ตื๊อรักแพทย์หญิง ฉบับท่านอ๋องเล่มที่ 10 บทที่ 290 แล้วแต่ลิขิตสวรรค์

Now you are reading ตื๊อรักแพทย์หญิง ฉบับท่านอ๋อง Chapter เล่มที่ 10 บทที่ 290 แล้วแต่ลิขิตสวรรค์ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

น้ำ​และ​สาร​กำมะถัน​ที่​ผสมผสาน​กัน​ร่วง​ลงมา​ไม่หยุด​ เมื่อ​ตก​ลงมา​บน​ร่างกาย​ทำ​ผิวกาย​บริเวณ​นั้น​ถูก​ลวก​จน​ผิวหนัง​ถลอก​ออก​ชั้นหนึ่ง​ หลิน​ชิงเวย​หันไป​มอง​เงาร่าง​ด้านหลัง​ของ​เซียว​เยี่ยน​ พื้นที่​นาง​ยืน​อยู่​กำลัง​สั่นสะเทือน​อย่าง​รุนแรง​ นาง​กล่าวว่า​ “หาก​รู้​แต่แรก​ว่า​เข้ามา​พร้อมกับ​ท่าน​แล้ว​ต้อง​เอาชีวิต​มาทิ้ง​…” เซียว​เยี่ยน​หันมา​มอง​นาง​จาก​จุด​ที่​ยืน​ห่าง​จาก​นาง​หลาย​ก้าว​ ราวกับ​ทั้งสอง​อาจ​ตาย​จากกัน​ได้​ทุก​วินาที​ หลิน​ชิงเวย​ยื่นมือ​มาทาง​เขา​และ​ร้อง​ตะโกน​ว่า​ “ข้า​ยังคง​ตัดสินใจ​เข้ามา​พร้อมกับ​ท่าน​! เซียว​เยี่ยน​ ท่าน​จะจับมือ​ของ​ข้า​ตลอดไป​ได้​หรือไม่​?”

แววตา​ของ​เซียว​เยี่ยน​เปล่งประกาย​วาบ​ เขา​เหิน​กาย​มาหา​นาง​ ระหว่าง​นั้น​เพดาน​ด้านบน​ถล่ม​ลงมา​เป็น​หลุม​หลุม​หนึ่ง​ ลูก​เหล็ก​น้ำหนัก​กว่า​พัน​ชั่งกลิ้ง​ลงมา​ตก​ใส่จุด​ที่​หลิน​ชิงเวย​และ​เซียว​เยี่ยน​ยืน​อยู่​จน​กลายเป็น​หลุม​ขนาดใหญ่​

ต่อมา​อีก​เนิ่นนาน​จึงได้ยิน​เสียงสะท้อน​ดังก้อง​ข้างใต้​หลุม​นั้น​มีเพียง​ความ​มืดมิด​ เซียว​เยี่ยน​และ​หลิน​ชิงเวย​มอง​ลง​ไป​ข้างล่าง​ ระหว่าง​ที่​เปลวเพลิง​กำลัง​ลุกลาม​เข้ามา​ส่อง​ให้​เห็น​หลุมดำ​ข้างล่าง​เป็น​เวิ้ง​กว้าง​สุด​จะเปรียบ​ ราวกับ​มีเสาเหล็ก​ขนาดใหญ่​หลาย​ท่อน​รับ​น้ำหนัก​ของ​สุสาน​หลวง​โบราณ​ทั้งหมด​อยู่​เบื้องล่าง​สุด​

สุสาน​หลวง​โบราณ​แห่ง​นี้​ก่อสร้าง​ตาม​แนว​เทือกเขา​ ได้​เลือกเฟ้น​จุด​ที่​เป็น​เส้นเลือด​มังกร​ เสาเหล็ก​หลาย​ท่อน​นี้​ล้วน​ฝังลง​อย่าง​มั่นคง​บน​จุด​เส้นเลือด​มังกร​ ไม่แปลกที่​หลาย​ปี​มานี้​จึงตั้ง​ตระหง่าน​มั่นคง​โดย​ไม่ล้ม​ครืน​ลงมา​

เซียว​เยี่ยน​พูด​ชิด​ริ​มหู​หลิน​ชิงเวย​ด้วย​น้ำ​เสียงทุ้ม​ต่ำ​ทว่า​รื่นหู​ยิ่งนัก​ “จะก้าว​ข้าม​น้ำพุ​เหลือง​ไป​ได้​หรือไม่​ คง​ต้อง​แล้วแต่​ลิขิต​สวรรค์​ กระโดด​เถิด​”

หลิน​ชิงเวย​พลัน​นึกถึง​เมื่อ​แรก​ที่​นาง​มาหา​เซียว​เยี่ยน​ถึงเมือง​ผิง​หลั่ง​ ทั้งสอง​คน​ถูก​ไล่ล่า​สังหาร​ กระทั่ง​หมดหนทาง​หนี​ มีเพียง​ทะเล​หิมะ​ขาวโพลน​เบื้องหน้า​ เวลา​นั้น​นาง​พูด​กับ​เขา​ว่า​กระโดด​เถิด​

บัดนี้​เมื่อ​เผชิญ​กับ​ความมืด​ดำ​ และ​ไม่มีหนทาง​ให้​หนี​ต่อไป​อีก​ได้​เช่นกัน​ ไม่อาจ​แน่ใจ​ได้​ว่า​จะรอด​หรือ​ตาย​ เขา​กลับ​พูด​กับ​นาง​ว่า​กระโดด​เถิด​

นี่​คง​เป็นความ​เชื่อใจ​ที่​ต่าง​ฝ่าย​ต่าง​มีให้​กัน​จึงทำให้​บังเกิด​ความรู้สึก​ว่า​ไม่ว่า​อย่างไร​ก็​ไม่เป็นไร​ หาก​สวรรค์​ต้องการ​ให้​พวกเขา​ตาย​ เช่นนั้น​ขอ​เพียง​ให้​พวกเขา​ตาย​ด้วยกัน​เป็น​พอ​

ดังนั้น​จะรอด​หรือ​ตาย​ล้วน​สุดแต่​ลิขิต​สวรรค์​

หลิน​ชิงเวย​รู้สึก​ว่า​ร่างกาย​ของ​ตน​เบาหวิว​ นาง​ถูก​เซียว​เยี่ยน​โอบ​เข้ามา​ใน​อ้อมกอด​ แผ่น​หลัง​ของ​นาง​แนบชิด​ไป​กับ​แผง​อก​อัน​กว้างใหญ่​ของ​เขา​ นาง​รู้สึก​ปลอดภัย​อย่าง​ที่สุด​ แม้ร่าง​ของ​นาง​กำลัง​ร่วงหล่น​ลง​ไป​ใน​บ่อ​ลึก​อัน​ดำมืด​ไม่เห็น​ก้น​นั้น​

หลิน​ชิงเวย​จำได้​ว่า​นาง​ถามขึ้น​ประโยค​หนึ่ง​ “เซียว​เยี่ยน​ ท่าน​รัก​ข้า​หรือไม่​?”

เซียว​เยี่ยน​ไม่ได้​ตอบ​นาง​ เพียงแต่​จุมพิต​ลง​ริ​มหู​นาง​เบา​ๆ ให้​คำตอบ​อัน​ไร้​สุ้มเสียง​แก่​นาง​

ต่อมา​สิ่งที่​ต้อนรับ​นาง​ก็​คือ​ความ​หนาวเย็น​ไร้​ที่​สิ้นสุด​ ความรู้สึก​ชนิด​นั้น​เสียดแทง​เข้ามา​ใน​กระดูก​ของ​นาง​ มัน​บาด​ลึก​เข้ามา​ถึงจิตใจ​ นอกจาก​รู้สึก​เจ็บปวด​และ​หนาวเหน็บ​แล้ว​ ดูเหมือน​ไม่มีความรู้สึก​อย่าง​อื่น​อีก​ ร่างกาย​ตก​อยู่​ใน​ความ​สับสนวุ่นวาย​ ไม่รู้อยู่​แห่งหน​ใด​

และ​ไม่รู้​ว่า​ตนเอง​มีชีวิตรอด​หรือ​ตาย​

ต่อมา​ นาง​อยู่​ท่ามกลาง​หมอก​ควัน​พลัน​ได้ยิน​เสียง​คน​เรียก​นาง​ “หลิน​ชิงเวย​ เจ้าตื่นขึ้น​มาเดี๋ยวนี้​นะ​!”

เสียง​ฝีเท้า​ดัง​ขึ้น​รอบด้าน​ หลิน​ชิงเวย​มอง​ไป​รอบ​ๆ นอกจาก​ความมืด​แล้ว​กลับ​มองไม่เห็น​อะไร​ นาง​หา​ทิศทาง​ไม่เจอ​ ไม่รู้​ว่า​ควรจะ​เดิน​ไป​ข้างหน้า​หรือ​เดิน​กลับ​ไป​

ครั้งนี้​เสียง​ฝีเท้า​นั้น​เข้ามา​ใกล้​นาง​ยิ่งขึ้น​ ใกล้​กระทั่ง​อยู่​เบื้องหน้า​ บน​ข้อมือ​ของ​นาง​รับรู้​ได้​ถึงสัมผัส​อบอุ่น​เย็นสบาย​ ทำให้​นาง​มีปฏิกิริยา​โต้ตอบ​และ​ลืมตา​ขึ้น​ทันที​ ชิงห​ลัน​ที่อยู่​ใน​อ้อมกอด​ของ​นาง​พลัน​ตื่นขึ้น​ตาม​นาง​ มัน​กำลัง​ขดตัว​อยู่​บน​หัว​เตียง​แยกเขี้ยว​ใส่ผู้คน​

มีคน​นั่ง​อยู่​ริม​เตียง​หลิน​ชิงเวยคน​หนึ่ง​ คน​ผู้​นี้​กำลัง​วาง​นิ้วมือ​ลง​บน​จุด​ชีพจร​ของ​นาง​เพื่อ​ตรวจ​ชีพจร​ ไหน​เลย​จะคิด​ว่า​หลิน​ชิงเวย​จะลืมตา​ขึ้น​อย่าง​กะทันหัน​ จึงตื่นตระหนก​อยู่​บ้าง​ อีก​ทั้ง​ชิงห​ลัน​ยัง​ปรากฏ​กาย​ขึ้น​มา ท่าน​หมอ​ผู้​นั้น​ไหน​เลย​จะเคย​พบเห็น​งูใน​ฤดูหนาว​เช่นนี้​ จึงตกใจ​จน​ล้ม​ลง​บน​พื้น​ทันที​

ท่าน​หมอ​พูด​ตะกุกตะกัก​ “แม่ แม่นาง​เพียงแต่​ร่างกาย​ ร่างกาย​อ่อนแอ​…เท่านั้น​ นอกจากนั้น​แล้ว​ไม่มีอะไร​น่าเป็นห่วง​…”

ภายใน​เรือน​ยังมี​กู้​หมิง​เฟิ่งอยู่​ด้วย​ เมื่อ​นาง​เห็น​หลิน​ชิงเวย​ตื่นขึ้น​แล้ว​ ดวงตา​พลัน​วูบ​ไหว​ เป็น​นาง​ที่​พา​ท่าน​หมอ​เข้ามา​

หลิน​ชิงเวย​รู้สึก​ไม่ค่อย​สบาย​เนื้อ​สบาย​ตัว​นัก​ ร่างกาย​ของ​นาง​อ่อน​ยวบ​ มือ​และ​เท้า​ทั้ง​สี่รู้สึก​เย็นเยียบ​ แต่​นาง​กระจ่างแจ้ง​ดี​ว่า​นี่​คือ​ความรู้สึก​ของ​คน​ที่​ยัง​มีชีวิต​อยู่​ นาง​สูด​ปาก​ครั้งหนึ่ง​และ​กล่าว​ยิ้ม​ๆ “ลำบาก​ท่าน​หมอ​แล้ว​”

ท่าน​หมอ​รีบ​ลุกขึ้น​และ​ออก​ไป​ กู้​หมิง​เฟิ่ง “แม่นาง​ฟื้น​แล้ว​ ดี​เหลือเกิน​”

หลิน​ชิงเวย​มอง​ขึ้นไป​เพดาน​ของ​เตียง​ รับรู้​ได้​ว่า​ที่นี่​ยังคง​เป็น​คฤหาสน์​ที่​แม่ทัพ​เฉิน​จัด​ให้​พำนัก​ นาง​ยังคง​พัก​อยู่​ห้อง​เดิม​จึงถามขึ้น​ว่า​ “ข้า​นอนหลับ​ไป​นาน​แค่​ไหน​?”

กู้​หมิง​เฟิ่ง “แม่นาง​นอนมา​หก​วัน​แล้ว​”

“หก​วัน​! เป็นเวลา​ค่อนข้าง​นาน​จริงๆ​” หลิน​ชิงเวย​เอียง​หน้า​มามอง​นาง​ “เซียว​เยี่ยน​เล่า​? เขา​สบายดี​หรือไม่​?”

กู้​หมิง​เฟิ่ง “แม่นาง​โปรด​วางใจ​ เซ่อ​เจิ้งอ๋อง​ไม่ได้​เป็น​อะไร​มาก​ เซ่อ​เจิ้งอ๋อง​รู้​ว่า​แม่นาง​ได้รับ​บาดเจ็บสาหัส​ ทั้ง​ยัง​ได้ยิน​ว่า​ด้าน​หนึ่ง​ของ​ภูเขา​ลึก​ มีห​ลิง​จือ​ซึ่งเป็น​ยา​มหัศจรรย์​ จึงออก​ไปหา​ตั้งแต่​ฟ้ายัง​ไม่สาง”

หลิน​ชิงเวย​คิด​จะลุกขึ้น​ เพียงแต่​ทันทีที่​นาง​ขยับ​ร่างกาย​กลับ​รู้สึก​เจ็บปวด​ไป​ทั้งตัว​ นาง​ขมวดคิ้ว​ “เขา​ออก​ไป​คนเดียว​? หาก​พบ​กับ​อันตราย​อัน​ใด​เล่า​…”

กู้​หมิง​เฟิ่ง “ท่าน​อ๋อง​ขึ้น​เขา​ไป​พร้อมกับ​คน​เก็บ​สมุนไพร​ของ​ที่นี่​ ท่าน​อ๋อง​มีวรยุทธ์​สูงส่ง น่าจะ​ไม่เกิดเรื่อง​อัน​ใด​ขึ้น​”

“เช่นนั้น​ทาง​ด้าน​อวิ๋น​หนาน​อ๋อง​เล่า​?”

“เรื่องราว​ล้วน​ได้รับ​การ​คลี่คลาย​แล้ว​ พระราชวัง​ฤดูร้อน​ถูก​เผา​จน​กลายเป็น​ซากปรักหักพัง​ สุสาน​หลวง​โบราณ​ถล่ม​ลงมา​และ​จมลง​ใน​หุบเขา​ คืน​นั้น​ภูเขา​และ​พื้นดิน​ใน​รอบ​รัศมี​สิบ​ห​ลี่​ล้วน​สั่นสะเทือน​ ราวกับ​ภูเขา​และ​แผ่นดิน​แยก​ออก​จากกัน​ เปลวไฟ​และ​สาร​ต่างๆ​ ล้วน​ไหล​ไป​รวมตัว​อยู่​ใน​หุบเขา​ ข้างใน​มีโครงกระดูก​เป็นกอง​ภูเขา​ ข้า​และ​แม่ทัพ​พา​คน​ขึ้นไป​ตรวจตรา​ทั้ง​ภูเขา​ ไม่เห็น​แม่นาง​และ​ท่าน​อ๋อง​ หลังจาก​สุสาน​หลวง​โบราณ​ถล่ม​ลงมา​จึงปรากฏ​ให้​เห็น​แม่น้ำ​ดำ​ที่อยู่​เบื้องล่าง​ พวกเรา​จึงพา​กัน​ตามหา​ไป​ตาม​แม่น้ำ​ด้วย​ความหวัง​อัน​ริบหรี่​ ในที่สุด​ก็​หา​ท่าน​อ๋อง​และ​แม่นาง​พบ​ ครั้งนี้​ทาง​ด้าน​อวิ๋น​หนาน​บาดเจ็บ​ล้มตาย​และ​เสียหาย​อย่าง​หนัก​ พวกเรา​พบ​ศพ​ที่​มีลักษณะ​คล้ายคลึง​กับ​อวิ๋น​หนาน​อ๋อง​ใน​กอง​ปรักหักพัง​ของ​พระราชวัง​ฤดูร้อน​ แต่​คน​ส่วนน้อย​ที่​หนีรอด​ได้​เดินทาง​ออกจาก​ชายแดน​ไป​ใน​กลางดึก​”

หลิน​ชิงเวย​ฟังแล้ว​อดที่จะ​พรู​ลมหายใจ​ออกมา​ไม่ได้​ กู้​หมิง​เฟิ่งมองออก​ไป​ข้างนอก​แล้ว​หัน​กลับมา​กล่าว​กับ​หลิน​ชิงเวย​ว่า​ “แม่นาง​ ท่าน​อ๋อง​กลับมา​แล้ว​”

มาตรว่า​ฤดูหนาว​ของ​ปี​นี้​หนาว​กว่า​ทุกๆ​ ปี​ที่ผ่านมา​ คิดไม่ถึง​ว่า​เมือง​ผิง​หลั่ง​ที่​มีเทือกเขา​โอบล้อม​และ​คอย​บดบัง​ลมหนาว​จะเริ่ม​มีหิมะ​ตก​ลงมา​แล้ว​เช่นกัน​

ประตู​หน้าต่าง​ปิด​สนิท​ แต่​หลิน​ชิงเวย​เห็น​เกล็ด​หิมะ​ที่​กำลัง​ตก​อยู่​ด้านนอก​ ผ่าน​ผ้า​โปร่ง​ของ​ม่าน​หน้าต่าง​ นาง​ถามกู้​หมิง​เฟิ่ง “ข้างนอก​มีหิมะ​ตกหนัก​เช่นนั้น​หรือ​?”

กู้​หมิง​เฟิ่งตอบ​ “ใช่แล้ว​ เป็นเวลา​หลาย​ปี​มาแล้ว​ที่​ไม่ได้​มีหิมะ​ตกหนัก​เช่นนี้​”

เซียว​เยี่ยน​เดิน​เข้ามา​ใน​เรือน​ยาม​นี้​เอง​ ฝีเท้า​ของ​เขา​มั่นคง​และ​สุขุม​ ชาย​อาภรณ์​ปลิว​พลิ้ว​เล็กน้อย​ตาม​ท่วงท่า​การ​เดิน​ของ​เขา​ เขา​ยังคง​เหมือนเดิม​ สวม​อาภรณ์​สีม่วง​ทั้ง​ชุด​ ด้านนอก​ของ​อาภรณ์​คลุม​ด้วย​ผ้าคลุมไหล่​สีดำ​ ยาม​นี้​บน​ผ้าคลุมไหล่​สีดำ​เต็มไปด้วย​หิมะ​สีขาว​

เขา​เดิน​ฝ่าสาย​ลมหนาว​และ​หิมะ​ บน​เส้น​ผม​ดำขลับ​ราวกับ​น้ำหมึก​มีหิมะ​อยู่​ด้วย​เช่นกัน​ ขับ​ให้​คิ้ว​ตา​ของ​เขา​ยิ่ง​ชวนมอง​และ​คมสัน​ขึ้นไป​อีก​ ดวงตา​เรียว​รูป​หงส์​นั้น​นิ่ง​ลึก​

เมื่อ​เซียว​เยี่ยน​เดิน​ขึ้น​บันได​หน้า​ประตู​ กู้​หมิง​เฟิ่งได้​ออก​ไป​ต้อนรับ​แล้ว​ “ท่าน​อ๋อง​”

เซียว​เยี่ยน​พยักหน้า​เล็กน้อย​ “นาง​เล่า​? นอน​หลับสนิท​ดี​หรือไม่​?”

“แม่นาง​ฟื้น​แล้ว​”

แววตา​ของ​เซียว​เยี่ยน​ไหว​วูบ​ พลัน​ได้ยิน​เสียง​อัน​ดังก้อง​ของ​เฉินเหยียนจือ​ที่​ดัง​ขึ้น​จาก​ด้านนอก​ในเวลานี้​ “หมิง​เฟิ่ง เจ้ารีบ​ออกมา​เร็ว​เข้า​ เซ่อ​เจิ้งอ๋อง​นำ​ห​ลิง​จือ​กลับมา​มากมาย​ หา​ได้​ยาก​นัก​!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด