะ​กระโดด​ออก​ไป​จาก​ระบบ​การบ่ม​เพาะ​สมบัติ​เท​วะ​ ดังนั้น​จึงมี มรรคา​ วิชา​ และ​ทักษะ​เท​วะ​ที่​เหลือเชื่อ​สำหรับ​ฉิน​มู่และ​จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​

แต่ทว่า​ สาเหตุ​ที่​ผู้คน​ในอนาคต​มิได้​เห็น​มรรคา​ วิชา​ และ​ทักษะ​เท​วะ​เหล่านี้​ ไม่ใช่เพราะว่า​พวก​มันดี​ไม่พอ​ แต่​เพราะว่า​พวก​มัน​ล้มเหลว​ที่จะ​แข่งขัน​กับ​ระบบ​บ่ม​เพาะ​สมบัติ​เท​วะ​ ดังนั้น​พวก​มัน​จึงล้มหายตายจาก​

ระบบ​บ่ม​เพาะ​ทักษะ​เท​วะ​นั้น​เรียน​ได้​ง่าย​ที่สุด​ และ​เป็นที่ยอมรับ​ของ​ทุกๆ​ คน​ได้​ง่าย​ที่สุด​ มัน​ได้​ผ่าน​บท​ทดสอบ​ของ​กาลเวลา​ เมื่อ​ผู้คน​ส่วนใหญ่​ฝึกฝน​บ่ม​เพาะ​สมบัติ​เท​วะ​ ผู้คน​กลุ่ม​ที่​ฝึกฝน​ใน​มรรคา​อื่น​ก็​จะลด​น้อย​ถอย​ลง​ไป​เรื่อยๆ​ และ​มรดก​ยุทธ​ของ​พวกเขา​ก็​ยาก​ที่จะ​สืบทอด​ต่อกัน​ไป​ จน​ทำให้​หายสาบสูญ​ในที่สุด​

ฉิน​มู่และ​จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​เดิน​เบียด​ไป​รอบ​ๆ ฝูงชน​อัน​คับคั่ง​ หมาย​ที่จะ​รับฟัง​ความคิด​ดี​ๆ มีประโยชน์​มากกว่า​นี้​ แต่​ทันใดนั้น​ พวกเขา​ก็​ได้ยิน​เสียงพูด​ “วิญญูชน​สวรรค์​ห​ลิง​! วิญญูชน​สวรรค์​ห​ลิง​! เมื่อ​ครู่​ที่​เจ้าบอ​กว่า​เวลา​ไม่มีอยู่​จริง​ มัน​มีหลัก​เหตุผล​อย่างไร​”

ฉิน​มู่และ​จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​มอง​ไป​ยัง​ที่มา​ของ​เสียง​พร้อมๆ กัน​ และ​เห็น​ผู้ฝึก​วิชา​เท​วะ​มากมาย​ห้อมล้อม​หญิงสาว​ผู้​หนึ่ง​เอาไว้​ นาง​สวมใส่​อาภรณ์​อัน​เรียบง่าย​ และ​มีปิ่นปักผม​ไม้ท้อ​อยู่​บน​ศีรษะ​ ที่​เท้า​สวม​รองเท้า​ฟาง กระโปรง​สวมใส่​หนัง​เสือดาว​ และ​มีเสื้อ​แขน​สั้น​ที่​ไร้​ลวดลาย​

แม้ว่า​นาง​จะไม่ใส่ใจกับ​รูปโฉม​ แต่​ก็​มีความงาม​อีก​รูปแบบ​หนึ่ง​อัน​ดู​ดิบ​เถื่อน​

วิญญูชน​สวรรค์​ห​ลิง​ที่​เปิด​สมบัติ​เท​วะ​หก​ทิศ​เป็น​สตรี​หรือ​ ฉิน​มู่และ​จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​อึ้ง​ไป​เล็กน้อย​

