ตื๊อรักแพทย์หญิง ฉบับท่านอ๋องเล่มที่ 10 บทที่ 287 มีใครในใจคนหนึ่ง

Now you are reading ตื๊อรักแพทย์หญิง ฉบับท่านอ๋อง Chapter เล่มที่ 10 บทที่ 287 มีใครในใจคนหนึ่ง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

อย่า​ได้​เห็น​ว่า​เขา​เป็น​คนชรา​อายุ​กว่า​ครึ่ง​ร้อย​ เขา​ยัง​เป็น​วรยุทธ์​ไม่น้อย​ทีเดียว​ แต่​เมื่อ​เห็น​เซียว​เยี่ยน​ลงมือ​ เขา​จึงได้​แต่​รับมือ​อย่าง​ลนลาน​อยู่​บ้าง​ ทาง​หนึ่ง​กลับ​สีหน้า​เปลี่ยนไป​พร้อมกับ​ตวาด​ว่า​ “เซียว​อี้​ เจ้าช่างดี​ยิ่งนัก​ เปิ่น​หวา​งเกือบ​หลงกล​เจ้าแล้ว​ ฮ่าวเอ๋อร์!”​

ถ่าซิงฮ่าว​ที่อยู่​ด้านนอก​ได้ยิน​เสียง​เรียก​ของ​อวิ๋น​หนาน​อ๋อง​ ใน​ใจรับรู้​ได้​ถึงลางร้าย​ จึงพุ่ง​กาย​เข้าไป​ใน​ห้อง​ เซียว​เยี่ยนยก​ฝ่ามือขึ้น​โจมตี​ทันที​ ผง​ยา​ที่​หลิน​ชิงเวย​เตรียม​ให้​เขา​ใน​แขน​เสื้อ​กระจาย​ตัว​ออก​ไป​ ใน​ผง​ยา​นั้น​ไม่เพียง​มีผง​กระดูกอ่อน​ ยังมี​ผง​เรืองแสง​และ​สาร​กำมะถัน​ที่​เป็น​เชื้อไฟ​ เขา​ยก​เท้า​ขึ้น​เตะ​เทียนไข​เล่ม​หนึ่ง​ข้าม​ไป​ เปลวเพลิง​ขนาดใหญ่​ลุก​ท่วม​ขึ้น​ใน​ชั่วพริบตา​ องครักษ์​ภายใน​เรือน​เหล่านั้น​ยัง​ไม่ทัน​ได้​ลงมือ​ตอบโต้​ หลังจาก​สูดดม​ผง​เรืองแสง​และ​กำมะถัน​เข้าไป​ได้​ก็​รับ​ความทุกข์ทรมาน​อย่าง​หนัก​ สาร​กำมะถัน​กำลัง​แผดเผา​อยู่​ภายใน​ร่างกาย​ของ​พวกเขา​ ส่งผล​ให้​ร่างกาย​ของ​พวกเขา​ถูก​แผดเผา​ทั้ง​ภายนอก​และ​ภายใน​ ชีพจร​ของ​พวกเขา​มีสิ่งของ​เหมือน​เปลวไฟ​กำลัง​วิ่ง​พล่าน​อยู่​ใน​นั้น​ มอง​ด้วย​ตาเปล่า​เห็น​เส้นเลือด​ของ​พวกเขา​ถูก​แผดเผา​จน​กลายเป็น​สีแดง​ราวกับ​เหล็ก​ถูก​ความร้อน​ ราวกับ​ต้องการ​แยก​เนื้อหนัง​ของ​พวกเขา​ออกมา​ทั้ง​มีชีวิต​ ช่างน่าสะพรึงกลัว​อย่าง​ที่สุด​

อวิ๋น​หนาน​อ๋อง​เห็น​เช่นนั้น​แล้ว​ทั้ง​ตื่นตระหนก​และ​หวาดกลัว​ เขา​ร้อง​ตะโกน​ “ฮ่าวเอ๋อร์! ​ซิงฮ่าว!”​

เพียงแต่​ยาม​นี้​ตัว​เขา​เอง​ยัง​เอา​ตัว​ไม่รอด​ เส้น​ไหม​สีทอง​ใน​มือ​ของ​เซียว​เยี่ยน​คมกริบ​ไม่สามัญ มัน​ดีดตัว​พุ่ง​เข้าหา​ลูกกระเดือก​ของ​อวิ๋น​หนาน​อ๋อง​ หลังจาก​มัน​รัด​รอบ​ลูกกระเดือก​แล้ว​มือ​ของ​เขา​ออกแรง​กระชาก​ ร่าง​ของ​อวิ๋น​หนาน​อ๋อง​หมุน​วน​กลางอากาศ​และ​ร่วง​ลง​สู่พื้น​ บน​ลำคอ​ของ​เขา​มีรอย​เลือด​เพิ่มขึ้น​มารอย​หนึ่ง​ ดวง​ตาขอ​งอ​วิ๋น​หนาน​อ๋อง​เบิก​กว้าง​และ​สิ้นลมหายใจ​

การ​โจมตี​สังหาร​เช่นนี้​ จำเป็น​จะต้อง​ปลิด​ชีพ​ใน​การ​โจมตี​เพียง​ครั้ง​เดียว​

ค่ำ​คืนนี้​พระราชวัง​ฤดูร้อน​ซึ่งเดิม​ถูก​ทอดทิ้ง​เกิด​เพลิง​ลุกไหม้​ คนตาย​และ​บาดเจ็บ​นับไม่ถ้วน​ เสียงร้อง​ด้วย​ความเจ็บปวด​ทุกข์ทรมาน​ดัง​ขึ้น​ทั่ว​ทั้ง​ภูเขา​เนิ่นนาน​ต่อเนื่อง​

หลิน​ชิงเวย​วิ่ง​เข้ามา​ทั้ง​หัว​หู​ใบ​หน้าดำ​ราวกับ​ถ่าน​ ตอนนี้​ทุกคน​ล้วน​หนี​เอาชีวิต​รอด​ ไม่มีผู้ใด​มีเวลา​ใส่ใจนาง​ เพียงแต่​นาง​ไม่แน่ใจ​ว่า​ทาง​ด้าน​เซียว​เยี่ยน​เป็น​อย่างไรบ้าง​ ด้วยเหตุนี้​ทั้งๆ ที่​รู้​ว่า​ทาง​ด้าน​นั้น​มีเปลวเพลิง​ลุกไหม้​ นาง​ก็​ยัง​วิ่ง​ไปหา​เซียว​เยี่ยน​

เซียว​เยี่ยน​วิ่ง​ไปหา​หลิน​ชิงเวย​อีก​ด้าน​หนึ่ง​ เขา​หา​นาง​ไม่เจอ​เช่นกัน​ เขา​ร้อนใจ​จน​ใกล้​เสียสติ​เมื่อ​หา​หลิน​ชิงเวย​ไม่พบ​ เขา​จึงวิ่ง​ย้อนกลับ​ไป​ทาง​เดิม​

หลิน​ชิงเวย​สวม​อาภรณ์​สีดำ​ทั้ง​ชุด​ ใบหน้า​เล็ก​ๆ ของ​นาง​ดำปี๋​ ดวงตา​ทั้งคู่​นั้น​กลอก​มอง​ไป​รอบ​ๆ ด้าน​ นาง​หอบ​หายใจ​อย่าง​หนัก​ ขณะที่​นาง​หันกลับ​ไป​จึงเห็น​ชายหนุ่ม​รูปร่าง​สูงใหญ่​ยืน​เหยียด​หลัง​ตรง​อยู่​ฝั่งตรงข้าม​ ด้านหลัง​ของ​เขา​เป็น​ทะเลเพลิง​ที่​กำลัง​ลุก​ท่วม​ เปลวไฟ​นั้น​แลบ​ติดกับ​ชาย​อาภรณ์​ของ​เขา​ ทว่า​มาไม่ถึงตัว​เขา​

เขา​ยืน​หันหลัง​ให้​แสง หลิน​ชิงเวย​มองเห็น​ใบหน้า​เขา​ไม่ชัด​นัก​ แต่​นาง​กลับ​จดจำ​เขา​ได้​ นาง​อ้า​ปาก​ทว่า​พูด​อะไร​ไม่ออก​แม้แต่​ประโยค​เดียว​ หัน​กาย​ได้​ก็​สาวเท้า​วิ่ง​เข้า​ไปหา​เขา​

ทั้งสอง​ต่าง​ถอด​หน้ากาก​หนัง​มนุษย์​ออก​โดย​มิได้​นัดหมาย​ หน้าอก​ของ​เซียว​เยี่ยน​กระเพื่อม​ขึ้น​ลง​ เขา​มอง​สตรี​ที่​วิ่ง​เข้ามา​หาตน​อย่าง​สุดกำลัง​ วินาที​นั้น​เขา​พลัน​รู้สึก​ราวกับ​มีสิ่งของ​บางอย่าง​เข้ามา​เติมเต็ม​จิตใจ​ของ​ตน​ เป็น​ของจริง​และ​กระแทก​เข้ามา​อย่าง​รุนแรง​ เต็มตื้น​กระทั่ง​รู้สึก​เจ็บปวด​ลึก​ๆ สิ่งที่​เอ่อล้น​ออกมา​นั้น​ถึงกับ​เป็น​ความอ่อนโยน​

ไม่รอ​ให้​หลิน​ชิงเวย​วิ่ง​เข้ามา​ใกล้​ แขน​ยาว​ๆ ของ​เขา​ตวัด​ครา​เดียว​ก็​รัด​ร่าง​ของ​นาง​เข้ามา​ใน​อ้อมกอด​อย่าง​อ่อนโยน​และ​แนบแน่น​

หลิน​ชิงเวย​หอบ​หายใจ​ครั้งแล้วครั้งเล่า​ นาง​กลับ​รู้สึก​เป็นสุข​และ​สงบ​อย่าง​ที่สุด​ นางแนบ​ร่าง​ไป​กับ​อ้อมกอด​ของ​เซียว​เยี่ยน​พร้อมกับ​หายใจ​ลึก​ๆ อ้า​ปาก​พูดงึมงำ​ด้วย​ความรู้สึก​สับสน​และ​ปวดใจ​ “เซียว​เยี่ยน​…เซียว​เยี่ยน​…”

เซียว​เยี่ยน​ลูบ​เส้น​ผม​ของ​นาง​แล้ว​ไม่เสียเวลา​อีก​ เขา​อุ้ม​ร่าง​ของ​นาง​ขึ้น​แล้ว​ทะยาน​กาย​ออก​ไป​อีก​ด้าน​หนึ่ง​ เขา​เหิน​กาย​ขึ้น​กลางอากาศ​ ปลายเท้า​แตะ​ชายคา​เรือน​ ในขณะที่​เขา​และ​หลิน​ชิงเวย​เหิน​กาย​ออก​ไป​ไกล​ หอ​ด้านหลัง​พลัน​ถล่ม​ลงมา​ท่ามกลาง​ทะเลเพลิง​

เซียว​เยี่ยน​พา​หลิน​ชิงเวย​มุ่งหน้า​ขึ้น​เขา​ เขา​หยุด​ลง​เมื่อ​ถึงปากทาง​ เส้นทาง​บน​ภูเขา​สาย​นี้​เดิมที​ถูก​ปิด​เอาไว้​ ก่อนหน้านี้​ห้ามไม่ให้​ผู้ใด​ขึ้น​มาบน​สุสาน​หลวง​โบราณ​หาก​ไม่ได้รับอนุญาต​จากอวิ๋น​หนาน​อ๋อง​ ด้วย​อวิ๋น​หนาน​อ๋อง​แจ่มแจ้งดี​เช่นกัน​ว่า​ภายใน​สุสาน​หลวง​โบราณ​แห่ง​นี้​มีอันตราย​มากมาย​

และ​บัดนี้​คน​ที่​ยัง​มีชีวิต​อยู่​ล้วน​วิ่งหนี​ลง​มาจาก​ภูเขา​ทั้งสิ้น​ ขอ​เพียง​ลง​จาก​ภูเขา​ได้​ก็​ถือว่า​ปลอดภัย​ ไม่มีใคร​คาดคิด​ว่า​ต้อง​หนี​ขึ้น​ภูเขา​แห่ง​นี้​

เซียว​เยี่ยน​หยุด​เมื่อ​ถึงปากทาง​ เขา​วาง​ร่าง​ของ​หลิน​ชิงเวยลง​ จาก​ใต้​ฝ่าเท้า​ของ​พวกเขา​ไป​จนถึง​สุสาน​หลวง​โบราณ​บน​ภูเขา​เป็น​ขั้นบันได​ที่​ถูก​หิมะ​ปกคลุม​จน​กลายเป็น​น้ำแข็ง​ ดู​คล้าย​บันได​เมฆที่​มองไม่เห็น​จุดสิ้นสุด​

หาก​ก้าวเดิน​บน​นั้น​ไม่ระวัง​ มีความเป็นไปได้​ว่า​จะลื่นล้ม​โดยง่าย​

คน​ทั้งสอง​ดวงตา​คู่​ใหญ่​จ้องมอง​ดวงตา​คู่​เล็ก​ ในที่สุด​ก็​มีเวลา​แล้ว​ หลิน​ชิงเวย​ลูบ​แขน​ของ​เซียว​เยี่ยน​ แล้ว​ลูบ​หน้าอก​ของ​เขา​ มือ​ขาว​ประดุจ​ต้น​หอม​ทั้งคู่​ไม่สงบนิ่ง​ หัว​คิ้ว​ของ​นาง​ขมวด​มุ่น​เล็กน้อย​ “เซียว​เยี่ยน​ ท่าน​เป็น​อย่างไรบ้าง​ เป็น​อะไร​หรือไม่​? ได้รับบาดเจ็บ​หรือไม่​?”

ฝ่ามือ​ใหญ่​ของ​เซียว​เยี่ยน​กุมมือ​เล็ก​ๆ ของ​นาง​อย่าง​ง่ายดาย​ ปลายนิ้ว​อบอุ่น​ของ​มือ​อีก​ข้าง​หนึ่ง​ลูบไล้​ใบหน้า​ของ​หลิน​ชิงเวย​ ลูบไล้​ร่องรอย​สีดำ​บน​ใบหน้า​ของ​นาง​ “ไฟลุก​ท่วม​ใหญ่โต​เพียงนั้น​ เจ้ายัง​กล้า​วิ่ง​ส่งเดช​ ไม่ใช่ให้​เจ้าหา​ปากทาง​แห่ง​นี้​แล้ว​ซ่อนตัว​รอ​ข้า​หรือ​?”

แววตา​ของ​เขา​นิ่ง​ลึก​ราวกับ​ทางช้างเผือก​ใน​สรวงสวรรค์​ที่​มีดาวตก​ลงมา​ส่อง​ประกาย​วิบวับ​ หลิน​ชิงเวย​สงบจิตสงบใจ​ได้​แล้ว​ ความกระวนกระวายใจ​ของ​นาง​ถูก​ท่าทาง​ของ​เขา​ปลอบโยน​ให้​สงบ​ลง​ นาง​กล่าวว่า​ “ข้างหลัง​มีคน​ตาม​ข้า​ สลัด​อย่างไร​ก็​สลัด​ไม่หลุด​ อีก​ทั้ง​องครักษ์​เพิ่มขึ้น​มากมาย​ถึงเพียงนั้น​ ข้า​เกรง​ว่า​ท่าน​จะปลีกตัว​ออกมา​ได้​ยาก​”

“หลิน​ชิงเวย”​ ครั้งนี้​เซียว​เยี่ยน​เพิ่งจะ​เรียกชื่อ​นาง​เต็ม​ยศอย่าง​เป็นทางการ​

“หืม?”​

“ข้า​มีอะไร​ดีกัน​แน่​? คู่ควร​ที่จะ​ทำให้​เจ้าไม่คำนึง​ถึงชีวิต​เช่นนี้​?” หลิน​ชิงเวย​ตกตะลึง​ ใน​น้ำเสียง​ของ​เซียว​เยี่ยน​เต็มไปด้วย​ความรู้สึก​สับสน​ เขา​เป็น​ถึงเซ่อ​เจิ้งอ๋อง​แห่ง​ราชวงศ์​ กลับ​รู้สึก​สับสน​ด้วย​ความรัก​ระหว่าง​หนุ่มสาว​? เซียว​เยี่ยน​โน้ม​กาย​ลง​เล็กน้อย​เขา​กอด​หลิน​ชิงเวย​เข้ามา​ใน​อ้อมกอด​แน่น​ๆ

หลังจาก​หลิน​ชิงเวย​หาย​ตกตะลึง​แล้ว​ นาง​ยิ้ม​จน​ดวงตา​ของ​นาง​โค้ง​ลง​พร้อมกับ​ยื่น​แขน​ทั้งคู่​ออก​ไป​กอด​เขา​เอาไว้​ ก่อนหน้า​ที่จะ​พบ​เซียว​เยี่ยน​ นาง​เป็น​คน​คำนึงถึง​ผลประโยชน์​ของ​ตนเอง​ก่อน​ผู้อื่น​เสมอ​ แต่​ผู้ใด​ใช้ให้​นาง​หลงรัก​เซียว​เยี่ยน​เล่า​ สิ่งที่​นาง​ต้องการ​มีไม่มาก​ นาง​กลัว​ตาย​เช่นกัน​ แต่​ขอ​เพียง​ได้​อยู่​ร่วมกับ​เขา​ก็​เพียง​พอแล้ว​

ดังนั้น​ใบหน้า​เล็ก​ๆ เลอะเทอะ​มอมแมม​ของ​นาง​ ทว่า​ดวงตา​คู่​นั้น​กลับ​สุก​สกาว​ด้วย​รอยยิ้ม​อัน​งดงาม​สุด​จะเปรียบ​

หลิน​ชิงเวย​ตอบ​พร้อมกับ​ยิ้ม​ตาหยี​ “หาก​ท่าน​ไม่ดี​ ไหน​เลย​จะมีสตรี​ทั้งเมือง​ซั่งจิงเอาแต่​คิดถึง​ท่าน​เล่า​ เพียงแต่​น่าเสียดาย​…น่าเสียดาย​นัก​ที่​ท่าน​กลับ​ถูก​ข้า​จับจอง​ไว้​แต่แรก​แล้ว​”

เซียว​เยี่ยน​จับมือ​หลิน​ชิงเวย​ คน​ทั้งสอง​เดิน​ขึ้น​บันได​หิมะ​ บน​ยอด​ภูเขา​นั้น​ปกคลุม​ไป​ด้วย​หิมะ​ที่​มีตลอดปี​ ครั้งนั้น​ได้ยิน​ว่า​เนื่องจาก​สถานที่​แห่ง​นี้​มีหิมะ​ปกคลุม​ตลอด​ทั้งปี​จึงถูก​เลือก​ให้​เป็น​สถานที่​สร้าง​สุสาน​หลวง​โบราณ​

เรื่อง​ข้างหลัง​ไม่เกี่ยวข้อง​กับ​พวกเขา​ หลิน​ชิงเวย​รับรู้​เพียง​เปลวไฟ​และ​เสียงร้อง​เหล่านั้น​ห่าง​จาก​ตัวนาง​ยิ่ง​ไกล​ออก​ไป​ ไม่รู้​ว่า​เดิน​อยู่​นาน​เท่าใด​ นาง​หยุด​ลง​แล้ว​หันหน้า​กลับ​ไป​มอง​ เห็น​เพียง​พระราชวัง​ฤดู​ร้อนที่​ถูก​ไฟไหม้​นั้น​เล็ก​จ้อย​เช่นนั้น​ และ​อากาศ​บน​ภูเขา​แห่ง​นี้​ยิ่ง​เหน็บ​หนาว​ขึ้น​

หลิน​ชิงเวย​กระชับ​อาภรณ์​บน​ร่าง​ของ​ตน​ พลัน​มีอาภรณ์​ตัว​หนึ่ง​คลุม​ลงมา​บน​ร่าง​ของ​นาง​ นาง​เงยหน้า​ขึ้น​มอง​ เป็น​เซียว​เยี่ยน​ปลด​เสื้อคลุม​ตัว​นอก​มาคลุม​ร่าง​ของ​นาง​

คิ้ว​ของ​หลิน​ชิงเวย​เต็มไปด้วย​หิมะ​ นาง​กระชับ​อาภรณ์​บน​ร่าง​ของ​ตน​และ​กล่าวว่า​ “เวลานี้​ข้า​ไม่เกรงใจ​ท่าน​แล้ว​ อากาศ​บน​ภูเขา​หนาวเย็น​จริงๆ​” ลมหนาว​สาย​หนึ่ง​พัดผ่าน​มา ฟัน​ของ​นาง​กระทบ​กัน​กึก​ๆ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด