ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวยบทที่ 1559 ไปสู่ขอกันเถอะ

Now you are reading ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย Chapter บทที่ 1559 ไปสู่ขอกันเถอะ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 1559 ไปสู่ขอกันเถอะ

…………….

บทที่ 1559 ไปสู่ขอกันเถอะ

ใช่แล้ว… ท่าทางของเขาแตกต่างออกไปไม่เหมือนเมื่อก่อน

ปกติแล้วซูจือเยว่มักจะมีนิสัยอ่อนโยนและสง่างาม แต่วันนี้เขาเป็นเหมือนเด็กที่โง่เขลาและเต็มไปด้วยอารมณ์ที่ฉุนเฉียว ทำลายพฤติกรรมที่อ่อนโยนและสง่างามของตนเอง

เมื่อฮูหยินซูได้ยินคำถามของซูเฉี่ยนเยว่ นางรู้สึกเพียงว่าสิ่งที่กังวลที่สุดในใจของนางก็เหมือนปลาที่กระโจนขึ้นจากน้ำ

“เจ้าหมายถึงท่านพี่ของเจ้า…” ฮูหยินซูพึมพำ

“ท่านแม่ ท่านพี่ไม่เคยกระตือรือร้นกับผู้หญิงคนไหนมาก่อนเลย นอกจากเขากระตือรือร้นกับเราแล้ว เขาไม่เคยมองผู้หญิงคนอื่นมากกว่าหนึ่งครั้ง ท่านแม่ไม่คิดว่าท่านพี่เปลี่ยนไปอย่างนั้นหรือ ท่านพี่เปลี่ยนไปมากจนแม้แต่ข้าก็ยังสัมผัสได้” ซูเฉี่ยนเยว่พูดพลางมองไปที่ฮูหยินซูด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย “ท่านแม่ ถ้าท่านพี่เปลี่ยนไปแบบนี้ก็ไม่เป็นไร แต่การเปลี่ยนแปลงของเขาจะนำหายนะมาสู่ตระกูลซูของเรา”

ฮูหยินซูเซถอยหลังไป โชคดีที่ยังมีเก้าอี้อยู่ข้างหลัง ทำให้นางทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ ดวงตาของนางกวาดมองไปทั่วพื้นอย่างไม่รู้จะหยุดอยู่ตรงไหน และเห็นเก้าอี้ที่นายท่านมักจะนั่งถูกเตะจนพังแยกส่วนและกระจัดกระจายไปทั่ว

นางไม่เคยเห็นซูจือเยว่สูญเสียความสงบเช่นนี้มาก่อน และไม่เคยเห็นเขาโกรธขนาดนี้มาก่อน นางคิดมาเสมอว่าลูกชายผู้สงบนิ่งของนางนั้นไม่แยแสต่อทุกสิ่งและผู้คนรอบกาย และคงไว้ซึ่งความเป็นชายหนุ่มรูปงาม

แต่วันนี้นางเพิ่งเข้าใจว่า ซูจือเยว่ก็มีอารมณ์โกรธและสูญเสียการควบคุมตัวเองได้เช่นกัน

ก่อนหน้านี้เป็นเพราะเขายังไม่ได้พบคนที่เขาต้องการปกป้อง

“เราควรทำอย่างไรดี” ฮูหยินซูถามอย่างอ่อนแรงพลางลูบหน้าผากอย่างเหนื่อยล้า

ตอนนี้เข้าสู่ปลายฤดูใบไม้ร่วง อากาศเริ่มเย็นลงมาก แต่ก็ยังมีเม็ดเหงื่อเม็ดเล็ก ๆ ผุดพรายเต็มหน้าผากเพราะนางรู้สึกหวาดกลัว

“ท่านแม่ไปที่จวนหมิงอ๋องเพื่อสู่ขอกันเถอะ” เสียงแผ่วเบาดังขึ้นในห้องที่เงียบสงัดราวกับสายลมพัดผ่านไปอย่างไร้ร่องรอย

……

กู้เสี่ยวหวานนั้นไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับตระกูลซู นอกจากนี้มันยังเป็นเรื่องของคนอื่นซึ่งไม่มีความเกี่ยวข้องกับนาง และนางทำได้แค่คอยระแวดระวังซูหมิ่นคนนั้นอยู่ในใจ

วันรุ่งขึ้น ถานอวี้ซูไม่ได้มาที่สวนชิงตามที่นางพูดเมื่อวานนี้ เพราะวันนี้นางกำลังจะไปพระราชวังเพื่อเข้าเฝ้าไทเฮา

กู้เสี่ยวหวานจึงไม่ได้คิดอะไรมาก นางทำการปิดประตูสวนชิงไม่ต้อนรับผู้ใดและไม่ออกไปไหน ดังนั้นนางจึงไม่รู้ว่าทั้งอาณาจักรต้าชิงกำลังพูดถึงชื่อเสียงของเสี้ยนจู่อันผิงผู้ที่มาจากชนบทอย่างไร

กู้เสี่ยวหวานไม่รู้ว่าโลกภายนอกกำลังพูดถึงตนเองอย่างไร จนกระทั่งถานอวี้ซูมาที่สวนชิงในวันถัดมาด้วยความตื่นตาตื่นใจ

“ท่านพี่รู้หรือไม่ว่าผู้คนทั้งเมืองหลวงกำลังพูดถึงพรสวรรค์ทางวรรณกรรมและรูปร่างหน้าตาของท่าน ทั่วทั้งอาณาจักรต้าชิงกำลังพูดถึงท่าน” ถานอวี้ซูพูดอย่างตื่นเต้น

“ทุกคนกำลังพูดถึงข้าหรือ” กู้เสี่ยวหวานขมวดคิ้ว

“ถูกต้องเจ้าค่ะ คนอื่นกำลังพูดถึงท่าน ท่านมีความสามารถมากและมีความรอบรู้ ทุกคนต่างสงสัยว่าเสี้ยนจู่อันผิงคือใคร” ถานอวี้ซูพูดอย่างตื่นเต้นขณะจับมือกู้เสี่ยวหวานไว้

ตอนนี้ท่านพี่กำลังเป็นที่รู้จักทั่วเมือง ดังนั้นในฐานะน้องสาว นางจึงรู้สึกมีความสุขโดยธรรมชาติ

กู้เสี่ยวหวานขมวดคิ้วเล็กน้อย และเมื่อมองใบหน้าที่มีความสุขของถานอวี้ซู นางจึงกลืนสิ่งที่จะพูดลงคอไป

“ช่วงนี้เพ่ยหยาเป็นอย่างไรบ้าง ข้าไม่เห็นนางส่งจดหมายมาเลย” กู้เสี่ยวหวานไม่ตอบคำถามของถานอวี้ซู แต่กลับเอ่ยถามถึงเพ่ยหยา

ถานอวี้ซูส่ายหน้า “ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน ข้าไม่ได้ข่าวจากนางและตระกูลหลูเช่นกัน ข้าเดาว่าอาการของฮูหยินฟางน่าจะดีขึ้นมากแล้ว”

เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ถานอวี้ซูก็ขมวดคิ้วทันที “ฟางเจิ้งสิงคนนั้นไม่ใช่คน ครั้งสุดท้ายที่เราเจอหวงหรูซื่อในบ้านตระกูลซู ท่าทางหยิ่งยโสนั้นราวกับนางไม่รู้ว่าตนเองต้องแต่งงานกับคนที่อายุเท่าพ่อ”

สิ่งที่ถานอวี้ซูพูดนั้นทำให้นางกัดฟันกรอดอย่างรู้สึกเศร้า

หวงหรูซื่อจะมีอายุสิบเก้าปีในปีนี้ นางแก่กว่าฟางเพ่ยหยาไม่กี่ปี และฟางเจิ้งสิงมีอายุเกือบสี่สิบปีแล้ว ด้วยความเครียดในช่วงหลายปีที่ผ่านมาทำให้เขาดูแก่กว่าอายุ เมื่อหวงหรูซื่อยืนอยู่ข้างฟางเจิ้งสิงก็สามารถพูดได้ว่านางเป็นลูกสาวของเขา

ตอนนี้หวงหรูซื่อต้องแต่งงานกับตระกูลฟาง ในฐานะที่ต้องเป็นภรรยาคนที่สองของฟางเจิ้งสิง มันเป็นเรื่องเหลือเชื่อจริง ๆ

“ข้าไม่รู้ว่านายท่านหวงจะเห็นด้วยหรือไม่ เพราะอย่างไรเสียตอนนั้นลูกสาวของเขาก็จะถูกส่งเข้าวังเพื่อรับใช้เสด็จพี่ฮ่องเต้” ถานอวี้ซูเยาะเย้ย

“แล้วเหตุใดนางถึงไม่เข้าวังเสียล่ะ อีกอย่างอายุของนางก็ไม่น้อยแล้ว เดิมทีอายุขนาดนี้แล้วก็ควรจะแต่งงานและให้กำเนิดลูกสักคนแล้วสิ” เด็กสาววัยสิบเก้าปีที่ยังไม่ได้แต่งงานจะถูกมองว่าเป็นสาวเทื้อได้ และมันทำให้กู้เสี่ยวหวานอยากรู้มากว่าทำไมผู้หญิงไร้ยางอายคนนั้นถึงไม่เข้าวัง

“เมื่อตอนที่เสด็จพี่ฮ่องเต้ยังไม่ได้ขึ้นครองบัลลังก์ ตระกูลหวงก็ได้แต่เฝ้ารอเวลา ต่อมาเมื่อเสด็จพี่ฮ่องเต้ได้ขึ้นครองบัลลังก์ ตระกูลหวงก็พร้อมที่จะส่งหวงหรูซื่อเข้าวัง แต่ใครจะรู้ ไทเฮาบอกว่าเสด็จพี่ฮ่องเต้ยังเด็ก เพียงพอแล้วที่จะมีฮองเฮากับนางสนมสองคนเคียงข้าง และยังเด็กเกินไปที่จะคิดเรื่องของชายหญิง ดังนั้นไทเฮาจึงระงับเรื่องการหานางสนม หวงหรูซื่อคนนี้อายุมากแล้ว หากยังรอให้เสด็จพี่ฮ่องเต้เป็นผู้ใหญ่ก็อาจจะต้องรอหลายปี หวงหรูซื่อจะกลายเป็นสาวเทื้อ และคงไม่มีความหวังที่จะได้เข้าไปในวัง” ถานอวี้ซูพูดอย่างกระฉับกระเฉง ดีจริง ๆ ที่หญิงคนนี้ไม่ต้องมารบกวนเสด็จพี่ฮ่องเต้

“ถ้าหวงหรูซื่อไม่สามารถเข้าไปในวังได้ บางทีตระกูลหวงอาจจะเห็นด้วยกับข้อเสนอของตระกูลฟาง” กู้เสี่ยวหวานหน้ามุ่ย ฟางเจิ้งสิงเป็นขุนนางระดับสูง ด้วยสถานะเช่นนี้ บางทีตระกูลหวงอาจจะยอมปล่อยให้หวงหรูซื่อแต่งงานกับฟางเจิ้งสิง

“ใช่แล้ว แต่ในตระกูลหวงมีลูกสาวหลายคน และหวงหรูซื่อไม่ใช่คนเดียวที่หน้าตาดี เมื่อหวงหรูซื่อไม่สามารถเข้าวังเป็นนางสนมได้ก็ยังมีคนอื่นอีก” ถานอวี้ซูเบะปากและพูดพลางแสดงสีหน้าเบื่อหน่าย

…………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด