ตื๊อรักแพทย์หญิง ฉบับท่านอ๋องเล่มที่ 10 บทที่ 285 ยากที่จะต้านทานเสน่ห์ของนาง

Now you are reading ตื๊อรักแพทย์หญิง ฉบับท่านอ๋อง Chapter เล่มที่ 10 บทที่ 285 ยากที่จะต้านทานเสน่ห์ของนาง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ต่อมา​หลิน​ชิงเวย​คัดเลือก​เนื้อ​งูส่วนหนึ่ง​แล้ว​ถลก​หนัง​ออกมา​ นาง​ง่วนอยู่กับ​งาน​ใน​ห้อง​ตลอดทั้ง​ช่วง​บ่าย​ ไม่ได้​ไป​ที่ใด​ทั้งสิ้น​ นาง​นำ​หนัง​งูแช่ลง​ไป​ใน​น้ำยา​ที่​นาง​เพิ่ง​ปรุง​ขึ้น​อย่าง​ปัจจุบันทันด่วน​ ได้ยิน​เซียว​เยี่ยน​กล่าวว่า​จำเป็นต้อง​ลอบ​เข้าไป​ใน​พระราชวัง​ฤดูร้อน​อีกครั้ง​เพื่อ​เข้าไป​สำรวจ​สุสาน​หลวง​ที่อยู่​บน​ภูเขา​สัก​หน​ ยาม​นี้​จึงเป็นเวลา​เหมาะสม​อย่างยิ่ง​แก่​การ​เตรียมการ​

คืน​นั้น​เซียว​เยี่ยน​ลอบ​ได้ยิน​บทสนทนา​ระ​หว่า​งอ​วิ๋น​หนาน​อ๋อง​และ​เซียว​อี้​ มีความเป็นไปได้​อย่างยิ่ง​ว่า​ไพร่​พลทหาร​ชุด​ใหม่​ที่​หายสาบสูญ​เหล่านั้น​จะถูก​ซ่อนตัว​อยู่​ท่ามกลาง​สุสาน​หลวง​โบราณ​ขนาดใหญ่​ที่อยู่​บน​ภูเขา​ มีเพียง​เข้า​ไปดู​ด้วย​ตนเอง​จึงจะรู้​ว่า​เกิด​อะไร​ขึ้น​

เพียงแต่​การ​ลอบ​เข้าไป​ใน​พระราชวัง​ฤดู​ร้อนใน​ครั้งก่อน​เกือบ​ถูก​จับได้​ อวิ๋น​หนาน​อ๋อง​ย่อม​ต้อง​เพิ่ม​กำลัง​ใน​การป้องกัน​และ​ระมัดระวัง​ หาก​ไม่ได้​เตรียมการ​อย่าง​ดี​ย่อม​ต้อง​ถูก​พบ​อย่าง​แน่นอน​

หลิน​ชิงเวย​มองออก​ไปนอก​หน้าต่าง​เห็น​กู้​หมิง​เฟิ่งอยู่​ใน​ลาน​เรือน​ และ​เฉินเหยียนจือ​กำลัง​พูด​อะไร​บางอย่าง​อยู่​กับ​นาง​ ดูท่า​แล้ว​คน​ทั้งสอง​รู้จักมักคุ้น​กัน​มานาน​แล้ว​ แม่ทัพ​เฉินเหยียนจือ​ดูแลเอาใจใส่​กู้​หมิง​เฟิ่งเป็น​อย่าง​ดี​

เมื่อ​เซียว​เยี่ยน​เข้ามา​ หลิน​ชิงเวย​กำลัง​ใช้ที่​คีบ​คีบ​หนัง​งูขึ้น​มาจาก​น้ำยา​ ลวดลาย​บน​หนัง​งูล้วน​เลือนหาย​ไป​กว่า​ครึ่ง​ อีก​ทั้ง​เมื่อ​นำ​หนัง​งูทั้งหมด​มารวมกัน​พวก​มัน​จึงละลาย​และ​ผสาน​ตัว​กัน​อย่างไร​้ที่​ติ​ ดู​แล้ว​แทบจะ​ไม่เห็น​ร่องรอย​ หลิน​ชิงเวย​พลิก​ไป​อีก​ด้าน​หนึ่ง​ ให้​อีก​ด้าน​หนึ่ง​หัน​ลงพื้น​ หนัง​งูเหล่านั้น​ถูก​พลิก​ไป​พลิก​มาใน​มือ​นาง​ราวกับ​เป็น​เจียน​ปิ่ง​ [1] อย่างไร​อย่างนั้น​

