ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน 356เหตุการณ์พลิกผัน จนน่าตะลึง (1)
บทที่356 เรื่องราวกลับตาลปัตร จนน่าตะลึง (1)
ครั้งนี้เธอไม่ได้เอาไปซ่อน บ่งบอกว่าตอนนี้เธอไม่ค่อยระแวงเขาแล้ว ฉะนั้น ตอนนี้เขาก็จะไม่ทำเรื่องที่ทำให้เธอเกิดความสงสัย เพราะการระมัดระวังตัวของเธอมีสูงมากๆ
รอผ่านเดือนหนึ่งไปก่อน ไม่ ยังเหลือยี่สิบกว่าวัน รอหลังยี่สิบวันผ่านไปลายลักษณ์อักษรทั้งหมดก็จะจางหายไป ถึงตอนนั้นเรื่องสัญญาก็จะไม่มีแล้ว
เย่ซือเฉินหยิบปากกาออกจากลิ้นชัก เขียนตัวหนังสือไม่กี่คำอย่างรวดเร็ว จากนั้นออกห้องไปทันที
แต่คุณชายสามเย่ไม่รู้ ว่าครั้งนี้ที่เขาจากไป ตอนกลับมานั้น……
ตอนเวินลั่วฉิงตื่นนั่นเป็นเวลาสิบโมงแล้ว ข้างกายเธอว่างเปล่า ไม่มีร่างเย่ซือเฉินอยู่ตั้งนานแล้ว
เวินลั่วฉิงคิดว่าเย่ซือเฉินคงไปที่บริษัทแล้ว เมื่อเช้าตอนเธอตื่นมา เย่ซือเฉินก็ไปบริษัทแล้ว เย่ซือเฉินไปทำงานนอกสถานที่หลายวัน บริษัทตระกูลเย่กรุ้ปคงมีเรื่องให้จัดการมากแน่
เมื่อวานเพราะเรื่องของเธอ เขาเลยไม่มีเวลาออกไปจัดการ ฉะนั้นวันนี้ต้องออกไปจัดการตั้งแต่เช้าก็เป็นเรื่องปกติ
เวินลั่วฉิงคิดว่าลูกรักทั้งสองคงไปจากเมืองจิ๋นเธอไม่สามารถไปหาลูกได้แล้ว
เวินลั่วฉิงไม่อยากลุกจากเตียง แต่เธอก็หิว จนต้องลุกขึ้นมา
ร่างกายเวินลั่วฉิงเริ่มขยับ ก็รู้สึกปวดร้าวไปทั้งตัว เธอจึงอดไม่ไหวที่จะแอบด่าคุณชายสามเย่อยู่ในใจ
เวินลั่วฉิงเก็บกลั้นความปวดร้าวไว้แล้วลุกขึ้น จากนั้นก็เห็นบนโต๊ะข้างเตียง มีกระดาษโน๊ตทับอยู่ใต้โทรศัพท์ใหม่ที่เมื่อวานเย่ซือเฉินสั่งคนส่งมาให้
เวินลั่วฉิงชะงักนิ่ง จากนั้นก็หยิบกระดาษโน๊ตนั้นขึ้นมา เมื่อเห็นเนื้อหาในกระดาษโน๊ต มุมปากเธอก็กระตุกขึ้นอย่างรุนแรง ไอ้คนนี้นี่มัน……
ที่จริงข้อความในกระดาษโน๊ตนั่นก็ธรรมดา แต่เธอก็รู้สึกว่ามันไม่เข้ากับบุคลิกของคุณชายสามเย่เลยสักนิด
บนกระดาษโน๊ตมีอักษรที่มีเฉพาะตัวเขา "ฉันออกไปทำธุระข้างนอกหลายวัน อยู่บ้านเป็นเด็กดีนะ"ข้อความยังถือว่าปกติอยู่
แต่ที่ทำให้เวินลั่วฉิงสยองนั้นคือ ในข้อความด้านล่างยังมีรูปริมฝีปากอยู่อันหนึ่ง สีแดง
แน่นอน ว่าไม่ใช่เย่ซือเฉินจูบลงไป น่าจะเป็นการวาดลงไป
เพียงแค่ คุณชายสามเย่ทำเรื่องแบบนี้ ทำให้คนสยองมากจริงๆ ใช่ไม่ใช่
บนกระดาษโน๊ต คุณชายสามเย่ไม่ได้บอกว่าจะไปทำธุระที่ไหน เวินลั่วฉิงได้คิดอะไรมาก เพียงแค่ขยับตัวเล็กน้อย ร่างกายก็ปวดร้าวสุดๆ เธอคิดว่าครั้งนี้ที่เขาไปทำธุระที่อื่นไม่พาเธอไปด้วย ในที่สุดเธอก็สามารถพักผ่อนเต็มที่ในหลายวันนี้แล้ว
เวินลั่วฉิงหยิบโทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่ที่เย่ซือเฉินสั่งคนจัดส่งมาให้ ซิมเบอร์ก็ใส่ไว้ให้แล้ว แถมยังเป็นเบอร์เดิมของเธอด้วย
เพียงแต่ เมื่อวานเย่ซือเฉินวุ่นวายกับเธอตลอดๆ แม้แต่เวลาเปิดเครื่องก็ยังไม่ให้เธอ
เวินลั่วฉิงปิดเครื่อง ก็ได้รับสองสามข้อความเป็นเห่อถงถงส่งมาทั้งนั้น
เมื่อวาน หลังจากที่เธอพาลูกทั้งสองออกจากโรงเรียนอนุบาลแล้ว อยู่บนรถก็ใช้โทรศัพท์ของรุ่นพี่โทรหาเห่อถงถง เล่าเรื่องราวคร่าวๆให้ฟัง แต่เวินลั่วฉิงไม่ได้เล่าเรื่องที่แม่ของจี้หซีเอาเส้นผมของจื่อโม่ไปตรวจดีเอ็นเอ
เธอเชื่อว่าจี้หซีสามารถปกป้องเห่อถงถงได้เป็นอย่างดี เพราะฉะนั้นเธอไม่อยากให้เห่อถงถงเสียใจกับเรื่องพวกนี้
เมื่อเห็นข้อความของเห่อถงถงแล้ว เวินลั่วฉิงก็โทรหาเห่อถงถงทันที
"ฉิงฉิง ขอโทษนะ เป็นเพราะฉัน เด็กทั้งสองคนถึง……"เมื่อรับโทรศัพท์ เสียงเห่อถงถงก็ดังขึ้นมาทันที ราวกับจะร้องไห้เบาๆ
"เห่อถงถง เรายังเป็นเพื่อนกันอยู่ไหม"เวินลั่วฉิงพูดแทรกขึ้นมาขัดเธอ " เป็นเพื่อนกันก็อย่าพูดแบบนี้อีก"
"จี้หซีล่ะ ไม่อยู่เป็นกับเธอเหรอ"เวินลั่วฉิงไม่อยากให้เห่อถงถงเป็นเพราะเรื่องของเด็กที้งสองโทษตัวเอง ฉะนั้นจึงเปลี่ยนเรื่องพูดทันที
"ฉันไล่เขาออกไปแล้ว เป็นเพราะเขาก่อเรื่องขึ้นทั้งนั้น น้ำเสียงมีความเกรี้ยวโกรธอย่างชัดเจน แต่ก็มีความอาลัยอาวรณ์อยู่ด้วย
อาลัยอาวรณ์พวกนั้น คนอื่นอาจจะฟังไม่ออก แต่เวินลั่วฉิงฟังออก
เวินลั่วฉิงตะลึงงัน เธอรู้อยู่แล้วว่าเห่อถงถงต้องใจร้อนทำอะไรบุ่มบ่าม เธอรู้จักเห่อถงถงดี รู้ว่าเป็นเพราะเรื่องลูกรักทั้งสอง เห่อถงถงเกิดความรู้สึกผิดในใจ เพราะฉะนั้นเวินลั่วฉิงจึงรู้หากห้ามปรามโดยตรง เห่อถงถงก็อาจไม่รับฟัง
เพราะแบบนี้เวินลั่วฉิงจึงได้แกล้งพูด "ฮ่ะ เธอไล่จี้หซีไปแล้ว เฮ้ย จี้หซีถูกเธอไล่ออกไปแบบนี้ เขาต้องน้อยใจมาก ถูกปรักปรำหนักเลยอ่ะ ถ้าหากจี้หซีคิดไม่ตก ทำเรื่องบ้าๆขึ้นมา เฮ้ย มันน่าสงสารจริงๆ……"
ไม่พูดไม่ได้เลยว่า เวินลั่วฉิงกับถังจื่อโม่นั้นเป็นแม่ลูกสายเลือดเดียวกันจริงๆ แม้แต่แผนการก็เหมือนกันเป๊ะ
แน่นอน ว่ามันสามารถใช้ได้ผลกับเห่อถงถง
"ไม่ ไม่ถึงขั้นนั้นมั้ง"น้ำเสียงเห่อถงถงในตอนนี้เบาลงอย่างฟังได้ชัด
"มันก็ไม่แน่เหรอ ได้ยินมาว่าผู้ชายเวลาได้ความเจ็บปวดจะเรื่องความรักนั้นจะอ่อนแอเป็นพิเศษเลยน่ะ"ตอนเวินลั่วฉิงพูดประโยคนี้ออกมานั้นได้แกล้งถอนหายใจไปด้วย
"แต่ว่ามันก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับฉันหนิ พอแล้ว ไม่พูดมากอะไรกับเธอแล้ว ฉันจะไปวีดีโอคอลกับลูกทั้งสองคน ลูกทั้งสองคนน่าจะถึงประเทศMแล้ว คงดีใจมากแน่ๆเลย"เวินลั่วฉิงพูดเรื่องพวกนี้ เพราะต้องการให้เห่อถงถงคลายความกังวลออกไป
ในฐานะนักจิตวิทยา เรื่องพวกนี้จึงเป็นเรื่องถนัดของเวินลั่วฉิงอยู่แล้ว
"ได้"น้ำเสียงเห่อถงถงฟังดูผ่อนคลายมากขึ้น
เวินลั่วฉิงถึงได้วางสายไปด้วยความพอใจ
ต่อมาเวินลั่วฉิงก็โทรวิดีโอคอลไปหาลูกรักทั้งสอง รู้ว่าลูกรักทั้งสองสบายดี เธอถึงจะวางใจได้
แต่เมื่อนึกได้ว่าลูกๆกลับประเทศMไปแล้ว ตอนนี้เธอยังอยู่เมืองA ถ้าอยากพบเจอลูกทั้งสองคงยากมากขึ้นแน่
เพราะฉะนั้น สำหรับเรื่องหุ้นในบริษัทตระกูลเย่กรุ้ปเธอต้องรีบจัดการแล้ว แต่เวินลั่วฉิงก็ทราบดีว่าเรื่องนั้นมันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น ต้องหาโอกาสเหมาะๆให้ได้เสียก่อน
อีกทั้งในตอนนี้เย่ซือเฉิยก็ไปทำธุระในสถานที่อื่น เธอคิดว่านี่คือโอกาสที่ดี ฉะนั้นเธอต้องรีบคว้าโอกาสนี้เอาไว้
หลายวันถัดมาเวินลั่วฉิงใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย เย่ซือเฉินไปทำธุระที่อื่น ไม่มีคนค่อยทรมานเธออีกแล้ว
เรื่องด้านเย่ซือเฉินนั้นมีปัญหายุ่งยากมาก
ดังนั้นหลายวันนี้เย่ซือเฉินจึงติดต่อกับเวินลั่วฉิงน้อยมาก
ในที่สุดเวินลั่วฉิงได้ใช้ชีวิตสุขสบายที่หายากในหลายวันนี้ แน่นอนว่าในหลายวันนี้เวินลั่วฉิงค่อยวางแผนเกี่ยวกับเรื่องหุ้นของบริษัทตระกูลเย่กรุ้ปตลอด
ทันทีที่คุณปู่เวินกลับมาถึงเมืองAก็โทรหาไปเวินลั่วฉิง "ฉิงฉิง ปู่กลับมาแล้วนะ คืนนี้ตระกูลฉิงจัดงานเลี้ยง เธอจะไปด้วยกันกับปู่ไหม"
"ตอนคุณปู่เวินพูดเรื่องจะให้เวินลั่วฉิงไปงานเลี้ยงน้ำเสียงก็มีความตื่นเต้นดีใจออกมา ความตื่นเต้นดีใจนั้นเวินลั่วฉิงเข้าใจดี คุณปู่เวินอยากจะหาเจ้าบ่าวที่ชอบให้เธออยู่ตลอดเวลา
"คุณปู่ คุณปู่พาคุณย่าไปเถอะ หนูไม่ไปดีกว่า"ในเมื่อเวินลั่วฉิงเข้าใจความหมายของคุณปู่ดี ก็ไม่สมควรที่จะต้องไปงานเลี้ยงนั้นแล้ว เดิมทีก็เป็นคนเวินลั่วฉิงไม่ชอบอยู่ในงานแบบนั้นอยู่แล้ว ยิ่งคุณปู่มีอย่างอื่นแอบแฝงอยู่ด้วยอีก
"ฉิงฉิง ปู่……"คุณปู่เวินยังไม่ยอมแพ้เล็กน้อย จึงอยากโน้มน้าวใจเธออีกหน่อย
"คุณปู่ หนูยังมีเรื่องต้องไปเคลียร์ ตกลงตามนี้แล้วกันนะคะ"เวินลั่วฉิงพูดแทรกขึ้นมาตัดคำพูดเขา ปฏิเสธอย่างชัดเจนสุดๆ แต่เวินลั่วฉิงนึกขึ้นได้ว่าเรื่องหนึ่ง ว่างานเลี้ยงตระกูลฉิงนั้นคุณปู่เย่กับคุณย่าเย่คงน่าจะไปแน่ๆ
Comments