ถนนสู่อาณาจักร – Oukoku e Tsuzuku Michi 228 ลมพัด
–มุมมองบุคคลที่สาม–
แวนโดเลีย เมืองหลวง: แวนโดล่า
「อิซาลิตุส…… และคาเชการ์ดด้วยเรอะ!?」
「มันถูกฝังใต้ภูเขาเถ้าถ่านที่สูงกว่าคนเราเลยเข้าใกล้ไม่ได้ด้วยซ้ำ!」
「ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเลยเหรอนี่!? ฉันไม่สนว่าใคร แค่เอาคนนั้นมาที่นี่เพื่อให้คนนั้นบอกสถานการณ์ฉันได้」
「คือว่า ไม่มีใครจากเมืองหนีได้…… เรามีแค่คำให้การของพ่อค้าเร่ที่ดูอะไรที่เกิดขึ้นจากไกลๆ」
คนที่เข้ารวมการประชุมของคนแวนโดเลียล้อมแผนที่หน้าตาตะลึง
เมืองบนแผนที่พองด้วยหมึกตอนพวกเขาฟังรายงานจับใจความไม่ได้
เมื่อพวกเขาได้ยินว่าไฟปะทุจากภูเขาดาร์ด อย่างแรกที่พวกเขากังวลนั้นเกี่ยวกับเหล่าทหารที่หนึ่งและสองที่ป้องกันการโจมตีอยู่ที่ตีนเขา
แต่เมื่อเวลาผ่านไป พวกเขาเริ่มได้ยินรายงานเกี่ยวกับความเสียหายอย่างหนักมากขึ้นเรื่อยๆ
「เคล่าด้วย……?」
「อูรันเดเมืองที่มี 20,000 คน ไม่มีแม้แต่คนเดียวที่รอดชีวิตเลยเหรอ!?」
「เมืองและคนไม่สำคัญตอนนี้! เกิดอะไรขึ้นกับกองทัพที่สู้อยู่ตรงพรมแดนเล่า!?」
「แกโง่หรือไงกันวะ? อูรันเดที่แม่งห่างไป 30 กิโลเมตรยังตายหมด มันแน่นอนว่าไม่มีคนรอดชีวิตเมื่อเขาสู้กันตรงตีนเขา!」
「พูดอะไรวะ!? ไอ้ขี้แพ้!」
「หุบปากเลยไอ้ไร้ควาสามารถเดี๋ยวกูจะชำระบาปมึงเสีย!」
ในที่สุดพวกเขาก็เริ่มตีกัน
「พวกแกจะหยุดมั้ยวะไอ้โง่สองคน!? ……ถ้าเราคิดเกี่ยวกับมันในหลักความเป็นจริงกองทัพน่าจะสูญหายไปและกองทัพชั่วคราวที่แต่งไปเป็นกำลังเสริมก็น่าจะไปหายไปด้วย…… เราเสียกองทัพส่วนใหญ่เราหมดแล้ว」
ทุกคนห่อไหล่ผิดหวัง
แวนโดเลียสูญเสียกำลังเนื่องจากกองทัพนั้นตั้งโดยใส่หน่วยฝีมือฉมังคู่กับคนรอดชีวิตเหล่าสาม
「ต-แต่กองกำลังอัลแตร์ก็ควรจะถูกกวาดล้างไปด้วยเหมือนกัน ถ้าเรารีบจัดระเบียบกองทัพ……」
「ไม่ได้ อัลแตร์ไม่เคยสู้โดยใช้ทหารฝีมือฉมังพวกเขาแค่ให้ชาวนาพุ่งใส่เราด้วยหอก…… พวกเขาน่าจะรวมกองกำลังได้เร็วกว่าเราทำ」
「นี่ควรค่อนข้างเป็นวิกฤติกับพวกเขาแล้ว นายคิดว่าพวกเขาจะรุกรานต่อมั้ย?」
ทุกคนคิดและข้อสรุปคือ ‘ใช่’
「พวกเขามันเพี้ยน อะไรก็เกิดขึ้นได้」
「พวกเขาน่าจะไม่เคลื่อนไหวตอนนี้ แต่มันเป็นไปได้ที่พวกเขาอ้อมไปเหนือหรือใต้เมื่อภูเขาเงียบแล้ว」
「นอกจากนี้โกลเนียก็ยืนยึดหลักเพื่อบางอย่างใหญ่โต ความเป็นไปได้ที่พวกเขาจะท่วมมาจากทางเหนือก็……」
คนที่ทำหน้าที่เป็นคนกลางตบมือ
「อย่างแรกเราควรรวมทหารเข้าด้วยกันก่อนเราทำอะไรได้ เราจะเกณฑ์คนแน่นอน แต่เราก็เอาผู้หญิงผู้ใหญ่ด้วย เกณฑ์พลเมืองทุกคนจาก 16 ถึง 45」
「เราไม่มีทางเลือกสินะ」
「ถ้าเราผ่านสถานการณ์นี้ไปไม่ได้ประเทศจะจบเห่」
หลังจากถึงข้อสรุปสายตาทุกคนมองที่จุดเดียว
คนที่กลายเป็นคนที่ดูแลการปรึกษาจนถึงตอนนี้นิ่ง แต่เป้าหมายพวกเขาครั้งนี่คือชายแก่ที่ไม่ได้พูดอะไรสักคำตั้งแต่การประชุมเริ่ม
「ม-มีอะไร……?」
「สหายเบลเลส กองทัพ 15 000 คนที่ส่งไปโกลโดเนียมีค่ายิงกว่าอัญมณี สถานการณ์จะต่างกันถ้าเรามีพวกเขาพร้อมใช้ตอนนี้」
ชางแก่เอียงไปข้างหลังจากแรงกดดันที่เขารู้สึก แต่พยายามกลับขึ้นมานำการคุยโดยการตะโกนอย่างดัง
「กูจะรู้ได้ยังไงวะว่าภัยพิบัติจะเกิดขึ้นกับดาร์ด!? มันเป็นแผนที่ดีที่สุดที่ทำได้ตอนนั้น!!」
「แต่ในท้ายที่สุด พวกเขาหายไปในเถ้าถ่านไง! พวกเขาเสือกไปสู้ศึกไร้ความหมาย ไม่เหมือนกองทัพที่สู้กับอัลแตร์ และหนำซ้ำยังทำให้โกลโดเนียเป็นศัตรูเราอีก」
「ต-แต่โกลโดเนียมองพวกเขาเป็นทหารหนีทัพนี่……」
「ไม่ใช่พวกแม่งรุกลึกเข้าดินแดนเราแล้วเพราะแม่งไม่เชื่อหรือไงกันวะ!?」
ปัญหาที่สุดท้ายแก้ไม่ได้ของการประชุมคนก่อนที่ภูเขาดาร์ดพ่นไฟคือจะรับมือกับกองทัพฮาร์ดเลตต์ที่เคลื่อนที่มาจากทางใต้อย่างไร
เพราะกองกำลังหลักทุ่มเทอยู่กับการสู้อัลแตร์ พวกเขาหาทหารมาแบ่งไม่ได้สักคนเพื่อป้องกันการโจมตีจากเขา
ควรจะไม่มีทางเลือกนอกจากใช้แผนเคลื่อนทัพทหารชาวนาหลายหมื่นเพื่อซื้อเวลา
「น-นั่นน…… อ-อืม มันถูกเห็นด้วยโดยตัวแทนผู้คน ฉันไม่ได้รับผิดชอบคนเดียว」
คนกลางกระแทกกระดาษหนึ่งแผ่นหน้าชายแก่
「มันเขียนไว้ว่าตัวแทนไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ทั้งหมดนี้เป็นการตัดสินใจของเบลเลส มีอะไรจะพูดมั้ย?」
ความสุภาพหายไปจากน้ำเสียงคนกลาง
คนที่อยู่ทั้งหมดมีหน้าตามืดมน
「ป-เป็นไปไม่ได้! ฉันได้การตกลงจากตัวแทนอย่างแน่นอน! ฉันถูกบอกว่าทำเหมือนที่ฉันอยากทำได้เลย!」
「ไม่มีการแจ้งอย่างเป็นทางการหรือการเตือนมาหาเราเลย ดังนั้นเราเชื่อแกได้ยังไง!? ทั้งหมดที่แกมีเป็นแค่กระดาษชิ้นเดียว…… นั่นแหละหมดแล้ว」
ชายแก่รับเอกสารหน้าเขาและอ่านมัน
「ไม่มีการเห็นด้วยจากตัวแทนคนสำหรับการรุกรานโกลโดเนีย มันเป็นการตัดสินใจโดยผู้แทนผู้คนเบลเลส…… แกพูดเรอะ? ช่างไร้สาระ! ตัวแทน ตัวแทน!」
คนของการประชุมจับชายแก่และกดเขาลงขณะเขาซีดและพยายามวิ่งหนี
「ยาม เอาเขาไป! เขาเป็นศัตรูขอผู้คน!」
「ไม่ใช่แล้วโว้ย! ในตอนนั้นกูได้การตกลงจากตัวแทนแล้วแน่นอน! ตัวแทนนนนนนนน!!」
ชายแก่ร้องดังไปทิศทางห้องทำงานตัวแทนแม้ขาเขาถูกจับโดยยามและดึงไป
「หนึ่งในมะเร็งของแวนโดเลียหายไปแล้ว….. แต่ชาติเรายังเกือบไม่รอดด้วยโรคภัยร้ายแรง ฉันจะอยากให้สมาชิกทุกคนที่นี่ทำงานเหมือนชีวิตขึ้นอยู่กับมัน」
ในที่คนที่พยักหน้า ชายคนหนึ่งพึมพำในเสียงเบา
「เถ้าถ่าน…… จะไม่หยุด」
เถ้าถ่านลอยหล่นไม่จบสิ้นเป็นกองหิมะไม่ละลาย
สหพันธรัฐโอลก้า ศึกล้อมเมืองสีขาว แคมป์กองทัพจักรวรรดิ
「ถ้าอย่างนั้นนี่เป็นเมืองสีขาว…… เป็นเมืองที่สวยอะไรเช่นนี้」
แซพเนสพูดเบาๆขณะเขามองดูกำแพงปราสาทสีขาวครีมระหว่างข้ามแม่น้ำเทียรี่เหนือและลงไปอยู่ฝั่งตะวันออกของเมืองสีขาว
「ฉันได้ยินมาว่าเมืองหลวงการ์แลนด์มีคนเยอะกว่า…… แต่ไม่มีอะไรเป็นคู่แข่งกำแพงมโหฬารนี้ได้」
ลูกน้องเขาก็ตั้งใจมองกำแพง
ไม่มีอะไรอื่นขวางทางแซพเนสหลังจากเขากำจัดกองกำลังหลักสหพันธรัฐในศึกใกล้ดินแดนอัลเบนและในที่สุดเขาก็มาเมืองสีขาวได้อย่างปลอดภัย
ในทางกลับกัน กองเรือนำโดยเซกริดเอาชนะกองเรือแม่น้ำสหพันธรัฐแบบนำโด่งและได้รับความเหนือกว่าทางน้ำ
มันกลายเป็นเป็นไปได้ที่จักรวรรดิจะลงพื้นบนท่าทางเหนือของแม่น้ำได้อย่างอิสระหลังจากได้รับความเหนือกว่าบนน้ำ ทำให้พวกเขาดันกองกำลังสหพันธรัฐที่ต่อต้านอย่างสิ้นหวังในบริเวณถอยไปและล้อมเมืองสีขาวจากทุกด้านยกเว้นตะวันออก
「งั้นพวกเขาจะไม่ทิ้งเมืองหลวงเหรอ?」
「ใช่ครับ จากนักโทษสงคราม มันดูเหมือนพวกเขามีเจตนาสู้จนตาย จักรพรรดิจัตแลนด์ที่สองก็ยังอยู่ในเมืองสีขาวด้วย」
แซพเนสยิ้มพออกพอใจ
「นั่นดี นั่นหมายถึงศึกสรุปได้เมื่อเมืองสีขาวพ่ายแพ้」
สหพันธรัฐโอลก้าเป็นสถานที่ใหญ่ ใหญ่มากกว่าจักรวรรดิในเรื่องของบริเวณอย่างเดียวเยอะแม้ว่ามีหลายที่ที่อยู่อาศัยไม่ได้
「ไม่สำคัญว่ากองทัพเราใหญ่แค่ไหน เราค้นหาดินแดนทุกซอกทุกมุมของสหพันธรัฐไม่ได้ เราต้องให้พวกเขายอมแพ้」
มันปลอดภัยถ้าพูดว่ากองทัพจักรวรรดิที่เดินหน้าอยู่ได้เปรียบอย่างท่วมท้นด้วยการควบคุมท่าน้ำเหนือและใต้
อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่ได้ไปถึงเขตทางเหนือไกลๆข้ามแม่น้ำไปและมันต้องการเป็นปีๆเพื่อจะไล่ถ้าสหพันธรัฐหนีไปไกลขึ้นเรื่อยๆ
「ถ้าเราขยี้เมืองสีขาวเสีย เราอาจสามารถจบศึกได้ในเดือนนี้」
แซพเนสหัวเราะอย่างเต็มอกกับข้อเสนอลูกน้องเขา
「ถ้าเราทำนั่นได้ เราจะได้รับรางวัลที่ยิ่งใหญ่จากพระองค์ องค์จักรพรรดิ นายและฉันจะถูกให้ความบันเทิงด้วยสาวซิง 100 คน」
หลังจากหัวเราะเบาๆเร็วๆ ความจริงจังกลับเข้าหน้าแซพเนส
「กำแพงขนาดยักษ์…… มันอาจตีไม่ได้ถ้ากองทัพฉันอยู่ในยุคหินที่ปืนใหญ่ไม่มีตัวตนและเราจะทำอะไรไม่ได้สักอย่างนอกจากภาวนา ยังไงก็ตามตอนนี้มันไม่ได้เป็นอะไรเลยนอกจากเป้าใหญ่」
「ท่านพูดถูกต้องที่สุดท่านผู้นำ มาเรียงปืนใหญ่ทั้งหมดที่เรามีและเป่ากำแพงลงเถอะ」
แซพเนสไม่ได้มีแค่ปืนใหญ่จักรวรรดิอย่างเดียวเท่านั้น เขาก็ยังมีปืนใหญ่มากมายที่ยึดได้จากสหพันธรัฐหลังจากเปิดศึกกันนับครั้งไม่ถ้วนด้วย
ถ้าเขารวมมันละยิงมันทั้งหมดทีเดียว มันคิดไม่ได้ว่ากำแพงหินที่ไม่ว่าจะสูงและทนแค่ไหนจะทนแรงกระแทกได้ไหว
「มาทำการโจมตีแรกก่อนเถอะ ให้ทหารทาสทั้งหมดยกเว้นพลปืนใหญ่โจมตีด้วยทุกอย่างที่มี สงครามจะจบถ้าเราตีเมืองสีขาวแตกได้ มันอาจทำให้พระองค์ไม่พอใจถ้าเราทำพลาดและปล่อยอะไรสักอย่างตั้งอยู่」
ทหารทาสที่รวมกันจากหลายประเทศและคนที่ต่อต้านจักรวรรดิถูกคิดว่าทิ้งได้ อย่างไรก็ตามมันไม่ได้หมายถึงพวกเขาจะสู้เต็มที่แม้ว่าถูกขู่ด้วยปืนธนูจากข้างหลัง
ซึ่งนั่นคือทำไมจักรพรรดิประกาศว่าทหารทาสที่รอดศึกสองครั้งจะถูกดูแลพร้อมครอบครัวให้เป็นพลเมืองธรรมดา
ไม่มีใครอยากทำเหมือนทาสเป็นพลเมืองธรรมดา
แต่จักรพรรดิเองประกาศดังนั้นมันเปลี่ยนการตัดสินใจโดยไม่มีอำนาจเขาไม่ได้ ไม่อย่างนั้นความเชื่อใจจักรพรรดิได้ไหมจะกลายเป็นคำถาม
「เราจะให้พวกเขาหลายคนตายในการต่อสู้สุดท้ายนี่แหละ」
「เหลือรอดไว้ 10% หรือ 20% ควรพอแล้ว」
การใช้ทหารทาสไม่ได้เป็นเรื่องน่าเจ็บปวดเป็นพิเศษ มันถูกสนับสนุนให้ใช้แทน
พลปืนใหญ่เรียงกันเพราะคำสั่งแซพเนส และทหารทาสเป็นหมื่นๆอัดกันรอบเมืองสีขาว
ไม่ได้มีขบวนแถวถูกกำหนดและเน้นไปกับการใช้พลังจำนวนฝ่าไปข้างหน้า
「แต่ เมืองสีขาวควรมียามเมืองมากมาย มันจะยากสำหรับทาสที่จะตีฝ่าแม้หลังกำแพงถูกทำลายลงแล้ว」
「เราจะทำให้ศัตรูเหนื่อยโดยการโจมตีด้วยจำนวนจากนั้นเอาชนะกองทัพหลักเมื่อพวกเขามาถึงนั่นได้ถูกมั้ยครับ?」
แซพเนสพยักหน้า
「ไม่มีการโจมตีสวนจากศัตรู บางทีพวกเขาทำตัวให้กลมที่ไหนสักแห่งระหว่างกลัวเหรอ?」
「ฟุ่ฟุ่ฟุ่ พวกเขา ไม่มีก่อกบฏกันเองดีว่านะ ทหารทาสจะไม่ตายถ้าพวกเขายอมแพ้」
จากนั้นลูกน้องหนึ่งคนก้าวมาข้างหน้าแล้วคุกเข่า
「ท่านจะไม่ติดต่อท่านผู้นำเซกริตเหรอ? การโจมตีของเราจะมีประสิทธิภาพมากกว่าถ้าเราพึ่งการระดมยิงจากกองเรือด้วย……」
แซพเนสส่ายหัว
「มันไม่เป็นไร เรายืมกำลังกองเรือตลอดเวลาไม่ได้ เราจะทำการโจมตีแรก」
แซพเนสมีเจตนาตีเมืองสีขาวให้แตกแม้ว่าหลังพูดอย่างนั้น
「ฉันถูกเซกริตช่วยหลายครั้งในสงครามนี้ ดังนั้นฉันต้องจบศึกนี้โดยไม่มีเธอช่วย พระองค์จะหันมาสนใจฉัน」
เมืองสีขาวจะถูกล้อมเมืองโดยไม่มีกำลังเสริม
มันจะเป็นไปไม่ได้ที่ฝ่ายป้องกันเอาชนะศึกล้อมเมืองได้โดยไม่มีความช่วยเหลือจากด้านนอก
เขาคิดถึงรางวัลแล้วที่จุดนี้
「เซกริตจะรู้ถ้าเราใช้เวลานานไป มาเริ่มทันทีที่เตรียมการเสร็จ」
แซพเนสซ่อนยิ้มมุมปากบนหน้าไม่ได้
และจากนั้น การโจมตีเริ่มต้นขึ้น
「ยิงปืนใหญ่ทั้งหมด!! สาดพวกเขาด้วยพายุลูกปืนใหญ่!」
หลังจากเสียงดังสนั่นจากการยิงปืนใหญ่พร้อมกันดังขึ้น ควันที่ขึ้นมาหุ้มพลปืนใหญ่
มีควันพอทำให้มันดูเหมือนเกิดการระเบิดที่แคมป์จักรวรรดิ
ไม่นานหลังจากนั้น ลูกกลมเหล็กปะทะทำแพงปราสาทเมืองสีขาว ทำให้หินที่สวยงามร้าวและทำให้ส่วนหนึ่งของกำแพงพังทลายเป็นชิ้นๆ ทหารจักรวรรดิมั่นใจในชัยชนะ
「ยิงอีกชุดนึงกันไว้ก่อนแล้วให้ทหารทาสบุกเข้าไป ยิง!」
พลปืนใหญ่รอควันหายไปก่อนยิงชุดที่สอง เชื่อว่ากำแพงจะเป็นผุยผงแล้ว
「บุก!!」
ทหารทาสเริ่มวิ่งพร้อมกัน พวกเขาคาดหวังว่าจะเจอยามเมืองสีขาวระหว่างผ่านกำแพงที่ถูกทำลายแต่…….
「อะไร-!?」
กำแพงเมืองไม่ได้พังทลายหลังจากควันหายไป
ภายนอกกำแพงปราสาทที่สะอาดมันร้าวแน่นอน
อย่างไรก็ตามการยิงลูกปืนใหญ่ใส่เป็นร้อยลูกแค่เกาผิวของกำแพงและเปิดให้เห็นกำแพงหินไม่ได้ตกแต่งอยู่ข้างใต้
มากกว่านั้น มีความล่าช้าเล็กน้อยในการยิงปืนใหญ่ที่จุดที่สมควรเป็นจุดอ่อน – ฐาน – แต่กระสุนกระเด้งออกและทำเสียงเหล็กแหลมๆดังกับการกระแทกเหมือนดาบสองเล่มปะทะกัน
พวกเขาเพิ่มฐานเหล็กเหรอ?
「ภายนอกมันแค่ตกแต่ง…… นั่นเป็นการป้องกันจริงของเมืองสีขาว!」
กำแพงพราสาทหินทื่อๆไม่ได้มีความสง่าอยู่เลย
แต่ในสายตาของคนโจมตี มันมั่นคงและทนกว่ากำแพงสีขาวครีมสวยๆ
ปืนใหญ่ยิงอีกครั้งแต่ผลลัพธ์ก็ยังไม่มีผลกับผิว
มันเป็นกำแพงหิน แม้อย่างนั้นมันไม่แตกเยอะ
「มันไม่ใช่แค่กำแพงหิน!」
ความสบายใจในตาผู้บัญชาการพลปืนใหญ่เริ่มเปลี่ยนเป็นกังวล
「……กำแแพงเมืองสีขาวถูกรู้ว่ามีสามชั้น…… นั่นคือพวกมันทั้งหมดสามชั้นแล้วเหรอ?」
พลปืนใหญ่ระดมยิงไร้ความหมายซ้ำๆระหว่างทหารทาสหยุดเคลื่อนไหวเลย
พวกเขาสมควรวิ่งไปในเมืองผ่านรูที่เปิดโดยปืนใหญ่ แต่กำแพงไม่ได้เสียหายมากขนาดนั้นด้วยซ้ำ
ไม่มีใครคาดหวังให้พวกเขาปีนกำแพงสูง
ณ ทันใดนั้นการเปลี่ยนเกิดขึ้นบนฝั่งเมืองสีขาว
ส่วนบนของกำแพงเปิดออก
「หน้าต่างเฝ้าระวังเหรอ? แต่มันแค่อยู่บนฝั่งเดียวของกำแพง」
เมื่อทหารทาสมองขึ้นไปบนท้องฟ้า มันมืด
「อา…… อา……」
ลูกธนูนับไม่ถ้วนสาดลงไป มีลูกธนูพอปิดดวงอาทิตย์และทำให้สงสัยว่ามียามเมืองคุ้มกันกำแพงอยู่กี่คน
「ว้า!」
「กย๊าาาา!!」
「ฮิกกย๊าาา!」
ลูกธนูยิงลงไปจากกำแพงสูงเจาะเกราะหยาบของทหารทาสได้อย่างง่ายดายและเปลี่ยนพวกเขาเป็นศพที่ดูแปลก
「ท-ทำอะไรน่ะ!? เล็งไปจุดบนสุด หยุดธนู!」
พลปืนใหญ่ตื่นตกใจและย้ายการเล็งไปส่วนบนของกำแพงก่อนเขายิงได้ด้วยซ้ำ ส่วนกลางของกำแพงเปิดและปืนใหญ่นับไม่ถ้วนยื่นออกมา
「ป-ปืนใหญ่……」
「อุว้าาาา!!」
ควันตามมาด้วยเสียงดังตูมตอนปืนใหญ่ยิงจากฝั่งจักรวรรดิและฝั่งสหพันธรัฐ
ในเรื่องของจำนวน สหพันธรัฐมีปืนใหญ่ประมาณครึ่งหนึ่งของจักรวรรดิ
อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์มันเกิดขึ้นฝ่ายเดียว
ปืนใหญ่สหพันธรัฐถูกปกป้องด้วยกำแพงและมีแค่ไม่กี่กระบอกที่ลูกปืนใหญ่ลอยไปช่องเปิดเล็กๆและสร้างความเสียหาย
ระหว่างนั้น หน่วยปืนใหญ่จักรวรรดิถูกเปิดเผยให้ตกเป็นเหยื่อของการยิงไร้ปรานีของหน่วยสหพันธรัฐ ที่มีความได้เปรียบอยู่สูงกว่า และผลลัพธ์ ปืนใหญ่จักรวรรดิถูกยิงระเบิดสิ้นและทำลายตามๆกันทีละกระบอก
ทหารทาสถูกลูกธนูกำจัดโดยไม่รู้ว่าทำอะไรดีระหว่างหน่วยปืนใหญ่ยิงต่อไม่ได้ในท้ายที่สุดและถูกบังคับให้ถอยทัพหลังจากทิ้งปืนใหญ่
พร้อมกับการกระจายของพลปืนใหญ่หน่วยปืนใหญ่สหพันธรัฐหันไปเล็งทหารทาสที่อยู่ข้างหน้าและหน้าประตูปราสาทเปลี่ยนบริเวณเป็นนรกแห่งเลือด
กำแพงสีขาวครีมแตกและให้เห็นกำแพงสีเทาแต่ไม่นานก็ถูกย้อมในสีแดงด้วยเลือดของทหารทาส
การสังหารหมู่เกิดขึ้นต่อไปตลอดเวลาจนในที่สุดแก้วเหล้าที่แซพเนสเตรียมพร้อมความคาดหวังถึงชัยชนะหล่นไปที่พื้นและคำสั่งถอยทัพถูกมอบออกไป
–มุมมองเอเกอร์–
ดินแดนฮาร์ดเลตต์ เขตใต้
หลังจากออกจากแวนโดเลีย เราไปทางเหนือเรื่อยๆกับเบเซกและกองทัพเขา
การเดินทัพไม่ค่อยน่าพอใจที่เราต้องอาบเถ้าถ่านที่ตกลงมาเรื่อยๆไม่หยุด
แม้ว่ามันจะไม่ใช่ปัญหาแล้วเมื่อเราไปถึงดินแดนผม
「ถึงยังไง ทุกคนยังยับเยินอยู่เลย…… มันอาจหลีกเลี่ยงไม่ได้แต่พวกเขาไม่มีดาบหรือเกราะ」
「……ถ้าเรารววบรวมอุปกรณ์ทั้งหมดเราน่าจะเอาไปแลกเงินได้เยอะ」
ของเก็บจากสงครามที่ได้ระหว่างป้องกันมอลต์ถูกส่งไปที่ราเฟน แต่มันอาจไม่พอเป็นรางวัลทหาร
「พวกเขาก็ดูทรงน่าสงสารอยู่นั่นด้วย」
ผมมองสามเกลอเคานต์โมนาชิและคนอื่น
「อะว้าว้า…… ใครจะคิดล่ะว่าภูเขาจะทำแบบนี้……」
「ยัง…… อย่างเพิ่งยอมแพ้ คำนวนกำไรต่อวัน!」
「ฉันมีลูกสาวเจ็ดคนอยู่ที่บ้าน มากเท่านี้มันไม่พอ!」
พวกเขาน่าจะคิดถึงความสัมพันธ์ระหว่างผมเมื่อพวกเขาตัดสินใจไปยืมเงินออกศึก
พวกเขาต้องคาดหวังการชดใช้หนี้และค่าใช้จ่ายสงครามด้วยของเก็บในสงคราม
อย่างไรก็ตามทุกอย่างลงไปท่อน้ำทิ้งหมดด้วยเหตุการณ์ไม่คาดฝันจากภูเขาดาร์ด ไม่เพียงแค่เสียของเก็บสงครามไป แต่อุปกรณ์พวกเขาเองด้วย
อดอล์ฟจะเปลี่ยนเป็นฟ้าเมื่อเขารู้ว่าอะไรเกิดขึ้นกับของของผมแต่ผมนึกภาพว่าคนพวกนั้นจะทำอะไรดีไม่ได้เลย
「ที่สำคัญกว่านั้น มันดูเหมือนถึงขีดจำกัดพี่แล้ว」
「ได้ หนูเข้าใจ」
ไมล่ามาข้างผมและถอนหายใจ
ผมใส่เสื้อผ้าธรรมดาตัวเดียวระหว่างโยนเกราะทิ้ง
และตอที่หว่างขาแข็งโด่…… ไม่ กางเกงมันขาดแล้ว
มันเป็นผลจากอะดรีนาลีนของการเสี่ยงชีวิตหนีแและความจริงว่าผมโอบกอดสาวคนไหนไม่ได้เลยหลังจากตัวเปื้อนเถ้าถ่าน
เมื่อคิดถึงนั่นทั้งหมด เอ็นผมจะระเบิดแล้ว
「พี่เดินไปทั่วดูเป็นแบบนั้นไม่ได้ไม่งั้นมันจะมีผลกับชื่อเสียง หนูจะช่วยพี่ ดังนั้นไปที่รถม้าด้วย」
ไมล่าจับมือผมเดินและนำผมไปข้างในรถม้า
พูดถึงคนดูแลชวาร์ซยืนกรานว่าตูดเขาไหม้แต่เขาเดินไปไหนมาไหนได้โดยไม่ต้องแบกอะไรขึ้นหลัง
เขาค่อนข้างกังวลที่ขนคอถูกตัดออกและดูโง่ๆ
ผมได้ยินผู้หญิงบางคนส่งเสียงเอะอะเมื่อคืน
ผมว่าชวาร์ซอัดอั้นหลังจากกลับมาจากก้นเหวแห่งความตาย มันทำให้ผมกังวลเกี่ยวกับมดลูกสาวนั้น
「อะแฮ่ม เอาเลย」
มันดูเหมือนการเตรียมการมันเสร็จแล้วระหว่างผมคิดถึงม้าลามกนั่น
ไมล่านำผ้าห่มไปในรถม้าและกางมันลง จากนั้นอ้าขาเล็กน้อย
「ทำให้พี่ผ่อนคลายเหรอ? หนูเพียงแค่อยากได้ ไม่ใช่เหรอ?」
ไม่ล่าหันหัวไปด้านข้างอย่างเขิน
ช่างน่ารัก
ผมจับเข่าเธอ แหวกขาเธอออกเท่าที่ผมแหวกได้เพื่อที่ผมเข้าไประหว่างกลางได้
ผมไม่ต้องถอดเสื้อผ้าเพราะเอ็นผมทะลุกางเกงและยื่นออกมาแแล้ว
「เธอหยดหนืดก่อนถูกจับอีก」
「หยาบคายอ่ะ…… หนูไม่ชอบเลย…….」
ผมลูบแก้มไมล่าและเอาหน้าไปที่คอเธอ
กลิ่นผู้หญิงทำให้ผมตื่นเต้นขึ้นอีกและมันทำให้เจี๊ยวโด่แข็ง
ผมจะเอาการลูบไล้ไว้ทีหลังและใส่มันเข้าไปตอนนี้
มือเราประสานเข้าด้วยกันนิ้วพันเข้าหากันระหว่างผมโฉบผ่านหน้าเพื่อจูบเบาๆก่อนดันสะโพกไปข้างหน้า
「อา มันเข้าไปแล้ว……」
「เข้าไปล่ะนะ」
มันเป็นเมื่อตอนที่ปลายเอ็นผมกำลังจะมุดรูไมล่า
「ไม่ยุติธรรม」
ผ้าปิดด้านหลังพับเปิดอย่างไม่อาย
ผู้ปรากฏคืออิริจิน่า
ซีเลียต้องแอบปล่อยข้อมูลให้เธอ เพราะเธอแอบเกาะหลังอิริจิน่ามาด้วย
ปรกติแล้วเธอจะมาด้วยตัวเองแต่น่าจะรู้สึกด้อยค่าอยู่ตอนนี้
「อิริจิน่า…… เห็นหัวอกกันมากกว่านี้ไม่ได้เหรอ?」
「เธอไม่ได้เป็นคนเดียวเท่านั้นที่อยากได้น้ำแรกหลังจากสู้เสร็จ! มาตัดสินใจว่าใครได้ก่อนให้ยุติธรรม!!」
อย่าพูดมันดังสิ
ทุกกคนกำลังมองเราถ้าเธอตะโกนระหว่างผ้าด้านหลังเปิด
ผมเดาว่าเราทำไม่ได้แล้ว
「ตัดสินใจยังไงก็ได้ที่อยากทำ…… แต่เร็วๆหน่อยก่อนเอ็นพี่ระเบิด」
「อุมุ!!」
อิริจิน่า, ไมล่า, ซีเลีย, และลูน่าที่มาผสมจากไหนก็ไม่รู้สู้กัน
「งัดข้อ…… ฉันคิดว่ามันจะเป็นเล่ห์เหลี่ยมบางอย่าง แต่ไม่ควรมีแผนลับถ้ามันเป็นอิริจิน่า」
มันดูเหมือนคนแรกจะเป็นอิริจิน่า
「ซอร์ย่าาาา!」
「โอ๊ยย! ข-แขนๆหักแล้ว!」
ไมล่าร้องดัง
「ฮึ่กก๊าาา!」
「กย๊าาาาา!!」
ลูน่าร้องดัง
「ฮึ่นบ่ะ!」
「อิริจิน่าซังได้โปรดหยุดเหอะ! มันงอไปที่แปลกๆแล้ว!!」
ซีเลียตะโกน
ผมรู้ว่าจะเป็นอิริจิน่า
มันไม่ยุติธรรมที่เธองัดข้อกับสาวๆ
「มันเป็นหนู」
「ใช่พี่รู้」
มีหลายอย่างที่ผมอยากพูด แต่เอ็นผมอ้อนวอนขอผู้หญิง
นอกจากนี้มันไม่เหมือนผมมีอะไรบ่นกับอิริจิน่า
เธอก็เป็นหนึ่งในสาวน่ารักของผม
เรายืนกันในรถม้าไม่ได้เราเลยลงไปคุกเข่าแทน
อิริจิน่าค่อนข้างสูง เลยไม่มีความสูงต่างกันมากระหว่างเรา
เมื่อผมโอบแขนรอบเธอ ผมรู้สึกได้ถึงกล้ามเนื้อเป็นมัดๆของเธอ
「หนูไม่เหมือนผู้หญิงมากเลย…… ตัวก็ใหญ่หยาบก็หยาบ」
「แน่นอนหนูมีกล้าม แต่นั่นทำให้หนูดูน่าหลงใหล」
ผมแก้ผ้าอิริจิน่าออกและจากนั้นเปลือยเองด้วย
ผมลูบกล้ามท้องแน่นเบาๆระหว่างผมทำ
「หนูคือผู้หญิงมหัศจรรย์และนี่เป็นข้อพิสูจน์」
ผมจับนำมือเธอนำไปสู่เอ็นของผม
มันควรเห็นได้ชัดกับเธอว่าผู้ชายกระปรี้กระเป่าแค่ไหนเมื่อเธอเห็นเอ็นแข็งขนาดนี้
「มันใหญ่และหนา…… เหมือนหนูเลย!」
เสี้ยววินาทีหนึ่ง ความคิดว่าบางอย่างงอกออกมาจากหว่างขาอิริจิน่าวิ่งผ่านใจผม
ผมส่ายหัวเพื่อไล่ความเพ้อเจ้อโง่ๆออกไป
「นี่ มาสร้างรักกัน」
เรานอนลงบนผ้าปูในแขนกันและกันตอนเราจูบกันอย่างเร่าร้อน อิริจิน่ารัดแขนขารอบผมแน่นระหว่างผมโอบกอดเธอแรง
มันเป็นการโอบกอดที่รุนแรงที่ทำให้สาวคนอื่นร้องเสียงแหลมในความเจ็บ
「「ปุฮ่า」」
เราแยกปากกันและอิริจิน่าแหวกจิ๊ออก
ผมไม่พูดอะไรและเข้าหารูด้วยเอ็นที่ขยายตัว
「อิริจิน่า…… พี่แรงนิดนึง ไม่ดิ พี่แรงสุดๆไปเลยได้มั้ย? พี่รู้สึกเงี่ยนจัดตอนนี้」
「แน่นอน ตัวหนูแกร่ง! มันไม่พังง่ายๆ!」
ผมมั่นใจเมื่อรู้ว่าผู้หญิงคนนี้รับเซ็กส์แรงได้ เธอไม่ได้แค่ตัวใหญ่แต่กล้ามโตด้วย
ถ้าผมทำเหมือนกันกับนนน่าหรือเมลผมจะทำเธอพังทันทีแน่นอน
「ชอบคุณ」
ผมจับสะโพกอิริจิน่าและสอดใส่ตัวเองข้างในช่องเปิด
ผมไม่ได้ใช้ท่ามิชชันนารีปรกติ ผมยกสะโพกเธอและแทงกดลงไปแทน
「ฮึ่ม!」
「อุ่กก!!」
ผมใส่ทั้งความยาวได้แบบเร็วๆ
อิริจิน่าเป็นคนเดียวเท่านั้นที่รับเอ็นถึงโคนได้โดยไม่ต้องใช้มดลูกเธอ
「ม-มันลึกมาก! สุดยอด!」
「ใช่ มันแน่นและเสียวมากเลย」
ขนาดจิ๊เธอคือส่วนหนึ่งของขนาดตัวและมันไม่เล็ก
ไม่ว่าอย่างไรมันขมิบรัดแรงน่าจะเพราะกล้ามเนื้อที่ฝึกมา
「แทงไม่ยั้งเลย! หนูจะให้พี่เห็นว่าหนูทนไหว!」
ผมยิ้มและจับสะโพกกับไหล่เธอก่อนกระแทกเอ็นใส่เธออย่างแรง
「ห-หนูไม่เป็นไร! หนูรับได้อีก!!」
ผมกระแทกใส่เธออย่างดุดันและขูดด้านในจิ๊เธอด้วยเอ็น
ผมจับไหล่เธอกดลงเพื่อให้เธอไม่เลื่อนไปข้างบนจากการแทงเน้นๆแต่ก็เพื่อที่ผมจะกระทุ้งมดลูกอิริจิน่าด้วยปลายเอ็นให้ได้ด้วย
เธอไม่ได้ร้องหรือไม่ได้ดูเจ็บ
มันทำให้ผมสุขใจที่เธอทนการแทงเต็มที่ของผมได้
「พี่ยังไม่เสร็จ!」
「หนูรับได้ทุกอย่างที่พี่ทำ!!」
ผมงอตัวไปข้างหลังและแทงกระแทกให้เร็วขึ้น
สะโพกเราฟาดเข้าหากันในเสียงเนื้อตีกันดังออกไปตอนทั้งรถม้าสั่น
「อุโออออออออ้!!」
「อ๊าาาาาาา!!」
ผมเลื่อนมือจากสะโพกอิริจิน่าสู่แขนเธอ
ในเวลาเดียวกันขาเธอรัดเอวผม
ขณะผมกระแทกอิริจะน่าและให้กดเธอกระแทกเข้ากับพื้นรถม้าทุกครั้ง ผมเริ่มได้ยินเสียงแปลกๆ
「มีเสียงแปลกๆอ่ะ……」
「จ-จัดหนูมาอีก!」
ผมสงสัยแต่มันสำคัญมากกว่าที่จะมีสมาธิกับผู้หญิงหน้าผม
「ได้ซี่ แล้วถ้าแบบนี้ล่ะ!?」
ผมเปลี่ยนการเคลื่อนนไหวสะโพกและถูตรงในจิ๊ที่ยังไม่ได้ได้ถู
ตอบด้วยร่างกายเธออิริจิน่าดันสะโพกใส่ผม
และจากกนั้นเมื่อสองเรากำลังจะไปถึงจุดสุดยอด มีเสียงดังพอทำสมาธิเสียและรถม้าเซไปด้านข้าง
「「โด่ะว้า!」」
อิริจิน่าและผมอยู่เชื่อมต่อกันขนะเรากลิ้งสู้พื้นเอียง
ผมได้ยินทหารด้านนอกเอะอะ
「เฮ้ยรถม้าพังว่ะ!」
「แหม โยกซะขนาดนั้น……」
มันดูเหมือนอิริจิน่าและผมแรงไปและล้อรถม้าพัง
แต่ผมหยุดไม่ได้หลังมาไกลขนาดนีแล้ว
「เอามือไว้ที่กำแพง」
「ได้!」
มือเธอวางบนรถม้าล้มและผมแทงจากข้างหลัง
แน่นอนความเงี่ยนของผมใกล้จุดสุดยอดและผมยั้งมือไม่ได้สักนิด
「ขมิบให้แน่นสุดท่าที่ทำได้ พี่จะถูหนูเยอะๆ」
「ปล่อยหนูได้เลย」
อิริจิน่าเกร็งกล้ามและขมิบด้านใน
เหมือนไม่ให้แพ้เธอผมแทงด้วยความแรงมากขึ้น
「อิริจิน่า…… อิริจิน่า!」
「ฮาร์ดเลตต์โดโนนน้!」
มือผมโอบร่างกลามเธอและขยำนมเธอระหว่างผมกัดคอเธอเบาๆ
อิริจิน่าเอื้อมมาข้างหลังเพื่อจับตูดผมตอนผมแทงใส่เธอ
จากนั้น ช่วงเวลาสุดท้ายมาถึง
「พี่จะปล่อยใส่ส่วนลึกสุด…… พร้อมมั้ย?」
「ได้เลย ส่งมาเลย」
สองเรากะจังหวะกระแทกใส่กันพร้อมกัน
เอ็นผมปะทะมดลูกเธอ
ในที่สุดเธอก็ร้องดังและงอหลังก่อนน้ำแตก
「โอออ้!」
ผมไปถึงขีดจำกัดการกระตุ้นและฉีดก้อนน้ำเชื้อเกือบแข็งใส่เธอ
สองเรานอนลงในอ้อมแขนกันและกันและมีความสุขกับความเสียวตกค้าง…… หรือนั่นควรเป็นอะไรที่เกิดขึ้น
「ระวัง!」
「โอ่ะว้า!」
เสาค้ำไม่สามารถทนการกระแทกและหัก ในที่สุดก็ทำให้ทั้งรถม้าพัง
เสาค้ำหนักหัก ไม้ค้ำผ้าคุ้มด้านบนหัก มากกว่านั้นพื้นไม้แตกเป็นชิ้น มีผลเป็นรถม้าที่ถูกทำลาย
อิริจิน่าและผมถูกโยนลงพื้นขณะรถม้ากระจายเป็นชิ้น
「จ-เจ้าศักดินา…… เป็นอะไรเปล่า?」
ทหารรอบๆมองเราอย่างตกใจขณะพวกเขาตรวจดูว่าผมบาดเจ็บหรือไม่
「……ไม่มีปัญหา ฉันแค่แรงไปหน่อย」
「แรงไปหน่อย? …….จากข้างนอกรถม้าสั่นเหมือนมีสัตว์ป่าอยู่ข้างใน」
ไมล่าค่อนข้างพองแกมและสีหน้าโกรธบนหน้า
ณ เวลานั้น มีเสียงกระแทกเป็นจังหวะและเอ็นผมหลุดออกจากอิริจิน่า
ผมจะปิดเธอด้วยผ้าห่ม
「มา ใครต่อ?」
เราจะใช้รถม้าทนกว่านี้ครั้งหน้า
ทันใดนั้นผมได้รู้ว่าร่างกายผมที่ร้อนจากเซ็กส์เข้มข้น มันกำลังเย็นลงอย่างเร็ว
「มันหนาววันนี้ มันฤดูหนาวแล้วเหรอ?」
「ฤดูกาลเปลี่ยนและมันดูเหมือนเราได้ลมพัดมาจากลมเหนือ」
ลีโอโพลต์ยืนหน้าผมด้วยสีหน้าไม่คิดอะไรแม้ว่าผมเปลือย
ผมรู้สึกว่าผมจะแพ้ถ้าผมอาย ผมเลยยืนกล้าๆเอ็นเปิดๆ
「มันไม่ปรกติที่ได้ลมเหนือ แต่มันแรง」
อืม มันไม่สำคัญวว่าลมจากเหนือหรือใต้ ผมไม่ชอบความหนาวเป็นพิเศษ
ผมแค่อยากกลับบ้านอาบน้ำ
「เราเสียอุปกรณ์ไปเยอะอยู่แล้ว การทำลายรถม้าไม่ใช่ความคิดที่ดี」
ลีโอโพลต์พล่ามอะไรที่เขาอยากพูดแล้วจากไป
ลมเหนือมันแรงขึ้นเยอะ
ไปที่รถม้าอื่นเถอะ
ลมหนาวควรรออยู่จนกว่าเราไปถึงราเฟน…… ผมเดาว่าผมโชคร้ายอย่างน่าตกใจ
สหพันธรัฐปะทะจักรวรรดิ – เทียบกำลังทหาร (จำนวนคนจะเพิ่มขึ้นขึ้นอยู่กับการเกณฑ์)
สหพันธรัฐโอลก้า
ความแข็งแกร่งกองทัพ – ปัจจุบัน: 400 000 เคลื่อนพลเต็มกำลัง: 2 550 000 สูญเสีย: 1 100 000 พลเมืองตกเป็นเหยื่อ: 900 000
จักรวรรดิการ์แลนด์
ความแข็งแกร่งกองทัพ – ปัจจุบัน: 2 250 000 เคลื่อนพลเต็มกำลัง 3 100 000 สูญเสีย 850 000 (ไม่รวมทหารทาส)
ตัวเอก: เอเกอร์ ฮาร์ดเลตต์ 23 ปี ฤดูใบไม้ร่วง
สถานะ: มาร์เกรฟอาณาจักรโกลโดเนีย เจ้าศักดินาผู้ยิ่งใหญ่ของบริเวณตะวันออก ราชาแห่งภูเขา เพื่อนของดวอร์ฟ เพื่อนของราชาแห่งอเลส
พลเมือง: 163,000 เมืองหลัก – ราเฟน: 24,000 ลินต์บลูม: 4500
ครอบครัว: นนน่า (นนน่าผู้งดงาม), คาร์ล่า (ภรรยาน้อย), เมล (ภรรยาน้อย), มิตี้ (ภรรยาน้อย), มาเรีย (ภรรยาน้อย), แคทเธอรีน (ภรรยาน้อยอัดอั้นทางเพศ ++++), คุ (คนรัก), รุ (คนรัก), มิเรล (คนรัก), ลีอาห์ (คนรัก), เคซี่ (ผี), ริต้า (หัวหน้าแม่บ้าน), โยกุริ (นักแต่งบทละคร), ปีปี้ (คนรัก), อลิส (สาวน้อยเวทมนตร์)
มาร์เซลีน (คนรัก), ลูกสาว – สเตฟานี่ (คนรัก), บริดเจ็ต (อัดอั้นทางเพศ ++++), เฟลิซี่ (คนรัก)
เซบาสเตียน (พ่อบ้าน), โดโรเธีย (คนรัก ในเมืองหลวง), เมลิสซ่า (คนรัก ไปเมืองหลวง), อัลม่า (ไปเมืองหลวง)
ลูก: ซู, มิว, เอคาเทรีน่า, อมาต้า, อนาสตาเซีย (ลูกสาว); แอนโตนิโอ, คลอดด์, กิลบาร์ด, ไรเนอร์, บาร์โตโลม (ลูกชาย); โรส (ลูกสาวบุญธรรม)
ไม่ใช่มนุษย์: แลมมี่ (คนรักที่เป็นงู), มิรูมิ (นางเงือก), ??? (ต้นไม้ประหลาด)
ลูกน้อง: ซีเลีย (หดหู่), กิโด้ (หน่วยติดตามคุ้มกัน), ครอล (พระขอทาน), อิริจิน่า (ผู้บัญชาการ), ลูน่า (ผู้บัญชาการ ), รูบี้, ไมล่า (เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย), โพลเต้ (ผู้จัดการฝึกหัด), เกรเทล (ผู้ฝึกทำกิจการภายใน), ลีโอโพลต์ (เจ้าหน้าที่ระดับสูง), อดอล์ฟ (เจ้าหน้าที่กิจการภายใน), ทริสตัน (เจ้าหน้าที่ระดับสูง B), แคลร์ & ลอรี่ (แม้ค้าอย่างเป็นทางการ), ชวอร์ซ (เหนื่อย), ลิเลียน (ดาราหญิง)
กองทัพ: 14,200 คน
ทหารราบ:7150 คน, ทหารม้า 800 คน, พลธนู: 950 คน, ทหารม้าธนู: 3900 คน (กองทัพลอร์ดบริวาร: 1400)
ปืนใหญ่:10 กระบอก, ปืนใหญ่มาก: 10 กระบอก
กองทัพแวนโดเลีย?: 9000
ทรัพย์สิน: 470 ทอง
คู่นอน: 233, ลูกเกิดแล้ว: 48 + ปลา 555 ตัว
แปลโดย: wayuwayu
tipme : tipme.in.th/wayuwayutl
patreon (Ebook): patreon.com/wayuwayu
ได้โปรดโดเนทเพื่อสนับสนุนผู้แปล ติดตามข้อมูลข่าวสาร, ติดต่อ: http://linktr.ee/wayuwayu
Comments