กู้​หมิง​เฟิ่งออก​ไป​ข้างนอก​กับ​เฉินเหยียนจือ​แล้ว​ หลิน​ชิงเวย​ถามทั้งที่​ไม่ได้​เงยหน้า​ขึ้น​ว่า​ “หลังจาก​เรื่อง​นี้​แล้ว​ ท่าน​คิด​จะจัดการ​กับ​กู้​หมิง​เฟิ่งอย่างไร​? ท่าน​จะพลิก​คดี​ให้​กับ​สกุล​กู้​ของ​นาง​จริงๆ​ หรือ​?”

เซียว​เยี่ยน​ “คดี​ของ​สกุล​กู้​ เป็น​เปิ่น​หวา​งที่​ไต่สวน​คดี​อย่าง​ไม่เป็นธรรม​ หาก​สกุล​กู้​ถูก​ใส่ร้ายป้ายสี​จริงๆ​ อย่างไร​เปิ่น​หวา​งย่อม​ต้อง​คืน​ความยุติธรรม​ให้​กับ​พวกเขา​”

หลิน​ชิงเว​ยวา​งที่​คีบ​ใน​มือ​ลง​และ​หัน​กาย​กลับมา​ เรือน​กาย​งดงาม​ของ​นาง​เอน​ไป​กับ​โต๊ะ​ด้านหลัง​เล็กน้อย​ มือ​ทั้งคู่​ค้ำ​บน​โต๊ะ​ “เป็น​กู้​เทียน​หลิน​ที่​กระทำ​การปกป้อง​กู้​หมิง​เฟิ่งอยู่​ก่อน​หาก​เขา​ยอมรับ​และ​เปิดเผย​ความจริง​ออกมา​ เรื่อง​ทุกอย่าง​ย่อม​กระจ่างแจ้ง​แต่แรก​ ไม่ส่งผล​ให้​สกุล​กู้​ทั้งหมด​ต้อง​รับ​โทษประหาร​ ยังมี​อีก​ เรื่อง​พลิก​คดี​ให้​กับ​สกุล​กู้​หา​ใช่ทำได้​ง่ายๆ​ อย่าง​ปาก​พูด​”

เวลา​นั้น​เซียว​เยี่ยน​เป็น​ผู้รับผิดชอบ​โดยตรง​ได้​ทำการ​ไต่สวน​และ​ตัดสินคดี​ของ​สกุล​กู้​ เขา​เป็น​คน​ออกคำสั่ง​ประหาร​เก้า​ชั่วโคตร​สกุล​กู้​ มาบัดนี้​หาก​เขา​ก้าว​ออกมา​พลิก​คดี​ให้​กับ​สกุล​กู้​ เกรง​ว่า​ราชสำนัก​อาจ​ไม่ยินยอม​ และ​หาก​ร้ายแรง​ไป​กว่า​นั้น​ย่อม​ต้อง​มีคน​ฉวยโอกาส​ตลบหลัง​กล่าว​หาว่า​เขา​ใส่ร้าย​ขุนนาง​ผู้​ซื่อสัตย์​ ชื่อเสียง​ที่​สั่งสมมาตลอดชีวิต​ของ​เขา​ย่อม​ต้อง​มีอัน​ด่างพร้อย​ ไม่ว่า​อย่างไร​ล้วน​ไม่ส่งผลดี​ต่อ​เขา​ทั้งสิ้น​

หลิน​ชิงเวย​ไม่รู้​ว่า​เซียว​เยี่ยน​ไตร่ตรอง​รอบคอบ​เช่นนี้​หรือไม่​ นาง​พูด​ขึ้น​เรียบๆ​ อี​กว่า​ “เรื่อง​นี้​ควรจะ​ผัดผ่อน​ไป​ก่อน​ ปี​นี้​สกุล​กู้​ถูก​ประหาร​เก้า​ชั่วโคตร​ ปีหน้า​พลิก​คดี​ให้​แก่​สกุล​กู้​ ดู​แล้ว​ราชสำนัก​ไต่สวน​คดี​อย่าง​หละหลวม​อยู่​บ้าง​ รอ​ให้​ท่าน​ไม่ได้​มีบรรดาศักดิ์​เซ่อ​เจิ้งอ๋อง​แล้ว​ เรื่อง​นี้​ค่อย​มอบให้​เซียว​จิ่น​มาจัดการ​ก็​ไม่สาย​ เวลา​นั้น​คลื่น​ลม​ใน​ราชสำนัก​ล้วน​ไม่เกี่ยวข้อง​กับ​ท่าน​ และ​ยัง​ทำให้​เซียว​จิ่น​ได้​ชื่อว่า​เป็น​ฮ่องเต้​ผู้ทรง​คุณธรรม​”

เซียว​เยี่ยน​ไม่ได้​เอ่ย​อัน​ใด​ เขา​เพียงแต่​ยืน​มอง​หลิน​ชิงเวย​ด้วย​สายตา​นิ่ง​ลึก​อยู่​ที่นั่น​หลิน​ชิงเวย​เอง​ไม่รู้ตัว​ว่า​ตั้งแต่​เมื่อใด​กันที่​นาง​ไม่ได้คิด​วางแผน​เพื่อ​ตนเอง​ แต่​ทุกสิ่งทุกอย่าง​ที่​นาง​คิด​ล้วน​คิด​เพื่อ​อนาคต​ของ​เซียว​เยี่ยน​ นาง​จึงกล่าว​อี​กว่า​ “เพียงแต่​หลังจาก​กลับ​ไป​เมืองหลวง​แล้ว​ ท่าน​ออกคำสั่ง​ให้​ย้าย​กระดูก​สกุล​กู้​กลับ​ไป​ยัง​สุสาน​ของ​พวกเขา​ได้​ ทำ​เช่นนี้​ถือ​เป็นการ​ปลอบโยน​กู้​หมิง​เฟิ่ง เมื่อ​สักครู่​ข้า​เห็น​แม่ทัพ​เฉิน​และ​กู้​หมิง​เฟิ่งอยู่​ใน​ลาน​เรือน​ แม้แม่ทัพ​เฉิน​จะอายุ​มากกว่า​กู้​หมิง​เฟิ่งไม่น้อย​ แต่​คน​ทั้งสอง​เข้ากันได้ดี​ แม่ทัพ​เฉิน​ปฏิบัติ​ต่อ​นาง​…” หลิน​ชิงเวย​พูด​แล้ว​เงยหน้า​ขึ้น​อย่าง​ไม่ตั้งใจ​ จึงประสาน​สายตา​กับ​ดวงตา​หงส์​ของ​เซียว​เยี่ยน​ จึงอด​ที่จะ​ใจเต้น​ตึก​ตัก​ไม่ได้​ นาง​ยก​มือขึ้น​ลูบ​ใบหน้า​ของ​ตน​แล้ว​ถามยิ้ม​ๆ ว่า​ “บน​หน้า​ของ​ข้า​มีสิ่งใด​หรือไม่​ ท่าน​จึงได้​จ้องมอง​ข้า​เช่นนี้​?”

บน​ใบหน้า​ของ​นาง​มีสิ่งที่​เซียว​เยี่ยน​มองไม่เห็น​บน​ใบหน้า​ของ​ผู้อื่น​ เซียว​เยี่ยน​เอง​ไม่รู้​เช่นกัน​ว่า​มัน​คือ​อะไร​ หรือ​อาจจะ​เป็น​ทุกๆ​ อิริยาบถ​ของ​นาง​ที่​เปี่ยม​ไป​ด้วย​เสน่ห์​ ยาก​เกิน​กว่า​ที่​ใคร​จะต้านทาน​เสน่ห์​ของ​นาง​ได้​

กระทั่ง​ผู้​ที่​ควบคุม​ตนเอง​ได้ดี​เช่น​เซียว​เยี่ยน​ก็​ไม่อาจ​ต้านทาน​ได้​

เซียว​เยี่ยน​เพียงแต่​มอง​นาง​นิ่ง​ๆ และ​กล่าวว่า​ “ไม่มี เรื่อง​ที่​เหลือ​ เจ้าไม่ต้อง​เป็นห่วง​ เปิ่น​หวา​งจะจัดการ​อย่าง​เหมาะสม​”

หลิน​ชิงเวย​เลิกคิ้ว​พลัน​คิด​ว่า​ก็​ใช่ เรื่อง​เหล่านี้​เซียว​เยี่ยน​อาจ​คิด​การ​เอาไว้​หมด​แล้ว​แต่แรก​ก็​เป็นได้​ การ​ที่​นาง​กังวล​เป็นเรื่อง​ไม่จำเป็น​ ดังนั้น​จึงไม่พูด​อัน​ใด​อีก​

กลางดึก​คน​ทั้งหมด​บุกเข้าไป​ใน​ลาน​เรือน​ของ​เซียว​อี้​ บัดนี้​เซียว​อี้​และ​องครักษ์​ทุกคน​ของ​เขา​ล้วน​ถูก​กักบริเวณ​อยู่​ที่นี่​ เมื่อ​เห็น​คน​ทั้งหมด​ตรง​เข้ามา​ใน​ห้อง​ของ​เขา​ เขา​ไม่ประหลาดใจ​แม้แต่น้อย​ เพียงแต่​พูด​กลั้ว​หัวเราะ​อย่าง​สัพยอก​ว่า​ “ครั้งนี้​เข้ามา​ที่นี่​หมด​ทุกคน​ อย่างไรเล่า​ นี่​จะไต่สวน​พร้อมกับ​ทั้ง​สามกรม​ [2]? หรือ​จะใช้ทัณฑ์​ทรมาน​เค้น​ความ​?”

หลิน​ชิงเวย​ยิ้ม​ตาหยี​ เห็น​เขา​กำลังจะ​ลุกขึ้น​จึงยื่นมือ​เรียว​ประดุจ​หยก​ผลัก​เขา​ให้​นั่งลง​บน​เก้าอี้​อีกครั้ง​ ที่จริง​แล้ว​มือ​ขาว​เรียว​ของ​หลิน​ชิงเวย​เพียงแต่​โบก​ไปมา​เบื้อง​หน้าเซียว​อี้​ยัง​ไม่ทัน​ได้​ออกแรง​ เซียว​อี้​ก็​ตัวอ่อน​นั่งลง​บน​เก้าอี้​แล้ว​ “นี่​จะใช้กล​หญิง​งามกับ​ข้า​หรือ​?”

หลิน​ชิงเวย​หัวเราะ​ “สุนัข​รับใช้​ของ​ท่าน​เล่า​ เรียก​คน​ที่​สนิท​ที่สุด​เข้ามา​”

ดังนั้น​คน​ชุด​ดำ​ที่​รับ​ยา​ถอนพิษ​จาก​หลิน​ชิงเวย​ใน​วันนั้น​จึงถูก​เรียกตัว​เข้ามา​ เขา​ไม่ให้ความร่วมมือ​อย่างยิ่ง​จึงถูก​มัด​ตัว​กับ​เก้าอี้​

คน​ชุด​ดำ​ผู้​นั้น​ยังคง​ดิ้นรน​ขัดขืน​จน​ใบหน้า​แดงก่ำ​ เขา​ดิ้นรน​ต่อสู้​ไม่หยุด​ เฉินเหยียนจือ​แค่น​หัวเราะ​เสียง​เย็น​ “ข้า​เตือน​เจ้าอย่า​ได้​เปลือง​แรง​อีก​เลย​ หาก​วันนี้​เจ้าดิ้น​หลุด​ ข้า​จะเปลี่ยนไป​แซ่เดียว​กับ​เจ้า!”

เซียว​อี้​ส่งสายตา​ให้​เขา​ คน​ชุด​ดำ​จึงหยุด​ดิ้นรน​

หลิน​ชิงเวย​หยิบ​สิ่งของ​อย่างหนึ่ง​ออก​มาจาก​ภาชนะ​กระเบื้อง​ในเวลานี้​เอง​ สิ่งของ​นั้น​มีลักษณะ​เป็น​เยื่อ​บาง​ๆ และ​โปร่งใส​ ส่งประกาย​วาววับ​ ยังมี​น้ำยา​หยด​ลงมา​ติ๋ง​ๆ นาง​ถือ​สิ่งของ​นั้น​แล้ว​เดิน​ไปหา​คน​ชุด​ดำ​ “เริ่มต้น​จาก​เจ้าก็แล้วกัน​ จด​จำไว้​ว่า​ให้​กลั้นลมหายใจ​ หาไม่​แล้ว​หาก​สูด​น้ำยา​เข้าไป​ ข้า​ไม่รับผิดชอบ​”

ไม่รอ​ให้​คน​ชุด​ดำ​ตอบคำถาม​ หลิน​ชิงเวย​ก็​นำ​เยื่อ​บาง​ๆ แผ่น​นั้น​วาง​ลง​บน​ใบหน้า​ของ​คน​ชุด​ดำ​เบา​ๆ หลังจาก​สิ่งของ​นั้น​ปิด​ทับ​ใบหน้า​ของ​เขา​ก็​กลายเป็น​ผิ​วสี​เดียว​กับ​เขา​ น้ำยา​นั้น​แห้ง​อย่าง​รวดเร็ว​ หลิน​ชิงเวย​เปิด​รู​สอง​รู​ด้านล่าง​ของ​เยื่อ​บาง​ๆ แผ่น​นั้น​เพื่อให้​เขา​หายใจ​

เซียว​อี้​ยืน​ดู​อยู่​ข้างๆ​ “หน้ากาก​หนัง​มนุษย์​ของ​เจ้าทำได้​ไม่เลว​ทีเดียว​ ทำ​มาจาก​สิ่งใด​จึงแนบติด​เช่นนี้​?”

หลิน​ชิงเวยยก​ยิ้ม​ริมฝีปาก​ “ท่าน​อ๋อง​สายตา​แหลมคม​ยิ่งนัก​ ข้า​ใช้หนัง​งูแช่ใน​น้ำยา​ทำ​ออกมา​ สด​ใหม่​อย่างยิ่ง​ ไม่เพียงแต่​แนบติด​ไป​กับ​ผิวหนัง​แต่​ยัง​โปร่งบาง​อย่างยิ่ง​ ทุก​ด้าน​แนบติด​ไร้​รอยย่น​” พูด​แล้วก็​นำ​เยื่อ​บาง​ๆ อีก​แผ่น​หนึ่ง​เดิน​ไปหา​เซียว​อี้​ “เวลานี้​ถึงครา​ท่าน​อ๋อง​แล้ว​ ปิด​ตา​ให้​ดี​เล่า​ กลั้นลมหายใจ​”

เซียว​อี้​กลับ​ให้ความร่วมมือ​อย่าง​ดี​ ทั้ง​ยัง​กล่าวว่า​ “แปลงกาย​เป็น​ข้า​แล้ว​พวก​เจ้าก็​จะทำสำเร็จ​หรือ​? ข้า​รู้สึก​ตั้งตารอ​คอย​เสียแล้ว​”

ผู้​ที่​ได้​เห็น​วิธีการ​อัน​มหัศจรรย์​ของ​หลิน​ชิงเวย​แล้ว​ไม่อาจ​ไม่นับถือ​นาง​ หน้ากาก​หนัง​มนุษย์​สอง​แผ่น​ที่​นาง​ทำ​ออกมา​ช่างสมบูรณ์แบบ​

หลังจาก​รอ​น้ำยา​แห้ง​สนิท​ หลิน​ชิงเวย​จึงฉีก​หน้ากาก​หนัง​มนุษย์​ออกจาก​ใบหน้า​ของ​พวกเขา​ หน้ากาก​นี้​ขึ้น​รูปร่าง​เรียบร้อย​แล้ว​ กระทั่ง​กรอบหน้า​ก็​ยัง​เห็นได้ชัด​เจน​

เมื่อ​เซียว​เยี่ยน​สวม​ใส่หน้ากาก​หนัง​มนุษย์​ที่​ฉีก​ออก​มาจาก​ใบหน้า​ของ​เซียว​อี้​แล้ว​ เขา​และ​เซียว​อี้​มีหน้าตา​คล้ายคลึง​กัน​เป็น​ทุนเดิม​ กรอบหน้า​จึงรับ​กัน​ดี​ เมื่อ​ดู​แล้ว​แทบจะ​เหมือน​เซียว​อี้​เป็น​พิมพ์​เดียว​ กระทั่ง​ตัว​เซียว​อี้​เอง​ดู​แล้ว​ยัง​หา​พิรุธ​ได้​ยาก​

————————-

[1] เจียน​ปิ่ง​ เป็น​ขนม​ขึ้นชื่อ​ของ​เมือง​เทียน​จิน​ เป็น​ขนม​ผิว​แป้ง​บาง​กรอบ​ที่​ถูก​ทา​ด้วย​ซอส​ถั่วเหลือง​เข้มข้น​จน​ทั่ว​ ห่อหุ้ม​ด้วย​ส่วนผสม​ต่างๆ​ ไว้​ด้านใน​

[2] การ​ไต่สวน​ทั้ง​สามกรม​ หมายถึง​ เจ้าหน้าที่​สูงสุด​ของ​แต่ละ​กรม​ มีขุนนาง​ทัดทาน​, อัครมหาเสนาบดี​ และ​ผู้ตรวจการ​

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด