ถนนสู่อาณาจักร – Oukoku e Tsuzuku Michi 233 นักล่ามังกร ③ การคำรามของปืนใหญ่ยักษ์

Now you are reading ถนนสู่อาณาจักร – Oukoku e Tsuzuku Michi Chapter 233 นักล่ามังกร ③ การคำรามของปืนใหญ่ยักษ์ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 

 

–มุมมองเอเกอร์–

「ซีเลีย, กิโด้, ครอล ทุกคนอยู่ที่นี่มั้ย?」

「「ค่ะ/ครับ!」」 「ผ-ผมขี่ม้าได้นะ」

กิโด้โดนซัดเข้าตัว

เพราะเป็นหนึ่งในชาติภูเขา เขาขี่ม้าได้แม้ว่ามีแผล

ตอนนี้ผมไม่มีเวลาห่วงเขา

เรารีบออกจากถ้ำดวอร์ฟและกระโดดขึ้นหลังม้า

ชวาร์ซร้องดังและดีดตัวเขาเหมือนเขาไม่เอาผมแล้ว

เขาไม่ได้ดูเหมือนชอบแบกค้อนที่ผมยืมมาจากดวอร์ฟที่หนักกว่าซีเลีย

「ทนมันน่า แกมีตัวเมียอยู่ในเมืองด้วยนี่」

มันแค่สั้นๆจากที่เราอยู่ไปที่ลินต์บลูม ดังนั้นมังกรที่บินได้จะไปถึงที่นั่นอย่างรวดเร็ว

ผมไม่เห็นไฟมาจากเมืองตอนนี้ แม้ว่าผมไม่ควรเลิกระวัง

「ขาเราสั้นไปจนขี่ม้าไม่ได้ เราจะรีบเท่าที่เป็นไปได้ ดังนั้นพยายามซื้อเวลานะ」

ตามอยู่หลังบัลบาโน่ดวอร์ฟคนอื่นก็เริ่มวิ่ง ผมได้ยินเสียงร้องแสบแก้วหูจากด้านบน

มังกรเกาะอยู่บนภูเขามองกลับไปกลับมาระหว่างเมืองและเรา

มันดูเหมือนเจ้านั่นรอโจมตีด้วย

「ไม่ว่ายังไงดวอร์ฟก็รีบไปที่เมืองเถอะ! ซีเลียและคนอื่นควรไปรวมพลเมือง…… ฉันไม่รู้ว่าให้พวกเขาไปที่ไหนดี แค่ให้มั่นใจว่าให้พวกเขาสงบอย่าตกใจ」

ถ้าพวกเขากระจายตัวและวิ่งกันไปนอกกำแพงเมือง สัตว์ดำจะล้อมพวกเขาเป็นฝูง

ดังนั้นเองถ้าเราไม่กำจัดมังกรมันจะมีผลเป็นคนเสียชีวิตเยอะมาก

「ชวาร์ซวิ่งเลี้ยวเหมือนงูระหว่างรักษาความเร็ว เจ้านั่นพ่นไฟนะเว้ย หลบมันให้ดีๆด้วย」

เมื่อชวาร์ซส่ายหัวแล้วถอนหายใจ ผมบอกเขาว่าจะเอาตัวเมียกี่ตัวก็ได้ ถ้าเรื่องนี้มันจบดี หวังว่าเขาจะตั้งใจทำงานเพื่อพวกมัน

ซีเลียและคนอื่นมุ่งไปที่เมืองเป็นเส้นตรงระหว่างผมซิกแซกและตะโกนดังๆ

「คนตัดเล็บแกแล้วทำฟันแกหักร่วงคือข้าโว้ย ชอบป่ะล่ะวะ เจ็บป่าวจ๊ะหนู!?」

ผมรู้ว่ามันยั่วโมโหห่วยๆ แต่มังกรคำรามในคอแบบโมโห และพ่นไฟมาใส่ผม

น่าตกใจที่มังกรในตำนานไม่ได้ใจเย็นสักนิด

「นั่นมันมาแล้ว เร็วขึ้นอีก」

ชวาร์ซหยุดซิกแซกเมื่อผมดึงขนคอมันและเร่งความเร็วทันที

ไฟคลานอยู่บนพื้นแม้ว่าในที่สุดมันเสียความเร็วและกระจายตัวหายกันไป

มันไม่ได้ดูเหมือนไฟแรงพอเผาโลกา

「กระจอกว่ะน้องจิ้งจก มันไม่โดนวะเหวยๆ」

ผมตีหินบนแดนรกร้างด้วยค้อนศึกตอนผมล้อเลียนมังกร เจ้านั่นกางปีกและขึ้นบิน

「……เจ้านั่นอารมณ์เสียง่ายสุดๆ」

หลังจากเหินใอกาศอย่างเร็ว มังกรมาถึงเราอย่างเร็วเหมือนกันระหว่างบินให้ต่ำลง

มันต้องกะกวาดเราไปฉีกเราไปด้วยกรงเล็บแน่

「มันมาเป็นทางตรงจากหลังเราทางขวา」

ชวาร์ซร้องเหมือนบอกรู้แล้ว

ก่อนที่มังกรกวาดลงมา ชวาร์ซหักเลี้ยวไปทางซ้ายแล้วลดความเร็ว

กรงเล็บเจ้านั่นเกือบเฉี่ยวเราและไปจิกเอาพื้นโล่งๆบนดิน

「รับป๊าย!」

เพื่อตกแต่งเติมให้สวยงาม ผมตีแขนล่างด้วยค้อนศึก

หัวค้อนที่เห็นได้ว่าเป็นอาวุธดีที่สุดแล้วของดวอร์ฟสึกหลังทุบทีเดียว

อย่างไรก็ตามการกระแทกจากการเหวี่ยงตีจะส่งความเสียหายมากกว่าการฟันเอาแน่นอน ทฤษดีผมถูกพิสูจน์แล้วกับความจริงที่มังกรบินไปหน้าเราและเอาแขนหนีเหมือนรู้สึกเจ็บ

ต่อมา เจ้านั่นตัดเส้นทางเราและลงพื้นหน้าเราก่อนเปิดปากกว้างและเดินตรงมาใส่เรา

ถ้าอย่างนั้นเจ้านั่นอยากสู้บนพื้นและให้แน่ใจที่สุดว่าเราดับสิ้นโดยการกัดเรา

「เลี้ยวขวา」

ชวาร์ซเลี้ยวหลังรักษาความเร็วเพื่อหลบกรามมังกร เมื่อไม่สามารถโจมตีโดนสุดท้ายมันหัวโขกพื้น

「อีกสักทีน่า」

เมื่อผ่านเขา ผมเหวี่ยงสวยทุบคางมัน

มันกรหัวหมุนเจ็บปาก แต่เราเลี้ยวมาหลังมันแล้วเพื่อไม่ให้มันกัดได้

ผมเปลี่ยนเป็นแอ่งคู่และฟันปีกที่ตก, ต้นขา, กับปลายหาง

เพราะเกล็ดแข็งมันฟันเข้าไม่ลึก แม้ว่ามันลึกพอเฉือนเนื้อและทำเลือดไหล

มันคำรามแบบดังสุดๆ…… ผมไม่เข้าใจภาษามังกร แต่มันน่าจะพูดบางอย่างเหมือน “กล้าดียังไงไอ้พวกบัดซบ ข้าจะฆ่าเจ้า” เจ้านั่นหายใจลึกๆ

「ตอนนี้มันเวลสำคัญแล้ว วิ่งเหมือนไม่คิดชีวิตถ้าไม่อยากเป็นสเต็กม้า」

ชวาร์ซควบเต็มความเร็วระหว่างผมเอาอาวุธไว้บนหลังและก้มตัวเพื่อลดแรงต้านลม

ทันใดนั้น ผมรู้สึกถึงความร้อนมากมายหลังผม

เจ้านั้นบิดตัวและพ่นไฟใส่เรา

หางชวาร์ซไหม้อีกแล้ว

มังกรปล่อยการพ่นไฟไปและบิดตัวไปทางซ้ายระหว่างหันซ้ายเพื่อหันให้ไฟตามทันและเปลี่ยนผมเป็นสเต็กมนุษย์เหม็นๆ

มันอาจหมดลมหายใจ ไฟหยุดและมังกรจ้องเหมือนรำคาญ

อย่างเดียวที่ไฟได้เผาคือหางชวาร์ซ

มังกรตัวใหญ่มันเร็วบนฟ้าแต่ช้าบนพื้น

มันเร็วเกินไปจนไม่เกิดผลดีกับตัวเมื่อมันโจมตีเราไม่ได้เพราะมันเร็วเกินเราที่อยู่บนพื้นไปเกินมังกรจะตามทัน

แม้ว่าเราต่างสายพันธุกัน ผู้รู้สึกได้ว่ามันรำคาญแบบชัดๆ

ผมจะยั่วมันอีกนิด

「ฮ่าฮ่าฮ่า ไฟอุ่นดีนี่ มันเหมาะกับหน้าหนาวตอนนี้เลยล่ะ」

ชวาร์ซก็เริ่มถ่ายเพื่อล้อเขาด้วย

มันดูเหมือนการล้อเลียนของเราข้ามพรมแดนแห่งสายพันธ์และข้อความถูกส่งไปชัดๆให้กับมังกร

เจ้านั่นยกทั้งสองมือและทุบพื้นเหมือนเด็กงอแง สร้างฝุ่นเยอะมหาศาล

จากนั้นมันขึ้นบิน พ่นไฟบนฟ้าสุ่มๆก่อนมองข้างใส่และจากนั้นบินไปเมือง

「จึ ดูเหมือนทำได้ทั้งหมดแค่นั้น」

ผมซื้อเวลาได้ แต่ผมสงสัยว่ามันพอสำหรับดวอร์ฟเตรียมตัวไหม

เราต้องมุ่งไปที่นั่นให้เร็วที่สุดด้วย

ชวาร์ซวิ่งเหมือนลมและเรามาถึงเมืองลินต์บลูมในไม่กี่นาที มันดูเหมือนการต่อสู้ของเราก็ถูกเห็นได้จากเมืองเพราะเสียงเตือนดังไม่หยุดระหว่างพลเมืองกรีดร้องและวิ่งกันไปทุกทิศทาง

「อย่าออกนอกเส้นทาง! เขาไปที่โรงตีเหล็กหรือห้องเพดาน ไม่ก็บ้านที่ทนๆก็ได้!」

「คนที่อยู่ข้างนอกไปหลบที่คูน้ำ!」

ซีเลียและครอลพยามเต็มที่แล้ว แต่ไม่สามารถระงับความวุ่นวายได้

「……มันแค่บินเหนือหัวเรา」

มังกรบินเป็นวงกลมกว้างเหนือเมือง เพื่อรอโอกาส

มันเป็นเรื่องเวลาก่อนมันโจมตี

「นายท่าน!」

「ลีอาห์ ลงไปห้องใต้ดินโรงแรม นั่นน่าจะปลอดภัยที่สุด」

ไฟร้อนพอละลายหิน

ผมไม่รู้ว่านานแค่ไหนที่ห้องใต้ดินจะทนได้ แต่มันดีกว่าวิ่งไปข้างนอกให้เห็นๆ

「ฉันจะต้องเก็บมันซะ」

ผมไม่ต้องการการม้าถ้าเราสู้ในเมือง

ผมลงจากชวาร์ซและถืออาวุธไว้ในแต่ละมือ

「ฉันหวังพึ่งนายแล้ว บัลบาโน่」

ผมเริ่มวิ่งเพื่อไล่มังกรที่จ้องผมคมๆก่อนลงมาหาผมอย่างเร็ว

ทันทีเมื่อมังกรเข้าตำแหน่งโจมตี หน่วยป้องกันลินต์บลูมเริ่มโจมตี ธนูยิงและหน้าไม้บินใส่สัตว์

อย่างไรก็ตามอาวุธใช้กระสุนทั้งหมดกระเด้งออกโดยเกล็ดมังกรด้วยเสียง ‘กิ๊ง’ เบาๆ

「นายไม่ต้องทำอะไรเลย! ธนูมันไม่ได้ผล แค่วิ่งหนี!」

หน่วยป้องกันได้ยินผมตะโกนและกำลังจะเปลี่ยนไปหนี แต่พวกเขาช้าไป

มังกรไปถึงหน่วยป้องกันจากอากาศและอาบพวกเขาในการพ่นไฟ

「เกี๊ยะ……」

「ฮฮฮฮี๊……」

การกรีดร้องไม่ได้ยาวนาน

คนที่โดนไฟของการโจมตีเปลี่ยนเป็นกองซากไหม้เกรียมทันที

แม้ว่าคนพวกนั้นที่ซ่อนอยู่ในเงาบ้านก็ไหม้ไปพร้อมบ้านด้วย

「จึ……」

ถ้าบ้านไว้กำบังมันไร้ความหมายกับเจ้านั่นถ้าอย่างนั้นบ้านเมืองมันแค่ทำหน้าที่เป็นอุปสรรค์กับการเคลื่อนที่ของเราเท่านั้น

มันน่าจะไม่อยากก้าวเข้ามาในเมืองและเข้าประชิดเพื่อต่อสู้ระยะใกล้

ไม่มีอะไรที่ผมทำได้ถ้ามันแค่อยู่ในอากาศและยิงไฟใส่ผม

「ม่ายยยยยย!!」

ผู้หญิงแต่งตัวน้อยชิ้นมากร้องเสียงแหลมออกมาและยองลง

ผมเดาว่าเธอเป็นโสเภณีที่ขาอ่อนและวิ่งไม่ไหวอีกแล้ว

มันกรลงต่ำเร็วอีกครั้งและเข้าหาระหว่างพ่นไฟ

「มา!」

ผมจับมือผู้หญิงและโยนเธอลงในคูน้ำ จากนั้นปกปิดตัวเธอด้วยร่างกายผม

โชคดีที่ที่นี่เป็นที่เก็บน้ำ

ผมต่อยและทำลายถังใหญ่ ทำให้น้ำข้างในเทออกมาสู่คู

และจากนั้นไฟโจมตีเรา

ผมเอาตัวลงต่ำพร้อมร่างผู้หญิงดิ้นลงคูน้ำ

ผมรู้สึกเหมือนหลังผมกำลังไหม้ขณะไฟล้อมตัวผมอย่างเร็ว

「มะมะ…… มันเป็นน้ำเดือดในทันที」

ผมยกตัวขึ้นและเห็นว่าน้ำส่วนใหญ่ระเหยและมีแค่น้อยนิดที่เหลือในคูน้ำเดือดเป็นฟอง

ถ้าเราไม่มีทั้งน้ำทั้งคูทั้งสองเราจะไหม้เกรียมไปแล้ว

「อืม หนู-……」

「ไม่ มันไม่ใช่เวลาคุยตอนนี้ วิ่งหนีก่อน ถ้าหนูรอดให้พี่โอบกอดใกล้ชิดด้วยนะ」

หลังพูด ผมปล่อยผู้หญิงไว้และวิ่งเร็วที่สุดไปข้างหน้า

มันไม่ได้ดูเหมือนผมซื้อเวลาต่อได้แล้วแบบนี้

ผมทำได้แค่เสี่ยงว่าดวอร์ฟเตรียมเสร็จแล้ว

ไพ่ตายพิชิตมังกรเป็นอะไรไม่ได้นอกจากปืนใหญ่สุดยักษ์เออร์กัน

ดวอร์ฟทำงานอย่างอย่างเหน็ดเหนื่อยเพื่อสร้างปืนใหญ่นี้ด้วยวัสดุดีสุด ทำให้ขนาดปืนมันเท่าบ้านและยาวแบบไม่จำเป็นต้องขนาดนั้นเลย ซึ่งมันโคตรหนักด้วยและขยับไม่ได้แม้แต่ก้าวเดียวจากลินต์บลูม และมันเป็นความหวังเดียวของเรา

พลเมืองมากมายเทกันไปสู่โรงงานที่ปืนใหญ่ยักษ์สุดถูกปล่อยไว้ที่นั่น

นี่คืออาคารสำคัญที่สุดของลินต์บลูมดังนั้นมียามอยู่เยอะ และระหว่างที่มันเป็นไปได้อยู่ที่จะหวังพึ่งพวกเขา……

「ด้วยการที่ ‘เจ้านั่น’ เป็นคู่ต่อสู้ ทหารเป็นหมื่นก็ทำอะไรไม่ได้」

ผลักพลเมืองและทหาร ดวอร์ฟประจำตำแหน่งปืนใหญ่ยักษ์และตะโกน

「พร้อมยัง!?」

「อีกห้านาที!」

ห้านาทีไม่เคยนานขนาดนี้

แม่บ้านที่มาปลุกผมตอนเช้าวันต่อมาก็พูดอย่างเดียวกัน แต่ผมไม่พูดถึงเรื่่องนั้นหรอก

「ฉันว่าฉันต้องซื้อเวลาอีก」

ผมตั้งท่าพร้อมด้วยค้อนและแอ่งคู่ทั้งๆที่รู้ว่ามันไร้ความหมายกับคู่ต่อสู้ที่บินได้

เหมือนล้อผม มังกรมันเพิ่มความสูงก่อนดูดอากาศเข้าเยอะๆ

「ยิงงงงงง!!」

อย่างไรก็ตามก่อนมันพ่นไฟได้ ปืนใหญ่นับไม่ถ้วนถูกยิง

การเล็งปืนใหญ่มันมั่วซั่วมากแต่เสียงระเบิดและลูกเหล็กบินต้องทำให้มังกรตกใจ แม้มันจะไม่ได้พ่นไฟใดๆ มันบินวนแทนและให้กระสุนผ่านไป

「มันไม่โดน…… ใส่กระสุนลูกต่อไป!」

ที่นี่เป็นโรงงานทหาร ดังนั้นแน่นอนว่ามีปืนใหญ่ผลิตอยู่ที่นี่

ผมไม่รู้ว่าใครลากออกมาทั้งหมดกระทันหันขนาดนี้แต่มันช่วยได้เยอะ

「เจ้าศักดินาซามะ! ได้รับบาดเจ็บมั้ย?」

「นายยิงพวกมันเรอะ? ทำได้ดีมาก」

ผู้บัญชาการยิ้มให้ผมจากนั้นกลับไปพร้อม

「ธนูไม่มีผลแม้นิดเดียวผมเลยคิดว่าปืนใหญ่จะ…… ถึงอย่างนั้นมันยิงศัตรูบินยากครับ」

ผู้บัญชาการดูเสียใจ พูดว่าเขามันแค่ที่เปลี่ยนความสนใจ

「ปล่อยให้ฉัน ลูกกระสุนจะยิงถ้านายเอาไฟมาจุดตรงนี้ใช่มั้ย?」

ทหารยืนยันเมื่อผมถาม

ได้เลย ถ้าอย่างนั้นเอาคบเพลิงมาแล้วทำตามฉัน

「ได้ครับ…… แต่ปืนใหญ่หนักและต้องใช้หกคนเพื่อขยับ-…… เออออออ๋!?」

ผมทิ้งค้อนศึกและยกปืนใหญ่แบกขึ้นไหล่

ไม่มีทางที่คนยิงโดนศัตรูบินได้เมื่อปืนใหญ่อยู่ที่แท่น

คนต้องเล็งดีๆแบบนี้และยิง

「ปืนใหญ่มาก แค่แบบนั้น…… เออออออ๋? มันควร 200 กิโลกรัม…… เออออออออ๋!?」

ผมเมินทหารที่อยู่นิ่งไม่ได้และเดินระหว่างแบกปืนใหญ่กับผม

หืมผมไม่รู้ว่าผมยิงโดนในทีเดียวได้ไหม

「เอามาอีกกระบอก」

ผมหยิบปืนใหญ่อีกกระบอกใกล้ๆและแบกมันที่ไหล่อีกข้าง

ผมควรยิงอัดหน้าได้ด้วยสองกระบอก

ทหารยังพูดไม่เชื่อใส่ผมแต่เสียเวลาไม่ได้แล้วตอนนี้

มังกรน่าจะรู้แล้วว่าปืนใหญ่ไม่โดนเป้าและมันส่งเสียงดัง

มันบินต่ำลงเพื่อเผาทหารและพลเมืองที่รวมกัน

「ยังก่อน…… ยัง……」

「ฮฮฮฮฮิ๊……」

ผมไล่การเคลื่อนไหวเจ้านั่นด้วยปืนใหญ่สองกระบอกบนไหล่ระหว่างทหารที่มีไม้ติดไฟยืนหลังผมกึ่งร้องไห้และรอจุดปืนใหญ่

ผมตะโกนทันทีตอนมังกรเปิดปาก

「เอาเลย!」

「ฮฮฮฮฮี๊!」

ทหารจุดปืนใหญ่ทั้งสองกระบอกพร้อมกัน เสียงคำรามดังสนั่นลั่นหูเจาะเข้ามาในหัวผมจากทั้งสองข้าง

นี่ยากเหมือนกัน ผมควรอุดหูด้วยบางอย่างก่อน หูผมวิ้งแล้ว

กระสุนหนึ่งลูกเฉี่ยวปีกมังกรและพลาดระหว่างอีกลูดอัดหน้ามันแม่นๆ

การกระแทกทำเสียงเหล็กชนเหล็กเหมือนเสียงเอาค้อนตีแผ่นเหล็ก

「เขาทำได้!」 「แกจะโดนอย่างนี้ถ้าแกโจมตีเจ้าศักดินาซามะ!」 「งั้นเรารอดแล้วดิ!」

ทหารและพลเมืองเชียร์กันอย่างมีความสุข

มันโดนกลางเป้าใส่หน้าเจ้านั่นเพราะมันดูเหมือนเลือดเยอะจากตาขวาที่ถูกทำลาย

ถึงอย่างไรมันยังไม่พ่ายแพ้

เมื่อได้ยินเสียงเหล็กแกร๊งนั่นควรหมายถึงลูกปืนใหญ่แฉลบ

โชคดีสำหรับเรา มันทำลายตาข้างหนึ่ง แม้ว่าเสียดวงตามันไม่ได้หมายถึงตายสำหรับสิ่งมีชีวิต

แน่นอนเมื่อเราคิดว่ามังกรจะตกอย่างบินไม่ไหวจากท้องฟ้า ตาซ้ายมันเปิดออกอย่างเร็วและคำรามโมโหสุดๆ

「ล้อเล่นน่า…… มันไม่ตาย」 「……ทั้งหมดจบแล้ว」

ผมทิ้งปืนใหญ่ไว้หลังผมและถือค้อนศึก

ทหารห่อไหล่สลดและผู้หญิงคนหนึ่งเข้าหาผม

「เจ้าศักดินาซามะคะ ได้โปรดจูบหนูที เป็นความทรงจำสุดท้าย」

การขอที่น่าทำแต่ผมหันหลังและปรับมือที่จับค้อนศึกและแอ่งคู่

「มันยังไม่จบ ฉันจะเลียให้ลอยเมื่อฉันกำจัดสัตว์สัตว์ประหลาดนั่นเสร็จ」

「แต่มังกรตัวนั้นเป็นอมตะอ่ะ……」

ผมสงสัยว่ามันไม่อมตะหรอก มาลองอีกที

มันห้านาทีหรือยัง?

「พร้อมยัง!?」

「แน่นอนดิซี้!」

ปืนใหญ่สุดยักษ์เริ่มเคลื่อนไหวตอนดวอร์ฟตะโกน

หลังเสียงเกียร์หนักๆและเหล็กดังให้วิ้งหู ปากกระบอกปืนสุดใหญ่ของปืนใหญ่สุดยักษ์หันใส่มังกร

「เอาเขามาหน้าฉันเลย!」

「……อย่าขอที่เป็นไปไม่ได้ดิ」

แต่นั่นเป็นทางรอดทางเดียว

ผมเดินไปข้างหน้าและยกสองอาวุธในมือผมขึ้นสูง

ที่มีตาซ้ายถูกขยี้แล้ว มังกรโมโหเปิดปากและบินใส่ผมเพื่อจะเผาผมให้ไหม้เกรียม

「มาสิเว้ย กูจะตีให้ตายเลย!」

ผมวิ่งไปข้างหน้าแม้มังกรไม่ได้เปลี่ยนเส้นทางเพราะกลัว

มันร้องเสียงดังอย่างไม่เป็นมิตรและบินลงต่ำมาหน้าผม

บางทีมันอยากกระทืบผมหลังเผาผม ผมว่าผมถูกเกลียดจริงจัง

มังกรและผมเข้าประชิดกัน

จากนั้นผมยิ้มก่อนที่เรากำลังจะปะทะและปิดหู

ผมเห็นตาซ้ายที่สงสัยหรี่ในผม

บัลบาโน่ตะโกน

「เออร์กัน ยิง!!」

เสาไฟที่คนผลิตระเบิดใส่อากาศ

ดวอร์ฟที่ทำงานกับปืนใหญ่กระเด็นกลิ้ง ทั้งทหารทั้งพลเมืองโดนแรงอัดลมและเสียงดังสนั่นลั่นหูแตก กระเด็น

เพิงเก็บของเล็กๆที่ใช้สำหรับเก็บวัตถุดิบยังไม่ใช้ถล่มจากแรงระเบิดและหอสังเกตุการณ์ถล่มสู่พื้น

ผมรู้สึกได้ถึงแรงกระแทกใส่ผมระหว่างผมหมอบลงพื้นแล้วปิดหัว

จากนั้นมันยิงโดน

มีเสียงคล้ายเสียงเหล็ก

อย่างไรก็ตามมันต่างจากเหล็กแบบก่อนหน้านี้

มันฟังดูเหมือนแท่นกระแทกประตูฉีกแผ่นเหล็กบางๆ

เสียงคำรามดังก้องทั้งเมืองเหมือนเสียงเด็กร้องไห้แบบไม่สนมาด

「สิ่งก่อสร้างนั้น…… ม-มันคือปืนใหญ่……เหรอ?」 「หูฉัน……」 「ฉันแตกแต่ไม่ใช่ฉี่……」

ขณะทหารยกตัวช้าๆ สายตาเราเลื่อนไปมองที่ที่มังกรอยู่

ผลลัพธ์เหมือนคาด

ลูกกระสุนขนาดยักษ์ยิงโดยเออร์กันมันพลาดกลางตัวและมันทะลุตั้งแต่ฐานแขนซ้าย

แขนซ้ายทั้งแขนมันหลุดหายไปแล้วและปีกซ้ายมันฉีกอย่างหนัก

ท้องด้านข้างมันโหว่ไปเป็นลูกกลมๆและเลือดไหลจากเนื้อเปิดๆที่เกล็ดและผิวถูกขูดออกเหมือนถนนเพิ่งปู

มันบินต่อไม่ได้อย่างเป็นธรรมชาติและนำสัตว์ลงสู่พื้นที่สร้างกลุ่มควันใหญ่เมื่อกระแทก

อย่างที่สัญญา บัลบาโน่ชิงปีกมันไป

เสียงเชียร์ระเบิดข้างหลังผม

แต่ผมหยิบอาวุธผมและพุ่งเข้าตีไปข้างหน้า

แผลมันถึงตายแน่นอน

ไม่มีสิ่งมีชีวิตที่ยังรอดได้นานหลังบาดเจ็บแบบนั้น

แต่อย่างไรก็ตามมันไม่ได้ตายในพริบตา

แม้ว่าเสียแขนและปีกรวมท้องส่วนหนึ่งหายออกไปแล้ว มันยังฆ่าทุกคนที่นี่ได้ทั้งหมดด้วยการพ่นไฟครั้งเดียว

ผมวิ่งผ่านกลุ่มควันและเห็นว่ามังกรจะลุกขึ้นหลังเสียแขนและปีกแถมเลือดไหล

ไม่ต้องพูดถึงที่ผมเห็นไฟสว่างอยู่คาปากมันด้วย

「ทุกคนหมอบ!」

ไฟพุ่งมาข้างหน้าทันทีที่คำพูดออกมาจากปากผม

เสียงเชียร์เปลี่ยนเป็นร้องไม่คิดชีวิตดังทันที

「มันทำได้ครั้งนึง ไม่มีเหตุผลที่มันทำอีกไม่ได้」

ผมฟันแนวตั้งด้วยแอ่งคู่และฟันไฟ

ผมเห็นมังกรทำสีหน้าตกใจ จากนั้นได้ยินเสียงเฮือกหายใจเข้าหลังผม

ไฟแยกและเผาทางซ้ายและขวาอย่างดุดันผ่านทะลุสิ่งก่อสร้างตามทาง แต่ปล่อยให้พลเมืองและทหารหลังผมไม่ได้รับบาดเจ็บ

ถึงอย่างไรเพราะผมน่าจะใกล้กว่าครั้งที่แล้ว ความร้อนที่ไม่เคยจินตนาการว่าร้อนขนาดนี้ไหม้แขนผม

แขนทั้งสองข้างน่าจะไหม้หนักแล้ว…… แม้ว่ามันไม่ใช่เวลากังวล

「น่าเกลียดจริง อ้วกซะขนาดนั้น」

เดินหน้ายิ่งไกลขึ้น ผมแทงดาบใส่ปากมันประตูที่ไฟออกมา

แลกกับที่เผาหน้าผม ผมรู้สึกว่าดาบฉีกทะลุลิ้นมัน

ไฟหายไปทันทีและมังกรดีดหัวไปข้างหลังอย่างเจ็บปวด

ผมจะจบชีวิตมัน

ผมถูกยกขึ้นสูงพร้อมแอ่งคู่ยังคาลิ้นมัน จากนั้นผมไต่หัวมัน

ภาพมันสวยดีแม้ว่าผมดูสบายๆไม่ได้

ถ้าผมถูกดีดกลับใส่พื้นผมจะเป็นมะเขือเทศถูกเหยียบ

เพื่อส่งการโจมตีปลิดชีวิตผมดึงดาบออกมาจากลิ้นมันและแทงแอ่งคู่ใส่สมองมัน

ผมเจอกับความแข็งมาก

「ไม่ได้สินะ」

ผมน่าจะสามารถทะลุเกล็ดมันได้ แต่กระโหลกเจ้านั่นหนาเกินแอ่งคู่ทะลุไป

ได้ ฉันจะทำแบบนี้

ให้ดาบที่แทงถึงกระดูกแล้วเป็นที่ยกตัว เปลี่ยนมือจับมาจับด้วยมือซ้าย จากนั้นยกค้อนศึกด้วยแขนขวาและเหวี่ยงลงใส่เหนือหัว

ไม่สำคัญว่าหัวมันจะแข็งแค่ไหน ผมวงสัยว่ามันจะทนค้อนทุบได้ดีแค่ไหน

เมื่อรู้ว่าผมห้อยอยูมังกรส่ายหัวมันเหมือนมังกรบ้าและพยายามเอาผมออก

ผมจับแอ่งคู่แน่นๆแล้วตีมังกรด้วยค้อนศึกแบบไร้สติ มันสร้างเสียงที่ปรกติได้ยินเมื่อก่อสร้างอย่างช้าๆ

แม้อย่างนั้นเกล็ดไม่ทะลุ

เศษกระเด็นออกจากค้อนศึกที่ดวอร์ฟภูมิใจ

หัวมันเล็กลงทุกครั้งที่ตี

มังกรเริ่มเป๋ แต่ทันทีเมื่อผมคิดว่าโจมตีทั้งหมดนั่นไม่ได้ผล มันเริ่มเซซ้ายขวา

「โว่ว」

ร่างกายมันเหวี่ยงอย่างมากและทำให้แอ่งคู่ตก ส่งผมกระเด็นหัวทิ่มพื้น

「เหมือนฉันจะให้ตัวเองโดนขยี้แหละ」

ตอนที่ผมตก ผมแทงดาบใส่เกล็ดที่คอมันเพื่อพยายามทำให้ตกช้าลง

ถึงอย่างไร ผมไม่สามารถลดความเร็วทั้งหมด และพุ่งลงพื้นจากคววามสูงที่มากกว่าที่ไหนที่มีอยู่ในเมืองทั้งสิ้นและกระอักลมออก

ผมได้ยินเสียงกรอบๆหักในตัวผม น่าจะจากที่ซี่โครงหักสองหรือสามซี่

「กุ……」

เลือดขึ้นมาไหลออกปาก

เครื่องในผมอาจได้รับบาดเจ็บหลายที่ด้วย

เจ้านั่นควรดิ้นเพื่อทำแค่การเคลื่อนไหวเดียวด้วย

ขามันปัดไปมาและตาลอยมั่วผมเลยหายไปจนมองไม่เห็นแล้วเมื่อผมตกลงข้างล่าง

「นี่จบแล้ว」

ด้วยการวิ่งส่งแรง ผมแทงอย่างทรงพลังด้วยแอ่งคู่สู่อกมังกร

ผมกระอักเลือดหลังออกแรง

แม้อย่างนั้น นี่เป็นการโจมตีตัดสิน ผมจะอยู่ด้วยเจตนาไม่ยามตายถ้าจำเป็น

ใบมีดฝังลงไปครึ่งหนึ่งและเลือดแดงๆฉีดออกจากทั้งตัว

มันร้องอย่างทุกข์ทรมาน

「ยังไม่จบโว้ย!」

ด้วยขนาดตัวมัน ผมน่าจะไม่ไปถึงหัวใจมันแม้ว่าผมอาบเลือดพอย้อมตัวเองเป็นสีแดง

และแม้ว่าผมดันด้วยกำลังทั้งหมดที่มีระหว่างไอเป็นเลือด แอ่งคู่จะไม่ไปไกลกว่านี้

「อย่ามาหักใส่ฉันนะ……」

ผมไม่อยากโดนนนน่าเอาหัวโขก

ผมปล่อยแอ่งคู่คาตัวมันไว้และเหวี่ยงค้อนเยินๆด้วยสองมือ

「อุโออออออ้!」

ผมหมุนตัวพร้อมไปกับค้อนศึก สร้างแรงเหวี่ยงก่อนกระแทกหัวค้อนเข้าด้ามแอ่งคู่

มันแค่นิดเดียว แต่มันรู้สึกเหมือนดาบแทงเข้าตัวมังกรอีกนิด

มีจังหวะเงียบอยู่ครู่หนึ่ง และเหมือนเขื่อนแตก เลือดมหาศาลฉีดออกมา

หัวใจมันน่าจะทะลุครั้งนี้ มีเลือดออกมามากไหลใส่ผมจนมันหายใจยาก; มันเป็นทะเลเลือด

อุแหวะ มันเข้าปากผม

มันรู้สึกเหมือนผมจะจมจริงๆ

เสียงร้องแห่งความตายของมันอ่อนและโหยหวน

หลังเสียงแหลมไม่ไหวจะไปต่อยาวๆ มังกรล้มตะแคงไปข้างช้าๆและ ชีวิตดับไป

ผมยืนยันมังกรนิ่งๆตาเหลือกขาวก่อนดึงแอ่งคู่ออกจากอกมัน

เหมือนที่คาด ดาบสมบัติในตำนานไม่ได้งอหรือหัก

ผมจับร่างกายผมเพื่อหาอะไรที่หายไปหรือการบาดเจ็บ

มันไม่ได้ดูเหมือนเลือดจะออกมาอีกถึงผมเกร็ง

「มันจบแล้ว」

เสียงเชียร์ระเบิดจากคนที่ดูอยู่

ทหารตะโกน

「ผมไม่เชื่อเลย! เขาพิชิตมังกรยักษ์ด้วยตัวเอง!」

「ฉันกำลังมองผู้กล้าจากเรื่องแต่งเหรอเนี่ย!?」

「ฉันไม่เคยได้ยินอะไรแบบนี้แม้จากนักกวี!」

「ฉันน่าจะเปลี่ยนอาชีพและใช้ชีวิตด้วยตำนานนี้!」

การชมก็ดีอยู่ แต่เมืองจำเป็นต้องเก็บกวาด

แล้วก็อย่าเปลี่ยนงานไม่อย่างนั้นฉันจะต้องการยามเพิ่ม

บัลบาโน่ตะโกน

「เห็นนั่นมั้ยพวกนาย!? เออร์กันของเราและซี้เราพิชิตมังกร」

「อโออออออออ้!」

「เอาเหล้ามา เราจะกินจนกว่าจะร่วงเพื่อฉลอง!」 「เราจะดื่มจนฤดูใบไม้ผลิเลย!」

น่าจะไม่มีอะไรที่ผมทำได้ด้วยปืนใหญ่ยักษ์อีกแล้ว

อย่างน้อยผมให้พวกเขาดื่มได้ตามสบาย

แต่ถ้าพวกนายดื่มจนฤดูใบไม้ผล เหล้าทั้งหมดในโกลโดเนียจะหายไป

มันเป็นคราวสาวพูด

「พี่ตัดไฟปกป้องเรา」 「พี่เป็นผู้กล้าที่ฆ่ามังกรคนเดียว」 「ช่างเป็นชายที่แกร่งเหลือล้น……」

สายตาจะเอาของผู้หญิงมาจองผม

ถามองอยากเอาขนาดนั้นพี่จะโด่

「ฉันอยากถูกโอบกอด ฉันอยากถูกคนนั้นโอบกอด」 「แค่คิดเกี่ยวกับการถูกโอบกอดโดยชายที่น่าทึ่งแบบนี้มันทำให้แฉะแล้วอ่ะ」

「ฉัน…… อยากคลอดลูกของผู้ชายคนนั้นแม้ฉันจะแต่งงานแล้ว……」

หืมม ผมจะปล่อยการเก็บกวาดให้ทหารระหว่างผมดูแลปลอบใจสาวๆเหล่านี้

แต่อย่างแรก ผมจำเป็นต้องดูว่าสาวๆผมเป็นอะไรไหม……

「นายท่าน~」 「เอเกอร์ซามะ!」

ซีเลียกับลีอาห์วิ่งใส่ผม

ผมเห็นแคลร์กับคนอื่นๆหลังพวกเธอ

โอ้ดี พวกเธอทั้งหมดไม่เป็นไร

「หนูไม่รู้จะพูดอะไร เอเกอร์ซามะจะเป็นผู้กล้าและถูกพูดถึงไปอีกเป็นร้อยปี!」

「ใช่!」

พวกเธอสองกอดผมแน่น ดูเหมือนแดงอยู่และตาพวกเธอเปียกๆด้วย

พวกเธอกอดผมโดยไม่ลังเลแม้ว่าผมปกคลุมด้วยเลือดมังกร

「ตกหลุมรักพี่อีกครั้งมั้ย?」

「「แน่นอน!」」

เด็กดี เราจะมีเวลาสนุกกันคืนนี้

ผมจะสั่งการก่อน

「ดับไฟทันทีและช่วยพลเมือง กู้ภัยคนที่ได้รับบาดเจ็บและให้พวกเขาได้รับการรักษา ฉันจะจ่ายค่าหมอเองดังนั้นให้หมอรู้ว่าไม่มีความจำเป็นต้องยั้งมือเรื่องยา ……เน้นผู้หญิงเป็นพิเศษนะ」

ทหารทำความเคารพอย่างเรียบร้อยและกระจายตัวไปทุกทาง

พวกเขาค่อนข้างเชื่อฟัง

ไม่มีบ้านไม้ในเมืองลินต์บลูมเยอะดังนั้นไฟไม่ได้ลามไปเยอะ และเพราะมีอุบัติเหตุบ่อยในเหมืองพวกเขารับมือกับคนบาดเจ็บทีเดียวหลายคนจนชินแล้ว

พวกเขาจะทำได้ไม่แบบใดก็แบบหนึ่ง

「เอเกอร์ซามะเป็นผูกล้าผู้พิฆาตมังงกร…… น่ารักอ่ะ」

「นายท่านเป็นผู้กล้าของหนูแล้วตอนนี้กลายเป็นผู้กล้าของทุกคนแล้ว」

น่าน่า หนูๆที่น่ารัก

「เกล็ดที่สามารถสะท้อนแม้แต่ลูกปืนใหญ่…… และกระดูก…… และผิว…… เงินมากเหลือเกิน…….」

แคลร์ดูเหมือนจะอยู่ไม่นิ่งจากเรื่องมังกรด้วย

ความคิดเธอเล็ดออกมามากกว่าปรกติ

เมื่อรู้ว่าผมจ้องเธอ แคลร์เก็บกระดาษจดและกอดแขนผม ดันอกใส่ผม

「อุฟุ่ฟุ่ หนูตกหลุมรักมาร์เกรฟอีกครั้งด้วย」

อุมุ ดี

พี่จะหวังพึ่งพวกหนูทั้งหมดคืนนี้

ตอนนี้ ผมทำทุกอย่างที่ผมทำได้เสร็จหมดแล้ว

กิโด้น่วม แต่ไม่มีใครสักคนในครอบครัวผมได้รับบาดเจ็บหนัก

มันเป็นคะแนนผ่านสำหรับตอนนี้……

แต่มันดูเหมือนผมลืมบางอย่าง

「หืม ฉันลืมบางอย่างเหรอ?」

「เอ๋? มันจะเป็นอะไรได้?」

ซีเลียดูเหมือนตกใจ

「หืมม ดูเหมือนจะคิดไม่ออก……」

ซีเลียไม่รู้ว่าอะไร บางทีมันแค่จินตนาการของผม

「ที่สำคัญมากกว่านั้น มาทำความสะอาดตัวพี่เถอะ หนูก็จะตรวจหาแผลด้วย」

โอ้ใช่ ผมไม่เห็นรอยไหม้ที่ทั้งสองแขนของผม

ผมเตรียมไหม้หนักแล้ว

ผมจับซี่โครงที่หักเบาๆด้วยและมันไม่ได้ดูเหมือนเจ็บด้วยเหมือนกัน

ผมได้ยินเสียงกระดูกหักแน่นอน

โอ้ คิดผิดเกี่ยวกับอาการบาดเจ็บน่าจะเป็นเรื่องดี

ผมจะต้องสนุกกับสาวๆหลังอาบน้ำด้วย

ผมน่าจะได้ตัวสาวไม่กี่คนในเมืองให้มานอนด้วยระหว่างเรื่อง ‘พิฆาตมังกร’ ยังคุยกันอย่างเร่าร้อน

มันไม่ได้จนถึงเช้าวันต่อมาที่คริสตอฟกลับมาที่โรงแรม

 

 

ตัวเอก: เอเกอร์ ฮาร์ดเลตต์ 23 ปี ฤดูใบไม้ร่วง

สถานะ: มาร์เกรฟอาณาจักรโกลโดเนีย เจ้าศักดินาผู้ยิ่งใหญ่ของบริเวณตะวันออก ราชาแห่งภูเขา กุหลาบ เพื่อนของดวอร์ฟ เพื่อนของราชาแห่งอเลส ผู้กล้าผู้พิฆาตมังกร

พลเมือง: 171,950  เมืองหลัก – ราเฟน: 24,000 ลินต์บลูม: 4950

เมืองเฉพาะแวนโดเลีย: 9000

ซีเลีย (หลงเสน่ห์), ลีอาห์ (หลงเสน่ห์), แคลร์ (หลงเสน่ห์ ¥), ลอรี่ (หลงเสน่ห์), กิโด้ (บาดเจ็บ), คริสตอฟ () ชวาร์ซ (ตื่นเต้นทางเพศ)

ทรัพย์สิน: 1840 ทอง (เงินค่ารักษาพยาบาล -600)

คู่นอน: 234, ลูกเกิดแล้ว: 54 + ปลา 555 ตัว

 

แปลโดย: wayuwayu

tipme : tipme.in.th/wayuwayutl

patreon (Ebook): patreon.com/wayuwayu

ได้โปรดโดเนทเพื่อสนับสนุนผู้แปล ด้วยการช่วยเหลือของท่านจะทำให้แปลต่อไปได้เรื่อยๆ ขอบคุณครับ

ติดตามข้อมูลข่าวสาร, ติดต่อ: ​http://linktr.ee/wayuwayu

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด