ตื๊อรักแพทย์หญิง ฉบับท่านอ๋องบทที่ 261 เมืองจิงโจว

Now you are reading ตื๊อรักแพทย์หญิง ฉบับท่านอ๋อง Chapter บทที่ 261 เมืองจิงโจว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หลิน​ชิงเวย​เบะ​ปาก​ “ข้า​ไม่รู้​ เพียงแต่​สอง​วันนี้​ ข้า​ล้วน​เตรียม​อาหาร​หนึ่ง​โต๊ะ​ เพื่อให้​ท่าน​มาถึงแล้ว​ได้​กิน​ทันที​ ไม่คิด​ว่า​ท่าน​จะมาถึงล่าช้า​เช่นนี้​ ผ่าน​มาหลาย​วัน​จึงตาม​ข้า​มาทัน​”

หาก​นาง​มีใจคิด​จะหลบ​ซ่อนตัว​ เกรง​ว่า​เซียว​อี้​คง​ตาม​ไม่ทัน​นาง​เป็นแน่​

เซียว​อี้​นับ​ได้​ว่า​คลาย​โทสะ​ไป​เปลาะ​หนึ่ง​ ขอ​เพียง​หลิน​ชิงเวย​ไม่ได้​เจตนา​ทิ้ง​เขา​ไว้​แล้ว​เร่ง​เดินทาง​ไป​เพียงลำพัง​ ทุกอย่าง​ล้วน​ยัง​ปรึกษาหารือ​กัน​ได้​ เมื่อ​เริ่มแรก​นั้น​แม้เซียว​อี้​จะตก​อยู่​ใน​การควบคุม​ของ​นาง​ แต่​ใน​เมื่อ​ทุกอย่าง​มาถึงขั้น​นี้​แล้ว​หาก​จะทิ้ง​ทุกอย่าง​ไป​กลางคัน​ย่อม​ไม่ใช่นิสัย​ของ​เซียว​อี้​ เขา​มีความจำเป็น​ต้อง​เดินทาง​ไป​หนาน​เจียง​เช่นกัน​ เขา​ไม่เชื่อ​หรอ​กว่า​เขา​และ​อวิ๋น​หนาน​อ๋อง​ร่วมมือ​กัน​จะล้มล้าง​เซ่อ​เจิ้งอ๋อง​คนเดียว​ไม่ได้​

อย่างไร​เสีย​ทั้งสอง​คน​นี้​ต่าง​มีความคิด​เป็น​ของ​ตนเอง​

เขา​พูดว่า​ “เจ้าไม่คิด​ว่า​เปิ่น​หวา​งอาจจะ​หนี​ออกมา​ไม่ได้​บ้าง​หรือ​?” ความหมาย​อีกนัยหนึ่ง​ก็​คือ​ หาก​เขา​ไม่อาจ​ตาม​นาง​ทัน​เล่า​?

ใน​น้ำเสียง​นั้น​ยังมี​ความ​หยอกเย้า​อยู่​ด้วย​

ต่อมา​มีเพียง​ความ​เงียบงัน​ เซียว​อี้​จึงปล่อย​หลิน​ชิงเวย​ คน​ทั้งสอง​นั่งลง​เริ่ม​กิน​อาหาร​ หลิน​ชิงเวย​จึงเอ่ย​ขึ้น​ว่า​ “หลาย​วันนี้​ไม่เห็น​องครักษ์​ลับ​ตามมา​ แสดงให้เห็น​ว่า​ท่าน​จัดการ​ได้​สะอาดหมดจด​อย่างยิ่ง​” นาง​มอง​เซียว​อี้​แวบ​หนึ่ง​ กล่าว​อย่าง​ลังเลใจ​ว่า​ “หาก​ท่าน​ไม่อาจ​หนีรอด​ออกมา​ได้​อย่าง​ราบรื่น​ ท่าน​จะมีชีวิต​อยู่​ต่อไป​เพื่อ​อัน​ใด​ ไม่สู้ตาย​ไป​ให้​รู้แล้วรู้รอด​”

“…” เซียว​อี้​บังเกิด​โทสะ​เต็ม​ท้อง​อีกครั้ง​ เขา​โมโห​จน​ต้อง​หัวเราะ​ออกมา​ “องครักษ์​ลับ​เหล่านั้น​เป็น​คน​ที่​เซียว​จิ่น​ส่งมาอารักขา​เจ้า แต่​เวลานี้​กลับ​ถูก​ข้า​สังหาร​ไม่เหลือ​แม้แต่​คนเดียว​ เจ้ากลับ​ไม่มีความคิด​อื่น​ใด​?”

หลิน​ชิงเวย​พูด​เรียบ​ “พวกเขา​มาปกป้อง​คุ้มครอง​ข้า​ หรือ​ก่อน​หน้าที่​พวกเขา​จะตาย​ยัง​ต้อง​ให้​ข้า​ไป​คุ้มครอง​พวกเขา​?”

เซียว​อี้​สะอึก​ ถึงกับ​อับจน​คำพูด​

สมอง​ของ​สตรี​นาง​นี้​มีปัญหา​ จะใช้วิธี​คิด​เช่น​คน​ทั่ว​ไปมา​ประเมิน​ความคิด​นาง​ไม่ได้​เป็นอันขาด​

การ​เดินทาง​ต่อมา​ไม่มีอุปสรรค​ใดๆ​ แม้หิมะ​จะตกหนัก​ทำ​ให้การ​เดินทาง​ล่าช้า​ไป​บ้าง​ ทว่า​ตลอด​การ​เดินทาง​ยังคง​ราบรื่น​ยิ่ง​ เมื่อ​หลิน​ชิงเวย​และ​เซียว​อี้​เดินทาง​ไป​ถึงเมือง​จิงโจว​ ที่จริง​แล้ว​พวกเขา​นับว่า​อยู่​ใน​หนาน​เจียง​แล้ว​ ขอ​เพียง​เดินทาง​มุ่งหน้า​ไป​ทางใต้​อีก​ราวๆ​ ร้อย​กว่า​ลี้​ ผ่านเมือง​อีก​สอง​เมือง​ก็​จะถึงเขตแดน​ระหว่าง​ต้าเซี่ย​และ​อวิ๋น​หนาน​

คิดไม่ถึง​ว่า​เมื่อ​มาถึงจิงโจว​แล้ว​เส้นทาง​การเดินทาง​จะยิ่ง​ลำบาก​ เมือง​จิงโจว​เป็น​เมือง​ที่​ได้รับความเดือดร้อน​แสน​สาหัส​ที่สุด​ใน​เส้นทาง​ที่​พวกเขา​เดินทาง​ผ่านมา คน​ที่ทาง​ราชสำนัก​ส่งมาเพื่อ​บรรเทาทุกข์​ของ​ชาวบ้าน​น่าจะ​อยู่​ข้างหน้า​พวกเขา​ ตลอด​เส้นทาง​หลิน​ชิงเวย​ไม่พบ​เจ้าหน้าที่​ของ​ราชสำนัก​ แต่​เมื่อ​มาถึงอีก​เมือง​หนึ่ง​ได้ยิน​พวก​ชาวบ้าน​พูด​ถึงว่า​ทางการ​ได้​มอบ​ข้าวสาร​และ​เสื้อกันหนาว​ที่ทาง​ราชสำนัก​ส่งมาช่วยเหลือ​แก่​ชาวบ้าน​แล้ว​

ที่​สำคัญ​ก็​คือ​ราชสำนัก​ได้​ส่งเงิน​บรรเทา​สาธารณภัย​ลงมา​ด้วย​ เมื่อ​มาถึงสถานที่​ประสบภัย​แล้วจึง​จับจ่าย​ซื้อ​ของ​ จากนั้น​ให้​เจ้าหน้าที่​ใน​ท้องที่​เป็น​คน​แจกจ่าย​สิ่งของ​ ด้วย​มีเมือง​หลาย​แห่ง​ได้รับความเดือดร้อน​ เมื่อ​คณะ​ช่วยเหลือ​ผู้ประสบภัย​เดินทาง​ไป​ถึงสถานที่​แห่ง​หนึ่ง​จะรั้ง​อยู่​นาน​ไม่ได้​ หลังจาก​พวกเขา​ทำงาน​ตาม​ขั้นตอน​แล้วก็​จะเดินทาง​ไป​ยัง​เมือง​ถัดไป​ทันที​

แต่​หลังจาก​เข้ามา​ใน​เมือง​จิงโจว​ หลิน​ชิงเว​ยอด​ไม่ได้​ที่จะ​ถามเซียว​อี้​อย่าง​ไม่เข้าใจ​ว่า​ “คณะ​ที่​เดินทาง​มาบรรเทา​สาธารณภัย​ยัง​เดินทาง​มาไม่ถึงจิงโจว​อีก​หรือ​? หรือ​เดินทาง​มาไม่ถึงครึ่งทาง​ก็​ถูก​ปล้น​เสียแล้ว​?”

เมื่อ​พวกเขา​เดินทาง​มาถึงเมือง​ก่อนหน้านี้​ได้ยิน​ว่า​คณะ​ที่​เดินทาง​มาบรรเทา​สาธารณภัย​ได้​เดินทาง​มุ่งหน้า​สู่จิงโจว​แล้ว​ แต่​บัดนี้​ใน​เมือง​กลับ​มีสภาพ​แร้นแค้น​เช่นนี้​ จึงเป็นเรื่อง​น่าแปลก​

เซียว​อี้​ไม่ค่อย​แน่ใจ​เช่นกัน​ “ไม่รู้​”

ภายใน​เมือง​เงียบเหงา​วังเวง​อย่างยิ่ง​ ทว่า​บน​ถนนหนทาง​มีคน​เดิน​ไปมา​ ขอทาน​สวม​เสื้อผ้า​ขาดวิ่น​ ใน​สภาพอากาศ​อัน​หนาวเย็น​และ​มีหิมะ​ตกหนัก​เช่นนี้​กลับ​ไม่มีที่​ให้​อยู่อาศัย​ แต่ละคน​ล้วน​นั่งยองๆ​ อยู่​ใต้​ชายคา​เรือน​ที่​สามารถ​หลบ​หิมะ​ได้​ด้วย​เนื้อตัว​สั่นเทา​ ผิวหนัง​ที่​ไร้​อาภรณ์​ปกปิด​ถูก​ความ​เหน็บ​หนาว​เล่นงาน​เสีย​จน​กลายเป็น​สีม่วง​ ราวกับ​อีกไม่นาน​ก็​จะถูก​สภาพอากาศ​หนาวเย็น​นี้​ทำให้​หนาว​ตาย​

ยังมี​คน​ไม่น้อย​นั่ง​ร้องไห้​เสียงดัง​อยู่​หน้า​ประตู​ พวกเขา​สวม​เสื้อผ้า​เนื้อ​บาง​เพียง​ชิ้น​เดียว​ กำลัง​คร่ำครวญ​ว่า​ใน​เรือน​ไม่มีข้าว​ให้​กิน​ ลูก​ๆ กำลังจะ​อดตาย​อยู่แล้ว​

ส่วน​ร้านค้า​สอง​ข้างทาง​ที่​ควรจะ​เปิดร้าน​ทำการค้า​ต่าง​ปิดประตู​เงียบเชียบ​ ไม่มีร้าน​ใด​เปิดกิจการ​ บรรยากาศ​โดยรอบ​ล้วน​เต็มไปด้วย​ความสลด​หดหู่​

หลิน​ชิงเวย​และ​เซียว​อี้​เพิ่งจะ​เดิน​ไป​ได้​ไม่นาน​ พลัน​ได้ยิน​เสียงร้อง​ดัง​มาจาก​ถนน​อีก​สาย​หนึ่ง​ ทำให้​ขอทาน​ไร้​บ้าน​ทาง​ด้าน​นี้​ตัวสั่น​งันงก​ สตรี​ออกเรือน​แล้ว​ที่​ส่งเสียงร้อง​เสียงดัง​เมื่อ​สักครู่​รีบ​ปิดประตู​เรือน​

คน​ทั้งสอง​เดิน​ไป​ตาม​เสียง​นั้น​ เห็น​คน​ผู้​หนึ่ง​สวม​ชุด​เจ้าหน้าที่​ยืน​อยู่​บน​ถนน​ที่​ถูก​ปกคลุม​ไป​ด้วย​หิมะ​ บั้นเอว​ของ​เขา​ยังมี​กระบี่​เล่ม​หนึ่ง​ ใน​มือถือ​แส้เส้น​หนึ่ง​ ทาง​หนึ่ง​ด่าทอ​ อีก​ทาง​หนึ่ง​สะบัด​แส้ใส่ชาวบ้าน​ที่นอน​อยู่​บน​พื้น​อย่าง​ไร้​ปรานี​

บริเวณ​โดยรอบ​ยังมี​ชาวบ้าน​อีก​ส่วนหนึ่ง​ ล้วน​มีสีหน้า​โกรธแค้น​คิด​จะเข้าไป​เกลี้ยกล่อม​ แต่​จนปัญญา​ที่​เกรงกลัว​แส้ใน​มือ​ของ​เจ้าหน้าที่​คน​นั้น​

หลิน​ชิงเวย​เห็น​คน​ที่​ถูก​ตี​ด้วย​แส้มีเลือด​ไหล​ออกมา​สดๆ​ สีแดง​ของ​เลือด​นั้น​สาด​ลง​บน​พื้น​หิมะ​สีขาว​

ในที่สุด​ก็​มีคน​ทนไม่ไหว​พูด​ด้วย​ความโกรธแค้น​ว่า​ “ราชสำนัก​ส่งเงิน​มาให้​ ท่าน​เจ้าเมือง​กลับ​ไม่แจกจ่าย​เสบียงอาหาร​ ท่าน​ถือดี​อย่างไร​มาตี​คน​ตามอำเภอใจ​!”

สายตา​ของ​เจ้าหน้าที่​ผู้​นั้น​กวาด​มาราวกับ​ใบ​มีด​คมกริบ​ เขา​พูด​ด้วย​น้ำเสียง​ดุดัน​ “ท่าน​เจ้าเมือง​ทำ​เพื่อ​พวก​เจ้าทุกคน​ ใน​เมือง​มีขอทาน​ออกมา​มากมาย​เช่นนี้​ หาก​จะตาย​ก็​ให้​ไป​ตาย​ไกลๆ​! หรือ​พวก​เจ้ายินดี​จะนำ​เสบียงอาหาร​มาเลี้ยง​พวกเขา​?!”

อีก​คน​หนึ่ง​ตอบ​กลับมา​ว่า​ “ขอทาน​แล้ว​อย่างไรเล่า​ หาก​มิใช่เพราะ​หิมะ​ตก​ลงมา​ทับ​บ้านเรือน​ของ​พวกเขา​เสียหาย​ พวกเขา​จะกลายเป็น​ขอทาน​ไร้​บ้าน​ได้​อย่างไร​?! ท่าน​เจ้าเมือง​ไม่เพียง​ไม่ช่วยเหลือ​พวกเรา​ชาวบ้าน​เท่านั้น​ ซ้ำร้าย​ไป​กว่า​นั้น​! พูดถึง​เสบียงอาหาร​ ท่าน​เจ้าเมือง​เคย​เปิด​คลัง​แจกจ่าย​เสบียงอาหาร​ให้​พวกเรา​หรือไม่​!”

หลิน​ชิงเวย​เห็น​พวกเขา​แต่ละคน​ล้วน​มีความกล้า​ที่จะ​มีโทสะ​ แต่​ไม่มีความกล้า​ที่จะ​พูดจา​ แสดงให้เห็น​ถึงความ​เจ็บแค้น​ที่อยู่​ใน​ส่วนลึก​ของ​จิตใจ​ ทว่า​กลับ​ต้อง​เกรงกลัว​ต่อ​อำนาจ​ของ​เจ้าหน้าที่​ ไม่ว่า​ผู้ใด​ล้วน​ไม่ปรารถนา​ต้อง​เผชิญ​กับ​ความหิว​และ​ความ​หนาว​ใน​เหมันตฤดู​อัน​หนาวเหน็บ​ ซ้ำยัง​ต้อง​ถูก​ตี​จน​มีบาดแผล​ไป​ทั่ว​ร่าง​

เวลานี้​ถนน​สาย​อื่นๆ​ เริ่ม​มีเจ้าหน้าที่​ออกมา​ขับไล่​คน​ไร้​บ้าน​แล้ว​

ชาวบ้าน​ที่​โกรธแค้น​เหล่านั้น​จึงได้​แต่​ถอยร่น​ มอง​เจ้าหน้าที่​เพียง​ไกลๆ​ เจ้าหน้าที่​รู้สึก​พึงพอใจ​อย่างยิ่ง​ ทำให้​ชาวบ้าน​รู้สึก​หวาดกลัว​ได้​ ส่งผล​ให้​เขา​รู้สึก​พึงพอใจ​อย่าง​เอกอุ​ ด้วยเหตุนี้​จึงหันกลับ​หวด​แส้ใส่ขอทาน​ผู้​น่าสงสาร​อีก​หลายครั้ง​

หลิน​ชิงเวย​ได้​ฟังเรื่องราว​จน​พอ​จะจับ​ใจความ​ได้​บ้าง​แล้ว​ เซียว​อี้​เห็น​นาง​หยุด​ก้าวเดิน​ เขา​จึงหยอกเย้า​ด้วย​สีหน้า​เย็นชา​ สำหรับ​เรื่อง​เช่นนี้​ไม่มีอะไร​คู่ควร​ต้อง​ไป​ยุ่ง​ด้วย​ “อย่างไรเล่า​ เจ้าจะหยุด​เดินทาง​เพื่อ​ใช้ดาบ​ช่วย​แก้ปัญหา​ความอยุติธรรม​หรือ​จะเร่ง​เดินทาง​ต่อ​?”

ไม่ว่า​จะเป็น​แคว้น​ใด​ สถานที่​แห่งใด​ เรื่องราว​เยี่ยง​นี้​ล้วน​เลี่ยง​ได้​ยาก​ มักจะ​มีขุนนาง​กลุ่ม​หนึ่ง​ขูดรีด​ชาวบ้าน​ไม่มีที่​สิ้นสุด​ อีก​ทั้งคน​ที่อยู่​ใต้​บังคับบัญชา​ล้วน​เป็น​เยี่ยง​สุนัข​รับใช้​ ลูกขุนพลอยพยัก​

ด้วยเหตุนี้​เมื่อ​เซียว​อี้​เห็น​เหตุการณ์​เช่นนี้​เขา​จึงไม่ประหลาดใจ​นัก​ เห็น​หลิน​ชิงเวย​ไม่พูดจา​ ริมฝีปาก​ของ​เขา​จึงยก​ยิ้ม​เย็นชา​ “ข้า​คิด​ว่า​ต่อให้​ราชสำนัก​ส่งเงิน​ลงมา​ช่วยเหลือ​ แต่ละ​ขั้นตอน​ล้วน​ถูก​เบียดบัง​ มาถึงสถานที่​ประสบภัย​ยัง​จะมีเงิน​เหลือ​สัก​เท่าใด​กัน​ ยังมี​ขุนนาง​ฉ้อราษฎร์บังหลวง​ ไม่สนใจ​ความเป็นความตาย​ของ​ชาวบ้าน​ พูด​แล้วน​ี่ไม่ใช่เพราะ​ฮ่องเต้​ไร้​สามารถ​ แต่​ด้วย​ความ​ที่​เขา​ยัง​เป็น​เด็ก​ จึงมองเห็น​เพียง​ความหรูหรา​ของ​ใต้​พระ​บาท​โอรส​สวรรค์​ นี่​จะแปลก​อัน​ใด​เล่า​?”

หลิน​ชิงเวย​นั่งยองๆ​ ลง​ไป​ ใช้มือ​ขาว​ประดุจ​หยก​กอบ​หิมะ​ขาวสะอาด​ขึ้น​มาแล้ว​ปั้น​เป็น​ลูกบอล​กลม​ๆ เล็ก​ๆ ราวกับ​กำลัง​มีความสุข​อย่างไร​อย่างนั้น​พร้อมกับ​ถามขึ้น​เรียบๆ​ ว่า​ “หาก​เป็น​ท่าน​ ท่าน​จะทำให้​ต้าเซี่ย​หมดสิ้น​ซึ่งขุนนาง​ฉ้อราษฎร์บังหลวง​หรือ​? ท่าน​รับรอง​ได้​ว่า​ชาวบ้าน​ที่อยู่​ตาม​หัวเมือง​ห่างไกล​เหล่านี้​จะมีชีวิต​สงบสุข​หรือ​?”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด