ถนนสู่อาณาจักร – Oukoku e Tsuzuku Michi 98 ความไม่สงบในทิศเหนือ ④ เวทีที่ถูกจัดเตรียมไว้

Now you are reading ถนนสู่อาณาจักร – Oukoku e Tsuzuku Michi Chapter 98 ความไม่สงบในทิศเหนือ ④ เวทีที่ถูกจัดเตรียมไว้ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

98 ความไม่สงบในทิศเหนือ ④ เวทีที่ถูกจัดเตรียมไว้

—————————————————————

【–มุมมอง บุคคลที่สาม–】

รถเกวียนสามคันและทหารม้าเป็นโหล เข้าหาป้อมปราการมาจิโน่ เส้นป้อมปราการที่เทรียภาคภูมิใจมาก จากข้างใต้ เร็วกว่าที่ทหารที่ประจำการอยู่ จะปล่อยลูกธนูออกมาได้ ม้าตัดอกไป และโยนคบเพลิงในรถเกวียน น้ำมันต้องถูกเทไว้ล่วงหน้าแล้ว เพราะรถเกวียนเผาไม้ในเปลวเพลิงทันที สร้างไฟใหญ่ สีย้อมเผาใหม้และควันสีแดงพวยพุ่งไปข้างบน

ทหารม้ากลับไปทางใต้ และออกมา ปล่อยให้รถเกวียนไหม้ต่อไป ทหารวิ่งออกมาจากปราสาท เพื่อดับไฟ แต่รถเกวียนและคบเพลิงผสมกันนั้นทำเปลวเพลิงที่ใหญ่เกินไป ดังนั้นไฟไม่หายไปอย่างง่ายดาย และควันสีแดงพวยพุ่งสูงขึ้นไปบนท้องฟ้า และเห็นได้ง่าย จากระยะไกล—————————————————————

【–มุมมอง โกลโดเนีย–】

ในเวลาเดียวกัน แคมป์กองทัพกลางของโกลโดเนีย

การประชุมสงครามดำเนินต่อไปในบรรยากาศที่หนักหน่วง ขณะที่การตีเมืองไม่คืบหน้า และมีแค่ผู้สังเวยที่กองกันขึ้นไป เป็นครั้งคราว เสียงที่โกรธเคืองของเจ้าหน้าที่กองทัพคำรามดังก้อง แต่ข้อสรุปไม่มีใครไปถึง เหตุการที่หยุดการปรึกษากันที่ไม่ออกดอกออกผลนี้คือควันแดงที่พวยพุ่ง ขึ้นมาจากสามตำแห่ง

ได้ยินรายงานเกี่ยวกับจรวดท้องฟ้าสีแดง นายพลคนแรกที่กระโดดออกกมาตรงจากเต็นท์คืออีริช เพื่อยืนยันสิ่งที่เขาเห็น เขาปิดตาของเขาและเปิดมันขึ้นมาใหม่

「สุภาพบุรุษ การสนทนานี้หมดความหมายแล้ว」

「ลอร์ดฮาร์ดเลตต์ทำการอ้อมป้อมปราการมาจิโน่สำเร็จ จากทิศตะวันออก ป้อมปราการถูกแยกออกมาตามลำพัง และเส้นทางเสบียงถูกตัดแล้ว」

เสียง ‘โออ้’ ก้องขึ้นมาจากทุกคนที่อยู่ตรงนี้ เจ้าหน้าที่ทหารบางคน ไม่ได้ดูเหมือนจะเชื่อว่าการอ้อมที่เป็นความจริงไม่ได้แบบนี้จะเกิดขึ้น แต่สัญญานควันขึ้นมา จากทางใต้ของป้อมปราการ ไม่ว่าพวกเขาจะดูมันอย่างไร ไมว่าทฤษฎีไหนจะถูกนำมาใช้ พวกเขาไม่มีทางเลือกนอกจากจะรับรู้ ว่าวิสเคานต์ฮาร์ดเลตต์และกองทัพของเขา ได้ล้อมไปทางใต้ของป้อมปราการ

「สุภาพบุรุษ ไม่นานมันจะเป็นการโจมตีที่ทุ่มเททั้งหมดครั้งที่ห้า ทำไมไมให้สัญญานควัญของเราเป็นการเผาไหม้ของป้อมราการล่ะ?!」

ผู้บัญชาการแพร่ข่าวการอ้อมที่สำเร็จลุล่วงของทหารองพวกเขา และอารมณ์ของคนในแคมป์ฟื้นขึ้นมาโดยทันที

—————————————————————

【–มุมมอง บุคคลทที่สาม/เทรีย–】

ในเวลาเดียวกัน ป้อมปราการมาจิโน่ ป้อมกลาง

「……ผู้บัญชาการครับ มันปรากฏว่ามีทหารม้าที่ไม่รู้จักเข้าหาจากทางใต้ และเผารถเกวียนบางคันก่อนจะหนีไป」

นายพลแก่ยังดูหดหู่ ขณะที่เขาแนะนำทหาร

「ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับมันมากขนาดนั้น หน่วยแยกออกมาของโกลโดเนียแค่พยายามจะส่งสัญญานควัน ปรากฎการณ์นี้จะถูกเห็นอย่างชัดเจนโดยศัตรูข้างหน้า การโจมตีโดยทุ่มกำลังทั้งหมดจะมาในไม่ช้า…… ไปเตรียมตัว」

บรรยากาศในห้องสั่งการมันมืดมนอย่างแปลกๆ แม้ว่าพวกเขา ควรจะเพิ่งได้ป้องกันการโจมตีครั้งที่สี่ เพิ่มเติมจากการที่บางคนได้ล้อมพวกเขาข้างหลัง ตอนนี้ป้อมปราการถูกแยกออกมาตามลำพัง ตราบใดที่ศัตรูไม่พ่ายแพ้ เสบียงจะไม่มา ไม่ว่าป้อมปราการมันจะทนทานแค่ไหน มันสู้ไม่ได้ถ้าลูกธนูหมด และถ้าอาหารหมดไป ทหารจะวิ่งหนี

「เราได้สกัดอาหารมาจากโรงเก็บของด้วยความคิดที่ว่าเราจะได้รับการเติมเสบียงหลังจากทั้งหมด……」

มันมีทหารอยู่ 40 000 คนรวมอยู่ในป้อมปราการมาจิโน่ มันไม่มีอาหารเหลือเผื่อในเทรียและมันเป็นไปไม่ได้ที่จะรวบรวมอาหารสำหรับทหาร 40 000 คนให้กินหลายเดือน

ทหารจำนวนหลายคนกินและดื่มทุกวัน เทพธิดาที่ยิ้มให้กับทหารผ่านศึกแก่ตอนนี้ได้ถูกขโมยไปแล้วโดยโกลโดเนีย แม้ว่าเขาจะไม่ทำอะไรเลย ทุกอย่างจะตามมาหาเขาในทันที

「ท่านเคานต์มาจิโน่ ศัตรูไม่ได้มีกองกำลังมาก ถ้าเราส่งทหารของเราออกไปบ้าง และไล่พวกเค้าออกไป เราจะเชื่อมต่อเส้นทางเสบียงของเราได้」

「ชั้นได้พิจารณาเรื่องนั้นแล้ว แต่เหตุผลที่ชาวนาสู้เหมือนทหารเกณฑ์เต็มตัวได้เพราะการปกป้องจากป้อมปราการ คนที่อ้อมมาหารเรา ควรจะเป็นลอร์ดฮาร์ดเลตต์ และกองทัพของเขา คนที่อาละวาดในความขัดแย้งก่อนหน้า ถ้าเราปะทะกับเขาและทหารม้าที่ทรงพลังของเขาในสนาม จะเกิดอะไรขึ้น……」

「แต่ถ้าเราให้เรื่องนี้เป็นต่อไปแบบนี้ มันจะเป็นแค่เรื่องของเวลา ก่อนที่ป้อมปราการจะพ่ายแก้」

「จากหน่วยสอดแนม อำนาจกองทัพของเค้า มันประมาณ 10 000 ที่ทหารม้าจำนวนครึ่งหนึ่งของจำนวนนั้น ถ้าเราทำการต่อสู้ขึ้นมา เราจะต้องการอย่างน้อย 20 000 ถ้าเราส่งมากขนาดนั้นไปหาเขา เราจะทนศัตรูข้างหน้าเราไม่ได้ ถ้าเราสู้ ป้อปราการจะพ่ายแพ้ตอนนี้!」

นายพลแก่ไม่ได้พูดถึงอะไรเพราะมันจะมีอิทธิพลกับกำลังใจ แต่เขาก็มีความแคลงใจเกี่ยวกับทักษะการนำทัพของเขาด้วย เขามีความมั่นใจในศึกป้องกันที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันของป้อมปราการและขับไล่การโจมตีของศัตรู แต่เรื่องการต่อสู้ที่สนาม มันเป็นเรื่องราวที่ต่างออกไปเลย สภาพของการสู้รบมันเปลี่ยนไปตอนไหนก็ได้ และความลังเลแค่เล็กน้อย จะเชิญชวนความพ่ายแพ้มา ในตอนที่เขายังหนุ่ม เขามีส่วนร่วมมกับสงครามในอาร์คแลนด์และเขามีประสบการณ์ในการบัญชาการ แต่ประวัติงานของเขาในเรื่องการต่อสู้สนามนั้นแย่มาก

แม้ว่าเขามีความได้เปรียบบางอย่างอยู่ ลอร์ดฮาร์ดเลตต์เป็นนายพลที่กล้าหาญ ที่เชี่ยวชาญในการต่อสู้บนสนาม ดังนั้นเขาจินตนาการไม่ได้เลยว่าเขาจะชนะลอร์ดฮาร์ดเลตต์ในการต่อสู้ที่สนามเปิดกับเขา

「แต่ยังมีความหวัง」

「กำลังเสริมจากเมืองหลวงเหรอ……?」

เจ้าหน้าที่หนุ่มเสียงฟังดูสงสัยเล็กน้อย มันจริงที่ว่ามีแค่กำลังเสริมที่จะพลิกสถานการณ์ที่น่าสมเพชที่หมกอยู่ในป้อมการการและต่อสู้ แต่มันมีแค่ทหารประมาณ 3000 เหลืออยู่ในเมืองหลวง และนั่นมันเป็นจำนวนน้อยที่สุดที่ต้องการ สำหรับป้อมปราการในเมืองจะทำงานได้ ดังนั้นไม่มีพวกเขาซักคนเดียวที่เคลื่อนไหวได้ คนที่พึ่งพาได้มีแค่องครักษ์จักรวรดิจากทางใต้ ที่จะต้องพากลับมมาอยา่งรวดเร็ว และมีแค่ประมาณ 5000 คน แม้ว่าพวกเขามีอุปกรณ์อย่างดีและมีทักษะ มันน่าสงสัยอย่างที่สุด ว่าพวกเขาไล่หน่วยที่แยกออกมาของโกลโดเนีย ที่จำนวนมันไปถึง 10 000 ได้

「นั่นไม่ใช่……ทั้งหมด」

นายพลแก่บังคับรอยยิ้มออกมา

—————————————————————

ในเวลาเดียวกัน เมืองหลวงของเทรีย ทริสเนีย

「เราต้องทำบางอย่างเพื่อช่วยป้อมปราการมาจิโน่ไม่ให้ถูกแยกออกมาตามลำพัง!」

「แต่เราจะไปเอากำลังทหารมาจากไหน?」

「องครักษ์จักรวริ์จะมาถึงในไม่ช้า! แม้ว่าพวกเค้าจะจำรวนด้อยกว่า ถ้าพวกเค้าสู้อย่างสิ้นหวัง-」

「คิดว่าเราทำบางอย่างได้ด้วยแค่ความรู้สึกอย่างเดียวเรอะ?!」

「มี 40 000 ในป้อมปราการนะ รู้มั้ย? เรานำออกมาหมื่นหรือสองหมื่น และช่วยโรเลลด้วยตัวเอง……」

「ถ้าเราทำอย่างนั้นและพวกเขาข้ามกองำลังหลักเรามา ทหารที่ใกล้กับจำนวน 10 000 จะท่วมเข้ามา! ถ้าอย่างนั้นเราจะจบเห่ตอนนั้น」

「ผู้บัญชาการป้อมปราการมีความสามารถที่จะทำอะไรเกี่ยวกับเรื่องนั้นได้! บางทีเราประเมินความสามารถเคานต์มาจิโน่สูงเกินไป ……」

ก่อนที่เรื่องที่ซับซ้อนจะเปลี่ยนเป็นการโต้เถียงว่ามันเป็นความผิดใคร นายกรัฐมนตรีก้าวมาข้างหน้าหาราชา

「โอ้ราชาผู้ยิ่งใหญ่ กองทัพและป้อมปราการขอเราเผชิญหน้าอยู่กับปัญหา」

ระหว่างที่ราชามองลงไปที่นายกรัฐมนตรี ตาของเขามองไปทั่วอย่างกระสับกระส่าย

「การที่สามารถผ่านป่าเอิร์กมาได้……ชั้นได้ยินมาว่าฮาร์ดเลตต์เป็นการเกิดใหม่ของหมาป่า แต่ไม่ใช่ว่าเค้าเป็นปีศาจอะไรบางอย่างเหรอ?」

นายกรัฐมนตรี ไม่มีเวลาที่จะสร้างความบันเทิงให้นิทานปรัมปราของราชา เขาเลยเมินราชาและพูดที่เขาอยากจะพูดต่อ

「ถ้าเรื่องนี้ดำเนินต่อไป ป้อมปราการมาจิโน่จะใชห้เสบียงอาหารและลูกธนูจนหมดไป และจากนั้นตกสู้น้ำมือของศัตรู แต่ก่อนที่เรื่องนั้นจะเกิดขึ้น เราคววรจะกำจัดศัตรู ที่ยึดครองโรเลล」

「การ- การสร้างสันติกับโกลโดเนียไม่ใช่ทางเลือกหรอกเหรอ? ชั้นโอเคที่จะยอมแพ้ดินแดนไปบ้างนะ รู้มั้ย?」

นายกรัฐมนตรีกรีดร้อง ‘เป็นไปไม่ได้’ อย่างเงียบๆในหัวของเขา เมื่อพิจารณาการกระทำที่โกลโดเนียทำหลังจากความพ่ายแพ้ของอาร์คแลนด์ในสงคราม พวกเขาอยากจะกลืนกินเทรียทั้งหมด; พวกเขาจะไม่เห็นด้วยที่จะปล่อยเทรียให้มีชีวิตอยู่อย่างสงบสุข

「จากหนึ่งในสายลับที่ผมส่งไป หลังจากที่ได้รับดินแดน โกลโดเนียร่วมมืออกับพวกคนเหล่านั้นที่ไม่ภักดีกับอาร์คแลนด์ และฆ่าทุกคนที่เค้าพบว่ามาจากเทรีย」

「อ-อย่างนั้นเหรอ? ……งั้นชั้นเดาว่าเราสร้างสันติไม่ได้」

แแน่นอนว่านั่นไมใช่ความเป็นจริง; มันเป็นคำโกหกที่นายกรัฐมนตรีสร้างเพื่อเลี่ยงจากการที่ให้ราชาสร้างปัญหาเรื่องการสนับสนุนสันติและความรัก

「แต่ความจริงคือเราไม่มีกองกำลังมากพอที่มือ คือความจริง ประเทศรอบข้างนั้นพูด- 「มันใกล้กับฤดูการเกีบเกี่่ยว」「มันยากที่จะตัดสินใจว่าใครดีกว่าจากอะไรที่เค้าพูดและ-」 ควรจะมีส่วนร่วมกับสงครามและเทียบพวกเขามั้ย」

TLN ทุกคนพูดพร้อมกัน

ทุกคนมีสีหน้ามืดมนกับสถานการณ์ที่สิ้นหวังนี้

「แต่ผลจากการเจรจาซ้ำๆกับประเทศดยุคมากราโด ผมสำเร็จในกาารดึงกำลังเสริมมาจากพวกเขาได้บ้าง」

ห้องประชุมมีชีวิตชีวาทันที และแม้แต่ราชาก็ลุกขึ้นมาจากเก้าอี้ของเขา

「ช่างมหัศจรรย์! งั้นกำลังเสริมจะมาเหรอ!? งี้พวกเขามีเท่าไหร่? และเมื่อไหร่??」

「มันจะมี 10 000 ดังนั้นถ้าพวกเขาผสมกับองครักษ์จักรวรรดิ พกเขาควรจะทำการสู้ที่ดีได้……และเกี่ยวกับเวลา」

ทุกคนกลืนน้ำลาย ถ้าเขาพูดว่าสองเดือน สถานการณ์ที่สิ้นหวังจะไม่เปลี่ยนแปลงไป

「ตอนเริ่มของสงคราม พวกเขามุ่งหน้ามาหาเราผ่านสตูร่า และตอนนี้ได้มาถึงทางใต้ของเมืองหลวง ด้วยเรือแล้ว」

เสียงที่วุ่นวายเปลี่ยนเป็นการคำรามที่โกรธเคือง

「อะไร-?!」

「ไม่มีทางน่า!」

「นายอนุญาติให้กองกำลังของประเทศอื่นลงพื้นที่ประเทศของเราโดยราชายังไม่ได้ยอมรับเหรอ?」

「นายกรัฐมนตรี……ท่านมีความคิดมั้ยว่าท่านทำอะไรลงไป?」

 「นี่เป็นการเชิญชวนภัยต่างประเทศ! ท่านและครอบครัวของท่านจะได้รับโทษประหาร」   

 「นี่เป็นการละเมิดที่ประหารได้ทันที!」   

นายกรัฐมนตรีไม่หวั่นไหวจากขุนนางที่โมโหแม้ว่าทำไกลขนาดที่ทำให้ราชาผู้ยิ่งใหญ่แต่โกรธเคืองอย่างเงียบๆ

 「ความอยู่รอดของประเทศขึ้นอยู่กับวิกฤตนี้ ที่เราเผชิญอยู่ตอนนี้; ถ้าผมถูกประหารตอนนี้ กำลังเสริมจากมากราโดจะไม่ทำอะไรและประเทศนี้จะถูกกลืนโดยโกลโดเนีย」   

 「……นายกรัฐมนตรี ถ้ากำลังเสริมนี้ ช่วยป้อมปราการมาจิโน่ได้ งั้นนายจะถูกยกย่องเป็นฮีโร่และผู้กอบกู้ของประเทศ และบาปที่ชวนภัยต่างประเทศจะถูกยกเลิก แต่ในกรณีที่พวกเค้าล้มเหลว นายจะครอบครัวของนายจะได้บทลงโทษเดิม」   

 「ผมรู้เต็มอกครับ」   

การประชุมจักวรรดิจบในบรรยากาศที่ตึงเครียดอย่างไม่น่าเชื่อ เพื่อที่จะดูโชคชะตาของการต่อสู้ตัดสินนี้จนจบ นายกรัฐมนตรีไปเพื่อพบกองทัพ 10 000 คนบนคำสั่งของราชา

—————————————————————

【–มุมมอง เอเกอร์–】   

ในเวลาเดียวกัน โรเลล

 

 「อ๊าาา—!! หนูจะตายหนูจะตายยยย!!」      

 「ผู้หญิงจะไม่ตายจากบางอย่างที่เหมือนเอ็นของชั้น แล้วจุดนี้ล่ะเป็นยังไง?」   

 「ฮฮฮฮฮฮฮฮฮิ้—!! มันหนนาและมันถูจุดที่ดีขนาดนั้น! มันรู้สึกดีเกินไปจนหนูตายจากการแตกได้!!!」   

 「เธอจะแตกจากจุดนี้เหรือ!? นั่น แตกสิถ้างั้น!!」   

ผมแทงไม้เนื้อเข้าไปในส่วนลึกของข้างในเธอหลายครั้งก่อนจะน้ำแตก ผู้หญิงปิดหน้าเธอด้วยมมือและกรีดร้องเหมือนสัตว์ป่า ช่างเป็นอีตัวที่ความไวสูง

 「อ่าาาาาาา!! ฮฮฮฮฮฮิ้!! อ่าา อ่าา-! โอออออ่…… โออออ่…………」 

ผู้หญิงที่นั่งบนผมระหว่างที่ผมขัดสมาธิโยนหัวของเธอไปข้างหลังดั่งเธอคอหัก ตาของเธอม้วนกลับไป และเธอล้มลง เหมือนที่เธอพูด มันดูเหมือนเธอตาย แต่เธอยังหายใจอยู่ เธอน้ำแตกต่อไปแม้กระทั่งตอนนี้ ดังนั้นถ้าเธอไม่กินน้ำ เธออาจจะกระหายน้ำ