หญิง​ผู้​นั้น​กำลัง​อธิบาย​เหตุผล​ด้วย​ความ​ใจเย็น​ “สิ่งใดๆ​ ก็ตาม​ รวมทั้ง​อวกาศ​ ล้วนแต่​เป็น​สสาร​ ทักษะ​เท​วะ​ก็​เป็นการ​จัดเรียง​สสาร​ ใช้อนุภาค​ของ​ปราณ​ชีวิต​เพื่อ​เปลี่ยนแปลง​การ​ประกอบ​ที่​แตก​ต่างกัน​ไป​ อัน​ขยาย​หลัก​กฎ​ของ​เต๋า​อัน​ยิ่งใหญ่​ ก่อ​ขึ้น​มาเป็น​พลัง​อำนาจ​ แล้ว​เวลา​เป็น​สสาร​หรือ​ เวลา​ไม่ใช่สสาร​ เจ้าไม่สามารถ​จับต้อง​เวลา​ได้​ ดังนั้น​ เวลา​จึงไม่มีอยู่​จริง​”

ทุกคน​ขบคิด​ บางคน​ก็​ส่าย​ศีรษะ​ แต่กระนั้น​พวกเขา​ก็​นึก​หา​ข้อโต้แย้ง​ไม่ออก​

ฉิน​มู่ก้าว​เข้าไป​แล้ว​กล่าว​ “วิญญูชน​สวรรค์​ห​ลิง​ แล้ว​ทำไม​พวกเรา​ถึงแก่เฒ่า​ได้​ ผู้​คนใน​โลก​หล้า​จะแก่​ชรา​และ​ตาย​จากไป​ ไม่ใช่ว่า​พวกเขา​แก่เฒ่า​ไป​ตาม​การผัน​ผ่าน​ของ​เวลา​หรอก​หรือ​”

วิญญูชน​สวรรค์​ห​ลิง​เห็น​เขา​ก้าว​เข้ามา​ และ​นาง​ก็​พลัน​ปลด​ปิ่นปักผม​ลง​ ไม้ต้น​ท้อ​ของ​ปิ่น​ได้​เหี่ยวแห้ง​ไป​แล้ว​

“ศิษย์​พี่​ผู้​นี้​ ลองดู​ที่​ปิ่นปักผม​ มัน​ได้​ตาย​ไป​จาก​ความ​ชรา​แล้ว​ใช่หรือไม่​” นาง​ถาม

ฉิน​มู่ผงกศีรษะ​

วิญญูชน​สวรรค์​ห​ลิง​ขับเคลื่อน​ทักษะ​เท​วะ​ของ​นาง​ และ​ไม้ต้น​ท้อ​ชิ้น​นี้​ก็​ค่อยๆ​ เปลี่ยนเป็น​สีเขียว​ จากนั้น​ก็​เป็น​สีแดง​ ไม้ต้น​ท้อ​พลัน​แตกใบ​ออกมา​ และ​ดอก​ตูม​อ่อน​ๆ ก็​ผุด​โผล่​ ดอก​ท้อ​เบ่งบาน​ออกมา​จากกิ่งไม้​แห้งเหี่ยว​ที่​ถูก​ชุบชีวิต​ และ​มีกิ่ง​อ่อน​อัน​งอกเงย​พร้อมกับ​ใบ​ท้อ​จำนวน​หนึ่ง​

“ข้า​ได้​ย้อน​เวลา​ใช่หรือไม่​” วิญญูชน​สวรรค์​ห​ลิง​ถามด้วย​รอยยิ้ม​

ฉิน​มู่อึ้ง​ไป​ และ​เขา​ก็​ส่าย​ศีรษะ​ “เจ้าเพียงแต่​ใช้ทักษะ​เท​วะ​เสกสรร​เพื่อ​เปลี่ยนแปลง​โครงสร้าง​ของ​ไม้ตายซาก​ ฟื้นคืนชีพ​มัน​ขึ้น​มาจาก​ความตาย​…ช้าก่อน​ ข้า​เข้าใจ​ความหมาย​ของ​เจ้าล่ะ​!”

เขา​ระบาย​ลมหายใจ​สะท้าน​และ​ร้อง​ออกมา​ “เจ้าหมายความว่า​ เวลา​เป็น​มายา​ภาพ​! เมื่อ​พวกเรา​แก่เฒ่า​และ​ตาย​ไป​ นั้น​เพียง​เพราะว่า​โครงสร้าง​กาย​เนื้อ​ของ​พวกเรา​เปลี่ยนแปลง​ เวลา​ไม่มีอยู่​จริง​ มัน​เป็น​ภาพลวงตา​ที่​เกิดขึ้น​มาจาก​การเปลี่ยนแปลง​ของ​สสาร​!”

วิญญูชน​สวรรค์​ห​ลิง​มอง​มาที่​เขา​ด้วย​ความประหลาดใจ​แกม​ยินดี​ นาง​กล่าว​อย่าง​สุขใจ​ “ในที่สุด​ข้า​ก็ได้​พบ​กับ​คน​ที่​เข้าใจ​ข้า​! ตอน​ข้า​บอก​ความคิด​นี้​กับ​วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​และ​คนอื่นๆ​ พวกเขา​บอ​กว่า​ข้า​พูดเล่น​ไป​ทั่ว​! เจ้าเป็น​สหาย​เต๋า​ของ​ข้า​! ใช่แล้ว​ เวลา​ไม่มีอยู่​จริง​ หากว่า​มัน​มีอยู่​จริง​ ก็​จะต้อง​มีทักษะ​เท​วะ​กาลเวลา​ใน​โลก​นี้​! แต่ทว่า​ ทักษะ​เท​วะ​กาลเวลา​ไม่มีอยู่​ มีเพียงแต่​มายา​ภาพ​ที่​เกิดขึ้น​จาก​การเปลี่ยนแปลง​ของ​สสาร​! เจ้าเรียก​ทักษะ​เท​วะ​ของ​ข้า​ว่า​ทักษะ​เท​วะ​เสกสรร​อย่างนั้น​หรือ​ เสกสรร​ ชื่อ​ที่​ยอดเยี่ยม​! ดี​อะไร​อย่างนี้​!”

ความคิด​ของ​นาง​บริสุทธิ์​ และ​เมื่อ​นาง​กล่าวว่า​ดี​อะไร​อย่างนี้​ นาง​ก็​แสดง​มัน​ออก​มาจาก​เบื้องลึก​ของ​หัวใจ​ นาง​ไม่ได้​เสแสร้ง​จน​เกินเลย​ไป​แม้แต่น้อย​

ฉิน​มู่สะท้าน​ใจ และ​เขา​ก็​ยืน​อยู่​ที่นั่น​ด้วย​ความ​ตะลึงงัน​ เขา​พึมพำ​ “ถ้าเช่นนั้น​ จะมีคน​ที่​เดินทาง​ย้อน​อดีต​ได้​ไหม​”

“อดีต​ไม่มีอยู่​จริง​ ที่​มีอยู่​จริง​คือ​การเปลี่ยนแปลง​ของ​สสาร​”

วิญญูชน​สวรรค์​ห​ลิง​ดวงตา​เป็นประกาย​ “หากว่า​มัน​มีสสาร​ที่​สามารถ​ย้อน​คืน​สู่รูป​เดิม​ของ​มัน​ใน​อดีต​ งั้น​คน​ก็​จะสามารถ​เดินทาง​กลับ​ไป​สู่ยุค​โบราณ​ได้​ นั่น​คือ​สิ่งที่​ข้า​คิด​ เจ้าเข้าใจ​ข้า​ไหม​”

ทุก​คนใน​บริเวณ​รอบ​ๆ พบ​ว่ายาก​ที่จะ​เข้าใจ​นาง​ และ​การ​สนทนา​ก็​ระเบ็งเซ็งแซ่​ออกมา​ โดยส่วนใหญ่​แล้ว​เป็นการ​ตำหนิ​วิจารณ์​นาง​ บางคน​กล่าว​ “วิญญูชน​สวรรค์​ห​ลิง​บ้า​ไป​แล้ว​…”

วิญญูชน​สวรรค์​ห​ลิง​เดือดดาล​ และ​นาง​ก็​โต้กลับ​ไป​ “ในอนาคต​ ข้า​จะต้อง​คิดค้น​ทักษะ​เท​วะ​ที่​สามารถ​ทำให้​สสาร​อัน​ไม่เปลี่ยนแปลง​ไป​ชั่วนิรันดร์​ได้​ ตราบเท่าที่​ใคร​ก้าว​เข้าไป​ใน​สสาร​นั้น​ พวกเขา​ก็​จะสามารถ​มองเห็น​อดีต​และ​อนาคต​ทั้งหมด​ของ​จักรวาล​!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด