ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวยบทที่ 1568 ความสุขของทั้งสอง
บทที่ 1568 ความสุขของทั้งสอง
…………….
บทที่ 1568 ความสุขของทั้งสอง
“อือ ตกลง” ฉินเย่จือลูบกลุ่มผมเนียนนุ่ม เมื่อได้กลิ่นหอมที่โชยออกมาก็ราวกับว่าร่างกายได้รับการเติมเต็ม
ตอนนี้นางยังเด็ก เขายังต้องรออีกนิด แต่ว่าครั้งนี้เขาไม่ต้องรอนานขนาดนั้นแล้ว
โค่วตันยืนรออยู่อย่างนั้นจนอาหารที่อยู่ในมือเปลี่ยนจากร้อนกลายเป็นเย็น ดังนั้นจึงตัดสินใจเคาะประตูอีกครั้งและถอยออกมายืนห่าง ๆ เมื่อไม่มีการเคลื่อนไหวจึงยืนรออีกสักพักเพื่อรอดูว่าประตูจะเปิดหรือไม่
แต่เมื่อคิดว่าประตูคงจะไม่เปิด ประตูก็ถูกเปิดออกพร้อมกับกู้เสี่ยวหวานที่เดินออกมา ทันทีที่นางปรากฏตัว อาจั่วที่ไม่รู้ว่ามาจากที่ไหนก็ปรากฏตัวขึ้น กู้เสี่ยวหวานจึงถามว่า “อาหารอยู่ที่ไหน”
อาจั่วตะโกนเรียกเสียงดัง และโค่วตันที่อยู่ด้านข้างก็เดินเข้ามาพร้อมกับสำรับอาหาร “คุณหนู อาหารเริ่มเย็นแล้ว ท่านต้องการให้ข้านำไปอุ่นอีกรอบหรือไม่”
ก่อนหน้านี้เพื่อป้องกันไม่ให้อาหารเย็นตัวลง โค่วคัวตันจึงใช้น้ำร้อนอุ่นมัน แต่ตอนนี้มันเริ่มเย็นลงแล้วหลังจากรอนางอยู่นาน
กู้เสี่ยวหวานลองชิมอาหารในสำรับ เมื่อเห็นว่ายังอุ่นอยู่จึงส่ายหน้า “ไม่เป็นไร อุณหภูมิกำลังพอดี ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว ทุกคนรีบกลับไปพักผ่อนเถอะ”
กู้เสี่ยวหวานเดินกลับเข้าไปในห้องและลงกลอนอย่างหนาแน่น คืนนี้มันดึกแล้ว และพี่เย่จือจะไม่ออกไปไหนอีก
เมื่อนึกถึงวิธีที่ก่อนหน้านี้เขาขอร้องให้อยู่ต่อ ใบหูของกู้เสี่ยวหวานก็ขึ้นสีแดงก่ำ สุดท้ายการต่อรองก็เกิดขึ้น ทั้งสองยอมถอยกันคนละก้าว กู้เสี่ยวหานปล่อยให้ฉินเย่จือนอนบนพื้นในห้องด้านหลัง นี่คือขอตกลงระหว่างพวกเขาทั้งสอง
เมื่อกลับเข้ามาในห้อง กู้เสี่ยวหวานก็เห็นฉินเย่จือกำลังปูผ้านวมลงบนพรม ทันทีที่เขาจัดการที่นอนของตนเองเสร็จก็หันกลับมา และเห็นกู้เสี่ยวหวานยื่นอยู่พร้อมกับสำรับอาหารในมือ
“นี่คือโจ๊กรังนกที่ข้าขอให้ในครัวเตรียมให้เจ้า หิวแล้วใช่หรือไม่ รีบกินเถอะ” กู้เสี่ยวหวานวางโจ๊กรังนกลงบนโต๊ะ นางเปิดผ้าแล้วใช้ช้อนตักขึ้นมาหนึ่งช้อน จากนั้นก็ส่งให้อีกฝ่าย
เดิมทีกู้เสี่ยวหวานแค่ต้องการมอบให้ฉินเย่จือ นางยังคงถือช้อนรออยู่อย่างนั้น แต่ฉินเย่จือก็ไม่ยอมรับมันไปสักที แต่แล้วเขาก็ก้มตัวลงแล้วอ้าปากกินโจ๊กรังนกในช้อนจากมือของนาง
กู้เสี่ยวหวานเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจและมองไปที่ฉินเย่จืออย่างตำหนิ
สายตาโกรธเคืองคู่นั้นทำให้ฉินเย่จืออารมณ์ดี ดังนั้นเขาจึงคิดที่จะแกล้งนางอีกครั้ง
“เมื่อครู่ข้าสัญญากับเจ้าว่าจะนอนบนพื้น แต่ตอนนี้เจ้าต้องป้อนมันให้ข้า”
“ป้อนงั้นหรือ? ท่านดึงดันจะอยู่ต่อเอง ไม่ใช่ข้าที่ขอร้องให้ท่านอยู่เสียหน่อย” ทันทีที่กู้เสี่ยวหวานพูดจบ นางก็ถูกเขากอดและอุ้มขึ้นมานั่งบนตัก
ป้อนอาหาร?
กู้เสี่ยวหวานพยายามดิ้น แต่ฉินเย่จือก็กอดนางแน่น ใบหน้าของนางแดงก่ำเมื่อนึกถึงสิ่งยังค้างคาระหว่างพวกเขาสองคนในเมื่อครู่ และความคิดนั้นมันทำให้นางหน้าแดงขึ้นมาอีกครั้ง ร่างกายรู้สึกร้อนรุ่มไปทั้งตัว นางอยากจะหนีไปให้ห่างความร้อนรุ่มนี้จึงเอ่ยขอร้อง “พี่เย่จือ ปล่อยข้าเถอะ”
“ตกลง ข้าจะปล่อยเจ้าไป แต่เจ้าต้องเป็นคนป้อนข้าวให้ข้า” แผนการของฉินเย่จือนั้นแยบยล ทำให้กู้เสี่ยวหวานพูดไม่ออก
“พี่เย่จือ เจ้าเป็นคนกอดข้าเอง ข้าไม่ได้ขอให้เจ้ากอดข้า” กู้เสี่ยวหวานหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก
สิ่งที่เขาทำถูกใช้เป็นเครื่องต่อรองกับนาง นางเคยพบเจอคนเจ้าเล่ห์ แต่ไม่เคยเจอคนที่เจ้าเล่ห์ขนาดนี้มาก่อน
กู้เสี่ยวหวานเม้มปากแน่น และมองไปที่ฉินเย่จืออย่างตำหนิ
ดวงตาที่ไร้เดียงสาเหมือนลูกแมวทำให้ฉินเย่จือพูดขึ้นขณะที่ยังกอดนางอยู่ “ถ้าเจ้าไม่เห็นด้วยก็ไม่เป็นไร ข้าจะกินหนึ่งคำและจูบเจ้าหนึ่งครั้ง เจ้าว่าเป็นอย่างไร”
กู้เสี่ยวหวานถูกจูบจนแทบหมดลมหายใจ เมื่อสัมผัสได้ถึงลมหายที่ไม่สม่ำเสมอของคนที่นั่งตักตนเองอยู่ ฉินเย่จือจึงยอมปล่อยนางในที่สุด
เขาหยุดจูบนาง หากแต่ไม่ได้ปล่อยมือที่โอบกอดนางไว้
กู้เสี่ยวหวานเม้มปากที่เกิดอาการชาจากการถูกจูบ นางมองค้อนไปที่ฉินเย่จือ จากนั้นมองชามใบใหญ่ที่เต็มไปด้วยโจ๊กรังนก
ทันใดนั้นก็รู้สึกว่านางกำลังขุดหลุมฝังตัวเอง
“ข้าจะกินอีกคำแล้วนะ” เมื่อเห็นว่ากู้เสี่ยวหวานยังลังเล ฉินเย่จือก็คว้าช้อนจากมือกู้เสี่ยวหวานและเตรียมที่จะตักโจ๊กอีกครั้ง
กู้เสี่ยวหวานไม่อยากถูกจูบจนแทบหมดลมหายใจแบบเมื่อครู่ หากปากของนางบวมจนคนในบ้านสังเกตเห็นจะทำอย่างไร?
กู้เสี่ยวหวานรีบยกธงขาวยอมแพ้ “ตกลง ๆ ข้าจะป้อน ข้าจะป้อนเจ้าเอง”
หลังจากพูดจบก็แย่งช้อนในมืออีกฝ่ายมาถือไว้แล้วตักโจ๊กขึ้นมาหนึ่งคำ จากนั้นก็ยื่นช้อนไปจ่อปากของฉินเย่จือ
ดวงตาเรียวยาวเต็มไปด้วยรอยยิ้ม คนตรงหน้าเขาไม่ได้แต่งหน้า แต่กลับเต็มไปด้วยความงามที่น่าหลงใหล
ฉินเย่จือปล่อยกู้เสี่ยวหวานในอ้อมแขนอย่างเชื่อฟัง กู้เสี่ยวหวานจึงรีบลุกขึ้นแล้วย้ายไปนั่งบนเก้าอี้อีกตัวทันที แต่นางก็ยังถือช้อนไว้ในมือแล้วจ่อไว้ใกล้กับปากของฉินเย่จือ
ฉินเย่จืออ้าปากและมองไปที่กู้เสี่ยวหวานอย่างเสน่หา
กู้เสี่ยวหวานจมอยู่ในดวงตาที่อ่อนโยนและเต็มไปด้วยความรัก นางรู้สึกว่าอุณหภูมิรอบตัวสูงขึ้นเรื่อย ๆ
ตอนแรกกู้เสี่ยวหวานเป็นคนป้อนฉินเย่จือ แต่สุดท้ายกลายเป็นทั้งสองป้อนกันและกัน เวลาผ่านไปเพียงไม่นาน โจ๊กรังนกชามใหญ่ก็หมดลง
กู้เสี่ยวหวานมักจะไม่กินอะไรหลังอาหารเย็น แต่คืนนี้ด้วยความที่นางนอนดึกจึงทำให้รู้สึกหิว ตอนนี้นางกินโจ๊กรังนกไปครึ่งชามแล้วและท้องก็เริ่มอิ่มขึ้นมา ตอนนี้จึงได้แต่นั่งลูบท้องอยู่บนเก้าอี้
เมื่อกินอิ่มแล้วก็เริ่มรู้สึกง่วงนอน นอกจากนี้มันก็ดึกมากแล้วจริง ๆ กู้เสี่ยวหวานหาวหวอด เอามือเท้าคางพลางลืมตามองไปทางตู้เสื้อผ้า
ฉินเย่จือกำลังเดินไปตรงตู้เสื้อผ้าเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า
เมื่อรู้ว่าคืนนี้เขาจะพักอยู่ที่นี่ กู้เสี่ยวหวานจึงหยิบเสื้อผ้าที่เตรียมไว้และขอให้เขาเปลี่ยนมัน
ชุดนอนของเขาเป็นสีขาวสะอาดราวกับเกล็ดหิมะ มันดูเข้าชุดกับเสื้อผ้าบนร่างกายของกู้เสี่ยวหวาน และรูปแบบก็ไม่ได้แตกต่างกันนัก
นี่คือชุดคู่รักที่นางสั่งตัดจากร้านขายผ้า
ตอนที่นางเลือกผ้าสำหรับทำชุด นางจินตนาการว่าถ้านางกับเขาใส่ชุดคู่กันจะเป็นอย่างไร ดังนั้นจึงเฝ้ารอเป็นอย่างมาก
ไม่คาดคิดว่าวันนั้นจะมาถึงอย่างรวดเร็วขนาดนี้
…………….
Comments