โสเภณีนี้ถูกพามาหาผมโดยพวกขุนนางโง่ๆสามคน เธอดูกระฉับกระเฉง ผมเลยโอบกอดเธอ เธอมีกายที่ควาามไวสูงอย่างเหลือเชื่อ  

 「เอเกอร์-ซามะ……เสร็จรึยัง?」   

ซีเลียเข้ามาในห้องและจ้องผู้หญิงที่งอตัวเหมือนกุ้ง

 「อาา ผู้หญิงคนนั้นรู้สึกดี……มันได้เวลาที่ควันขึ้นมาแล้ว ใช่มั้ย?」   

ด้วยการห่อไหล่ เอ็นที่อ่อนของผมถูกดึงออกมาจากหว่างขาผู้หญิง

 「ใช่ ถ้าพ่อดู กองทัพกลางทำการเริ่มการโจมตีแล้วตอนนี้」   

ในไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ผมและทั้งหน่วยของผมอยู่ในโรเลล ระหว่างที่ฟื้นกำลังของเรา นั่นเป็นเพราะเราได้เดินทัพอย่างไม่จบสิ้นผ่านดินแดนชาติภูเขา ดังนั้น ทหารได้สร้างความเหนื่อยที่ค่อนข้างมาก เมืองเอ่อล้นไปด้วยอาหารและเสบียงที่เอาาไว้ให้ป้อมปราการ ดังนั้นทหาร 10 000 คนจะได้สาารอาหารมากมาย

 「ตราบใดที่เราอยู่ตรงนี้ ป้อมปราการจะไม่ได้รับเสบีง ทหารส่วนใหญ่ควรจะพักอยู่」   

เทรียส่งรถเกวียนจากเมืองหลวงเพื่อส่งเสบียงให้มาจิโน่ด้วยวิธีใดวิธีหนึ่ง แต่พวกเขาถูกจับโดยเครือข่ายทหารม้าที่ลาดตระเวณของเราและเปลี่ยนเป็นการอาบฝนเลือด

โดยไม่มีเสบียงจุดใหญ่ในโรเลล มันเป็นไปไม่ได้ที่จะข่นส่ง เสบียงที่รักษาป้อมปราการใหญ่แบบนั้นดีๆได้

 「อีกฝ่ายอยู่ในการค่อนข้างทีกินกันไม่ลง」   

ผมลูบไล้หน้าอกของผู้หญิงที่สลบอย่างอ่อนโยน เธอไม่ควรจะมีสติ แต่เธอปล่อยเสียงออกมาที่ให้ผมรู้ว่าเธอรู้สึกดีอยู่

 「ใช่ ในทางตรงกันข้าม มันหมายถึงเราไม่มีอะไรทำมาก แม้ว่าเรามีอาวุธตีเมืองมาก เราใช้พวกมันบนเมมืองหลวงไม่ได้」   

มันอาจจะน่าสนใจที่จะฝ่าป้อมปราการจากข้างหลัง แต่ถ้าพวกเขายึดโรเลลคืนระหว่างช่องเปิดนั้น ผมจะทุกทิ้งโดยที่ไม่มีอะไรเลย มันดีที่สุดที่จะรออยู่ที่นี่ และทำผู้หญิง

 「แต่ถึงอย่างไร ผู้บัญชาการของป้อมปราการนั้นค่อนข้างที่จะเป็นคนแบบดั้งเดิม เค้ารู้ว่าถ้าสิ่งต่างๆดำเนินต่อไปแบบนี้ที่มันเป็น เขาจะอยู่ในอันตราย หนูคิดว่าเค้าจะแบ่งกองกำลังของเค้าและส่งบางคนมาใส่เรา」   

 「เค้าอาจจะกลัวอีริช…… เขาอาจจะเป็นหนึ่งในคนเหล่านั้นที่ไม่เสี่ยงและพยายามอย่างโครตดีเพื่อที่จะไม่กระตุ้นปัญหา」   

หรือบางทีเขายังไม่ถูกต้อนจนมุมอย่างสมบูรณ์ เขาอาจจะแขวนอยู่บนความหวังอะไรบางอย่าง

 「ถ้ามันเป็นรูปแบบของกำลังเสริมบางอย่าง ไม่ใช่สิ่งต่างๆจะน่าสนใจเหรอ?」   

ผมนำมือของผมห่างจากผู้หญิงและใส่เสื้อผ้าของผม เธอลูบไล้ไปทั่วหาผมและยืดมือออกมอย่างสิ้นหวัง ขอโทษ แต่นี่มันเป็นเรื่องวันเดียว; ไปหาชายดีๆ

 「โอ้ชั้น โอ้ชั้น ถ้ามันไม่ใช่ฮาร์ดเลตต์! ซามา พบว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นอย่างไรบ้าง? เธอเป็นโสเภณีที่ชั้นสูงที่สุดในเมืองนี้……」   

ขุนนางที่แนะนำโสเภณีให้ผมรออยู่ข้างนอกห้อง เขาถูมือของเขาเร็วกว่าอะไรบางอย่างที่ผมเห็นมาก่อน

 「บารอนโบ็คเกะ ใช่มั้ย? เธอดี ตอนนี้ ชั้นจะคืนเธออย่างสุภาพ」   

 「มันบักกะครับ งั้นตอนนี้ เกี่ยวกับสันติของเราในอนาคตด้วย」   

 「ตราบใดที่นายไม่ต่อต้านนายจะไม่ถูกทำร้าย นอกจากนั้น ทุกอย่างที่เหลือเป็นผลข้างเคียงจากสงคราม; ไม่มีอะไรที่ถูกตัดสินใจ」       

บารอน ‘บากะ’ ทำหน้าที่ไม่พอใจ แต่ไม่มีความจำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับเขา หลังจากที่สังหารเคานต์ ผมชี้ดาบของผมกับผู้คิดตามของเขาสามคน รวมถึงเขา เพื่อที่จะถามว่าเขาจะต่อต้านด้วยไหม

หนึ่งในพวกเขาตะโกนชื่อแม่ของเขาออกมาและร้องไห้น้ำตาแตก อีกคนฉี่ราด และคนนี้ขี้แตก โดยการเป็นคนขี้ขลาดอย่าฮาร์ดคอร์ พวกเขาไม่มีไข่ที่พยายามยามจะทำอะไรทั้งสิ้น และพวกเขาทำให้นักโทษหรือพลเมืองตามเขาด้วยไม่ได้เช่นกัน

พวกเขาสามคนดูเหมือนจะมีทักษะพิเศษของเขาเอง: เรียงจากผู้หญิง ไวน์ และนักแสดงข้างถนนที่โด่งดัง บางทีพระเจ้าทำผิดพลาดในการรับมือกับการเกิดของพวกเขา ถ้าพวกเขามีทักษะในการเล่นไทโกะ* พวกเขาอาจจะสามารถแสดงทักษะออกมาได้

 TLN กลองใหญ่ของญี่ปุ่น กลองศึก   

 「เถิบไป!」   

ชายที่ซีเลียตะโกนใส่ ขยับไปที่มุมของห้องโถง ชายที่โตแล้ว ไม่ควรจะกลัวสาวอายุ 17……

—————————————————————   

ผมเข้าคฤหาสน์ลอร์ดศักดินาด้วยกันกับซีเลีย และเดินไปที่ห้องทานอาหารที่ถูกใช้เป็นห้องประชุม ลีโอโพลต์และคนอื่นรวมกันข้างในแล้ว

 「ลอร์ดฮาร์ดเลตต์ สัญญานควันถูกยิงขึ้นไปโดยไม่มีปัญหา ตอนนี้ ป้อมปราการมาจิโน่ส่งกองกำลังใหญ่มาหาเราไม่ได้แล้ว」      

 「เข้าใจแล้วว มีอย่างอื่นให้พิจารณามั้ย?」   

ลีโอโพลต์กางแผนที่ใหญ่ขึ้นมาบนโตะ และวางวัตถุทรงทหาร ขอโทษที่ผมล้อนาย ผมนึกว่านายเล่นกับทหารของเล่น

 「อย่างแรก ป้อมปราการมาจิโนะต้องเผชิญหน้ากับกองทัพกลางข้างหน้า เราตัดการสื่อสารกับเมืองหลวงของพวกเค้า ดังนั้นพวกเค้าส่งทหารมาในทิศทางเราอย่างมีประสิทธิภาพไม่ได้」   

ช่าย ผมรู้ส่วนนั้น 

 「ต่อไปเป็นความจริงที่ว่าหน่วยสอดแนม ค้นพบว่าองครักษ์ 5000 คนที่ใกล้กับป่าเอิร์กเดินไหน้าไปที่เมืองหลวงจากทิศใต้」

 「5000? งั้นมันอาจจะดีกว่าถ้าเราขยี้พวกเค้าระหว่างเวลานั้น」   

 「เราจะเสียเวลาไปถ้างั้น……แล้วก็ ดูจากจำนวน พวกเขาจะไม่น่าทำอะไรที่เป็นเชิงรุก」   

น่าจะไม่ เพราะทั้งหมด พวกเขาเป็นกลุ่มที่หมกอยู่ในสิ่งปลูกสร้างสำหรับป้องกัน พวกเขาขาดไปอย่างแน่นอนถ้าพวกเขาพยายามจะยึดคืนเมืองที่มีจำนวนมากกว่าทหารของพวกเขา

 「และสุดท้าย นี่」   

ลีโอโพลต์วางชิ้นหนึ่งของวัตถุที่เมืองท่าเล็กๆทางใต้ของทริสเนีย

 「กองกำลังในที่แบบนั้นเหรอ?」   

ซีเลียพูดขึ้นมาโดยไม่คิด การวางกองกำลังมากเกินในในเมืองท่าเล็กๆไกลจากสนามรบมันน่าสงสัยอย่างแน่นอน

 「มันถูกค้นพบโดยการค้นหาที่ยืดไปของหน่วยสอดแนม ไม่มีข้อมูลมมากที่รู้ แต่พวกเขาไม่ควรจะมีกองกำลังมากกว่าหนึ่งพันหรือสองพันที่นั่น」   

 「นั่นหมายถึงมันไม่ใช่เทรีย」   

 「ใช่ สตูร่าหรือมากราโด……น่าจะเป็นอย่างนั้น」   

 「มันไม่ใช่สตูร่า ประเทศนั้นมีแค่ทหารรับจ้าง และถ้ามีการรับสมัตรถูกเซ็นออกมา พ่อค้าจะรู้เกี่ยวกับมัน」   

แคลร์พูดว่าประเทศนั้น จ้างแค่เล็กน้อยที่นั่นที่นี่ และมันไม่ได้เป็นบางอย่างที่ขนาดใหญ่

 「คุณพูดถูก มากราโด ไม่เหมือนประเทศอื่นใกล้ๆ พวเค้าค่อนข้างที่จะระวังเกี่ยวกับประเทศของเรา พวกเค้าน่าจะอยากให้เทรียชนะเพื่ออำนาจชาติของโกลโดเนีย จะลดลงไปเล็กน้อย」      

 「งั้นเราจะต่อสู้กับกองทัพนี้เหรอ?」   

  「น่าจะ……ยกเว้นในสถานการณ์นี้ มากราโดจะสับสนอย่างไม่ต้องสงสัยด้วย」        

เขาหมายถึงอะไร? ผมไม่เข้าใจมมัน ดังนั้นผมเดาว่าผมจะถูกตูดใหญ่ๆของอิริจิน่าสำหรับตอนนี้

—————————————————————   

 【–มุมมอง บุคคลที่สาม–】 

ไม่กี่วันหลังจากนั้น ทางใต้ของทริสเนียแคมป์กองทัพของประเทศดยุคมมากราโด

 「ไม่มีกองทัพสำรองเหรอท่านพูด!?」   

คนที่ตะโกนอยู่ตอนนี้เป็นเคานต์ของประเทศของดยุคมากราโด และผู้บัญชาการสูงสุดของกองกำลังที่เดินทางไปรบ ผู้บัญชาการแรดกัลฟ์

 「กองกำลังของศัตรูดันกับเส้นป้อมปราการอยู่ เราไม่มีที่ว่างให้ทิ้งกองกำลังไว้ข้างหลัง……」   

ดั่งจะถูกกดดันโดยพลังที่เข้มข้น คนที่ตอบอย่างเลี่ยงๆคือนายกรัฐมนตรี ดูนอย ที่เพิงมา

 「ทิ้งกองกำลังให้ว่างและทิ้งกองทัพสำรองมาเป็นสองเรื่องที่ต่างกันไป ถ้าเราไม่มีกองทัพสำรอง ถ้าการฝ่าหรืออ้อมเกิดขึ้น งั้นทัพหน้าทั้งหมดจะทรุดตัวทันที! ไม่ใช่เหตุผลหลักสำหรับประเด็นตอนนี้มันเหมือนกันเหรอ!?」   

 「ต-ตอนนี้ องครักษ์จักรวรรดิ 5000 คนมุ่งหน้ามาทางนี้ เพื่อที่พวกเค้าจะเข้าร่วมกับท่าน……」   

 「ถ้าท่านส่งกองกำลังออกไปหลังจากที่พวกเค้ากลับมาจากกำหนดการที่แน่น พวกเค้าจะไม่สามารถที่จะสู้อย่างที่คิดได้ ทหารมันต่างจากอุปกรณ์นะ」   

เมื่อแรดกัลฟ์เห็นนายกรัฐมมนตรีดูหดหู่ เขาถอนหายใจอย่างลับๆ ก่อนส่งคราม เมื่อพวกเขาปรึกษากันซ้ำๆเกี่ยวกับการสร้างกำลังเสริม เขาดูเหมือนจะเป็นคนที่มีทักษะ แต่เมื่อสงครามเริ่มขึ้น ความเป็นมือสมัครเล่นของเขาโดดเด่นมากเกินไป การมีเชื้อสายครอบครัวที่มีประวัติเป็นหทาร และเกี่ยวข้องกับกองทัพตั้งแต่เขายังประมาณ 10 ขวบ เขาเห็นสิ่งต่างๆอย่างที่เขาไม่เชื่อว่าจะเกิดขึ้นจริงๆ

แผนดั้งเดิมของเขา คือสำหรับป้อมปราการที่รั้งศัตรูไว้ได้ และถ้าฝ่ายของเขาได้เปรียบ เขาจะกระโจนใส่ศัตรูที่เหนื่อย แต่ถ้าพวกเขาเสียเปรียบ พวกเขาจะปรากฏตัวเป็นกำลังเสริมสำหรับป้อมปราการ

แผนนั้นถูกขยี้ทันทีที่การอ้อมใหญ่ของศัตรูจัดเจน แต่แม้อย่างนั้น ถ้าศัตรู มีแค่ 10 000 เขายังเชืื่อได้ว่าเขาสามารถกำจัดพวกเขาโดยการให้ควาามร่วมมือกับกองกำลังสำรองของเทรีย

สิ่งต่างๆลำบากขึ้นเพราะไม่มีกองทัพสำรอง เขาคาดหวังมากไม่ได้จาก องครักษ์จักรวรรดิ 5000 คนที่เหนือยจากการเพิ่งกลับมา ถ้าเป็นอย่างนั้น เขาไม่มีทางเลือกน้อกจากจะสรุปด้วยทั้งสองฝ่ายมีกองกำลัง 10 000 คน

 「ผมขอร้องท่านล่ะ…… ถ้าผมแพ้การต่อสู้นี้ ประเทศของผมจะถึงวาระ」 

นายกรัฐมนตรีคำนับแรดกัลฟ์อย่างลึก แรดกัลฟ์ที่มีสถานะทางสังคมตำแหน่งที่ต่ำกว่า ไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไรถ้าโกลโดเนียยึดเทีรย มันจะขัดต่อควาหวังของประเทศบ้านเกิดของเขา ถ้าพวกเขาขยายดินแดนของพวกเขา พวกเขาจะเป็นศัตรูที่มากราโดยืนขึ้นสู้ไม่ได้อีกต่อไป

 「งั้นนี่เป็นศึกตัดสินของเราเหรอ……?」   

แรดกัลฟ์ได้หนีความตายมาหลายครั้งก่อนหน้านี้ ถ้าเขาล้มเหลวแม้แต่ครั้งเดียว เขาจะไม่มายืนอยู่ตรงนี้ตอนนี้ ครั้งนี้มันเพียงแต่กำลังเท่ากัน; เขาพูดว่าเขาจะชนะไม่ได้อย่างแน่นอน แต่มันไม่ใช้เรื่องที่พ่ายแพ้ได้ด้วย นี้เป็นที่ที่เขาควรจะพนัน

 「มันเลี่ยงไม่ได้ เราะต้องไปที่กำลังปัจจุบันของเรา เราจะให้องครักษ์จักรวรรดิตามสำหรับตอนนี้」   

 「แล้วก็ส่งผู้ส่งสาส์นไปที่ป้อมปราการให้ส่งหทาารเพื่อทำการโจมตีขนาบ……」   

แรดกัลฟ์พยักหน้าเงียบๆ กำลังเสริมที่อาจจะพลาดจังหวะเวลาการโจมตีและมีการสื่อสารที่พึ่งพาไม่ได้นั้นไร้ค่า แต่มันไม่เจ็บที่จะจะพยายามเรียกร้องบางอย่างจากพวกเขา

 「ธงสีดำสสนิทที่ฮาร์ดเลตต์โบกสะบัด……กองทัพของหมาป่าปีศาจ ช่างเป็นคู่ต่อสู้ที่คู่ควร」   

 「ผมหวังพึ่งท่านนะ อนาคตของตระกูลของผมอยู่บนเส้นตาย……」

ระหว่างที่ขจัดคำพูดของนายกรัฐมนตรี เขาหันหาทหารของเขาและยกดาบของเขาขึ้น

 「สุภาพบุรุษ มันเป็นเวลาออกเดินทาง ศัตรูเป็นนายพลผู้กล้าหาญ ผู้ที่สร้างชื่อให้เค้าเองในสงครามอาร์คแลนด์ ลอร์ดฮาร์ดเลตต์และกองทัพที่เค้านำอยู่」      

ทหารไม่ถอยแม้แต่นิ้วเดียว พวกเขาได้ฝึกมาอย่างดี

 「กำจัดพวกเค้าและพัฒนาชื่อเสียงของตัวเอง ไปกันเถอะ!」   

ด้วยเสียง ‘โอ้!’ สั้นๆ กองทัพเดินทางไปรบของมากราโดและเทรียที่มี 10 000 คนเริ่มทำการเดินทัพ

การเคลื่อนไหวของพวกเขาถูกพบโดยหน่วยสอดแนมของโกลโดเนียทันที และมันเป็นแค่เรื่องของเวลา ก่อนที่ทั้สองฝ่ายจะปะทะซึ่งกันและกัน

—————————————————————

ตัวเอก: เอเกอร์ ฮาร์ดเลตต์ 21 ปี ฤดูใบไม้ร่วง เวลาสงคราม

หน่วยของลูกน้อง: 11 200

ทหารราบ: 2700, ทหารม้า: 1500, นักธนู: 800, ช่างศึก: 200, ทหารม้าธนู: 6000

ลูกน้อง: ลีโอโพลต์ (หัวหน้าของเจ้าหน้าที่และรองผู้บัญชาการกองทัพ), ซีเลีย (ผู้ช่วย, กัปตันผู้คุ้มกัน), อิริจิน่า (ผู้บัญชาการ), ลูน่า (ผู้บัญชาการทหารม้าธนู, ปีปี้ (มาสคอต)

ตำแหน่งปัจจุบัน: โรเลล

ความสำเร็จ: 

กวาดล้างกองกำลังป้องกันทิศตะวันออก (ยอมแพ้), ยึดครองโรเลล

—————————————————————   

 เป้าหมายเดือน 7/66

ค่าเน็ต 200/200

รับยา ยาหมด 0/200

ค่าห้องโรงพยาบาลยาย 460/2000

สนับสนุนผลงาน โดเนทได้ที่

067-3-63958-5

วายุ แซ่จิว

กสิกรไทย

แปลโดย: wayuwayu

โดเนทแล้วอยากให้เรื่องขึ้นหรือสะสมเงินเพิ่มตอน สปอนเซอร์ตอน จองตอน ซื้อตอน หารได้ ได้ที่ facebook   

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ถนนสู่อาณาจักร – Oukoku e Tsuzuku Michi 98 ความไม่สงบในทิศเหนือ ④ เวทีที่ถูกจัดเตรียมไว้

Now you are reading ถนนสู่อาณาจักร – Oukoku e Tsuzuku Michi Chapter 98 ความไม่สงบในทิศเหนือ ④ เวทีที่ถูกจัดเตรียมไว้ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

98 ความไม่สงบในทิศเหนือ ④ เวทีที่ถูกจัดเตรียมไว้

—————————————————————

【–มุมมอง บุคคลที่สาม–】

รถเกวียนสามคันและทหารม้าเป็นโหล เข้าหาป้อมปราการมาจิโน่ เส้นป้อมปราการที่เทรียภาคภูมิใจมาก จากข้างใต้ เร็วกว่าที่ทหารที่ประจำการอยู่ จะปล่อยลูกธนูออกมาได้ ม้าตัดอกไป และโยนคบเพลิงในรถเกวียน น้ำมันต้องถูกเทไว้ล่วงหน้าแล้ว เพราะรถเกวียนเผาไม้ในเปลวเพลิงทันที สร้างไฟใหญ่ สีย้อมเผาใหม้และควันสีแดงพวยพุ่งไปข้างบน

ทหารม้ากลับไปทางใต้ และออกมา ปล่อยให้รถเกวียนไหม้ต่อไป ทหารวิ่งออกมาจากปราสาท เพื่อดับไฟ แต่รถเกวียนและคบเพลิงผสมกันนั้นทำเปลวเพลิงที่ใหญ่เกินไป ดังนั้นไฟไม่หายไปอย่างง่ายดาย และควันสีแดงพวยพุ่งสูงขึ้นไปบนท้องฟ้า และเห็นได้ง่าย จากระยะไกล—————————————————————

【–มุมมอง โกลโดเนีย–】

ในเวลาเดียวกัน แคมป์กองทัพกลางของโกลโดเนีย

การประชุมสงครามดำเนินต่อไปในบรรยากาศที่หนักหน่วง ขณะที่การตีเมืองไม่คืบหน้า และมีแค่ผู้สังเวยที่กองกันขึ้นไป เป็นครั้งคราว เสียงที่โกรธเคืองของเจ้าหน้าที่กองทัพคำรามดังก้อง แต่ข้อสรุปไม่มีใครไปถึง เหตุการที่หยุดการปรึกษากันที่ไม่ออกดอกออกผลนี้คือควันแดงที่พวยพุ่ง ขึ้นมาจากสามตำแห่ง

ได้ยินรายงานเกี่ยวกับจรวดท้องฟ้าสีแดง นายพลคนแรกที่กระโดดออกกมาตรงจากเต็นท์คืออีริช เพื่อยืนยันสิ่งที่เขาเห็น เขาปิดตาของเขาและเปิดมันขึ้นมาใหม่

「สุภาพบุรุษ การสนทนานี้หมดความหมายแล้ว」

「ลอร์ดฮาร์ดเลตต์ทำการอ้อมป้อมปราการมาจิโน่สำเร็จ จากทิศตะวันออก ป้อมปราการถูกแยกออกมาตามลำพัง และเส้นทางเสบียงถูกตัดแล้ว」

เสียง ‘โออ้’ ก้องขึ้นมาจากทุกคนที่อยู่ตรงนี้ เจ้าหน้าที่ทหารบางคน ไม่ได้ดูเหมือนจะเชื่อว่าการอ้อมที่เป็นความจริงไม่ได้แบบนี้จะเกิดขึ้น แต่สัญญานควันขึ้นมา จากทางใต้ของป้อมปราการ ไม่ว่าพวกเขาจะดูมันอย่างไร ไมว่าทฤษฎีไหนจะถูกนำมาใช้ พวกเขาไม่มีทางเลือกนอกจากจะรับรู้ ว่าวิสเคานต์ฮาร์ดเลตต์และกองทัพของเขา ได้ล้อมไปทางใต้ของป้อมปราการ

「สุภาพบุรุษ ไม่นานมันจะเป็นการโจมตีที่ทุ่มเททั้งหมดครั้งที่ห้า ทำไมไมให้สัญญานควัญของเราเป็นการเผาไหม้ของป้อมราการล่ะ?!」

ผู้บัญชาการแพร่ข่าวการอ้อมที่สำเร็จลุล่วงของทหารองพวกเขา และอารมณ์ของคนในแคมป์ฟื้นขึ้นมาโดยทันที

—————————————————————

【–มุมมอง บุคคลทที่สาม/เทรีย–】

ในเวลาเดียวกัน ป้อมปราการมาจิโน่ ป้อมกลาง

「……ผู้บัญชาการครับ มันปรากฏว่ามีทหารม้าที่ไม่รู้จักเข้าหาจากทางใต้ และเผารถเกวียนบางคันก่อนจะหนีไป」

นายพลแก่ยังดูหดหู่ ขณะที่เขาแนะนำทหาร

「ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับมันมากขนาดนั้น หน่วยแยกออกมาของโกลโดเนียแค่พยายามจะส่งสัญญานควัน ปรากฎการณ์นี้จะถูกเห็นอย่างชัดเจนโดยศัตรูข้างหน้า การโจมตีโดยทุ่มกำลังทั้งหมดจะมาในไม่ช้า…… ไปเตรียมตัว」

บรรยากาศในห้องสั่งการมันมืดมนอย่างแปลกๆ แม้ว่าพวกเขา ควรจะเพิ่งได้ป้องกันการโจมตีครั้งที่สี่ เพิ่มเติมจากการที่บางคนได้ล้อมพวกเขาข้างหลัง ตอนนี้ป้อมปราการถูกแยกออกมาตามลำพัง ตราบใดที่ศัตรูไม่พ่ายแพ้ เสบียงจะไม่มา ไม่ว่าป้อมปราการมันจะทนทานแค่ไหน มันสู้ไม่ได้ถ้าลูกธนูหมด และถ้าอาหารหมดไป ทหารจะวิ่งหนี

「เราได้สกัดอาหารมาจากโรงเก็บของด้วยความคิดที่ว่าเราจะได้รับการเติมเสบียงหลังจากทั้งหมด……」

มันมีทหารอยู่ 40 000 คนรวมอยู่ในป้อมปราการมาจิโน่ มันไม่มีอาหารเหลือเผื่อในเทรียและมันเป็นไปไม่ได้ที่จะรวบรวมอาหารสำหรับทหาร 40 000 คนให้กินหลายเดือน

ทหารจำนวนหลายคนกินและดื่มทุกวัน เทพธิดาที่ยิ้มให้กับทหารผ่านศึกแก่ตอนนี้ได้ถูกขโมยไปแล้วโดยโกลโดเนีย แม้ว่าเขาจะไม่ทำอะไรเลย ทุกอย่างจะตามมาหาเขาในทันที

「ท่านเคานต์มาจิโน่ ศัตรูไม่ได้มีกองกำลังมาก ถ้าเราส่งทหารของเราออกไปบ้าง และไล่พวกเค้าออกไป เราจะเชื่อมต่อเส้นทางเสบียงของเราได้」

「ชั้นได้พิจารณาเรื่องนั้นแล้ว แต่เหตุผลที่ชาวนาสู้เหมือนทหารเกณฑ์เต็มตัวได้เพราะการปกป้องจากป้อมปราการ คนที่อ้อมมาหารเรา ควรจะเป็นลอร์ดฮาร์ดเลตต์ และกองทัพของเขา คนที่อาละวาดในความขัดแย้งก่อนหน้า ถ้าเราปะทะกับเขาและทหารม้าที่ทรงพลังของเขาในสนาม จะเกิดอะไรขึ้น……」

「แต่ถ้าเราให้เรื่องนี้เป็นต่อไปแบบนี้ มันจะเป็นแค่เรื่องของเวลา ก่อนที่ป้อมปราการจะพ่ายแก้」

「จากหน่วยสอดแนม อำนาจกองทัพของเค้า มันประมาณ 10 000 ที่ทหารม้าจำนวนครึ่งหนึ่งของจำนวนนั้น ถ้าเราทำการต่อสู้ขึ้นมา เราจะต้องการอย่างน้อย 20 000 ถ้าเราส่งมากขนาดนั้นไปหาเขา เราจะทนศัตรูข้างหน้าเราไม่ได้ ถ้าเราสู้ ป้อปราการจะพ่ายแพ้ตอนนี้!」

นายพลแก่ไม่ได้พูดถึงอะไรเพราะมันจะมีอิทธิพลกับกำลังใจ แต่เขาก็มีความแคลงใจเกี่ยวกับทักษะการนำทัพของเขาด้วย เขามีความมั่นใจในศึกป้องกันที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันของป้อมปราการและขับไล่การโจมตีของศัตรู แต่เรื่องการต่อสู้ที่สนาม มันเป็นเรื่องราวที่ต่างออกไปเลย สภาพของการสู้รบมันเปลี่ยนไปตอนไหนก็ได้ และความลังเลแค่เล็กน้อย จะเชิญชวนความพ่ายแพ้มา ในตอนที่เขายังหนุ่ม เขามีส่วนร่วมมกับสงครามในอาร์คแลนด์และเขามีประสบการณ์ในการบัญชาการ แต่ประวัติงานของเขาในเรื่องการต่อสู้สนามนั้นแย่มาก

แม้ว่าเขามีความได้เปรียบบางอย่างอยู่ ลอร์ดฮาร์ดเลตต์เป็นนายพลที่กล้าหาญ ที่เชี่ยวชาญในการต่อสู้บนสนาม ดังนั้นเขาจินตนาการไม่ได้เลยว่าเขาจะชนะลอร์ดฮาร์ดเลตต์ในการต่อสู้ที่สนามเปิดกับเขา

「แต่ยังมีความหวัง」

「กำลังเสริมจากเมืองหลวงเหรอ……?」

เจ้าหน้าที่หนุ่มเสียงฟังดูสงสัยเล็กน้อย มันจริงที่ว่ามีแค่กำลังเสริมที่จะพลิกสถานการณ์ที่น่าสมเพชที่หมกอยู่ในป้อมการการและต่อสู้ แต่มันมีแค่ทหารประมาณ 3000 เหลืออยู่ในเมืองหลวง และนั่นมันเป็นจำนวนน้อยที่สุดที่ต้องการ สำหรับป้อมปราการในเมืองจะทำงานได้ ดังนั้นไม่มีพวกเขาซักคนเดียวที่เคลื่อนไหวได้ คนที่พึ่งพาได้มีแค่องครักษ์จักรวรดิจากทางใต้ ที่จะต้องพากลับมมาอยา่งรวดเร็ว และมีแค่ประมาณ 5000 คน แม้ว่าพวกเขามีอุปกรณ์อย่างดีและมีทักษะ มันน่าสงสัยอย่างที่สุด ว่าพวกเขาไล่หน่วยที่แยกออกมาของโกลโดเนีย ที่จำนวนมันไปถึง 10 000 ได้

「นั่นไม่ใช่……ทั้งหมด」

นายพลแก่บังคับรอยยิ้มออกมา

—————————————————————

ในเวลาเดียวกัน เมืองหลวงของเทรีย ทริสเนีย

「เราต้องทำบางอย่างเพื่อช่วยป้อมปราการมาจิโน่ไม่ให้ถูกแยกออกมาตามลำพัง!」

「แต่เราจะไปเอากำลังทหารมาจากไหน?」

「องครักษ์จักรวริ์จะมาถึงในไม่ช้า! แม้ว่าพวกเค้าจะจำรวนด้อยกว่า ถ้าพวกเค้าสู้อย่างสิ้นหวัง-」

「คิดว่าเราทำบางอย่างได้ด้วยแค่ความรู้สึกอย่างเดียวเรอะ?!」

「มี 40 000 ในป้อมปราการนะ รู้มั้ย? เรานำออกมาหมื่นหรือสองหมื่น และช่วยโรเลลด้วยตัวเอง……」

「ถ้าเราทำอย่างนั้นและพวกเขาข้ามกองำลังหลักเรามา ทหารที่ใกล้กับจำนวน 10 000 จะท่วมเข้ามา! ถ้าอย่างนั้นเราจะจบเห่ตอนนั้น」

「ผู้บัญชาการป้อมปราการมีความสามารถที่จะทำอะไรเกี่ยวกับเรื่องนั้นได้! บางทีเราประเมินความสามารถเคานต์มาจิโน่สูงเกินไป ……」

ก่อนที่เรื่องที่ซับซ้อนจะเปลี่ยนเป็นการโต้เถียงว่ามันเป็นความผิดใคร นายกรัฐมนตรีก้าวมาข้างหน้าหาราชา

「โอ้ราชาผู้ยิ่งใหญ่ กองทัพและป้อมปราการขอเราเผชิญหน้าอยู่กับปัญหา」

ระหว่างที่ราชามองลงไปที่นายกรัฐมนตรี ตาของเขามองไปทั่วอย่างกระสับกระส่าย

「การที่สามารถผ่านป่าเอิร์กมาได้……ชั้นได้ยินมาว่าฮาร์ดเลตต์เป็นการเกิดใหม่ของหมาป่า แต่ไม่ใช่ว่าเค้าเป็นปีศาจอะไรบางอย่างเหรอ?」

นายกรัฐมนตรี ไม่มีเวลาที่จะสร้างความบันเทิงให้นิทานปรัมปราของราชา เขาเลยเมินราชาและพูดที่เขาอยากจะพูดต่อ

「ถ้าเรื่องนี้ดำเนินต่อไป ป้อมปราการมาจิโน่จะใชห้เสบียงอาหารและลูกธนูจนหมดไป และจากนั้นตกสู้น้ำมือของศัตรู แต่ก่อนที่เรื่องนั้นจะเกิดขึ้น เราคววรจะกำจัดศัตรู ที่ยึดครองโรเลล」

「การ- การสร้างสันติกับโกลโดเนียไม่ใช่ทางเลือกหรอกเหรอ? ชั้นโอเคที่จะยอมแพ้ดินแดนไปบ้างนะ รู้มั้ย?」

นายกรัฐมนตรีกรีดร้อง ‘เป็นไปไม่ได้’ อย่างเงียบๆในหัวของเขา เมื่อพิจารณาการกระทำที่โกลโดเนียทำหลังจากความพ่ายแพ้ของอาร์คแลนด์ในสงคราม พวกเขาอยากจะกลืนกินเทรียทั้งหมด; พวกเขาจะไม่เห็นด้วยที่จะปล่อยเทรียให้มีชีวิตอยู่อย่างสงบสุข

「จากหนึ่งในสายลับที่ผมส่งไป หลังจากที่ได้รับดินแดน โกลโดเนียร่วมมืออกับพวกคนเหล่านั้นที่ไม่ภักดีกับอาร์คแลนด์ และฆ่าทุกคนที่เค้าพบว่ามาจากเทรีย」

「อ-อย่างนั้นเหรอ? ……งั้นชั้นเดาว่าเราสร้างสันติไม่ได้」

แแน่นอนว่านั่นไมใช่ความเป็นจริง; มันเป็นคำโกหกที่นายกรัฐมนตรีสร้างเพื่อเลี่ยงจากการที่ให้ราชาสร้างปัญหาเรื่องการสนับสนุนสันติและความรัก

「แต่ความจริงคือเราไม่มีกองกำลังมากพอที่มือ คือความจริง ประเทศรอบข้างนั้นพูด- 「มันใกล้กับฤดูการเกีบเกี่่ยว」「มันยากที่จะตัดสินใจว่าใครดีกว่าจากอะไรที่เค้าพูดและ-」 ควรจะมีส่วนร่วมกับสงครามและเทียบพวกเขามั้ย」

TLN ทุกคนพูดพร้อมกัน

ทุกคนมีสีหน้ามืดมนกับสถานการณ์ที่สิ้นหวังนี้

「แต่ผลจากการเจรจาซ้ำๆกับประเทศดยุคมากราโด ผมสำเร็จในกาารดึงกำลังเสริมมาจากพวกเขาได้บ้าง」

ห้องประชุมมีชีวิตชีวาทันที และแม้แต่ราชาก็ลุกขึ้นมาจากเก้าอี้ของเขา

「ช่างมหัศจรรย์! งั้นกำลังเสริมจะมาเหรอ!? งี้พวกเขามีเท่าไหร่? และเมื่อไหร่??」

「มันจะมี 10 000 ดังนั้นถ้าพวกเขาผสมกับองครักษ์จักรวรรดิ พกเขาควรจะทำการสู้ที่ดีได้……และเกี่ยวกับเวลา」

ทุกคนกลืนน้ำลาย ถ้าเขาพูดว่าสองเดือน สถานการณ์ที่สิ้นหวังจะไม่เปลี่ยนแปลงไป

「ตอนเริ่มของสงคราม พวกเขามุ่งหน้ามาหาเราผ่านสตูร่า และตอนนี้ได้มาถึงทางใต้ของเมืองหลวง ด้วยเรือแล้ว」

เสียงที่วุ่นวายเปลี่ยนเป็นการคำรามที่โกรธเคือง

「อะไร-?!」

「ไม่มีทางน่า!」

「นายอนุญาติให้กองกำลังของประเทศอื่นลงพื้นที่ประเทศของเราโดยราชายังไม่ได้ยอมรับเหรอ?」

「นายกรัฐมนตรี……ท่านมีความคิดมั้ยว่าท่านทำอะไรลงไป?」

 「นี่เป็นการเชิญชวนภัยต่างประเทศ! ท่านและครอบครัวของท่านจะได้รับโทษประหาร」   

 「นี่เป็นการละเมิดที่ประหารได้ทันที!」   

นายกรัฐมนตรีไม่หวั่นไหวจากขุนนางที่โมโหแม้ว่าทำไกลขนาดที่ทำให้ราชาผู้ยิ่งใหญ่แต่โกรธเคืองอย่างเงียบๆ

 「ความอยู่รอดของประเทศขึ้นอยู่กับวิกฤตนี้ ที่เราเผชิญอยู่ตอนนี้; ถ้าผมถูกประหารตอนนี้ กำลังเสริมจากมากราโดจะไม่ทำอะไรและประเทศนี้จะถูกกลืนโดยโกลโดเนีย」   

 「……นายกรัฐมนตรี ถ้ากำลังเสริมนี้ ช่วยป้อมปราการมาจิโน่ได้ งั้นนายจะถูกยกย่องเป็นฮีโร่และผู้กอบกู้ของประเทศ และบาปที่ชวนภัยต่างประเทศจะถูกยกเลิก แต่ในกรณีที่พวกเค้าล้มเหลว นายจะครอบครัวของนายจะได้บทลงโทษเดิม」   

 「ผมรู้เต็มอกครับ」   

การประชุมจักวรรดิจบในบรรยากาศที่ตึงเครียดอย่างไม่น่าเชื่อ เพื่อที่จะดูโชคชะตาของการต่อสู้ตัดสินนี้จนจบ นายกรัฐมนตรีไปเพื่อพบกองทัพ 10 000 คนบนคำสั่งของราชา

—————————————————————

【–มุมมอง เอเกอร์–】   

ในเวลาเดียวกัน โรเลล

 

 「อ๊าาา—!! หนูจะตายหนูจะตายยยย!!」      

 「ผู้หญิงจะไม่ตายจากบางอย่างที่เหมือนเอ็นของชั้น แล้วจุดนี้ล่ะเป็นยังไง?」   

 「ฮฮฮฮฮฮฮฮฮิ้—!! มันหนนาและมันถูจุดที่ดีขนาดนั้น! มันรู้สึกดีเกินไปจนหนูตายจากการแตกได้!!!」   

 「เธอจะแตกจากจุดนี้เหรือ!? นั่น แตกสิถ้างั้น!!」   

ผมแทงไม้เนื้อเข้าไปในส่วนลึกของข้างในเธอหลายครั้งก่อนจะน้ำแตก ผู้หญิงปิดหน้าเธอด้วยมมือและกรีดร้องเหมือนสัตว์ป่า ช่างเป็นอีตัวที่ความไวสูง

 「อ่าาาาาาา!! ฮฮฮฮฮฮิ้!! อ่าา อ่าา-! โอออออ่…… โออออ่…………」 

ผู้หญิงที่นั่งบนผมระหว่างที่ผมขัดสมาธิโยนหัวของเธอไปข้างหลังดั่งเธอคอหัก ตาของเธอม้วนกลับไป และเธอล้มลง เหมือนที่เธอพูด มันดูเหมือนเธอตาย แต่เธอยังหายใจอยู่ เธอน้ำแตกต่อไปแม้กระทั่งตอนนี้ ดังนั้นถ้าเธอไม่กินน้ำ เธออาจจะกระหายน้ำ

โสเภณีนี้ถูกพามาหาผมโดยพวกขุนนางโง่ๆสามคน เธอดูกระฉับกระเฉง ผมเลยโอบกอดเธอ เธอมีกายที่ควาามไวสูงอย่างเหลือเชื่อ  

 「เอเกอร์-ซามะ……เสร็จรึยัง?」   

ซีเลียเข้ามาในห้องและจ้องผู้หญิงที่งอตัวเหมือนกุ้ง

 「อาา ผู้หญิงคนนั้นรู้สึกดี……มันได้เวลาที่ควันขึ้นมาแล้ว ใช่มั้ย?」   

ด้วยการห่อไหล่ เอ็นที่อ่อนของผมถูกดึงออกมาจากหว่างขาผู้หญิง

 「ใช่ ถ้าพ่อดู กองทัพกลางทำการเริ่มการโจมตีแล้วตอนนี้」   

ในไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ผมและทั้งหน่วยของผมอยู่ในโรเลล ระหว่างที่ฟื้นกำลังของเรา นั่นเป็นเพราะเราได้เดินทัพอย่างไม่จบสิ้นผ่านดินแดนชาติภูเขา ดังนั้น ทหารได้สร้างความเหนื่อยที่ค่อนข้างมาก เมืองเอ่อล้นไปด้วยอาหารและเสบียงที่เอาาไว้ให้ป้อมปราการ ดังนั้นทหาร 10 000 คนจะได้สาารอาหารมากมาย

 「ตราบใดที่เราอยู่ตรงนี้ ป้อมปราการจะไม่ได้รับเสบีง ทหารส่วนใหญ่ควรจะพักอยู่」   

เทรียส่งรถเกวียนจากเมืองหลวงเพื่อส่งเสบียงให้มาจิโน่ด้วยวิธีใดวิธีหนึ่ง แต่พวกเขาถูกจับโดยเครือข่ายทหารม้าที่ลาดตระเวณของเราและเปลี่ยนเป็นการอาบฝนเลือด

โดยไม่มีเสบียงจุดใหญ่ในโรเลล มันเป็นไปไม่ได้ที่จะข่นส่ง เสบียงที่รักษาป้อมปราการใหญ่แบบนั้นดีๆได้

 「อีกฝ่ายอยู่ในการค่อนข้างทีกินกันไม่ลง」   

ผมลูบไล้หน้าอกของผู้หญิงที่สลบอย่างอ่อนโยน เธอไม่ควรจะมีสติ แต่เธอปล่อยเสียงออกมาที่ให้ผมรู้ว่าเธอรู้สึกดีอยู่

 「ใช่ ในทางตรงกันข้าม มันหมายถึงเราไม่มีอะไรทำมาก แม้ว่าเรามีอาวุธตีเมืองมาก เราใช้พวกมันบนเมมืองหลวงไม่ได้」   

มันอาจจะน่าสนใจที่จะฝ่าป้อมปราการจากข้างหลัง แต่ถ้าพวกเขายึดโรเลลคืนระหว่างช่องเปิดนั้น ผมจะทุกทิ้งโดยที่ไม่มีอะไรเลย มันดีที่สุดที่จะรออยู่ที่นี่ และทำผู้หญิง

 「แต่ถึงอย่างไร ผู้บัญชาการของป้อมปราการนั้นค่อนข้างที่จะเป็นคนแบบดั้งเดิม เค้ารู้ว่าถ้าสิ่งต่างๆดำเนินต่อไปแบบนี้ที่มันเป็น เขาจะอยู่ในอันตราย หนูคิดว่าเค้าจะแบ่งกองกำลังของเค้าและส่งบางคนมาใส่เรา」   

 「เค้าอาจจะกลัวอีริช…… เขาอาจจะเป็นหนึ่งในคนเหล่านั้นที่ไม่เสี่ยงและพยายามอย่างโครตดีเพื่อที่จะไม่กระตุ้นปัญหา」   

หรือบางทีเขายังไม่ถูกต้อนจนมุมอย่างสมบูรณ์ เขาอาจจะแขวนอยู่บนความหวังอะไรบางอย่าง

 「ถ้ามันเป็นรูปแบบของกำลังเสริมบางอย่าง ไม่ใช่สิ่งต่างๆจะน่าสนใจเหรอ?」   

ผมนำมือของผมห่างจากผู้หญิงและใส่เสื้อผ้าของผม เธอลูบไล้ไปทั่วหาผมและยืดมือออกมอย่างสิ้นหวัง ขอโทษ แต่นี่มันเป็นเรื่องวันเดียว; ไปหาชายดีๆ

 「โอ้ชั้น โอ้ชั้น ถ้ามันไม่ใช่ฮาร์ดเลตต์! ซามา พบว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นอย่างไรบ้าง? เธอเป็นโสเภณีที่ชั้นสูงที่สุดในเมืองนี้……」   

ขุนนางที่แนะนำโสเภณีให้ผมรออยู่ข้างนอกห้อง เขาถูมือของเขาเร็วกว่าอะไรบางอย่างที่ผมเห็นมาก่อน

 「บารอนโบ็คเกะ ใช่มั้ย? เธอดี ตอนนี้ ชั้นจะคืนเธออย่างสุภาพ」   

 「มันบักกะครับ งั้นตอนนี้ เกี่ยวกับสันติของเราในอนาคตด้วย」   

 「ตราบใดที่นายไม่ต่อต้านนายจะไม่ถูกทำร้าย นอกจากนั้น ทุกอย่างที่เหลือเป็นผลข้างเคียงจากสงคราม; ไม่มีอะไรที่ถูกตัดสินใจ」       

บารอน ‘บากะ’ ทำหน้าที่ไม่พอใจ แต่ไม่มีความจำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับเขา หลังจากที่สังหารเคานต์ ผมชี้ดาบของผมกับผู้คิดตามของเขาสามคน รวมถึงเขา เพื่อที่จะถามว่าเขาจะต่อต้านด้วยไหม

หนึ่งในพวกเขาตะโกนชื่อแม่ของเขาออกมาและร้องไห้น้ำตาแตก อีกคนฉี่ราด และคนนี้ขี้แตก โดยการเป็นคนขี้ขลาดอย่าฮาร์ดคอร์ พวกเขาไม่มีไข่ที่พยายามยามจะทำอะไรทั้งสิ้น และพวกเขาทำให้นักโทษหรือพลเมืองตามเขาด้วยไม่ได้เช่นกัน

พวกเขาสามคนดูเหมือนจะมีทักษะพิเศษของเขาเอง: เรียงจากผู้หญิง ไวน์ และนักแสดงข้างถนนที่โด่งดัง บางทีพระเจ้าทำผิดพลาดในการรับมือกับการเกิดของพวกเขา ถ้าพวกเขามีทักษะในการเล่นไทโกะ* พวกเขาอาจจะสามารถแสดงทักษะออกมาได้

 TLN กลองใหญ่ของญี่ปุ่น กลองศึก   

 「เถิบไป!」   

ชายที่ซีเลียตะโกนใส่ ขยับไปที่มุมของห้องโถง ชายที่โตแล้ว ไม่ควรจะกลัวสาวอายุ 17……

—————————————————————   

ผมเข้าคฤหาสน์ลอร์ดศักดินาด้วยกันกับซีเลีย และเดินไปที่ห้องทานอาหารที่ถูกใช้เป็นห้องประชุม ลีโอโพลต์และคนอื่นรวมกันข้างในแล้ว

 「ลอร์ดฮาร์ดเลตต์ สัญญานควันถูกยิงขึ้นไปโดยไม่มีปัญหา ตอนนี้ ป้อมปราการมาจิโน่ส่งกองกำลังใหญ่มาหาเราไม่ได้แล้ว」      

 「เข้าใจแล้วว มีอย่างอื่นให้พิจารณามั้ย?」   

ลีโอโพลต์กางแผนที่ใหญ่ขึ้นมาบนโตะ และวางวัตถุทรงทหาร ขอโทษที่ผมล้อนาย ผมนึกว่านายเล่นกับทหารของเล่น

 「อย่างแรก ป้อมปราการมาจิโนะต้องเผชิญหน้ากับกองทัพกลางข้างหน้า เราตัดการสื่อสารกับเมืองหลวงของพวกเค้า ดังนั้นพวกเค้าส่งทหารมาในทิศทางเราอย่างมีประสิทธิภาพไม่ได้」   

ช่าย ผมรู้ส่วนนั้น 

 「ต่อไปเป็นความจริงที่ว่าหน่วยสอดแนม ค้นพบว่าองครักษ์ 5000 คนที่ใกล้กับป่าเอิร์กเดินไหน้าไปที่เมืองหลวงจากทิศใต้」

 「5000? งั้นมันอาจจะดีกว่าถ้าเราขยี้พวกเค้าระหว่างเวลานั้น」   

 「เราจะเสียเวลาไปถ้างั้น……แล้วก็ ดูจากจำนวน พวกเขาจะไม่น่าทำอะไรที่เป็นเชิงรุก」   

น่าจะไม่ เพราะทั้งหมด พวกเขาเป็นกลุ่มที่หมกอยู่ในสิ่งปลูกสร้างสำหรับป้องกัน พวกเขาขาดไปอย่างแน่นอนถ้าพวกเขาพยายามจะยึดคืนเมืองที่มีจำนวนมากกว่าทหารของพวกเขา

 「และสุดท้าย นี่」   

ลีโอโพลต์วางชิ้นหนึ่งของวัตถุที่เมืองท่าเล็กๆทางใต้ของทริสเนีย

 「กองกำลังในที่แบบนั้นเหรอ?」   

ซีเลียพูดขึ้นมาโดยไม่คิด การวางกองกำลังมากเกินในในเมืองท่าเล็กๆไกลจากสนามรบมันน่าสงสัยอย่างแน่นอน

 「มันถูกค้นพบโดยการค้นหาที่ยืดไปของหน่วยสอดแนม ไม่มีข้อมูลมมากที่รู้ แต่พวกเขาไม่ควรจะมีกองกำลังมากกว่าหนึ่งพันหรือสองพันที่นั่น」   

 「นั่นหมายถึงมันไม่ใช่เทรีย」   

 「ใช่ สตูร่าหรือมากราโด……น่าจะเป็นอย่างนั้น」   

 「มันไม่ใช่สตูร่า ประเทศนั้นมีแค่ทหารรับจ้าง และถ้ามีการรับสมัตรถูกเซ็นออกมา พ่อค้าจะรู้เกี่ยวกับมัน」   

แคลร์พูดว่าประเทศนั้น จ้างแค่เล็กน้อยที่นั่นที่นี่ และมันไม่ได้เป็นบางอย่างที่ขนาดใหญ่

 「คุณพูดถูก มากราโด ไม่เหมือนประเทศอื่นใกล้ๆ พวเค้าค่อนข้างที่จะระวังเกี่ยวกับประเทศของเรา พวกเค้าน่าจะอยากให้เทรียชนะเพื่ออำนาจชาติของโกลโดเนีย จะลดลงไปเล็กน้อย」      

 「งั้นเราจะต่อสู้กับกองทัพนี้เหรอ?」   

  「น่าจะ……ยกเว้นในสถานการณ์นี้ มากราโดจะสับสนอย่างไม่ต้องสงสัยด้วย」        

เขาหมายถึงอะไร? ผมไม่เข้าใจมมัน ดังนั้นผมเดาว่าผมจะถูกตูดใหญ่ๆของอิริจิน่าสำหรับตอนนี้

—————————————————————   

 【–มุมมอง บุคคลที่สาม–】 

ไม่กี่วันหลังจากนั้น ทางใต้ของทริสเนียแคมป์กองทัพของประเทศดยุคมมากราโด

 「ไม่มีกองทัพสำรองเหรอท่านพูด!?」   

คนที่ตะโกนอยู่ตอนนี้เป็นเคานต์ของประเทศของดยุคมากราโด และผู้บัญชาการสูงสุดของกองกำลังที่เดินทางไปรบ ผู้บัญชาการแรดกัลฟ์

 「กองกำลังของศัตรูดันกับเส้นป้อมปราการอยู่ เราไม่มีที่ว่างให้ทิ้งกองกำลังไว้ข้างหลัง……」   

ดั่งจะถูกกดดันโดยพลังที่เข้มข้น คนที่ตอบอย่างเลี่ยงๆคือนายกรัฐมนตรี ดูนอย ที่เพิงมา

 「ทิ้งกองกำลังให้ว่างและทิ้งกองทัพสำรองมาเป็นสองเรื่องที่ต่างกันไป ถ้าเราไม่มีกองทัพสำรอง ถ้าการฝ่าหรืออ้อมเกิดขึ้น งั้นทัพหน้าทั้งหมดจะทรุดตัวทันที! ไม่ใช่เหตุผลหลักสำหรับประเด็นตอนนี้มันเหมือนกันเหรอ!?」   

 「ต-ตอนนี้ องครักษ์จักรวรรดิ 5000 คนมุ่งหน้ามาทางนี้ เพื่อที่พวกเค้าจะเข้าร่วมกับท่าน……」   

 「ถ้าท่านส่งกองกำลังออกไปหลังจากที่พวกเค้ากลับมาจากกำหนดการที่แน่น พวกเค้าจะไม่สามารถที่จะสู้อย่างที่คิดได้ ทหารมันต่างจากอุปกรณ์นะ」   

เมื่อแรดกัลฟ์เห็นนายกรัฐมมนตรีดูหดหู่ เขาถอนหายใจอย่างลับๆ ก่อนส่งคราม เมื่อพวกเขาปรึกษากันซ้ำๆเกี่ยวกับการสร้างกำลังเสริม เขาดูเหมือนจะเป็นคนที่มีทักษะ แต่เมื่อสงครามเริ่มขึ้น ความเป็นมือสมัครเล่นของเขาโดดเด่นมากเกินไป การมีเชื้อสายครอบครัวที่มีประวัติเป็นหทาร และเกี่ยวข้องกับกองทัพตั้งแต่เขายังประมาณ 10 ขวบ เขาเห็นสิ่งต่างๆอย่างที่เขาไม่เชื่อว่าจะเกิดขึ้นจริงๆ

แผนดั้งเดิมของเขา คือสำหรับป้อมปราการที่รั้งศัตรูไว้ได้ และถ้าฝ่ายของเขาได้เปรียบ เขาจะกระโจนใส่ศัตรูที่เหนื่อย แต่ถ้าพวกเขาเสียเปรียบ พวกเขาจะปรากฏตัวเป็นกำลังเสริมสำหรับป้อมปราการ

แผนนั้นถูกขยี้ทันทีที่การอ้อมใหญ่ของศัตรูจัดเจน แต่แม้อย่างนั้น ถ้าศัตรู มีแค่ 10 000 เขายังเชืื่อได้ว่าเขาสามารถกำจัดพวกเขาโดยการให้ควาามร่วมมือกับกองกำลังสำรองของเทรีย

สิ่งต่างๆลำบากขึ้นเพราะไม่มีกองทัพสำรอง เขาคาดหวังมากไม่ได้จาก องครักษ์จักรวรรดิ 5000 คนที่เหนือยจากการเพิ่งกลับมา ถ้าเป็นอย่างนั้น เขาไม่มีทางเลือกน้อกจากจะสรุปด้วยทั้งสองฝ่ายมีกองกำลัง 10 000 คน

 「ผมขอร้องท่านล่ะ…… ถ้าผมแพ้การต่อสู้นี้ ประเทศของผมจะถึงวาระ」 

นายกรัฐมนตรีคำนับแรดกัลฟ์อย่างลึก แรดกัลฟ์ที่มีสถานะทางสังคมตำแหน่งที่ต่ำกว่า ไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไรถ้าโกลโดเนียยึดเทีรย มันจะขัดต่อควาหวังของประเทศบ้านเกิดของเขา ถ้าพวกเขาขยายดินแดนของพวกเขา พวกเขาจะเป็นศัตรูที่มากราโดยืนขึ้นสู้ไม่ได้อีกต่อไป

 「งั้นนี่เป็นศึกตัดสินของเราเหรอ……?」   

แรดกัลฟ์ได้หนีความตายมาหลายครั้งก่อนหน้านี้ ถ้าเขาล้มเหลวแม้แต่ครั้งเดียว เขาจะไม่มายืนอยู่ตรงนี้ตอนนี้ ครั้งนี้มันเพียงแต่กำลังเท่ากัน; เขาพูดว่าเขาจะชนะไม่ได้อย่างแน่นอน แต่มันไม่ใช้เรื่องที่พ่ายแพ้ได้ด้วย นี้เป็นที่ที่เขาควรจะพนัน

 「มันเลี่ยงไม่ได้ เราะต้องไปที่กำลังปัจจุบันของเรา เราจะให้องครักษ์จักรวรรดิตามสำหรับตอนนี้」   

 「แล้วก็ส่งผู้ส่งสาส์นไปที่ป้อมปราการให้ส่งหทาารเพื่อทำการโจมตีขนาบ……」   

แรดกัลฟ์พยักหน้าเงียบๆ กำลังเสริมที่อาจจะพลาดจังหวะเวลาการโจมตีและมีการสื่อสารที่พึ่งพาไม่ได้นั้นไร้ค่า แต่มันไม่เจ็บที่จะจะพยายามเรียกร้องบางอย่างจากพวกเขา

 「ธงสีดำสสนิทที่ฮาร์ดเลตต์โบกสะบัด……กองทัพของหมาป่าปีศาจ ช่างเป็นคู่ต่อสู้ที่คู่ควร」   

 「ผมหวังพึ่งท่านนะ อนาคตของตระกูลของผมอยู่บนเส้นตาย……」

ระหว่างที่ขจัดคำพูดของนายกรัฐมนตรี เขาหันหาทหารของเขาและยกดาบของเขาขึ้น

 「สุภาพบุรุษ มันเป็นเวลาออกเดินทาง ศัตรูเป็นนายพลผู้กล้าหาญ ผู้ที่สร้างชื่อให้เค้าเองในสงครามอาร์คแลนด์ ลอร์ดฮาร์ดเลตต์และกองทัพที่เค้านำอยู่」      

ทหารไม่ถอยแม้แต่นิ้วเดียว พวกเขาได้ฝึกมาอย่างดี

 「กำจัดพวกเค้าและพัฒนาชื่อเสียงของตัวเอง ไปกันเถอะ!」   

ด้วยเสียง ‘โอ้!’ สั้นๆ กองทัพเดินทางไปรบของมากราโดและเทรียที่มี 10 000 คนเริ่มทำการเดินทัพ

การเคลื่อนไหวของพวกเขาถูกพบโดยหน่วยสอดแนมของโกลโดเนียทันที และมันเป็นแค่เรื่องของเวลา ก่อนที่ทั้สองฝ่ายจะปะทะซึ่งกันและกัน

—————————————————————

ตัวเอก: เอเกอร์ ฮาร์ดเลตต์ 21 ปี ฤดูใบไม้ร่วง เวลาสงคราม

หน่วยของลูกน้อง: 11 200

ทหารราบ: 2700, ทหารม้า: 1500, นักธนู: 800, ช่างศึก: 200, ทหารม้าธนู: 6000

ลูกน้อง: ลีโอโพลต์ (หัวหน้าของเจ้าหน้าที่และรองผู้บัญชาการกองทัพ), ซีเลีย (ผู้ช่วย, กัปตันผู้คุ้มกัน), อิริจิน่า (ผู้บัญชาการ), ลูน่า (ผู้บัญชาการทหารม้าธนู, ปีปี้ (มาสคอต)

ตำแหน่งปัจจุบัน: โรเลล

ความสำเร็จ: 

กวาดล้างกองกำลังป้องกันทิศตะวันออก (ยอมแพ้), ยึดครองโรเลล

—————————————————————   

 เป้าหมายเดือน 7/66

ค่าเน็ต 200/200

รับยา ยาหมด 0/200

ค่าห้องโรงพยาบาลยาย 460/2000

สนับสนุนผลงาน โดเนทได้ที่

067-3-63958-5

วายุ แซ่จิว

กสิกรไทย

แปลโดย: wayuwayu

โดเนทแล้วอยากให้เรื่องขึ้นหรือสะสมเงินเพิ่มตอน สปอนเซอร์ตอน จองตอน ซื้อตอน หารได้ ได้ที่ facebook   

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+