ทะลุมิติทั้งครอบครัว 295 บ่นครั้งสุดท้ายแล้ว

Now you are reading ทะลุมิติทั้งครอบครัว Chapter 295 บ่นครั้งสุดท้ายแล้ว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ซ่งฝูเซิงจินตนาการ​ไว้​อย่าง​ดิบดี​

ซื้อ​สีกับ​ดินสอ​สีมาให้​ลูกสาว​ เอา​ไป​วาง​ไว้​ใน​ห้อง​แล้ว​ ก็​แค่​รอ​ให้​ซ่งฝูห​ลิง​ว่าง​ ขอให้​ช่วย​วาดภาพ​พวกเขา​ที่​สร้าง​ครอบครัว​กัน​มาด้วย​มือเปล่า​หน่อย​

ในอนาคต​ ไม่ว่า​จะผ่าน​ไป​อีก​กี่​ปี​ จะมีสมาชิก​มาเพิ่ม​เท่าไร​ ล้วน​เทียบ​กับ​ช่วง​เวลานี้​ที่​พวกเขา​อยู่​ด้วยกัน​ไม่ได้​ ชีวิต​ธรรมดา​แต่กลับ​อบอุ่น​

เมื่อ​ถึงตอนนั้น​ ได้​ดู​ภาพวาด​ก็​จะลืม​ชีวิต​ที่​ได้​เริ่มต้น​ที่นี่​ไม่ได้​

แต่​น่าเสียดาย​ จินตนาการ​ที่​แสน​โรแมนติก​อย่าง​ที่​ไม่ได้​มีง่ายๆ​ กลับ​แตกสลาย​

“ตูม​!”

แตกต่าง​จาก​เสียง​ประทัด​ อีก​ทั้ง​ระเบิด​อยู่​ใน​ห้อง​ ทันใดนั้น​ได้​มีเสียง​ระเบิด​ดัง​ขึ้น​

วัวนม​หก​ตัว​ตกใจ​จน​ขนลุก​ ตกใจ​จน​พา​กัน​จับ​หน้าอก​ น้ำนม​ไหล​ย้อนกลับ​หมด​แล้ว​

เสี่ยว​หง​ยืน​ขึ้น​ทันที​ ดึง​เชือก​สุด​ชีวิต​ อยาก​ออก​ไป​จาก​คอก​ เกิด​อะไร​ขึ้น​ ข้างนอก​มีอะไร​ เกิด​อะไร​ขึ้นกับ​นาย​น้อย​ของ​ข้า​

ซ่งจิน​เป่า​ที่​ช่วย​ย่า​ทำงาน​ ยก​น้ำ​ที่​ท่าน​ย่า​สระผม​เสร็จ​กำลังจะ​เอา​ออก​ไป​เท​ทิ้ง​ สะดุ้ง​ตกใจ​ทำ​น้ำ​หก​ใส่ตัว​ซ่งฝูสี่ที่​กำลัง​เข้า​บ้าน​มา

ซ่งจิน​เป่า​ “…”

ซ่งฝูกุ้ย​กับ​เกา​ถูฟูเพิ่ง​กาง​รั้ว​เหล็ก​แหลม​ที่​หน้า​ประตู​ใหญ่​เสร็จ​ เดินผ่าน​บ้าน​ซ่งฝูเซิงกำลังจะ​กลับบ้าน​ ซ่งฝูกุ้ย​สะดุ้ง​ตกใจ​เสียง​ระเบิด​ เท้า​ลื่น​ก้น​จ้ำเบ้า​ลง​ไป​นั่ง​กับ​พื้น​ ฉุด​เกา​ถูฟูลื่นล้ม​ลง​ไป​ด้วยกัน​

เฉียน​เพ่​ย​อิง​ที่อยู่​โรง​เพาะปลูก​พริก​รีบ​กลับมา​บ้าน​

ตาม​ซ่งฝูเซิงมาติดๆ​ ทั้งสอง​คน​เปิด​ประตู​บ้าน​

สิ่งที่อยู่​ใน​สายตา​คือ​ เด็ก​หลาก​สีสอง​คน​

บน​หัว​ บน​หน้า​ บน​ตัว​ บน​มือ​ ล้วน​เต็มไปด้วย​สีสัน​รวมถึง​สีดำ​ มีเพียง​ดวงตา​สอง​คู่​ที่​ยัง​ใสสะอาด​และ​กำลัง​มอง​มาที่​พวกเขา​อย่าง​ตกตะลึง​

ซ่งฝูเซิงเหลือบมอง​หม้อ​ หม้อ​ดินระเบิด​แตก​ออก​เป็น​ชิ้นเล็กชิ้นน้อย​ เตียง​ใน​ห้อง​ของ​พวก​ซื่อ​จ้วง​กำลังจะ​ถล่ม​แล้ว​

“เกิด​อะไร​ขึ้น​”

มือ​ข้าง​หนึ่ง​ของ​เฉียน​เพ่​ย​อิง​กุม​หน้าอก​ มือ​อีก​ข้าง​จับ​ประตู​ หัว​ใจเต้น​แรง​ ถึงแม้จะเห็น​เด็ก​สอง​คน​ยืน​อยู่​ตรงหน้า​ ทว่า​ก็​ยังคง​ผวา​ไม่หาย​จน​แข้ง​ขา​อ่อนแรง​

นาง​ถาม “เกิด​อะไร​ขึ้น​”

หมี่​โซ่ว​ปล่อยมือ​ของ​พี่สาว​

เด็กน้อย​หลาก​สีเดิน​ขึ้น​หน้าหนึ่ง​ก้าว​ เดิมที​อยาก​ทำ​เหมือน​เมื่อก่อน​ พูด​อย่าง​รู้​ประสา​ว่า​ ‘ท่าน​ลุง​ท่าน​ป้า​ อย่า​โกรธ​อย่า​โมโห​ หมี่​โซ่ว​กับ​ท่าน​พี่​ไม่เป็นอะไร​’

แต่ว่า​ ดูเหมือน​หมี่​โซ่ว​เอง​ก็​ตกใจ​มาก​ หวาดผวา​อยู่​ไม่น้อย​ ชั่ว​ขณะนั้น​คิด​ว่า​จะวิ่งหนี​เขา​กัน​หมด​ พอ​อ้า​ปาก​กลับ​กลายเป็น​ “ฮึก​ ฮือ​… ฮือ​ ตกใจ​หมด​เลย​”

ยื่น​สอง​มือ​ออก​ไป​พร้อม​วิ่ง​ไปหา​ซ่งฝูเซิง

ซ่งฝูห​ลิง​ได้ยิน​น้องชาย​ร้องไห้​ก็​รีบ​ถลึงตา​ใส่ กลืนน้ำลาย​ อธิบาย​ให้​พ่อ​กับ​แม่ฟัง

“ไม่เป็นไร​ๆ จริงๆ​ นะ​ ท่าน​พ่อ​ท่าน​แม่ ก็​แค่​ทำ​การทดลอง​นิดหน่อย​…

…ข้า​รู้สึก​ว่า​ประทัด​ที่​วาง​ตอน​เปิดร้าน​ไม่สวย​ มัน​มีแต่​เสียง​ ข้า​ก็​เลย​อยาก​ลอง​ดัดแปลง​ดู​…

…ใน​ระหว่าง​ทดลอง​เกิด​ข้อผิดพลาด​นิดหน่อย​ จากนั้น​ก็​…”

“ใคร​ใช้ให้​เจ้าทดลอง​” สถานการณ์​วุ่นวาย​ขึ้น​มาทันที​

เฉียน​เพ่​ย​อิง​ยกมือ​ไล่​ตี​ลูกสาว​ ซ่งฝูห​ลิง​รีบ​วิ่งหนี​อยู่​ใน​บ้าน​

“อะไร​ก็​กล้า​ทดลอง​หมด​ ที่​พ่อเจ้า​ซื้อ​มาน่ะ​ประทัด​เชียว​นะ​ แค่​จุด​ก็​ติด​ จุด​ก็​ระเบิด​ เจ้ายัง​จะกล้า​ทดลอง​อีก​รึ​”

“ไม่ใช่นะ​ท่าน​แม่ ฟังข้า​พูด​ก่อน​” ซ่งฝูห​ลิง​กระโดด​ขึ้น​เตียง​ “ข้า​พูด​ออก​ไป​แล้ว​ว่า​ลูก​ทำให้​มัน​ออกมา​เป็นควัน​สีๆ ได้​ ข้า​เสียหน้า​ต่อหน้า​น้องชาย​ไม่ได้​ เขา​เชื่อใจ​ข้า​ขนาด​นี้​ ข้า​เอง​ก็​คิด​ว่า​มัน​น่าจะ​สำเร็จ​ มีอัน​ที่​สำเร็จ​แล้วด้วย​ ก็​แค่​มีอยู่​ไม่กี่​อัน​ที่​น่าจะ​ยัด​เข้าไป​มากเกินไป​ เสร็จ​แล้ว​มัน​เลย​ระเบิด​”

เฉียน​เพ่​ย​อิง​มองหา​ไม้กวาด​ ไม่ได้​ วันนี้​ต้อง​ฟาด​สักที​ แบบนี้​มัน​อยู่ดีไม่ว่าดี​ เกิด​เด็ก​สอง​คน​นี้​ถูก​ระเบิด​พิกลพิการ​เข้า​ล่ะ​ ต้อง​ทำให้​หลาบจำ​

“น้อง​ยัง​เด็ก​ แค่​พูด​ชมนิดหน่อย​ แต่​เจ้าเด็ก​ด้วย​รึ​…

…เจ้ายัง​บอก​อยู่​ว่า​เหนื่อย​ สอน​ทำ​ขนม​มาทั้งวัน​ เหนื่อย​อย่างนั้น​เหนื่อย​อย่างนี้​ กินข้าว​ก็​แทบ​อยาก​จะให้​น้องชาย​ป้อ​น.​..

…เผลอ​แปบ​เดียว​เจ้าก็​ไป​เอา​ประทัด​มาเล่น​ มืดค่ำ​ป่านนี้​ ว่าง​มาก​นัก​ใช่ไหม​ ไม่ยอม​หลับ​ยอม​นอน​ แม่ว่า​เจ้ายัง​ไม่เหนื่อย​นะ​”

“ไม่ใช่นะ​ ข้า​” ซ่งฝูห​ลิง​เขย่ง​ขา​ “ท่าน​พ่อ​ ดู​ท่าน​แม่หน่อย​สิ”

ซ่งฝูเซิงไม่สนใจ​ ยุ่ง​ไม่ได้​ สำคัญ​ทั้งคู่​

เขา​อุ้ม​หมี่​โซ่ว​ที่​หยุด​ร้องไห้​แล้ว​ดู​สกปรก​กว่า​เดิม​ หยิบ​ ‘ประทัด​’ ที่​ลูกสาว​ทำ​ใหม่​ออก​ไป​

ประทัด​ที่​ตกเป็น​จำเลย​นั่น​ เขา​เป็น​คนซื้อ​กลับมา​เอง​

ตอนนั้น​คิด​ว่า​ทาง​ด้าน​เมือง​เฟิ่งเทียน​ ถึงแม้ตอน​เปิดร้าน​จะมีพ่อบ้าน​กับ​สะใภ้เล็ก​สกุล​สวี่​ช่วยดูแล​ เขา​ไม่ต้อง​ยุ่ง​เรื่อง​ประทัด​ แต่​ร้าน​อื่นๆ​ ล่ะ​ เปิดร้าน​ก็​ต้อง​มีเสียงดัง​ๆ หน่อย​ สมัยโบราณ​ ออก​ไป​ไหน​ทั้งที​สิ้นเปลือง​พลังงาน​ ไม่เหมือน​ยุค​สมัยปัจจุบัน​ที่​ นึก​อะไร​ได้​ก็​ออก​ไป​ซื้อ​ ขับรถ​ออก​ไป​ก็​ซื้อ​กลับมา​ได้​แล้ว​

นึกไม่ถึง​ว่า​เด็ก​สอง​คน​นี้​จะเล่นพิเรนทร์​ใน​บ้าน​

“เกิด​อะไร​ขึ้น​ฝูเซิง” ทุกคน​ออกมา​กัน​หมด​ บางคน​กำลัง​ผูก​เชือก​กางเกง​อยู่​ ดู​ก็​รู้​ว่า​เพิ่งจะ​ถอดเสื้อผ้า​ล้ม​ตัว​ลงนอน​แล้ว​

ท่าน​ย่า​หม่า​มาใน​สภาพ​ผม​เปียกชื้น​ รีบร้อน​เข้ามา​อยาก​ไปดู​หลานสาว​คน​เล็ก​

แต่​ถูก​ซ่งฝูเซิงดึง​ตัว​ไว้​ “ทำไม​น่ะ​เหรอ​ มา ไปดู​ด้วยกัน​ทั้งหมด​นี่แหละ​ ดู​ว่า​ผลงาน​ของ​พวกเขา​เป็น​ยังไง​”

เอา​ผลงาน​ใหม่​ที่​ลูกสาว​ทำ​ออกมา​วาง​ตรงกลาง​พื้น​ที่ว่าง​

จุดไฟ​

พวก​เด็ก​ๆ เบิก​ตาโพลง​ทันที​ “ว้าว​!”

ยา​ยา​ “ว้าว​ ท่าน​แม่ ดู​สิ สวย​จังเลย​”

มือ​ข้าง​หนึ่ง​ของ​เฉียน​หมี่​โซ่ว​โอบ​คอ​ของ​ซ่งฝูเซิง มือ​อีก​ข้าง​ขยี้ตา​ที่​ยังมี​น้ำตา​หลง​เหลืออยู่​ ยิ้ม​ทั้ง​น้ำตา​ ตะโกน​ด้วย​ความภูมิใจ​ “พี่สาว​ข้า​ทำ​เอง​”

ภายในบ้าน​ มือ​ของ​เฉียน​เพ่​ย​อิง​ที่​ถือ​ไม้กวาด​หยุดชะงัก​ มอง​ไป​ทาง​หน้าต่าง​ที่อยู่​อีก​ด้าน​

ซ่งฝูห​ลิง​ที่​เหมือน​ลูก​แมว​ยิ้ม​จน​ดวงตา​โค้ง​มน​ นิ้วมือ​นวล​เนียน​ชี้ไป​ข้างนอก​ “ท่าน​แม่ดู​สิ สวย​ใช่ไหม​ เทียบ​ไม่ได้​กับ​ได้ยิน​แค่​เสียง​ใช่ไหม​ล่ะ​”

“ต่อให้​สวย​ก็​ห้าม​ทำ​อีก​ ทำ​อีก​ข้า​จะตี​ โต​แค่​ไหน​ก็​จะตี​ หม้อดิน​ดี​ๆ หม้อ​ที่​เอาไว้​ใส่ข้าว​ให้​เสี่ยว​หง​แตก​หมด​แล้ว​ ทำไม​ไม่ระเบิด​เตียง​ไป​ด้วย​เลย​ล่ะ​” ขณะ​พูด​ประโยค​นี้​ดวงตา​ของ​เฉียน​เพ่​ย​อิง​กลับ​ไม่ได้​ละ​จาก​ด้านนอก​

ดอกไม้ไฟ​ นี่​มัน​ดอกไม้ไฟ​ไม่ใช่เหรอ​

ซ่งฝูเซิงมอง​ประทัด​ที่​มีควัน​สีเขียว​สีแดง​ เอา​มือ​ปิด​หู​เฉียน​หมี่​โซ่ว​ ได้ยิน​เสียง​ตูม​หนึ่ง​ที​แล้ว​ถึงดับ​ลง​

ใช้สีวาดรูป​พวก​นั้น​ละ​ลายน้ำ​แล้ว​คลุก​กับ​น้ำตาล​ ก็​ไม่รู้​ว่า​ยัง​ใส่อะไร​ลง​ไป​อีก​ จากนั้น​ก็ได้​ผลลัพธ์​ออกมา​แบบนี้​

เขา​คิดในใจ​ ถ้าให้​ลูกสาว​ของ​เขา​คิดค้น​ต่อ​ อาจ​ไป​กัน​ใหญ่​ ก็​โชคดี​ที่​ลูก​ของ​เขา​เป็น​ผู้หญิง​ ถ้าเป็น​ผู้ชาย​คง​หนัก​กว่า​นี้​

สิ่งที่​หลงเหลือ​จาก​เรื่อง​นี้​ก็​คือ​ ต่อมา​เฉียน​เพ่​ย​อิง​ก็​จับตาดู​ซ่งฝูห​ลิง​กับ​เฉียน​หมี่​โซ่ว​

กลางวัน​ไม่สนใจ​เพราะ​ลูกสาว​นาง​ยุ่ง​

แต่​พอ​ตก​เย็น​นาง​ถามขึ้น​ “พวก​เจ้าทำ​อะไร​กัน​อีก​”

เฉียน​หมี่​โซ่ว​ยิ้ม​กว้าง​พลาง​ชูสอง​มือ​น้อย​ๆ ที่​เต็มไปด้วย​นม​ “ทำ​สบู่​นม​”

เยี่ยม​มาก​ ไม่เพียงแต่​ทำ​ขนม​ ยัง​ทำ​สบู่​ให้​ร้าน​ด้วย​

ได้ยิน​ว่า​ห้องน้ำ​ใน​ร้าน​ออกแบบ​เป็น​เก้าอี้​ทั้งหมด​ คว้าน​ตรงกลาง​ออก​ทำเป็น​เหมือน​ส้วมชักโครก​ ด้านล่าง​ที่​เอาไว้​รองรับ​ ใช้แจกัน​กระเบื้อง​สีเขียว​มรกต​เบอร์​ใหญ่​

สิ้นเปลือง​มาก​ทีเดียว​

ตรง​ที่​ล้างมือ​ก็​เข้าชุด​กัน​ อ่าง​ใบ​ใหญ่​สีเขียว​มรกต​ และ​นี่​ยัง​จะทำ​สบู่​นม​ให้​ที่​ร้าน​อีก​

เวลานี้​เฉียน​เพ่​ย​อิง​รู้สึก​ว่า​ ลูกสาว​ของ​นาง​ถ้าไม่ขยัน​หาเงิน​คง​ยัง​เหนื่อย​ไม่พอ​

นี่​ขาด​ก็​แค่​เอา​น้ำหอม​กลิ่น​นม​ไป​พรม​ใน​ห้องน้ำ​แล้ว​

อย่างว่า​ ต้อง​ทำให้​สมราคา​ ที่ไหน​ที่​ใช้จ่าย​เงิน​เยอะ​ก็​ต้อง​ทำให้​คน​ได้​ดื่มด่ำ​ พอ​เข้ามา​ก็​รู้สึก​ว่า​สวยงาม​

ตอนนี้​แม้แต่​ท่าน​ย่า​หม่า​ก็​มีความตระหนัก​รู้​ใน​เรื่อง​นี้​แล้ว​

ดังนั้น​ท่าน​ย่า​หม่า​ตัดสินใจ​จะไป​เรียน​วิชา​ต้อนรับ​ลูกค้า​สักหน่อย​จาก​หอ​นางโลม​ใน​เมือง​ถงเหยา​ เพื่อที่จะ​ได้​บริการ​เหล่า​สตรี​ชั้นสูง​ได้ดี​ยิ่งขึ้น​

“นี่​เป็น​ขนม​ตัวใหม่​ ตั้งใจ​เอา​มาให้​เจ้าชิม ยัง​ไม่วางขาย​เลย​นะ​”

แม่เล้า​คิดในใจ​ อย่า​มา มีเรื่อง​อะไร​แน่ๆ​

ท่าน​ย่า​หม่า​ คุย​กับ​คน​ฉลาด​นี่​มัน​ไม่เหนื่อย​แท้​

นาง​บอก​ว่าที่​นาง​มาเพราะ​อยาก​เรียนรู้​ว่า​บรรดา​สาวใช้​ของ​ที่นี่​ปรนนิบัติ​แขก​ผู้ชาย​พวก​นั้น​อย่าง​เทิดทูน​ได้​อย่างไร​ ปรนนิบัติ​เสีย​จน​อารมณ์ดี​ เอะอะ​ก็​ให้เงิน​เป็น​รางวัล​

อย่า​เข้าใจผิด​นะ​ ไม่ได้มา​เรียน​ยั่วยวน​ เอา​แค่​สาวใช้​ทั่วไป​ยก​น้ำชา​ริน​น้ำชา​พวก​นั้น​

นาง​อยาก​เรียนรู้​ ตั้งใจ​ดู​ สังเกต​เคล็ดลับ​การปรนนิบัติ​คนใน​หอ​นางโลม​ให้​เข้าใจ​ใน​เวลา​อัน​สั้น​ที่สุด​

จากนั้น​พอ​นาง​เป็น​ ก็​จะได้​กลับ​ไป​สอน​เจ้าพวก​ซื่อบื้อ​พวก​นั้น​ใน​ครอบครัว​

“มา ดู​ข้า​ พอ​เห็น​คน​เข้ามา​ สิ่งแรก​ที่​ต้อง​ทำ​ก่อน​ก็​คือ​ยิ้มแย้ม​อารมณ์ดี​”

ท่าน​ย่า​หม่า​จับกลุ่ม​ สะใภ้ใหญ่​บ้าน​เกา​ถูฮู่ สะใภ้เล็ก​บ้าน​ท่าน​ยาย​หวัง​ ภรรยา​ของ​ซ่งฝูกุ้ย​

สามคน​นี้​ต้อง​เข้า​เมือง​กับ​นาง​ ไป​เป็น​คน​บริการ​

“เจ้าอย่า​ยิ้ม​แบบ​นั้น​ มัน​ดู​ปลอม​”

“เจ้าก็​อย่า​ยิ้ม​แบบ​นั้น​ ยิ้ม​เหมือน​คน​ซื่อบื้อ​ เห็น​แล้ว​น่า​หงุดหงิด​”

สะใภ้ทั้ง​สาม ท่าน​ย่า​หม่า​ แล้ว​ตกลง​ต้อง​ยิ้ม​ยังไง​ล่ะ​ ยิ้ม​มาครึ่งชาติ​แล้ว​ ถูก​ดุ​จน​ยิ้ม​ไม่เป็น​แล้ว​เจ้าค่ะ​

“ดู​ให้​ดี​ พวก​เจ้าต้อง​ตามหา​ความรู้สึก​นี้​ให้​เจอ.​..

…ข้างหน้า​ก็​คือ​เนินเขา​สูงแดง​อร่าม​ ได้เวลา​เก็บเกี่ยว​แล้ว​…

…ปี​นี้​ไม่เพียงแต่​ไม่ต้อง​ทน​หิว​ ปรนนิบัติ​พวก​นาง​ให้​ดี​ พอ​ทำได้​ยัง​สามารถ​ได้เงิน​อีกด้วย​…

…มา ใช่ ยิ้ม​จาก​ใจ มา ดู​มือ​ข้า​ โค้ง​ตัว​”

สะใภ้ทั้ง​สามโค้ง​ตัว​พร้อมกัน​

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด