ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวยบทที่ 1571 อ่านจดหมาย

Now you are reading ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย Chapter บทที่ 1571 อ่านจดหมาย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 1571 อ่านจดหมาย

…………….

บทที่ 1571 อ่านจดหมาย

สองศรีพี่น้องมองไปยังจดหมายทั้งสองฉบับ พวกนางก็ตื่นเต้นจนเนื้อตัวสั่นไปหมด พวกนางรอจดหมายจากทั้งสองมานานแล้ว

อาจั่วรีบออกไปและปิดประตูลงทันที ทิ้งสองพี่น้องเอาไว้ในห้องเพื่ออ่านหนังจดหมายอย่างเป็นส่วนตัว

กู้เสี่ยวหวานรีบเปิดจดหมายฉบับแรกและอ่านตั้งแต่ต้นจนจบ ยิ่งนางอ่าน รอยยิ้มบนใบหน้าก็ยิ่งกว้างขึ้น

กู้เสี่ยวอี้ก็อ่านจากด้านข้างเช่นกัน แต่ความเร็วในการอ่านของนางไม่เร็วนัก พี่สาวของนางอ่านจบหนึ่งหน้า แต่นางยังอยู่ที่ย่อหน้าแรก

ย่อหน้าแรกเป็นเพียงการทักทาย โดยไม่มีเนื้อหาสำคัญ กู้เสี่ยวอี้จึงรีบถาม “ท่านพี่ ท่านพี่หนิงอันเขียนมาว่าอย่างไรบ้าง”

เมื่ออ่านจดหมายทั้งสองฉบับจบลงก็มีความสุขมาก เมื่อมองไปที่กู้เสี่ยวอี้จึงพูดอย่างตื่นเต้นว่า “พี่ชายของเจ้ากำลังจะสอบฮุ่ยซื่อ*[1] เขาลงทะเบียนสมัครสอบเรียบร้อยแล้ว”

“จริงหรือ ท่านพี่จะสอบแล้วหรือ” กู้เสี่ยวอี้เอ่ยย้ำด้วยความไม่เชื่อ จากนั้นก็กระโดดอย่างตื่นเต้น “ท่านพี่จะได้สอบแล้ว ท่านพี่จะได้สอบแล้ว”

เมื่อเห็นกู้เสี่ยวอี้กระโดดโลดเต้นอย่างมีความสุข กู้เสี่ยวหวานก็ยิ้มและพูดว่า “เจ้าเด็กโง่ พี่ชายของเจ้ายังไม่สอบ ทำไมเจ้ามีความสุขมากขนาดนี้”

“ท่านพี่ พี่หนิงอันเรียนหนักและได้รับการสอนโดยท่านอาจารย์ฝาง ดังนั้นเขาจะต้องสอบผ่านได้อย่างแน่นอน” กู้เสี่ยวอี้กล่าวอย่างหนักแน่น

กู้เสี่ยวหวานพยักหน้าด้วยความมั่นใจในตัวกู้หนิงอัน

ขณะที่นางมองดูจดหมายในมือ มือก็สั่นเทาเล็กน้อย จากนั้นน้ำตาก็หลั่งรินออกมาอย่างควบคุมไม่ได้ น้ำตาของนางหยดลงบนจดหมายทำให้หมึกจางลง

เมื่อกู้เสี่ยวหวานเห็นจึงรีบใช้ผ้าเช็ดหน้าซับลงบนจดหมาย เช็ดจนผ้าเช็ดหน้าผืนขาวสะอาดกลายเป็นสีน้ำหมึก

นางยังจำครั้งเมื่อกู้หนิงอันสอบครั้งแรกได้ เนื่องจากการเล่นสกปรกของกู้ฉวนลู่และกู้จือเหวิน กระดาษคำตอบของกู้หนิงอันจึงถูกกู้จือเหวินเอาไป และกู้จือเหวินก็แย่งตำแหน่งบัณฑิตไปด้วย

อย่างไรก็ตาม ตราบใดที่มีพรสวรรค์และตั้งใจเรียนรู้จริง ๆ มันก็แค่โชคร้ายเพียงครั้งเดียว เขาจะประสบพบเจอเหตุการณ์เลวร้ายแบบนั้นซ้ำ ๆ ได้อย่างไร

เมื่อการสอบครั้งที่สองมาถึง เขาก็สอบผ่านได้อย่างง่ายดาย

นอกจากนี้ ครั้งนี้ยังได้เรียนกับท่านอาจารย์ฝาง และด้วยชื่อเสียงของท่านอาจารย์ฝาง คงไม่มีใครกล้ายุ่งกับกระดาษคำตอบของเขา สิ่งที่ควรเป็นของกู้หนิงอันก็คือของกู้หนิงอัน

กู้เสี่ยวหวานตื่นเต้นมาก ทั้งสองคนอ่านจดหมายพลางหัวเราะและร้องไห้อยู่พักหนึ่ง

จดหมายกล่าวว่ากู้จือเหวินสอบจวี่เหรินไม่ผ่านหลายครั้ง และคราวนี้เขากำลังจะลงทะเบียนอีกครั้งเพื่อสอบกับเขา แต่กู้หนิงอันไม่กลัวว่ากู้จือเหวินจะทำสิ่งที่น่ารังเกียจเช่นนั้นอีก

กู้จือเหวินเรียนไม่เก่งและยังโยนความผิดที่เขาสอบจวี่เหรินไม่ผ่านไปที่สถานศึกษา กู้ฉวนลู่รู้สึกว่าลูกชายของเขาเป็นต้นกล้าที่ดีและเป็นความผิดของอาจารย์ที่ลูกชายของเขาสอบจวี่เหรินไม่ผ่าน

ดังนั้นพวกเขาจึงแอบหาคนมาทำร้ายอาจารย์ ต่อมาเมื่อคนร้ายถูกจับได้ เขาก็สารภาพว่ากู้ฉวนลู่เป็นคนจ้างเขามา กู้ฉวนลู่จึงถูกขังอยู่ในคุกเวลาหลายวัน

เขาสอบไม่ผ่านและยังโทษว่าเป็นความรับผิดชอบของท่านอาจารย์ ทั้งยังหาคนมาทำร้ายท่านอาจารย์อีก สำนักศึกษาไหนจะกล้ารับนักเรียนที่มาจากครอบครัวนิสัยแบบนี้

เมื่อเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นก็กลายเป็นเรื่องยากที่เขาจะทำเรื่องแบบนั้นอีก กู้ฉวนลู่ใช้เงินเป็นจำนวนมากเพื่อจัดการเรื่องนี้ และกู้จือเหวินก็ได้กลับไปเรียนที่สำนักศึกษาอีกครั้ง

เมื่อเห็นข้อความนี้ กู้เสี่ยวหวานพูดด้วยรอยยิ้ม “ครอบครัวใหญ่ตระกูลกู้ดูเหมือนจะร่ำรวยมาก น่าขันเสียจริง”

ลูกชายของตัวเองไร้ประโยชน์ แต่กลับโทษอาจารย์ กู้ฉวนลู่ตั้งความหวังเอาไว้สูงมากกับลูกชายคนนี้

“ท่านพี่ พวกเขาขโมยกระดาษคำตอบของพี่หนิงอันในปีนั้น และพวกเขาก็น่าจะได้รับผลกรรมเช่นนั้นแล้ว การสอบคราวที่แล้วก็ไม่ได้สอบผ่านด้วยตนเอง แต่คราวนี้เขาจะโชคดีแบบนั้นได้อย่างไร” เมื่อกู้เสี่ยวอี้นึกถึงเรื่องนี้ นางก็หัวเราะเยาะ

ตอนนั้นพี่ชายของนางมีอาการซึมเศร้าอยู่หลายวัน เขารู้สึกว่าตนเองเรียนหนังสืออย่างจริงจัง แต่สุดท้ายเขาก็สอบไม่ผ่าน เขาจึงสงสัยเกี่ยวกับความสามารถของตนเอง

ตอนนี้พี่ชายของนางกำลังจะสอบจวี่เหริน และเขาก็เป็นลูกศิษย์ของท่านอาจารย์ฝาง ดังนั้นจึงไม่มีใครกล้ายุ่งกับพี่ชายของนาง

กู้เสี่ยวหวานไม่สนใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับครอบครัวใหญ่ตระกูลกู้ อย่างไรก็ตาม นางรู้ว่าในที่สุดน้องชายของนางก็จะมีอนาคตที่สดใส

“ท่านพี่ พี่หนิงอันจะมาที่เมืองหลวงเมื่อไร” กู้เสี่ยวอี้ไม่ได้เจอพี่ชายมานาน และนางก็คิดถึงเขาจนทนแทบไม่ไหว

“ไม่ใช่ช่วงนี้ เร็วที่สุดก็ปีใหม่ เดือนหน้าเขาจะเริ่มเตรียมตัวสอบแล้ว หลังจากสอบเสร็จ พี่ชายของเจ้าจะอยู่ดูแลท่านอาจารย์ฝางสักพัก บางทีเขาอาจจะมาที่เมืองหลวงในช่วงปีใหม่ปีนี้” กู้เสี่ยวหวานเดาตามสิ่งที่เขียนในจดหมาย

กู้หนิงอันกล่าวในจดหมายว่า เขาจะต้องแสดงความกตัญญูต่อท่านอาจารย์ฝาง และแน่นอนว่ากู้เสี่ยวหวานก็เห็นด้วย

หลังจากอ่านจดหมายของกู้หนิงอันแล้ว กู้เสี่ยวหวานก็เปิดจดหมายที่กู้หนิงผิงส่งมา

จดหมายที่กู้หนิงผิงส่งมานั้นหนามาก กู้เสี่ยวหวานเดาว่าทำไมกู้หนิงผิงจึงต้องเล่าอะไรมากมายหลังจากบ้านไปสองสามเดือน แต่หลังจากเปิดจดหมายดูก็มีจดหมายอีกฉบับหลุดออกมาจากซองจดหมาย

“ทำไมถึงมีสองฉบับล่ะ?” กู้เสี่ยวอี้หยิบมันขึ้นมาด้วยความสงสัย และเมื่อนางเห็นข้อความบนนั้น นางปิดปากและหัวเราะเสียงดัง “ท่านพี่ อ่านเร็ว อ่านเร็ว จดหมายฉบับนี้เขียนถึงใคร ฮี่ ๆ”

กู้เสี่ยวหวานหยิบมันขึ้นมาดู และเห็นว่าเป็นชื่อของถานอวี้ซูที่เขียนอยู่บนนั้น เห็นได้ชัดว่าเป็นจดหมายที่ส่งถึงถานอวี้ซู และซองจดหมายนั้นถูกปิดผนึกอย่างดี

กู้เสี่ยวหวานบีบมันและหลังจากเปรียบเทียบความหนาของจดหมายทั้งสองแล้ว นางก็หัวเราะ “เจ้าเด็กโง่ เจ้าลืมพี่สาวไปแล้วหรือ จดหมายที่เจ้าเขียนถึงนางนั้นหนากว่าที่เขียนถึงข้าอีก”

มันคือจดหมายของถานอวี้ซู กู้เสี่ยวหวานต้องการมอบมันให้กับนางโดยตรง และขอให้คนใช้ในบ้านไปที่จวนแม่ทัพเพื่อเชิญนางมาที่นี่

ในขณะที่กำลังรอ กู้เสี่ยวหวานก็อ่านจดหมายที่กู้หนิงผิงเขียนถึงตัวเองและมันก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในกองทัพ

ตั้งแต่ความไม่คุ้นเคยจนถึงตกหลุมรักชีวิตที่นั่น และฝากตัวเป็นศิษย์ของอาจารย์ผู้ชำนาญคนหนึ่ง เรียนรู้การออกรบและเรียนรู้การอ่านเขียนทุก ๆ วันอย่างความสุข

*[1] เป็นการสอบระดับประเทศ

…………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด