ตื๊อรักแพทย์หญิง ฉบับท่านอ๋องเล่มที่ 10 บทที่ 286 เร้นกายเข้าไปในรังศัตรู

Now you are reading ตื๊อรักแพทย์หญิง ฉบับท่านอ๋อง Chapter เล่มที่ 10 บทที่ 286 เร้นกายเข้าไปในรังศัตรู at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เซียว​อี้​เห็น​หลิน​ชิงเวย​กำลังจะ​ลอง​สวมหน้ากาก​หนัง​มนุษย์​อีก​แผ่น​หนึ่ง​ จึงอด​ไม่ได้​ที่จะ​เอ่ย​เย้า​ว่า​ “เวยเวย​ เจ้าออก​ไป​ทำการ​ร่วมกับ​บุรุษ​ผู้​มีใบ​หน้าเป็น​พิมพ์​เดียว​กับ​ข้า​ ก้มหน้า​เงยหน้า​ล้วน​มองเห็น​ข้า​ ระวัง​จะหลงรัก​ข้า​เล่า​”

หลิน​ชิงเวย​ยิ้ม​ตอบ​ นาง​สวมใส่​ใบหน้า​ของ​คน​ชุด​ดำ​เรียบร้อย​แล้ว​ แม้รูปร่าง​จะบอบบาง​ แต่​อย่างไร​ก็​เปลี่ยน​ใบหน้า​ไป​แล้ว​ นาง​กล่าวว่า​ “ต่อให้​สุนัข​รับใช้​ของ​ท่าน​หลงรัก​ท่าน​ ท่าน​วางใจ​ได้​ ข้า​ไม่หลงรัก​ท่าน​หรอก​”

หลังจาก​หลิน​ชิงเวย​และ​เซียว​เยี่ยน​แปลงกาย​แล้ว​ พวกเขา​เดินทางออก​นอกเมือง​ใน​กลางดึก​ เฉินเหยียนจือ​และ​กู้​หมิง​เฟิ่งพา​คน​และ​ม้ากลุ่ม​หนึ่ง​ตาม​ไป​ส่งพวกเขา​ถึงตีนเขา​ ทุกคน​อยู่​ใน​เสื้อผ้า​ชาวบ้าน​ธรรมดา​ ชัดเจน​ยิ่งนัก​ว่า​พวกเขา​มิใช่กองทัพ​ประจำ​ชายแดน​ “เซ่อ​เจิ้งอ๋อง​ ครั้งนี้​ต้อง​ระมัดระวัง​ตัว​ให้​มาก​ หาก​ใน​ภูเขา​มีความเปลี่ยนแปลง​ใดๆ​ เกิดขึ้น​ ขอ​ท่าน​ส่งสัญญาณให้​ข้าน้อย​ ข้าน้อย​จะพา​คน​โจมตี​ภูเขา​ทันที​”

หาก​มิใช่ตก​อยู่​ใน​สถานการณ์​วิกฤติ​จริงๆ​ การ​ไม่โยกย้าย​กำลัง​กองทัพ​ชายแดน​ย่อม​เป็นเรื่อง​ดีกว่า​ หาไม่​แล้ว​ย่อม​เป็น​ชนวน​ของ​สงคราม​ระหว่าง​สอง​แคว้น​อย่าง​ไร้​ข้อกังขา​

เซียว​จิ่น​ ฮ่องเต้​แห่ง​แคว้น​ต้าเซี่ย​ยัง​ทรง​พระเยาว์​ ตั้งแต่​เข้าสู่​ฤดูหนาว​มา ทางใต้​ประสบ​ภัยธรรมชาติ​จาก​สภาพอากาศ​อัน​หนาวเย็น​ หาก​เปิดศึก​กับ​อวิ๋น​หนาน​ในเวลานี้​ ไม่ต้อง​เอ่ย​ถึงว่า​ทาง​ราชสำนัก​ไม่อาจ​ส่งเสบียงอาหาร​ให้ได้​ การ​เปิด​สงคราม​ท่ามกลาง​ภัยธรรมชาติ​ ชาวบ้าน​และ​กองทัพ​ล้วน​ต้อง​ได้รับ​ความทุกข์ยาก​

ทว่า​เมื่อ​ทุกคน​ถอด​เครื่องแบบ​ทหาร​ออก​แล้ว​ย่อม​ไม่ใช่ทหาร​ หาก​สถานการณ์​คับขัน​อย่าง​มาก​ก็​แค่​โจมตี​ขึ้นไป​บน​ภูเขา​ ต่อสู้​ตะลุมบอน​กับ​ชาวอ​วิ๋น​หนาน​สักครั้ง​ เพียงแต่​เวลานี้​สายตา​ผู้คน​มากมาย​ หาก​ขึ้น​เขา​ไป​พร้อมกัน​จะเป็น​การแหวก​หญ้า​ให้​งูตื่น​

ด้วยเหตุนี้​ประทัด​ส่งสัญญาณจึงให้​หลิน​ชิงเวย​เป็น​ผู้​เก็บ​เอาไว้​ คน​ทั้งสอง​เดิน​ทางขึ้น​ภูเขา​

แต่​ครั้งนี้​คน​ทั้งสอง​มิได้​เข้าไป​อย่าง​ลับๆ ล่อๆ​ ทว่า​เป็นการ​เดิน​ขึ้นไป​บน​ภูเขา​อย่าง​เปิดเผย​ เพิ่งจะ​มาถึงปาก​ภูเขา​ มีคน​ปรากฏ​กาย​ขึ้น​ขวางทาง​ของ​ทั้งสอง​คน​

เซียว​เยี่ยน​แจ้งเพียง​ว่า​ตน​คือ​เซียว​อี้​ ต้องการ​เข้าพบ​อวิ๋น​หนาน​อ๋อง​

หลิน​ชิงเว​ยติ​ด​ตาม​เซียว​เยี่ยน​อยู่​ข้างหลัง​ แม้รองเท้า​ที่​นาง​สวม​อยู่​จะเสริม​พื้น​รองเท้า​ด้วย​สำลี​แล้ว​ไม่น้อย​ เมื่อ​นาง​ยืน​อยู่​กับ​เซียว​เยี่ยน​ ความสูง​ของ​นาง​ยังคง​ห่าง​จาก​เซียว​เยี่ยน​มาก​อยู่​นั่นเอง​

คน​ทั้งสอง​เดิน​อาด​ๆ เข้าไป​ด้วย​สีหน้า​สงบนิ่ง​ ดู​แล้ว​ไหน​เลย​จะเหมือน​เข้าไป​ใน​รัง​ของ​ศัตรู​ นี่​เหมือน​กลับ​เรือน​ของ​ตัวเอง​อย่างไร​อย่างนั้น​

องครักษ์​บริเวณ​ตีนเขา​ส่งสัญญาณรายงาน​ขึ้น​มาเป็น​ทอด​ๆ จากนั้น​คน​ทั้งสอง​จึงขึ้นไป​บน​ภูเขา​อย่าง​ราบรื่น​

หลิน​ชิงเวย​ได้​พบ​กับ​ถ่าซิงฮ่าว​อีกครั้ง​ ดูท่า​แล้ว​ถ่าซิงฮ่าว​เต็มไปด้วย​ความ​เป็น​อริ​กับ​เซียว​อี้​จาก​การ​ยุแยง​ของ​ตน​ใน​ครั้งก่อน​ เขา​เคียดแค้น​นัก​ที่​มิอาจ​ใช้สายตา​สังหาร​เซียว​อี้​และ​พวก​ของ​เขา​ให้​ตาย​

เมื่อ​เดินผ่าน​ร่าง​ของ​เขา​ ถ่าซิงฮ่าว​พูด​เสียง​เย็น​ว่า​ “หาก​เจ้ากล้า​เล่นลูกไม้​อัน​ใด​ ข้า​รับรอง​ว่า​เจ้าจะไม่มีชีวิต​ออก​ไป​จาก​ที่นี่​”

เซียว​เยี่ยน​จงใจมองข้าม​เขา​ไป​

ไม่รู้​ว่าด้วย​ถ่าซิงฮ่าว​ระแวง​เซียว​อี้​อย่าง​หนัก​ หรือ​อวิ๋น​หนาน​อ๋อง​เอง​เกิด​ความระแวง​ขึ้น​เช่นกัน​ เรือน​หลัง​เดิม​มีองครักษ์​ยืนยาม​หนาแน่น​ ทว่า​ทั้งสอง​ได้​เตรียมตัว​มาเป็น​อย่าง​ดี​ย่อม​ไม่อาจ​ถอยทัพ​กลับ​ไป​ตอนนี้​ได้​

หลิน​ชิงเวย​ถูก​ถ่าซิงฮ่าว​ขวาง​เอาไว้​ ฐานะ​ของ​นาง​ก็​คือ​องครักษ์​ลับ​คนสนิท​ข้าง​กาย​ “เซียว​อี้​” แน่นอน​ว่า​ไม่อาจ​เข้าไป​ใน​เรือน​ได้​

หลิน​ชิงเวย​จึงได้​แต่​ยืน​เฝ้าอยู่​หน้า​ประตู​ รอ​เซียว​เยี่ยน​จัดการ​เรื่องราว​เรียบร้อย​แล้ว​ออกมา​ ที่นี่​มีองครักษ์​มากมาย​เช่นนี้​ อีก​ประเดี๋ยว​เขา​ออกมา​ย่อม​ไม่อาจ​หลบหนี​ไป​ได้​โดยง่าย​ ไม่มีประโยชน์​อัน​ใด​หาก​ตน​รอ​อยู่​ที่นี่​ ทั้ง​ยัง​จะเป็นการ​เพิ่ม​ภาระ​ให้​กับ​เซียว​เยี่ยน​

ดังนั้น​นาง​จึงหลบเลี่ยง​สายตา​ผู้คน​แล้ว​เดิน​ไป​ที่อื่น​ ถ่าซิงฮ่าว​หัน​กลับมา​อีกครั้ง​ไม่เห็น​เงาร่าง​ของ​นาง​จึงสั่งการ​กับ​องครักษ์​สอง​คน​ “ไป​ตามหา​คนสนิท​ข้าง​กาย​เซี่ยน​อ๋อง​เมื่อ​สักครู่​ออกมา​ หาก​เขา​กระทำ​สิ่งใด​ ให้​สังหาร​ทันที​”

หลิน​ชิงเวย​ยัง​เดิน​ไป​ได้​ไม่ไกล​นัก​ก็​มีคน​สอง​คน​ไล่​ตามมา​ราวกับ​แมลงวัน​ ฝ่ายตรงข้าม​เป็น​ผู้ฝึก​ยุทธ์​ นาง​ไม่อาจ​ต่อสู้​ซึ่งหน้า​กับ​พวกเขา​ได้​ นาง​จึงหา​สถานที่​ไกล​ออกมา​สักหน่อย​ หลิน​ชิงเวย​หยุด​ลง​พร้อมกับ​เอา​มือ​ไพล่หลัง​ นาง​หันไป​มอง​องครักษ์​ชาวอ​วิ๋น​หนาน​สอง​คน​ที่​ตามมา​ติดๆ​ แล้ว​กล่าว​กลั้ว​หัวเราะ​ว่า​ “ข้า​ก็​เพียง​เดินเล่น​เท่านั้น​ พวก​เจ้าจะตาม​ข้า​มาเพื่อ​อัน​ใด​กัน​?”

หนึ่ง​ใน​องครักษ์​พูด​ขึ้น​ว่า​ “ที่นี่​เป็น​พื้นที่​ของ​ท่าน​อ๋อง​ จะดี​ที่สุด​หาก​เจ้าไม่เดิน​ไป​ไหน​ส่งเดช​ หาก​ไม่ฟังคำพูด​กัน​ พวกเรา​ย่อม​ไม่เกรงใจ​เจ้าเช่นกัน​”

หลิน​ชิงเวย​เลิกคิ้ว​ “หาก​ข้า​จำไม่ผิด​แล้ว​ละ​ก็​ ที่นี่​มิใช่ดินแดน​ของ​อวิ๋น​หนาน​ แต่​พวก​เจ้ากลับ​ขึ้น​มาอาศัย​อยู่​บน​ภูเขา​แห่ง​นี้​อย่าง​ลับ​ๆ เป็นเวลา​นาน​ เพื่อ​อะไร​กัน​?” สีหน้า​ของ​องครักษ์​ทั้งสอง​คน​เปลี่ยนเป็น​เย็นชา​ พวกเขา​จ้อง​หลิน​ชิงเวย​เขม็ง​ หลิน​ชิงเวย​หัน​กาย​กลับ​ไป​มอง​พระจันทร์​ท่ามกลาง​ความมืด​ราวกับ​ไม่มีอะไร​เกิดขึ้น​ เงาร่าง​สีดำ​ราวกับ​อยู่​เบื้องหน้า​ นาง​ยก​มือขึ้น​ชี้ไป​ที่​ยอด​ภูเขา​แล้ว​หัน​กลับมา​พูด​กับ​องครักษ์​ว่า​ “หรือ​เพื่อ​สุสาน​หลวง​โบราณ​ที่อยู่​บน​ภูเขา​ลูก​นี้​? หรือ​ใน​สุสาน​หลวง​โบราณ​มีสิ่งของล้ำค่า​?”

“เจ้าถามมากเกินไป​แล้ว​!” แม้องครักษ์​เหล่านี้​จะไม่ค่อย​กระจ่างแจ้ง​ใน​จุดประสงค์​ที่​แท้จริง​ของ​อวิ๋น​หนาน​อ๋อง​และ​องค์​รัชทายาท​ที่มา​ที่นี่​ แต่​บน​ไหล่​ของ​พวกเขา​แบก​หน้าที่​ปกป้อง​คุ้มกัน​ ผนวก​กับ​สุสาน​หลวง​โบราณ​บน​ภูเขา​แห่ง​นี้​เป็น​สุสาน​หลวง​ของ​บรรพ​กษัตริย์​ของ​อวิ๋น​หนาน​ จะปล่อย​ให้​ชาว​ต้าเซี่ย​เข้ามา​ยึดครอง​ได้​อย่างไร​ ไม่ต้อง​เอ่ยถึง​การ​บุกรุก​ขึ้นไป​ แค่​เพียง​ถามมาก​สัก​ประโยค​ก็​ไม่ได้​

หลิน​ชิงเวย​พูด​ด้วย​สีหน้า​คล้าย​ยิ้ม​คล้าย​ไม่ยิ้ม​ “พวก​เจ้ารู้​หรือไม่​ว่า​ทาง​ที่จะ​ขึ้นไป​ภูเขา​อยู่​ที่ใด​?” องครักษ์​ทั้งสอง​สบตา​กัน​ หลิน​ชิงเวย​เห็น​รังสี​สังหาร​ใน​แววตา​ของ​พวกเขา​ จึงพูด​ขึ้น​อย่าง​ไม่ช้าไม่เร็ว​ว่า​ “ข้า​คิด​ว่า​เวลานี้​องค์​รัชทายาท​แห่​งอ​วิ๋น​หนาน​ของ​พวก​เจ้าอยาก​สังหาร​ข้า​ เขา​ยัง​คิด​จะสังหาร​นาย​ท่าน​ที่มา​พร้อมกับ​ข้า​ด้วย​ มีความเป็นไปได้​อย่าง​มากว่า​พวกเรา​กลับ​ไป​ไม่ได้​แล้ว​ใช่หรือไม่​?”

ทันทีที่​สิ้น​เสียง​องครักษ์​สอง​คน​นั้น​พลัน​สิ้น​ความอดทน​ ทั้งสอง​ดึง​ดาบ​ออกมา​ฟาดฟัน​ใส่หลิน​ชิงเวย​ หลิน​ชิงเวย​ลงมือ​อย่าง​รวดเร็ว​ นาง​สาด​ผง​ไร้​ควัน​ไร้​กลิ่น​ออก​ไป​ใน​อากาศ​ พวกเขา​ทั้งสอง​จึงหลงกล​ องครักษ์​ทั้งสอง​หมด​เรี่ยวแรง​ไม่อาจ​โจมตี​นาง​ได้​ ยัง​ไม่รอ​ให้​หลิน​ชิงเวย​ลงมือ​ ชิงห​ลัน​ก็​เลื้อย​ออกมา​พัน​รอบ​คอ​ของ​องครักษ์​ทั้งสอง​คน​ มัน​กัด​พวกเขา​คนละ​ครั้ง​อย่าง​ไม่ลังเลใจ​ องครักษ์​ทั้งสอง​กุม​บาดแผล​ที่​ถูก​งูกัด​แล้ว​ล้ม​ลง​ไป​ชักกระตุก​อยู่​บน​พื้น​ ไม่นาน​ก็​ตาย​เพราะ​พิษงู​

หลิน​ชิงเวย​มอง​พวกเขา​ด้วย​สายตา​เย็นชา​ ต่อมา​นาง​หยิบ​ขวด​น้ำมัน​หอม​ออกมา​ขวด​หนึ่ง​ สาด​ลง​บน​ร่าง​ของ​พวกเขา​ทั้งสอง​ ไม้ขีดไฟ​ก้าน​หนึ่ง​ร่วง​ลง​ไป​ เปลวไฟ​ลุก​ท่วม​ทันที​

แม้สถานที่​แห่ง​นี้​จะอยู่​ไกล​ออกมา​สักหน่อย​ ทว่า​รอบด้าน​ล้วน​เต็มไปด้วย​ต้นไม้​ หาก​เป็น​เช่นนี้​ต่อไป​พระราชวัง​ที่​ถูก​ทอดทิ้ง​แห่ง​นี้​ผุพัง​ไป​ด้าน​หนึ่ง​แล้ว​ย่อม​ต้อง​ถล่ม​ลงมา​ หาก​ไม่ควบคุม​เพลิง​เอาไว้​เกรง​ว่า​จะยิ่ง​ลุกลาม​ใหญ่โต​ เมื่อ​เป็น​เช่นนี้​ย่อม​ไม่อาจ​ไม่ดึงดูด​ความสนใจ​ของ​ชาวอ​วิ๋น​หนาน​ที่​มีต่อ​เซียว​เยี่ยน​ อย่างไร​ก็​ต้อง​ส่งกำลังคน​มาดับ​เพลิง​ส่วนหนึ่ง​ เซียว​เยี่ยน​จึงจะปลีกตัว​ออกมา​ได้​สำเร็จ​

เวลานี้​เซียว​เยี่ยน​กำลัง​อยู่​ใน​ห้อง​ของ​อวิ๋น​หนาน​อ๋อง​ เขา​พยายาม​ล้วง​ทุกสิ่ง​ที่​อวิ๋น​หนาน​อ๋อง​รู้​ออกมา​ อวิ๋น​หนาน​อ๋อง​เป็น​เสือเฒ่าเจ้าเล่ห์​เช่นกัน​ เมื่อ​แรก​นั้น​ยัง​พูดจา​อ้อมค้อม​กับ​เซียว​เยี่ยน​ อย่างไร​ก็​ไม่ยอม​เอ่ยถึง​ความลับ​ที่​แท้จริง​ เซียว​เยี่ยน​จึงใช้ความลับ​ใน​ราชสำนัก​ของ​แคว้น​ต้าเซี่ย​แลกเปลี่ยน​กับ​เขา​ อวิ๋น​หนาน​อ๋อง​ได้ยิน​แล้ว​ยินดี​อย่างยิ่งยวด​จึงลด​ความระแวง​ต่อ​เซียว​เยี่ยน​ทันที​

เขา​พูด​อย่าง​ใจกว้าง​ “เซี่ยน​อ๋อง​ยัง​หนุ่ม​แต่​มีความสามารถ​ การ​ใหญ่​ครั้งนี้​ต้อง​สำเร็จ​ ขอ​เพียง​รอ​ถึงฤดูใบไม้ผลิ​ของ​ปีหน้า​ หนอน​กู่​ที่​เลี้ยง​ไว้​ก็​จะเติบโต​เต็มที่​ อวิ๋น​หนาน​ของ​พวกเรา​จะเปิดศึก​กับ​แคว้น​ต้าเซี่ย​แน่นอน​ ไม่มีผู้ใด​ต้านทาน​กองทัพ​หนอน​กู่​ได้​ ท่าน​และ​ข้า​เพียง​รอ​รับ​ชัยชนะ​จาก​ศึก​นี้​เถิด​!”

มีคน​รายงาน​จาก​ด้านนอก​ในเวลานี้​ว่า​ “ไฟไหม้​แล้ว​! ทาง​ด้าน​นั้น​ไฟไหม้​แล้ว​!”

ถ่าซิงฮ่าว​ถ่ายทอด​คำสั่ง​ลง​ไป​ ให้​ทหาร​ที่​เฝ้าอยู่​กลาง​ภูเขา​และ​คนอื่นๆ​ ไป​ช่วยกัน​ดับไฟ​ ในขณะเดียวกัน​เซียว​เยี่ยน​พลัน​ลงมือ​รวดเร็ว​ปาน​สายฟ้า​ฟาด​เพื่อ​กดดัน​อวิ๋น​หนาน​อ๋อง​ ฝ่ามือ​ที่​รวบรวม​พลัง​ลมปราณ​นั้น​กำลังจะ​ฟาด​ลง​บน​แผ่น​หลัง​ขอ​งอวิ๋น​หนาน​อ๋อง​ ทว่า​กลับ​คิดไม่ถึง​ว่า​อวิ๋น​หนาน​อ๋อง​กลับ​รู้สึกตัว​และ​หัน​กาย​กลับมา​ตอบโต้​

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด