ถนนสู่อาณาจักร – Oukoku e Tsuzuku Michi 239 โลกที่เคลื่อนไหว

Now you are reading ถนนสู่อาณาจักร – Oukoku e Tsuzuku Michi Chapter 239 โลกที่เคลื่อนไหว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 

 

–มุมมองบุคคลที่สาม–

เมืองหลวงโกลโดเนีย วังหลวง

「พระองค์ มันดูเหมือนความวุ่นวายทางใต้สรุปด้วยการตัดสินใจส่วนตัวลอร์ดฮาร์ดเลตต์แล้ว」

หนึ่งในรัฐมนตรีคำนับต่ำๆ

「ฉันรู้ข่าวแล้ว ฉันไม่คิดเริ่มหรือยืดสงครามต่างประเทศด้วย นี่เป็นเรื่องดี」

รัฐมนตรีพูดอย่างดัง

「แต่สงครามแค่หยุดเพราะภัยพิบัติที่คาดไม่ถึง มากกว่านั้น ลอร์ดฮาร์ดเลตต์เอาดินแดนที่เขายืดมาเป็นของเขาเอง! ในฐานะขุนนางที่ได้รับตำแหน่งมาร์เกรฟโดยพระองค์-……」

ราชาจงใจทำเสียงดังตอนเขาวางแก้วที่โต๊ะ รัฐมนตรีหยุดกลางประโยค

「ฉันเคยได้ยินแล้ว งั้นนายจะพูดว่าอะไร? จะบอกให้ฉันลงโทษฮาร์ดเลตต์เหรอ?」

เมื่อตัดสินว่าราชาไม่ได้อยากทำความคิดนั้น รัฐมนตรีผิดหวังเล็กน้อย

ร่างกายของเขาสั่นจากบรรยากาศเครียดๆ

(ฉันคิดว่าฉันจะโชคดีพอที่จะให้ราชากัดประเด็นเมื่อรู้ว่าเขากังวลเรื่องคนทรยศ…… แต่ตอนนี้เขาเอานั่นไว้ทีหลังไม่ได้!)

มีหัวหน้าบริวารหลายคนรอบเขา

ชื่อเสียงมาร์เกรฟฮาร์ดเลตต์เป็นที่รู้กันทั่ว

ถ้ามันจบแบบพยายามเปล่าๆที่นี่ เขารู้ว่าชายคนนั้นที่ถูกกลัวเป็นปีศาจสงครามจะรอแก้แค้น

「มันไม่ได้สำคัญ ว่าเขาเป็นผู้กล้าของสงครามหรือนายพลไร้เทียมทาน ไม่เห็นอำนาจราชานั้นยกโทษให้ไม่ได้ เขาควรถูกลงโทษบางอย่าง」

ราชาเอียงตัวมาข้างหน้าและยิ้มเล็กน้อย

「ถ้าอย่างนั้น มีอะไรในใจ?」

แค่เห็นราชายิ้มก็พอแล้วที่รัฐมนตรีจะพูดอิสระมากขึ้น

「มาร์เกรฟมีดินแดนกว้างและอุดมสมบูรณ์ ถ้าเราเอามันส่วนหนึ่งและแต่งตั้งเป็นดินแดนราชา จากนั้นแบ่งมันในหมู่ผู้ช่วยที่ภักดี มันจะเพิ่มอำนาจราชาสูงขึ้น」

อีริชอดไม่ได้ที่จะอยากตอบโต้ แต่ยั้งไว้เมื่อเขาเห็นสีหน้าราชา

แน่นอน รอยยิ้มราชาไม่ได้ชมชายหน้าเขา

「อุมุมุ…… พูดถึงมีเรื่องให้นายฟัง」

「ฮ๋าา?」

เจอกับการที่ราชาเปลี่ยนประเด็นกระทันหัน รัฐมนตรีหยุดพูดและรู้สึกสับสน

「มีโจรคนหนึ่ง โจรคนนั้นซ่อนตัวได้ดี แต่ก็กลัวความเป็นไปได้ว่าจะถูกจับได้ตอนไหนก็ไม่รู้」

「ค-ครับ……」

「คนนี้จะทำอย่างไรเพื่อให้รู้สึกสบายใจขึ้น? ไม่ใช่มันเพียงพอที่จะขุดรูและซ่อนต่อไปเหรอ?」

รัฐมนตรีรู้สึกว่าคำถามมีความหมายที่เขาไม่รู้ แต่เขาแค่มองข้ามราชาไม่ได้ เขาคิดสุดหัวหาคำตอบ

「คนนั้นจะถูกเจอในที่สุดเมื่อซ่อนอย่างเดียว มันจะดีกว่าที่จะโทษความผิดให้คนอื่น……」

หลังจากพูดอย่างนั้น คำพูดรัฐมนตรีชัดขึ้นในหัวและเขาเริ่มเหงื่อแตก

「มีอะไร? พูดที่กำลังจะพูดให้เสร็จ…… หรือให้ฉันพูดมันให้นาย?」

ราชาเอื้อมไปหลังเขาเดี๋ยวนั้น เขามองกองกระดาษจากหลังบัลลังก์ที่มาจากรีเบคก้า หัวหน้าเจ้าหน้าที่ข้อมูล

ราชาเปิดกระดาษก่อนจ้องรัฐมนตรี

「จะอะไรล่ะถ้ามีคนที่จ่ายภาษี 30 ทองกับคนเก็บภาษีและไม่ประกาศการพัฒนาคฤหาสน์…… งั้นใครกัน ที่รู้สึกว่าสืบสวนมันนาน เมื่อรู้ข้อมูลเพื่อสร้างอาชญากรที่ใหญ่กว่า คนนี้ล่ะจะทำยังไง?」

「น-……น่ะ-……นั่น-……」

มันจบแล้ว

ความคิดนั้นเข้ามาในหัวทุกคนทันใด

「เอาไอ้คนทรยศนี้ไป!」

รัฐมนตรีแค่มองลงตอนเขาถูกลากไปโดยไม่ได้ต่อต้าน

หลังจากลองใช้ความระแวงราชาให้ได้เปรียบและสะท้อนโดนตัวเอง เขารู้ว่าอธิบายยังไงก็จะไม่ช่วยเขา

「เจ้าหน้าที่ข้อมูล ช่างเป็นความคิดที่ยิ่งใหญ่」

「ดิฉันซาบซึ้งกับคำเมตตาของท่านค่ะ」

รีเบคก้าคำนับให้ราชาอีกครั้งหลังบัลลังก์

การกำจัดคนไม่รู้ภาษาสมควรเป็นการกระทำเพื่อให้ใจบริสุทธิ์ แต่สีหน้าทุกคนไม่ได้สดใสมากกว่าเดิมมาก

「ฮาร์ดเลตต์อารมณ์ร้อนและใช้ความรุนแรงเร็ว ยังไงก็ตามเขาไม่ใช่คนที่ซ่อนสิ่งที่เขาทำ」

รีเบคก้าพยักหน้ากับคำพูดราชา แต่หัวเราะเบี้ยวๆอยู่ข้างใน

เธอมีเรื่องที่จะทำให้ราชาโกรธพอแล้ว

อย่างไรก็ตามนั่นจะทำให้ราชาสงสัยเธออีกครั้ง

(สำหรับตอนนี้…… มันถูกแล้วที่จะอยู่เงียบๆและไม่พูดอะไร)

จากนั้นพวกเธอทั้งหมดถูกเลิกเฝ้า

「อธิบดีทหาร คิดเรื่องนี้ยังไง?」

「มันยังมีรากเหง้าความเสื่อมทรามที่เราต้องกำจัดให้ทั่วถึง」

อีริชอยู่กับขุนนางใหม่ใกล้ชิดหลังจากออกจากห้องบัลลังก์

เจ้าหน้าที่พลเรือนเป็นส่วนหนึ่งของฝ่ายเคนเน็ธและคนที่ไม่ใช่ทั้งสองฝ่ายคุยเรื่องเดียวกันอยู่

พวกเขาสองคนเข้าห้องทำงานอีริชและประตูปิดข้างหลัง

พวกเขาหนีจากตาและหูคนอื่น

「อธิบดี คิดยังไง?」

「……มันแค่การหลอกเงิน 300 ทอง ที่เขาเก็บไม่ได้ แล้วก็ไม่ได้ประกาศว่าจำนวนเพิ่ม ถ้าเขาตัดสินรัฐมนตรีจากบางอย่างน้อยนิดอย่างนั้น เราจะไม่มีคนให้กำจัดอีก」

「แต่ชายคนนั้นไม่ชอบใครที่เหลี่ยมจัดและฉลาด……」

「เขาเป็นคนที่ทำงานดี นอกจากนี้ เขาเป็นคนขี้ขลาดที่ไข่เท่าเม็ดถั่วเล็กๆ ถ้าแค่ขู่เขาทางอ้อมเขาจะไม่ทำอีก ……ราชาควรรู้เมื่อเขาแต่งตั้งเขาเป็นรัฐมนตรีด้วย」

「มันดูเหมือนวิธีที่ราชาคิดเปลี่ยนจากที่เขาเป็นก่อนหน้า」

อีริชพยักหน้าเงียบๆ

(ตอนนี้ ราชาขังคนที่มีความสามารถด้วยโทษและการหลอกที่ไม่มีค่าแม้ว่าขุนนางมือสะอาดมันหายากเท่าพ่อค้าไม่โลภ)

「รัดนี่และอาร์กจากฝ่ายเราถูกขัง เหตุผลเพราะพวกเขาเกี่ยวกับการประเมินบุคลากรทหารและรีบเลื่อนตำแหน่งคนในครอบครัวตัวเอง…… พวกเขาถูกสงสัยที่ทำแบบนั้น」

「นั่นอ้างอะไรไม่ได้ แต่นั่นคือทั้งหมดที่พวกเขาทำ ฉันดูผู้บัญชาการที่ดูแลทหารลหายพันอยู่…… ฉันแน่ใจว่าคนพวกนี้คุมได้แค่ไม่กี่ร้อย เรื่องมันสรุปได้โดยการเรียกพวกเขามาและดุพวกเขาเล็กน้อย」

「ในทางกลับกัน อย่างเดียวกันเกิดขึ้นบ่อยกับอธิบดีกิจการรัฐบาล….. ไม่ ฝ่ายเคนเน็ธ」

ชายพูดให้ถูกเมื่อเขาอีริชตอบสนองกับตำแหน่งทางการ

「เพราะพวกเขาเป็นศูนย์รวมของเจ้าหน้าที่พลเรือนล่ะนะ การติดสินบนและซ่อนทรัพย์สินผูกกับงานพวกเขามากกว่า ฉันเห็นว่าเขากังวลได้ตอนนี้」

อีริชหัวเราะเบาๆ

ลูกน้องหัวเราะแบบไม่ค่อยกล้าและรีบถอนหายใจ

「แต่ท่านมีคนฟ้องบ่อยไม่ได้ สุดท้ายมันจะเปิดเผยไปถึงทุกคน」

หลายเรื่องราวแสดงออกว่าขุนนางภักดีฟ้องคู่แข่งให้ได้เปรียบส่วนตัว

แต่การทำแบบนั้นมีมากขึ้นไม่นานและดังสำหรับคนฝ่ายเดียวกันที่จะทำใส่กันเอง

「ฉันได้ยินว่าเจ้าหน้าที่ข้อมูลวิ่งไปทั่วและถูกใช้งานเพื่อยืนยันข่าวลือเล็กๆ」

「มันไม่ได้ง่ายเหมือนที่มันเป็นอยู่ตลอด…… การคุยเกี่ยวกับฝ่ายฉันหรือฝ่ายเคนเน็ธมันไม่เอนไปทางไหน」

อีริชมองออกไปนอกหน้าต่างที่ถูกดัดแปลงให้มีสองชั้นไม่นานนี้

ผิวเผิน มันเพื่อเลี่ยงไม่ให้ข้อมูลลับสุดยอดออกไปหาสายลับของประเทศอื่น

แต่ในความเป็นจริงมันเพื่อหยุดเจ้าหน้าที่ข้อมูลไม่ให้เอาหูแนบหน้าต่างและฟัง

「ตอนนี้ฉันรู้สึกเหมือนอยากทำอะไรก็ได้กับดินแดนฉันเหมือนเขา รวมผู้หญิงเยอะๆและซั่มหมู่ทุกคืน……」

「ถ้าท่านทำบางอย่างแบบนั้นกระทันหัน ท่านอาจถูกสงสัยว่าเริ่มก่อกบฏ」

การถอนหายใจยาวของอีริชดังมาอีกครั้ง

 

 

หลังจากราชาเสร็จหน้าที่ เขานั่งกินอาหาร

เขากินคนเดียวมาตลอดถ้าเขาไม่ได้กินกับคนอื่น แต่หลังๆมันไม่เหมือนกัน

「โรซาริโอ้ อาหารโปรดเธอทั้งหมดถูกเตรียมมาวันนี้ ได้โปรดกินให้เต็มอิ่ม」

「ขอขอบคุณอย่างนอบน้อมค่ะพระองค์」

โรซาริโอ้ ผู้หญิงคนเดียวเท่านั้นที่ได้รับความชอบราชาและมีสิทธิพิเศษอยู่ข้างเขาได้

ปรกติคนรักไม่ถูกอนุญาตให้ทำอะไรพวกนี้ แต่ผู้หญิงคนนี้จะไปทำเรื่องส่วนตัวด้วยกันตลอด จากกินอาหารถึงอาบน้ำ และแม้แต่บนเตียง

ราชาชูมือเพื่อหยุดคนรับใช้ที่วางจานหน้าสาว

คนรับใช้มองหน้ากันอย่างงงๆเพราะราชาทำบางอย่างที่คนรับใช้ทำปรกติ แต่ไม่ได้พูดอะไรสักอย่าง

โรซาริโอ้เอื้อมไปเอาซุป ถ้วยหลุดมือและน้ำกระจายไปทุกที่ ช้อนตกเสียงดังและกลิ้งไปบนโต๊ะและเสื้อผ้าราชาโดนน้ำร้อน

เมื่อผู้หญิงคำนับต่ำๆ คนรับใช้ที่พร้อมห่อไหล่เพื่อทนการตะโกนโมโหที่เลี่ยงไม่ได้

เพราะมันจะไม่แปลกที่โดนโทษประหารตรงนั้นเลยถ้าคนรับใช้ทำแบบเดียวกัน

อย่างไรก็ตาม ราชาทำสีหน้าตรงข้าม อ่อนโยนและพูดในเสียงนุ่ม

「เป็นผู้หญิงสิ้นหวังจริงๆ โดนลวกมั้ย?」

「ไม่ค่ะ หนูจะขอโทษได้ยังไง…… อา」

ราชาเอาโรซาริโอ้มากอดและลูบหัว

「มันช่วยไม่ได้ เธอซุ่มซ่ามและไม่ฉลาด เธอเป็นผู้หญิงที่ทำอะไรไม่ได้โดยไม่มีฉัน น่าน่า ฉันไม่โกรธไม่ว่าจะทำอะไร ทั้งหมดที่เธอต้องทำคือเชื่อฟังฉ​ัน ฉันจะทำให้เธอมีความสุขแน่นอน」

「เป็นเกียรติค่ะ พระองค์ หนูเป็นผู้หญิงโง่ๆ แต่หนูหวังว่าท่านจะเก็บหนูไว้ข้างๆตลอดไป」

ไม่มีอะไรถูกแสดงออกมาจากตาโรซาริโอ้ที่ปิดมันตอนเธอถูกราชากอด

 

 

ใกล้เมืองสีขาว

แคมป์กองทัพจักรวรรดิ

ฤดูหนาวที่กำลังมา

หิมะไม่หยุดลงมาเมื่อมันเริ่มตก มันจะกองขึ้นมาและย้อมทุกย่างให้ขาว

ผู้บัญชาการจักรวรรดิมองกันอย่างไม่มั่นใจพร้อมสีหน้าบูดๆ

「ฉันได้ยินว่าฤดูหนาวสหพันธรัฐมันหนาว แต่ไม่ถึงขนาดนี้」                                                                                                                      

「ทหารทาสกลายเป็นไม่มีประโยชน์เลย เพราะเปลือยกึ่งหนึ่ง พวกเขาเคลื่อนที่ดีๆในความหนาวไม่ได้」

「ไม่ใช่แค่นั้น ทหารจากกองทัพหลักติดไข้และป่วยตามๆกัน」

พวกเขามีข้อมูลเกี่ยวกับความหนาวของฤดูหนาวสหพันธรัฐ

ดังนั้น ประเทศบ้านจักรวรรดิเสนอขนสัตว์ที่ส่วนใหญ่ไม่จำเป็นให้ทหารธรรมดาและแม้แต่เตรียมไม้เพื่อใช้ทำกองไฟ

อย่างไรก็ตามนั่นจะหมายถึงพวกยามประจำเขต และไม่ต้องพูดถึงทหารทาส จะต้องทนฤดูหนาวที่โหดร้าย

「แต่ทหารทาสขยับแม้แต่กระดิกยังไม่ได้ ไม่ต้องพูดถึงสู้ และเริ่มตายในพวกที่อ่อนแอกว่าแล้ว」

「มากกว่านั้น ทหารเริ่มโดนไหม้…… น้ำแข็งกินเหมือนที่นักโทษสงครามพูดถึง….. มีพวกเขาที่โดนอย่างนี้มากขึ้นเรื่อยๆ」

รับแรงกดดันจากความเงียบทั้งหมด ชายคนหนึ่งก้าวมาข้างหน้า

「พระองค์แซพเนส ผมเข้าใจว่าเราอีกก้าวเดียวก็จะได้เมืองสีขาวแล้ว แต่ถ้าแบบนี้เราสู้ดีๆไม่ได้ ให้เราได้ถอยทัพชั่วคราวไปทางใต้และรอฤดูหนาวผ่านไปก่อนพยายามพิชิตมันอีกครั้ง……」

「เจ้าโง่!!!!」

แซพเนสตะโกนอย่างโกรธเคือง

「ส่วนเหนือและส่วนตะวันออกของสหพันธรัฐที่เรายึดไม่ได้ฟื้นกำลังทหารทุกเวลา ถ้าเรารอจนกว่าฤดูใบไม้ผลิ พวกเขาเตรียมสู้เราได้! เราจะยังยึดเมืองสีขาวได้มั้ยตอนนั้นน่ะ!?」

「นั่นจริง แต่-……」

เจ้าหน้าที่ระดับสูงและผู้บัญชาการคิดอะไรไม่ออก

ในที่สุดพวกเขาฝ่าการป้องกันของเมืองสีขาวไม่ได้แม้ว่าจะโจมตีไม่หยุด

เพิ่มความหนาวเข้าไปกับความจริงนั้น มันไม่ได้ดูเป็นไปได้ที่จะยึดเมืองสีขาว

อย่างไรก็ตามมีเหตุผลว่าแซพเนสพูดอย่างนั้น

เหตุผลที่จักรวรรดิสู้อย่างได้เปรียบท่วมท้นได้เพราะพวกเขาได้กำลังใจที่ชนะศึกแรก

ถ้าสหพันธรัฐทำตัวสงบลงและร่วมมือกัน พวกเขารวมกำลังใจได้แม้ว่าสู้ในหลังบ้านตัวเอง

(ศัตรูจะได้เปรียบถ้าเราเอาเวลาให้เขา……)

(และยิ่งเราอยู่ในฤดูหนาว ศัตรูยิ่งได้เปรียบ……)

「ฉันเข้าใจว่าพวกนายทั้งหมดพูดอะไร แต่โจมตีให้น้อยลงจะเป็นสิ่งที่ศัตรูต้องการ เราจะเดินหน้าด้วยการโจมตีต่อไปเหมือนที่วางแผนไว้」

「「ครับท่าน!」」

พวกเขารู้ว่าพวกเขาสู้ดีๆไม่ได้

แต่มันชัดว่าอะไรจะยิ่งแย่ลงถ้ายิ่งนานไป

พวกเขาจะโจมตีให้เบาลงไม่ได้

「พร้อมบุกได้แล้ววววว!!」

「พวกนาย ยืนขึ้นได้แล้ว! อย่างน้อยพวกนายอุ่นได้ถ้าขยับตัว!」

ผู้บัญชาการตะโกนและบังคับให้ทหารทาสที่สั่นหงั่กๆเรียงแถว

มีกลุ่มหนึ่งที่ไม่ขยับแม้ว่าได้ยินคำสั่งดุดัน

กลุ่มนั้นเป็นทหารที่ตั้งแคมป์ยอดภูเขา ที่โดนลมแรงบ่อย

「พวกโง่เอ๊ย พวกนายก็รู้ไม่เคารพคำสั่งจะโดยประหาร! หยุดสั่นแล้วยืนขึ้น!」

ไม่นานผู้บัญชาการก็รู้ว่าเขาไม่ได้ยินเสียงฟันกระทบ

「พวกเขาไม่ได้สั่น งั้นก็รีบเข้าและ-……」

เขาเข้าหาพวกเขาพร้อมยกแส้…… จากนั้นทำตก

「พ-พวกเขาทั้งหมดตาย? ……น่าเศร้า……」

ทหารทาสที่น่าสงสารกอดกันในรูระหว่างโอบไหล่กัน แต่สุดท้ายตายเพราะหนาว

 

 

การเดินทางที่ไม่ขาดเรื่องเล่า

???

「มันเหนื่อยแล้ว มันแน่นกันเกินไป!!」

「ทุกคน ฉันขอโทษจริงๆ……」

ข้างในรถเกวียนที่ปกคลุมผ้ามุ่งหน้าไปตะวันออกในทุ่งหิมะ มาดามอ้วนอ้าแขนขาเหมือนตัวอักษร ‘大’ และบ่นเหนื่อยในเสียงดัง

พวกเธอเดินค่อนข้างไกลด้วยตัวเองมาก่อนขึ้นรถม้า แต่นั่นก็เหมือนกันกับผู้โดยสารทั้งหมด ผู้ช่วยที่อุ้มเด็กขอโทษสุดกำลัง

「อืม แน่นอนว่าเธอขวาง……」

「แล้วก็รถม้าช้าเมื่อเธอสองขึ้นมาด้วย จะหนักได้ถึงแค่ไหนนกัน?」

เมื่อเหนื่อยสุดยอดแล้ว มาดามหลับตรงนั้นแขนขาที่ยืดใช้พื้นที่เยอะในรถม้าแคบ ทำให้ผู้โดยสารอื่นขมวดคิ้ว

「มาดาม! ไม่คิดว่าท่านเอื้อเฟื้อมากกว่านี้ได้เหรอ…… อ๊าา!」

ผู้ช่วยพยายามเขย่ามาดามแต่คุณนายตดดังสนั่นและกลิ่นสุดย่ำแย่เต็มรถมาอย่างเร็ว

สีหน้าของผู้โดยสารอื่นยิ่งแย่หนักขึ้น

「……ฉันขอโทษมากๆค่ะ」

「ปรกติ เธอจะถูกโยนออกไปนานแล้ว……」

หนึ่งในชายเข้าหามาดามที่กรนช้าๆ

「เธอยังดูมีประโยชน์นิดหน่อย」

ชายอีกคนถอดผ้าคลุมนอกและเข้าหามาดามใกล้

ผู้โดยสารอื่นก็ล้อมมาดามและยื่นมือ

และดังนั้นเองมาดามและผู้ช่วยก็…… ไม่ได้โดนข่มขืนอย่างโหดร้าย

「มันอุ่นจริงๆ」

「ใช่ ฉันไม่ต้องใส่ผ้านอกเลย」

「ควันมันออกมาจากร่างเธอเลยล่ะ」

「ถ้าเราคิดว่ารถม้านี้เป็นรถม้าชั้นสูงที่มีเตาร้อน เราทนอะไรก็ได้แหละนะ」

รถม้าอาจมีผ้ากันลม แต่ปรกติแล้วพวกเขายังต้องทนความหนาวของฤดูหนาวอันขมขื่น

อะไรที่ทำกันทั่วคือผู้โดยสารจะอัดใกล้กันในรถม้าที่มุ่งหน้าไปดินแดนกว้างใหญ่ และพยายามไม่ทางใดก็ทางหนึ่งให้รอดจากฤดูหนาวที่โหดร้ายนี้

ยกเว้นตอนนี้ ข้างในรถม้ารู้สึกเหมือนเริ่มฤดูใบไม้ผลิ แม้ความอุ่นมากับความรู้สึกชื้นเล็กน้อย

กลางทั้งหมดนั้นที่ห้อมล้อมความอุ่นคือมาดามอ้วน ที่นอนเหงื่อแตก

「มาดาม ไขมันที่ไม่จำเป็นที่เก็บมารายวันมันมีประโยชน์แล้ว」

「ม-มันร้อนอ่ะ…… ฉันหยุดเหงื่อแตกไม่ได้เลย…… บุ่ฮิ๊……」

สองสาวและเด็กน้อยหนึ่งคนมุ่งหน้าไปตะวันออก

พวกเธอฝ่าเส้นทางไปเพื่อไปเจอผู้ชายที่รัก

 

แปลโดย: wayuwayu

tipme : tipme.in.th/wayuwayutl

patreon (Ebook): patreon.com/wayuwayu

ได้โปรดโดเนทเพื่อสนับสนุนผู้แปล ด้วยการช่วยเหลือของท่านจะทำให้แปลต่อไปได้เรื่อยๆ ขอบคุณครับ

ติดตามข้อมูลข่าวสาร, ติดต่อ: ​http://linktr.ee/wayuwayu

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด