ถนนสู่อาณาจักร – Oukoku e Tsuzuku Michi 228 ลมพัด

Now you are reading ถนนสู่อาณาจักร – Oukoku e Tsuzuku Michi Chapter 228 ลมพัด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 

 

–มุมมองบุคคลที่สาม–

แวนโดเลีย เมืองหลวง: แวนโดล่า

「อิซาลิตุส…… และคาเชการ์ดด้วยเรอะ!?」

「มันถูกฝังใต้ภูเขาเถ้าถ่านที่สูงกว่าคนเราเลยเข้าใกล้ไม่ได้ด้วยซ้ำ!」

「ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเลยเหรอนี่!? ฉันไม่สนว่าใคร แค่เอาคนนั้นมาที่นี่เพื่อให้คนนั้นบอกสถานการณ์ฉันได้」

「คือว่า ไม่มีใครจากเมืองหนีได้…… เรามีแค่คำให้การของพ่อค้าเร่ที่ดูอะไรที่เกิดขึ้นจากไกลๆ」

คนที่เข้ารวมการประชุมของคนแวนโดเลียล้อมแผนที่หน้าตาตะลึง

เมืองบนแผนที่พองด้วยหมึกตอนพวกเขาฟังรายงานจับใจความไม่ได้

เมื่อพวกเขาได้ยินว่าไฟปะทุจากภูเขาดาร์ด อย่างแรกที่พวกเขากังวลนั้นเกี่ยวกับเหล่าทหารที่หนึ่งและสองที่ป้องกันการโจมตีอยู่ที่ตีนเขา

แต่เมื่อเวลาผ่านไป พวกเขาเริ่มได้ยินรายงานเกี่ยวกับความเสียหายอย่างหนักมากขึ้นเรื่อยๆ

「เคล่าด้วย……?」

「อูรันเดเมืองที่มี 20,000 คน ไม่มีแม้แต่คนเดียวที่รอดชีวิตเลยเหรอ!?」

「เมืองและคนไม่สำคัญตอนนี้! เกิดอะไรขึ้นกับกองทัพที่สู้อยู่ตรงพรมแดนเล่า!?」

「แกโง่หรือไงกันวะ? อูรันเดที่แม่งห่างไป 30 กิโลเมตรยังตายหมด มันแน่นอนว่าไม่มีคนรอดชีวิตเมื่อเขาสู้กันตรงตีนเขา!」

「พูดอะไรวะ!? ไอ้ขี้แพ้!」

「หุบปากเลยไอ้ไร้ควาสามารถเดี๋ยวกูจะชำระบาปมึงเสีย!」

ในที่สุดพวกเขาก็เริ่มตีกัน

「พวกแกจะหยุดมั้ยวะไอ้โง่สองคน!? ……ถ้าเราคิดเกี่ยวกับมันในหลักความเป็นจริงกองทัพน่าจะสูญหายไปและกองทัพชั่วคราวที่แต่งไปเป็นกำลังเสริมก็น่าจะไปหายไปด้วย…… เราเสียกองทัพส่วนใหญ่เราหมดแล้ว」

ทุกคนห่อไหล่ผิดหวัง

แวนโดเลียสูญเสียกำลังเนื่องจากกองทัพนั้นตั้งโดยใส่หน่วยฝีมือฉมังคู่กับคนรอดชีวิตเหล่าสาม

「ต-แต่กองกำลังอัลแตร์ก็ควรจะถูกกวาดล้างไปด้วยเหมือนกัน ถ้าเรารีบจัดระเบียบกองทัพ……」

「ไม่ได้ อัลแตร์ไม่เคยสู้โดยใช้ทหารฝีมือฉมังพวกเขาแค่ให้ชาวนาพุ่งใส่เราด้วยหอก…… พวกเขาน่าจะรวมกองกำลังได้เร็วกว่าเราทำ」

「นี่ควรค่อนข้างเป็นวิกฤติกับพวกเขาแล้ว นายคิดว่าพวกเขาจะรุกรานต่อมั้ย?」

ทุกคนคิดและข้อสรุปคือ ‘ใช่’

「พวกเขามันเพี้ยน อะไรก็เกิดขึ้นได้」

「พวกเขาน่าจะไม่เคลื่อนไหวตอนนี้ แต่มันเป็นไปได้ที่พวกเขาอ้อมไปเหนือหรือใต้เมื่อภูเขาเงียบแล้ว」

「นอกจากนี้โกลเนียก็ยืนยึดหลักเพื่อบางอย่างใหญ่โต ความเป็นไปได้ที่พวกเขาจะท่วมมาจากทางเหนือก็……」

คนที่ทำหน้าที่เป็นคนกลางตบมือ

「อย่างแรกเราควรรวมทหารเข้าด้วยกันก่อนเราทำอะไรได้ เราจะเกณฑ์คนแน่นอน แต่เราก็เอาผู้หญิงผู้ใหญ่ด้วย เกณฑ์พลเมืองทุกคนจาก 16 ถึง 45」

「เราไม่มีทางเลือกสินะ」

「ถ้าเราผ่านสถานการณ์นี้ไปไม่ได้ประเทศจะจบเห่」

หลังจากถึงข้อสรุปสายตาทุกคนมองที่จุดเดียว

คนที่กลายเป็นคนที่ดูแลการปรึกษาจนถึงตอนนี้นิ่ง แต่เป้าหมายพวกเขาครั้งนี่คือชายแก่ที่ไม่ได้พูดอะไรสักคำตั้งแต่การประชุมเริ่ม

「ม-มีอะไร……?」

「สหายเบลเลส  กองทัพ 15 000 คนที่ส่งไปโกลโดเนียมีค่ายิงกว่าอัญมณี สถานการณ์จะต่างกันถ้าเรามีพวกเขาพร้อมใช้ตอนนี้」

ชางแก่เอียงไปข้างหลังจากแรงกดดันที่เขารู้สึก แต่พยายามกลับขึ้นมานำการคุยโดยการตะโกนอย่างดัง

「กูจะรู้ได้ยังไงวะว่าภัยพิบัติจะเกิดขึ้นกับดาร์ด!? มันเป็นแผนที่ดีที่สุดที่ทำได้ตอนนั้น!!」

「แต่ในท้ายที่สุด พวกเขาหายไปในเถ้าถ่านไง! พวกเขาเสือกไปสู้ศึกไร้ความหมาย ไม่เหมือนกองทัพที่สู้กับอัลแตร์ และหนำซ้ำยังทำให้โกลโดเนียเป็นศัตรูเราอีก」

「ต-แต่โกลโดเนียมองพวกเขาเป็นทหารหนีทัพนี่……」

「ไม่ใช่พวกแม่งรุกลึกเข้าดินแดนเราแล้วเพราะแม่งไม่เชื่อหรือไงกันวะ!?」

ปัญหาที่สุดท้ายแก้ไม่ได้ของการประชุมคนก่อนที่ภูเขาดาร์ดพ่นไฟคือจะรับมือกับกองทัพฮาร์ดเลตต์ที่เคลื่อนที่มาจากทางใต้อย่างไร

เพราะกองกำลังหลักทุ่มเทอยู่กับการสู้อัลแตร์ พวกเขาหาทหารมาแบ่งไม่ได้สักคนเพื่อป้องกันการโจมตีจากเขา

ควรจะไม่มีทางเลือกนอกจากใช้แผนเคลื่อนทัพทหารชาวนาหลายหมื่นเพื่อซื้อเวลา

「น-นั่นน…… อ-อืม มันถูกเห็นด้วยโดยตัวแทนผู้คน ฉันไม่ได้รับผิดชอบคนเดียว」

คนกลางกระแทกกระดาษหนึ่งแผ่นหน้าชายแก่

「มันเขียนไว้ว่าตัวแทนไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ทั้งหมดนี้เป็นการตัดสินใจของเบลเลส มีอะไรจะพูดมั้ย?」

ความสุภาพหายไปจากน้ำเสียงคนกลาง

คนที่อยู่ทั้งหมดมีหน้าตามืดมน

「ป-เป็นไปไม่ได้! ฉันได้การตกลงจากตัวแทนอย่างแน่นอน! ฉันถูกบอกว่าทำเหมือนที่ฉันอยากทำได้เลย!」

「ไม่มีการแจ้งอย่างเป็นทางการหรือการเตือนมาหาเราเลย ดังนั้นเราเชื่อแกได้ยังไง!? ทั้งหมดที่แกมีเป็นแค่กระดาษชิ้นเดียว…… นั่นแหละหมดแล้ว」

ชายแก่รับเอกสารหน้าเขาและอ่านมัน

「ไม่มีการเห็นด้วยจากตัวแทนคนสำหรับการรุกรานโกลโดเนีย มันเป็นการตัดสินใจโดยผู้แทนผู้คนเบลเลส…… แกพูดเรอะ? ช่างไร้สาระ! ตัวแทน ตัวแทน!」

คนของการประชุมจับชายแก่และกดเขาลงขณะเขาซีดและพยายามวิ่งหนี

「ยาม เอาเขาไป! เขาเป็นศัตรูขอผู้คน!」

「ไม่ใช่แล้วโว้ย! ในตอนนั้นกูได้การตกลงจากตัวแทนแล้วแน่นอน! ตัวแทนนนนนนนน!!」

ชายแก่ร้องดังไปทิศทางห้องทำงานตัวแทนแม้ขาเขาถูกจับโดยยามและดึงไป

「หนึ่งในมะเร็งของแวนโดเลียหายไปแล้ว….. แต่ชาติเรายังเกือบไม่รอดด้วยโรคภัยร้ายแรง ฉันจะอยากให้สมาชิกทุกคนที่นี่ทำงานเหมือนชีวิตขึ้นอยู่กับมัน」

ในที่คนที่พยักหน้า ชายคนหนึ่งพึมพำในเสียงเบา

「เถ้าถ่าน…… จะไม่หยุด」

เถ้าถ่านลอยหล่นไม่จบสิ้นเป็นกองหิมะไม่ละลาย

 

 

สหพันธรัฐโอลก้า ศึกล้อมเมืองสีขาว แคมป์กองทัพจักรวรรดิ

「ถ้าอย่างนั้นนี่เป็นเมืองสีขาว…… เป็นเมืองที่สวยอะไรเช่นนี้」

แซพเนสพูดเบาๆขณะเขามองดูกำแพงปราสาทสีขาวครีมระหว่างข้ามแม่น้ำเทียรี่เหนือและลงไปอยู่ฝั่งตะวันออกของเมืองสีขาว

「ฉันได้ยินมาว่าเมืองหลวงการ์แลนด์มีคนเยอะกว่า…… แต่ไม่มีอะไรเป็นคู่แข่งกำแพงมโหฬารนี้ได้」

ลูกน้องเขาก็ตั้งใจมองกำแพง

ไม่มีอะไรอื่นขวางทางแซพเนสหลังจากเขากำจัดกองกำลังหลักสหพันธรัฐในศึกใกล้ดินแดนอัลเบนและในที่สุดเขาก็มาเมืองสีขาวได้อย่างปลอดภัย

ในทางกลับกัน กองเรือนำโดยเซกริดเอาชนะกองเรือแม่น้ำสหพันธรัฐแบบนำโด่งและได้รับความเหนือกว่าทางน้ำ

มันกลายเป็นเป็นไปได้ที่จักรวรรดิจะลงพื้นบนท่าทางเหนือของแม่น้ำได้อย่างอิสระหลังจากได้รับความเหนือกว่าบนน้ำ ทำให้พวกเขาดันกองกำลังสหพันธรัฐที่ต่อต้านอย่างสิ้นหวังในบริเวณถอยไปและล้อมเมืองสีขาวจากทุกด้านยกเว้นตะวันออก

「งั้นพวกเขาจะไม่ทิ้งเมืองหลวงเหรอ?」

「ใช่ครับ จากนักโทษสงคราม มันดูเหมือนพวกเขามีเจตนาสู้จนตาย จักรพรรดิจัตแลนด์ที่สองก็ยังอยู่ในเมืองสีขาวด้วย」

แซพเนสยิ้มพออกพอใจ

「นั่นดี นั่นหมายถึงศึกสรุปได้เมื่อเมืองสีขาวพ่ายแพ้」

สหพันธรัฐโอลก้าเป็นสถานที่ใหญ่ ใหญ่มากกว่าจักรวรรดิในเรื่องของบริเวณอย่างเดียวเยอะแม้ว่ามีหลายที่ที่อยู่อาศัยไม่ได้

「ไม่สำคัญว่ากองทัพเราใหญ่แค่ไหน เราค้นหาดินแดนทุกซอกทุกมุมของสหพันธรัฐไม่ได้ เราต้องให้พวกเขายอมแพ้」

มันปลอดภัยถ้าพูดว่ากองทัพจักรวรรดิที่เดินหน้าอยู่ได้เปรียบอย่างท่วมท้นด้วยการควบคุมท่าน้ำเหนือและใต้

อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่ได้ไปถึงเขตทางเหนือไกลๆข้ามแม่น้ำไปและมันต้องการเป็นปีๆเพื่อจะไล่ถ้าสหพันธรัฐหนีไปไกลขึ้นเรื่อยๆ

「ถ้าเราขยี้เมืองสีขาวเสีย เราอาจสามารถจบศึกได้ในเดือนนี้」

แซพเนสหัวเราะอย่างเต็มอกกับข้อเสนอลูกน้องเขา

「ถ้าเราทำนั่นได้ เราจะได้รับรางวัลที่ยิ่งใหญ่จากพระองค์ องค์จักรพรรดิ นายและฉันจะถูกให้ความบันเทิงด้วยสาวซิง 100 คน」

หลังจากหัวเราะเบาๆเร็วๆ ความจริงจังกลับเข้าหน้าแซพเนส

「กำแพงขนาดยักษ์…… มันอาจตีไม่ได้ถ้ากองทัพฉันอยู่ในยุคหินที่ปืนใหญ่ไม่มีตัวตนและเราจะทำอะไรไม่ได้สักอย่างนอกจากภาวนา ยังไงก็ตามตอนนี้มันไม่ได้เป็นอะไรเลยนอกจากเป้าใหญ่」

「ท่านพูดถูกต้องที่สุดท่านผู้นำ มาเรียงปืนใหญ่ทั้งหมดที่เรามีและเป่ากำแพงลงเถอะ」

แซพเนสไม่ได้มีแค่ปืนใหญ่จักรวรรดิอย่างเดียวเท่านั้น เขาก็ยังมีปืนใหญ่มากมายที่ยึดได้จากสหพันธรัฐหลังจากเปิดศึกกันนับครั้งไม่ถ้วนด้วย

ถ้าเขารวมมันละยิงมันทั้งหมดทีเดียว มันคิดไม่ได้ว่ากำแพงหินที่ไม่ว่าจะสูงและทนแค่ไหนจะทนแรงกระแทกได้ไหว

「มาทำการโจมตีแรกก่อนเถอะ ให้ทหารทาสทั้งหมดยกเว้นพลปืนใหญ่โจมตีด้วยทุกอย่างที่มี สงครามจะจบถ้าเราตีเมืองสีขาวแตกได้ มันอาจทำให้พระองค์ไม่พอใจถ้าเราทำพลาดและปล่อยอะไรสักอย่างตั้งอยู่」

ทหารทาสที่รวมกันจากหลายประเทศและคนที่ต่อต้านจักรวรรดิถูกคิดว่าทิ้งได้ อย่างไรก็ตามมันไม่ได้หมายถึงพวกเขาจะสู้เต็มที่แม้ว่าถูกขู่ด้วยปืนธนูจากข้างหลัง

ซึ่งนั่นคือทำไมจักรพรรดิประกาศว่าทหารทาสที่รอดศึกสองครั้งจะถูกดูแลพร้อมครอบครัวให้เป็นพลเมืองธรรมดา

ไม่มีใครอยากทำเหมือนทาสเป็นพลเมืองธรรมดา

แต่จักรพรรดิเองประกาศดังนั้นมันเปลี่ยนการตัดสินใจโดยไม่มีอำนาจเขาไม่ได้ ไม่อย่างนั้นความเชื่อใจจักรพรรดิได้ไหมจะกลายเป็นคำถาม

「เราจะให้พวกเขาหลายคนตายในการต่อสู้สุดท้ายนี่แหละ」

「เหลือรอดไว้ 10% หรือ 20% ควรพอแล้ว」

การใช้ทหารทาสไม่ได้เป็นเรื่องน่าเจ็บปวดเป็นพิเศษ มันถูกสนับสนุนให้ใช้แทน

พลปืนใหญ่เรียงกันเพราะคำสั่งแซพเนส และทหารทาสเป็นหมื่นๆอัดกันรอบเมืองสีขาว

ไม่ได้มีขบวนแถวถูกกำหนดและเน้นไปกับการใช้พลังจำนวนฝ่าไปข้างหน้า

「แต่ เมืองสีขาวควรมียามเมืองมากมาย มันจะยากสำหรับทาสที่จะตีฝ่าแม้หลังกำแพงถูกทำลายลงแล้ว」

「เราจะทำให้ศัตรูเหนื่อยโดยการโจมตีด้วยจำนวนจากนั้นเอาชนะกองทัพหลักเมื่อพวกเขามาถึงนั่นได้ถูกมั้ยครับ?」

แซพเนสพยักหน้า

「ไม่มีการโจมตีสวนจากศัตรู บางทีพวกเขาทำตัวให้กลมที่ไหนสักแห่งระหว่างกลัวเหรอ?」

「ฟุ่ฟุ่ฟุ่ พวกเขา ไม่มีก่อกบฏกันเองดีว่านะ ทหารทาสจะไม่ตายถ้าพวกเขายอมแพ้」

จากนั้นลูกน้องหนึ่งคนก้าวมาข้างหน้าแล้วคุกเข่า

「ท่านจะไม่ติดต่อท่านผู้นำเซกริตเหรอ? การโจมตีของเราจะมีประสิทธิภาพมากกว่าถ้าเราพึ่งการระดมยิงจากกองเรือด้วย……」

แซพเนสส่ายหัว

「มันไม่เป็นไร เรายืมกำลังกองเรือตลอดเวลาไม่ได้ เราจะทำการโจมตีแรก」

แซพเนสมีเจตนาตีเมืองสีขาวให้แตกแม้ว่าหลังพูดอย่างนั้น

「ฉันถูกเซกริตช่วยหลายครั้งในสงครามนี้ ดังนั้นฉันต้องจบศึกนี้โดยไม่มีเธอช่วย พระองค์จะหันมาสนใจฉัน」

เมืองสีขาวจะถูกล้อมเมืองโดยไม่มีกำลังเสริม

มันจะเป็นไปไม่ได้ที่ฝ่ายป้องกันเอาชนะศึกล้อมเมืองได้โดยไม่มีความช่วยเหลือจากด้านนอก

เขาคิดถึงรางวัลแล้วที่จุดนี้

「เซกริตจะรู้ถ้าเราใช้เวลานานไป มาเริ่มทันทีที่เตรียมการเสร็จ」

แซพเนสซ่อนยิ้มมุมปากบนหน้าไม่ได้

 

 

และจากนั้น การโจมตีเริ่มต้นขึ้น

「ยิงปืนใหญ่ทั้งหมด!! สาดพวกเขาด้วยพายุลูกปืนใหญ่!」

หลังจากเสียงดังสนั่นจากการยิงปืนใหญ่พร้อมกันดังขึ้น ควันที่ขึ้นมาหุ้มพลปืนใหญ่

มีควันพอทำให้มันดูเหมือนเกิดการระเบิดที่แคมป์จักรวรรดิ

ไม่นานหลังจากนั้น ลูกกลมเหล็กปะทะทำแพงปราสาทเมืองสีขาว ทำให้หินที่สวยงามร้าวและทำให้ส่วนหนึ่งของกำแพงพังทลายเป็นชิ้นๆ ทหารจักรวรรดิมั่นใจในชัยชนะ

「ยิงอีกชุดนึงกันไว้ก่อนแล้วให้ทหารทาสบุกเข้าไป ยิง!」

พลปืนใหญ่รอควันหายไปก่อนยิงชุดที่สอง เชื่อว่ากำแพงจะเป็นผุยผงแล้ว

「บุก!!」

ทหารทาสเริ่มวิ่งพร้อมกัน พวกเขาคาดหวังว่าจะเจอยามเมืองสีขาวระหว่างผ่านกำแพงที่ถูกทำลายแต่…….

「อะไร-!?」

กำแพงเมืองไม่ได้พังทลายหลังจากควันหายไป

ภายนอกกำแพงปราสาทที่สะอาดมันร้าวแน่นอน

อย่างไรก็ตามการยิงลูกปืนใหญ่ใส่เป็นร้อยลูกแค่เกาผิวของกำแพงและเปิดให้เห็นกำแพงหินไม่ได้ตกแต่งอยู่ข้างใต้

มากกว่านั้น มีความล่าช้าเล็กน้อยในการยิงปืนใหญ่ที่จุดที่สมควรเป็นจุดอ่อน – ฐาน – แต่กระสุนกระเด้งออกและทำเสียงเหล็กแหลมๆดังกับการกระแทกเหมือนดาบสองเล่มปะทะกัน

พวกเขาเพิ่มฐานเหล็กเหรอ?

「ภายนอกมันแค่ตกแต่ง…… นั่นเป็นการป้องกันจริงของเมืองสีขาว!」

กำแพงพราสาทหินทื่อๆไม่ได้มีความสง่าอยู่เลย

แต่ในสายตาของคนโจมตี มันมั่นคงและทนกว่ากำแพงสีขาวครีมสวยๆ

ปืนใหญ่ยิงอีกครั้งแต่ผลลัพธ์ก็ยังไม่มีผลกับผิว

มันเป็นกำแพงหิน แม้อย่างนั้นมันไม่แตกเยอะ

「มันไม่ใช่แค่กำแพงหิน!」

ความสบายใจในตาผู้บัญชาการพลปืนใหญ่เริ่มเปลี่ยนเป็นกังวล

「……กำแแพงเมืองสีขาวถูกรู้ว่ามีสามชั้น…… นั่นคือพวกมันทั้งหมดสามชั้นแล้วเหรอ?」

พลปืนใหญ่ระดมยิงไร้ความหมายซ้ำๆระหว่างทหารทาสหยุดเคลื่อนไหวเลย

พวกเขาสมควรวิ่งไปในเมืองผ่านรูที่เปิดโดยปืนใหญ่ แต่กำแพงไม่ได้เสียหายมากขนาดนั้นด้วยซ้ำ

ไม่มีใครคาดหวังให้พวกเขาปีนกำแพงสูง

ณ ทันใดนั้นการเปลี่ยนเกิดขึ้นบนฝั่งเมืองสีขาว

ส่วนบนของกำแพงเปิดออก

「หน้าต่างเฝ้าระวังเหรอ? แต่มันแค่อยู่บนฝั่งเดียวของกำแพง」

เมื่อทหารทาสมองขึ้นไปบนท้องฟ้า  มันมืด

「อา…… อา……」

ลูกธนูนับไม่ถ้วนสาดลงไป มีลูกธนูพอปิดดวงอาทิตย์และทำให้สงสัยว่ามียามเมืองคุ้มกันกำแพงอยู่กี่คน

「ว้า!」

「กย๊าาาา!!」

「ฮิกกย๊าาา!」

ลูกธนูยิงลงไปจากกำแพงสูงเจาะเกราะหยาบของทหารทาสได้อย่างง่ายดายและเปลี่ยนพวกเขาเป็นศพที่ดูแปลก

「ท-ทำอะไรน่ะ!? เล็งไปจุดบนสุด หยุดธนู!」

พลปืนใหญ่ตื่นตกใจและย้ายการเล็งไปส่วนบนของกำแพงก่อนเขายิงได้ด้วยซ้ำ ส่วนกลางของกำแพงเปิดและปืนใหญ่นับไม่ถ้วนยื่นออกมา

「ป-ปืนใหญ่……」

「อุว้าาาา!!」

ควันตามมาด้วยเสียงดังตูมตอนปืนใหญ่ยิงจากฝั่งจักรวรรดิและฝั่งสหพันธรัฐ

ในเรื่องของจำนวน สหพันธรัฐมีปืนใหญ่ประมาณครึ่งหนึ่งของจักรวรรดิ

อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์มันเกิดขึ้นฝ่ายเดียว

ปืนใหญ่สหพันธรัฐถูกปกป้องด้วยกำแพงและมีแค่ไม่กี่กระบอกที่ลูกปืนใหญ่ลอยไปช่องเปิดเล็กๆและสร้างความเสียหาย

ระหว่างนั้น หน่วยปืนใหญ่จักรวรรดิถูกเปิดเผยให้ตกเป็นเหยื่อของการยิงไร้ปรานีของหน่วยสหพันธรัฐ ที่มีความได้เปรียบอยู่สูงกว่า และผลลัพธ์ ปืนใหญ่จักรวรรดิถูกยิงระเบิดสิ้นและทำลายตามๆกันทีละกระบอก

ทหารทาสถูกลูกธนูกำจัดโดยไม่รู้ว่าทำอะไรดีระหว่างหน่วยปืนใหญ่ยิงต่อไม่ได้ในท้ายที่สุดและถูกบังคับให้ถอยทัพหลังจากทิ้งปืนใหญ่

พร้อมกับการกระจายของพลปืนใหญ่หน่วยปืนใหญ่สหพันธรัฐหันไปเล็งทหารทาสที่อยู่ข้างหน้าและหน้าประตูปราสาทเปลี่ยนบริเวณเป็นนรกแห่งเลือด

กำแพงสีขาวครีมแตกและให้เห็นกำแพงสีเทาแต่ไม่นานก็ถูกย้อมในสีแดงด้วยเลือดของทหารทาส

การสังหารหมู่เกิดขึ้นต่อไปตลอดเวลาจนในที่สุดแก้วเหล้าที่แซพเนสเตรียมพร้อมความคาดหวังถึงชัยชนะหล่นไปที่พื้นและคำสั่งถอยทัพถูกมอบออกไป

 

 

–มุมมองเอเกอร์–

ดินแดนฮาร์ดเลตต์ เขตใต้

หลังจากออกจากแวนโดเลีย เราไปทางเหนือเรื่อยๆกับเบเซกและกองทัพเขา

การเดินทัพไม่ค่อยน่าพอใจที่เราต้องอาบเถ้าถ่านที่ตกลงมาเรื่อยๆไม่หยุด

แม้ว่ามันจะไม่ใช่ปัญหาแล้วเมื่อเราไปถึงดินแดนผม

「ถึงยังไง ทุกคนยังยับเยินอยู่เลย…… มันอาจหลีกเลี่ยงไม่ได้แต่พวกเขาไม่มีดาบหรือเกราะ」

「……ถ้าเรารววบรวมอุปกรณ์ทั้งหมดเราน่าจะเอาไปแลกเงินได้เยอะ」

ของเก็บจากสงครามที่ได้ระหว่างป้องกันมอลต์ถูกส่งไปที่ราเฟน แต่มันอาจไม่พอเป็นรางวัลทหาร

「พวกเขาก็ดูทรงน่าสงสารอยู่นั่นด้วย」

ผมมองสามเกลอเคานต์โมนาชิและคนอื่น

「อะว้าว้า…… ใครจะคิดล่ะว่าภูเขาจะทำแบบนี้……」

「ยัง…… อย่างเพิ่งยอมแพ้ คำนวนกำไรต่อวัน!」

「ฉันมีลูกสาวเจ็ดคนอยู่ที่บ้าน มากเท่านี้มันไม่พอ!」

พวกเขาน่าจะคิดถึงความสัมพันธ์ระหว่างผมเมื่อพวกเขาตัดสินใจไปยืมเงินออกศึก

พวกเขาต้องคาดหวังการชดใช้หนี้และค่าใช้จ่ายสงครามด้วยของเก็บในสงคราม

อย่างไรก็ตามทุกอย่างลงไปท่อน้ำทิ้งหมดด้วยเหตุการณ์ไม่คาดฝันจากภูเขาดาร์ด ไม่เพียงแค่เสียของเก็บสงครามไป แต่อุปกรณ์พวกเขาเองด้วย

อดอล์ฟจะเปลี่ยนเป็นฟ้าเมื่อเขารู้ว่าอะไรเกิดขึ้นกับของของผมแต่ผมนึกภาพว่าคนพวกนั้นจะทำอะไรดีไม่ได้เลย

「ที่สำคัญกว่านั้น มันดูเหมือนถึงขีดจำกัดพี่แล้ว」

「ได้ หนูเข้าใจ」

ไมล่ามาข้างผมและถอนหายใจ

ผมใส่เสื้อผ้าธรรมดาตัวเดียวระหว่างโยนเกราะทิ้ง

และตอที่หว่างขาแข็งโด่…… ไม่ กางเกงมันขาดแล้ว

มันเป็นผลจากอะดรีนาลีนของการเสี่ยงชีวิตหนีแและความจริงว่าผมโอบกอดสาวคนไหนไม่ได้เลยหลังจากตัวเปื้อนเถ้าถ่าน

เมื่อคิดถึงนั่นทั้งหมด เอ็นผมจะระเบิดแล้ว

「พี่เดินไปทั่วดูเป็นแบบนั้นไม่ได้ไม่งั้นมันจะมีผลกับชื่อเสียง หนูจะช่วยพี่ ดังนั้นไปที่รถม้าด้วย」

ไมล่าจับมือผมเดินและนำผมไปข้างในรถม้า

พูดถึงคนดูแลชวาร์ซยืนกรานว่าตูดเขาไหม้แต่เขาเดินไปไหนมาไหนได้โดยไม่ต้องแบกอะไรขึ้นหลัง

เขาค่อนข้างกังวลที่ขนคอถูกตัดออกและดูโง่ๆ

ผมได้ยินผู้หญิงบางคนส่งเสียงเอะอะเมื่อคืน

ผมว่าชวาร์ซอัดอั้นหลังจากกลับมาจากก้นเหวแห่งความตาย มันทำให้ผมกังวลเกี่ยวกับมดลูกสาวนั้น

「อะแฮ่ม เอาเลย」

มันดูเหมือนการเตรียมการมันเสร็จแล้วระหว่างผมคิดถึงม้าลามกนั่น

ไมล่านำผ้าห่มไปในรถม้าและกางมันลง จากนั้นอ้าขาเล็กน้อย

「ทำให้พี่ผ่อนคลายเหรอ? หนูเพียงแค่อยากได้ ไม่ใช่เหรอ?」

ไม่ล่าหันหัวไปด้านข้างอย่างเขิน

ช่างน่ารัก

ผมจับเข่าเธอ แหวกขาเธอออกเท่าที่ผมแหวกได้เพื่อที่ผมเข้าไประหว่างกลางได้

ผมไม่ต้องถอดเสื้อผ้าเพราะเอ็นผมทะลุกางเกงและยื่นออกมาแแล้ว

「เธอหยดหนืดก่อนถูกจับอีก」

「หยาบคายอ่ะ…… หนูไม่ชอบเลย…….」

ผมลูบแก้มไมล่าและเอาหน้าไปที่คอเธอ

กลิ่นผู้หญิงทำให้ผมตื่นเต้นขึ้นอีกและมันทำให้เจี๊ยวโด่แข็ง

ผมจะเอาการลูบไล้ไว้ทีหลังและใส่มันเข้าไปตอนนี้

มือเราประสานเข้าด้วยกันนิ้วพันเข้าหากันระหว่างผมโฉบผ่านหน้าเพื่อจูบเบาๆก่อนดันสะโพกไปข้างหน้า

「อา มันเข้าไปแล้ว……」

「เข้าไปล่ะนะ」

มันเป็นเมื่อตอนที่ปลายเอ็นผมกำลังจะมุดรูไมล่า

「ไม่ยุติธรรม」

 ผ้าปิดด้านหลังพับเปิดอย่างไม่อาย

ผู้ปรากฏคืออิริจิน่า

ซีเลียต้องแอบปล่อยข้อมูลให้เธอ เพราะเธอแอบเกาะหลังอิริจิน่ามาด้วย

ปรกติแล้วเธอจะมาด้วยตัวเองแต่น่าจะรู้สึกด้อยค่าอยู่ตอนนี้

「อิริจิน่า…… เห็นหัวอกกันมากกว่านี้ไม่ได้เหรอ?」

「เธอไม่ได้เป็นคนเดียวเท่านั้นที่อยากได้น้ำแรกหลังจากสู้เสร็จ! มาตัดสินใจว่าใครได้ก่อนให้ยุติธรรม!!」

อย่าพูดมันดังสิ

ทุกกคนกำลังมองเราถ้าเธอตะโกนระหว่างผ้าด้านหลังเปิด

ผมเดาว่าเราทำไม่ได้แล้ว

「ตัดสินใจยังไงก็ได้ที่อยากทำ…… แต่เร็วๆหน่อยก่อนเอ็นพี่ระเบิด」

「อุมุ!!」

อิริจิน่า, ไมล่า, ซีเลีย, และลูน่าที่มาผสมจากไหนก็ไม่รู้สู้กัน

「งัดข้อ…… ฉันคิดว่ามันจะเป็นเล่ห์เหลี่ยมบางอย่าง แต่ไม่ควรมีแผนลับถ้ามันเป็นอิริจิน่า」

มันดูเหมือนคนแรกจะเป็นอิริจิน่า

「ซอร์ย่าาาา!」

「โอ๊ยย! ข-แขนๆหักแล้ว!」

ไมล่าร้องดัง

「ฮึ่กก๊าาา!」

「กย๊าาาาา!!」

ลูน่าร้องดัง

「ฮึ่นบ่ะ!」

「อิริจิน่าซังได้โปรดหยุดเหอะ! มันงอไปที่แปลกๆแล้ว!!」

ซีเลียตะโกน

ผมรู้ว่าจะเป็นอิริจิน่า

มันไม่ยุติธรรมที่เธองัดข้อกับสาวๆ

「มันเป็นหนู」

「ใช่พี่รู้」

มีหลายอย่างที่ผมอยากพูด แต่เอ็นผมอ้อนวอนขอผู้หญิง

นอกจากนี้มันไม่เหมือนผมมีอะไรบ่นกับอิริจิน่า

เธอก็เป็นหนึ่งในสาวน่ารักของผม

เรายืนกันในรถม้าไม่ได้เราเลยลงไปคุกเข่าแทน

อิริจิน่าค่อนข้างสูง เลยไม่มีความสูงต่างกันมากระหว่างเรา

เมื่อผมโอบแขนรอบเธอ ผมรู้สึกได้ถึงกล้ามเนื้อเป็นมัดๆของเธอ

「หนูไม่เหมือนผู้หญิงมากเลย…… ตัวก็ใหญ่หยาบก็หยาบ」

「แน่นอนหนูมีกล้าม แต่นั่นทำให้หนูดูน่าหลงใหล」

ผมแก้ผ้าอิริจิน่าออกและจากนั้นเปลือยเองด้วย

ผมลูบกล้ามท้องแน่นเบาๆระหว่างผมทำ

「หนูคือผู้หญิงมหัศจรรย์และนี่เป็นข้อพิสูจน์」

ผมจับนำมือเธอนำไปสู่เอ็นของผม

มันควรเห็นได้ชัดกับเธอว่าผู้ชายกระปรี้กระเป่าแค่ไหนเมื่อเธอเห็นเอ็นแข็งขนาดนี้

「มันใหญ่และหนา…… เหมือนหนูเลย!」

เสี้ยววินาทีหนึ่ง ความคิดว่าบางอย่างงอกออกมาจากหว่างขาอิริจิน่าวิ่งผ่านใจผม

ผมส่ายหัวเพื่อไล่ความเพ้อเจ้อโง่ๆออกไป

「นี่ มาสร้างรักกัน」

เรานอนลงบนผ้าปูในแขนกันและกันตอนเราจูบกันอย่างเร่าร้อน อิริจิน่ารัดแขนขารอบผมแน่นระหว่างผมโอบกอดเธอแรง

มันเป็นการโอบกอดที่รุนแรงที่ทำให้สาวคนอื่นร้องเสียงแหลมในความเจ็บ

「「ปุฮ่า」」

เราแยกปากกันและอิริจิน่าแหวกจิ๊ออก

ผมไม่พูดอะไรและเข้าหารูด้วยเอ็นที่ขยายตัว

「อิริจิน่า…… พี่แรงนิดนึง ไม่ดิ พี่แรงสุดๆไปเลยได้มั้ย? พี่รู้สึกเงี่ยนจัดตอนนี้」

「แน่นอน ตัวหนูแกร่ง! มันไม่พังง่ายๆ!」

ผมมั่นใจเมื่อรู้ว่าผู้หญิงคนนี้รับเซ็กส์แรงได้ เธอไม่ได้แค่ตัวใหญ่แต่กล้ามโตด้วย

ถ้าผมทำเหมือนกันกับนนน่าหรือเมลผมจะทำเธอพังทันทีแน่นอน

「ชอบคุณ」

ผมจับสะโพกอิริจิน่าและสอดใส่ตัวเองข้างในช่องเปิด

ผมไม่ได้ใช้ท่ามิชชันนารีปรกติ ผมยกสะโพกเธอและแทงกดลงไปแทน

「ฮึ่ม!」

「อุ่กก!!」

ผมใส่ทั้งความยาวได้แบบเร็วๆ

อิริจิน่าเป็นคนเดียวเท่านั้นที่รับเอ็นถึงโคนได้โดยไม่ต้องใช้มดลูกเธอ

「ม-มันลึกมาก! สุดยอด!」

「ใช่ มันแน่นและเสียวมากเลย」

ขนาดจิ๊เธอคือส่วนหนึ่งของขนาดตัวและมันไม่เล็ก

ไม่ว่าอย่างไรมันขมิบรัดแรงน่าจะเพราะกล้ามเนื้อที่ฝึกมา

「แทงไม่ยั้งเลย! หนูจะให้พี่เห็นว่าหนูทนไหว!」

ผมยิ้มและจับสะโพกกับไหล่เธอก่อนกระแทกเอ็นใส่เธออย่างแรง

「ห-หนูไม่เป็นไร! หนูรับได้อีก!!」

ผมกระแทกใส่เธออย่างดุดันและขูดด้านในจิ๊เธอด้วยเอ็น

ผมจับไหล่เธอกดลงเพื่อให้เธอไม่เลื่อนไปข้างบนจากการแทงเน้นๆแต่ก็เพื่อที่ผมจะกระทุ้งมดลูกอิริจิน่าด้วยปลายเอ็นให้ได้ด้วย

เธอไม่ได้ร้องหรือไม่ได้ดูเจ็บ

มันทำให้ผมสุขใจที่เธอทนการแทงเต็มที่ของผมได้

「พี่ยังไม่เสร็จ!」

「หนูรับได้ทุกอย่างที่พี่ทำ!!」

ผมงอตัวไปข้างหลังและแทงกระแทกให้เร็วขึ้น

สะโพกเราฟาดเข้าหากันในเสียงเนื้อตีกันดังออกไปตอนทั้งรถม้าสั่น

「อุโออออออออ้!!」

「อ๊าาาาาาา!!」

ผมเลื่อนมือจากสะโพกอิริจิน่าสู่แขนเธอ

ในเวลาเดียวกันขาเธอรัดเอวผม

ขณะผมกระแทกอิริจะน่าและให้กดเธอกระแทกเข้ากับพื้นรถม้าทุกครั้ง ผมเริ่มได้ยินเสียงแปลกๆ

「มีเสียงแปลกๆอ่ะ……」

「จ-จัดหนูมาอีก!」

ผมสงสัยแต่มันสำคัญมากกว่าที่จะมีสมาธิกับผู้หญิงหน้าผม

「ได้ซี่ แล้วถ้าแบบนี้ล่ะ!?」

ผมเปลี่ยนการเคลื่อนนไหวสะโพกและถูตรงในจิ๊ที่ยังไม่ได้ได้ถู

ตอบด้วยร่างกายเธออิริจิน่าดันสะโพกใส่ผม

และจากกนั้นเมื่อสองเรากำลังจะไปถึงจุดสุดยอด มีเสียงดังพอทำสมาธิเสียและรถม้าเซไปด้านข้าง

「「โด่ะว้า!」」

อิริจิน่าและผมอยู่เชื่อมต่อกันขนะเรากลิ้งสู้พื้นเอียง

ผมได้ยินทหารด้านนอกเอะอะ

「เฮ้ยรถม้าพังว่ะ!」

「แหม โยกซะขนาดนั้น……」

มันดูเหมือนอิริจิน่าและผมแรงไปและล้อรถม้าพัง

แต่ผมหยุดไม่ได้หลังมาไกลขนาดนีแล้ว

「เอามือไว้ที่กำแพง」

「ได้!」

มือเธอวางบนรถม้าล้มและผมแทงจากข้างหลัง

แน่นอนความเงี่ยนของผมใกล้จุดสุดยอดและผมยั้งมือไม่ได้สักนิด

「ขมิบให้แน่นสุดท่าที่ทำได้ พี่จะถูหนูเยอะๆ」

「ปล่อยหนูได้เลย」

อิริจิน่าเกร็งกล้ามและขมิบด้านใน

เหมือนไม่ให้แพ้เธอผมแทงด้วยความแรงมากขึ้น

「อิริจิน่า…… อิริจิน่า!」

「ฮาร์ดเลตต์โดโนนน้!」

มือผมโอบร่างกลามเธอและขยำนมเธอระหว่างผมกัดคอเธอเบาๆ

อิริจิน่าเอื้อมมาข้างหลังเพื่อจับตูดผมตอนผมแทงใส่เธอ

จากนั้น ช่วงเวลาสุดท้ายมาถึง

「พี่จะปล่อยใส่ส่วนลึกสุด…… พร้อมมั้ย?」

「ได้เลย ส่งมาเลย」

สองเรากะจังหวะกระแทกใส่กันพร้อมกัน

เอ็นผมปะทะมดลูกเธอ

ในที่สุดเธอก็ร้องดังและงอหลังก่อนน้ำแตก

「โอออ้!」

ผมไปถึงขีดจำกัดการกระตุ้นและฉีดก้อนน้ำเชื้อเกือบแข็งใส่เธอ

สองเรานอนลงในอ้อมแขนกันและกันและมีความสุขกับความเสียวตกค้าง…… หรือนั่นควรเป็นอะไรที่เกิดขึ้น

「ระวัง!」

「โอ่ะว้า!」

เสาค้ำไม่สามารถทนการกระแทกและหัก ในที่สุดก็ทำให้ทั้งรถม้าพัง

เสาค้ำหนักหัก ไม้ค้ำผ้าคุ้มด้านบนหัก มากกว่านั้นพื้นไม้แตกเป็นชิ้น มีผลเป็นรถม้าที่ถูกทำลาย

อิริจิน่าและผมถูกโยนลงพื้นขณะรถม้ากระจายเป็นชิ้น

「จ-เจ้าศักดินา…… เป็นอะไรเปล่า?」

ทหารรอบๆมองเราอย่างตกใจขณะพวกเขาตรวจดูว่าผมบาดเจ็บหรือไม่

「……ไม่มีปัญหา ฉันแค่แรงไปหน่อย」

「แรงไปหน่อย? …….จากข้างนอกรถม้าสั่นเหมือนมีสัตว์ป่าอยู่ข้างใน」

ไมล่าค่อนข้างพองแกมและสีหน้าโกรธบนหน้า

ณ เวลานั้น มีเสียงกระแทกเป็นจังหวะและเอ็นผมหลุดออกจากอิริจิน่า

ผมจะปิดเธอด้วยผ้าห่ม

「มา ใครต่อ?」

เราจะใช้รถม้าทนกว่านี้ครั้งหน้า

ทันใดนั้นผมได้รู้ว่าร่างกายผมที่ร้อนจากเซ็กส์เข้มข้น มันกำลังเย็นลงอย่างเร็ว

「มันหนาววันนี้ มันฤดูหนาวแล้วเหรอ?」

「ฤดูกาลเปลี่ยนและมันดูเหมือนเราได้ลมพัดมาจากลมเหนือ」

ลีโอโพลต์ยืนหน้าผมด้วยสีหน้าไม่คิดอะไรแม้ว่าผมเปลือย

ผมรู้สึกว่าผมจะแพ้ถ้าผมอาย ผมเลยยืนกล้าๆเอ็นเปิดๆ

「มันไม่ปรกติที่ได้ลมเหนือ แต่มันแรง」

อืม มันไม่สำคัญวว่าลมจากเหนือหรือใต้ ผมไม่ชอบความหนาวเป็นพิเศษ

ผมแค่อยากกลับบ้านอาบน้ำ

「เราเสียอุปกรณ์ไปเยอะอยู่แล้ว การทำลายรถม้าไม่ใช่ความคิดที่ดี」

ลีโอโพลต์พล่ามอะไรที่เขาอยากพูดแล้วจากไป

ลมเหนือมันแรงขึ้นเยอะ

ไปที่รถม้าอื่นเถอะ

ลมหนาวควรรออยู่จนกว่าเราไปถึงราเฟน…… ผมเดาว่าผมโชคร้ายอย่างน่าตกใจ

 

 

สหพันธรัฐปะทะจักรวรรดิ – เทียบกำลังทหาร (จำนวนคนจะเพิ่มขึ้นขึ้นอยู่กับการเกณฑ์)

สหพันธรัฐโอลก้า

ความแข็งแกร่งกองทัพ – ปัจจุบัน: 400 000 เคลื่อนพลเต็มกำลัง: 2 550 000 สูญเสีย: 1 100 000 พลเมืองตกเป็นเหยื่อ: 900 000

จักรวรรดิการ์แลนด์

ความแข็งแกร่งกองทัพ – ปัจจุบัน: 2 250 000 เคลื่อนพลเต็มกำลัง 3 100 000 สูญเสีย 850 000 (ไม่รวมทหารทาส)

 

 

ตัวเอก: เอเกอร์ ฮาร์ดเลตต์ 23 ปี ฤดูใบไม้ร่วง

สถานะ: มาร์เกรฟอาณาจักรโกลโดเนีย เจ้าศักดินาผู้ยิ่งใหญ่ของบริเวณตะวันออก ราชาแห่งภูเขา เพื่อนของดวอร์ฟ เพื่อนของราชาแห่งอเลส

พลเมือง: 163,000  เมืองหลัก – ราเฟน: 24,000 ลินต์บลูม: 4500

ครอบครัว: นนน่า (นนน่าผู้งดงาม), คาร์ล่า (ภรรยาน้อย), เมล (ภรรยาน้อย), มิตี้ (ภรรยาน้อย), มาเรีย (ภรรยาน้อย), แคทเธอรีน (ภรรยาน้อยอัดอั้นทางเพศ ++++), คุ (คนรัก), รุ (คนรัก), มิเรล (คนรัก), ลีอาห์ (คนรัก), เคซี่ (ผี), ริต้า (หัวหน้าแม่บ้าน), โยกุริ (นักแต่งบทละคร), ปีปี้ (คนรัก), อลิส (สาวน้อยเวทมนตร์)

มาร์เซลีน (คนรัก), ลูกสาว – สเตฟานี่ (คนรัก), บริดเจ็ต (อัดอั้นทางเพศ ++++), เฟลิซี่ (คนรัก)

เซบาสเตียน (พ่อบ้าน), โดโรเธีย (คนรัก ในเมืองหลวง), เมลิสซ่า (คนรัก ไปเมืองหลวง), อัลม่า (ไปเมืองหลวง)

ลูก: ซู, มิว, เอคาเทรีน่า, อมาต้า, อนาสตาเซีย (ลูกสาว); แอนโตนิโอ, คลอดด์, กิลบาร์ด, ไรเนอร์, บาร์โตโลม (ลูกชาย); โรส (ลูกสาวบุญธรรม)

ไม่ใช่มนุษย์: แลมมี่ (คนรักที่เป็นงู), มิรูมิ (นางเงือก), ??? (ต้นไม้ประหลาด)

ลูกน้อง: ซีเลีย (หดหู่), กิโด้ (หน่วยติดตามคุ้มกัน), ครอล (พระขอทาน), อิริจิน่า (ผู้บัญชาการ), ลูน่า (ผู้บัญชาการ ), รูบี้, ไมล่า (เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย), โพลเต้ (ผู้จัดการฝึกหัด), เกรเทล (ผู้ฝึกทำกิจการภายใน), ลีโอโพลต์ (เจ้าหน้าที่ระดับสูง), อดอล์ฟ (เจ้าหน้าที่กิจการภายใน), ทริสตัน (เจ้าหน้าที่ระดับสูง B), แคลร์ & ลอรี่ (แม้ค้าอย่างเป็นทางการ), ชวอร์ซ (เหนื่อย), ลิเลียน (ดาราหญิง)

กองทัพ: 14,200 คน

ทหารราบ:7150 คน, ทหารม้า 800 คน, พลธนู: 950 คน, ทหารม้าธนู: 3900 คน (กองทัพลอร์ดบริวาร: 1400)

ปืนใหญ่:10 กระบอก, ปืนใหญ่มาก: 10 กระบอก

กองทัพแวนโดเลีย?: 9000

ทรัพย์สิน: 470 ทอง

คู่นอน: 233, ลูกเกิดแล้ว: 48 + ปลา 555 ตัว

 

แปลโดย: wayuwayu

tipme : tipme.in.th/wayuwayutl

patreon (Ebook): patreon.com/wayuwayu

ได้โปรดโดเนทเพื่อสนับสนุนผู้แปล ติดตามข้อมูลข่าวสาร, ติดต่อ: ​http://linktr.ee/wayuwayu

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด