ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวยบทที่ 1574 อยากได้จดหมายรักจากเขาบ้าง
บทที่ 1574 อยากได้จดหมายรักจากเขาบ้าง
…………….
บทที่ 1574 อยากได้จดหมายรักจากเขาบ้าง
“ท่านพี่ คำชมเชยจะเรียนรู้ได้อย่างไร ข้าได้เห็นพี่สาวที่แสนดีของข้าทุกวัน ข้ารู้สึกว่าคำพูดเหล่านั้นไม่มากเกินไปสำหรับท่าน” กู้เสี่ยวอี้พูดอย่างไม่ถ่อมตนเลยแม้แต่น้อย
“ท่านพี่ของข้าดีที่สุดในใต้หล้า สวยที่สุด อ่อนโยนที่สุด เก่งที่สุด เป็นท่านพี่ที่ดีของพวกเราตลอดไป”
“ฮ่าฮ่าฮ่า ดูเหมือนว่าจะเจ้าลืมไปคำหนึ่งนะ” กู้เสี่ยวหวานกล่าวเคล้ารอยยิ้ม ดวงตากลมโตสีดำขลับคู่นั้นเปล่งประกายเล็กน้อย
“อะไรหรือเจ้าคะ?” กู้เสี่ยวอี้ใคร่สงสัย
“เห็นแก่เงินที่สุด” เป้าหมายของกู้เสี่ยวหวานคือการเป็นผู้หญิงที่ร่ำรวยที่สุด และเป็นเจ้าของที่ดินจำนวนมาก
“ฮ่าฮ่าฮ่า” สองพี่น้องโผเข้ากอดกันแล้วหัวเราะอย่างมีความสุข
หลังจากดูผ้าชุดนั้นแล้ว กู้เสี่ยวหวานก็อธิบายบางอย่างให้กู้เสี่ยวอี้ฟัง และบอกนางว่าอย่าทำงานเย็บปักถักร้อยในตอนกลางคืน แต่หลังจากทำงานเย็บปักถักร้อยไปครึ่งชั่วยาม นางก็ควรลุกขึ้นเดินยืดเส้นยืดสายสักหน่อย
เมื่อคำนวณเวลาแล้ว ตอนนี้ถานอวี้ซูคงจะอ่านจดหมายจบแล้ว กู้เสี่ยวหวานจึงกลับไปที่ห้องของตนเอง ประจวบเหมาะกับที่เห็นว่าประตูเปิดถูกอยู่ และอาอวี้กำลังปลอบโยนถานอวี้ซูอยู่ด้านใน
ดวงตาของถานอวี้ซูเป็นสีแดงก่ำ เห็นได้ชัดว่าเพิ่งผ่านการร้องไห้มา
หัวใจของกู้เสี่ยวหวานเต้นไม่เป็นจังหวะ นางวิ่งเข้าไปในห้องพร้อมกับคำพูดไม่กี่คำ น้ำตาที่หยุดไหลไปแล้วของถานอวี้ซูก็ไหลออกมาราวกับสร้อยลูกปัดที่ด้ายขาด
“อวี้ซู เจ้าเป็นอะไร หนิงผิงรังแกเจ้าหรือ เจ้าเด็กสารเลว ไปกองทัพแล้วเรียนรู้วิธีรังแกคนอื่นมาอย่างนั้นหรือ ดูสิว่าข้าจะหักขาเขาอย่างไร”
กู้เสี่ยวหวานเองก็เป็นผู้หญิงเช่นกัน ดังนั้นนางจึงต้องเข้าข้างผู้หญิงด้วยกันเองเป็นธรรมชาติ
ยิ่งกว่านั้น ความรักที่นางต้องการคือ การให้ผู้ชายพาผู้หญิงขึ้นสวรรค์
อวี้ซูป็นเด็กดี การทำให้นางร้องไห้นั้นไม่ใช่เรื่องดี
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น สะใภ้ที่ต้องการแต่งงานกับตระกูลกู้ก็เป็นสมบัติของตระกูลกู้
นางต้องจากบ้านมาเพื่อแต่งงานไปอยู่ในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย เขาจะเป็นผู้ชายแบบไหนถ้าไม่ดูแลภรรยาให้ดี?
อาอวี้ยืนอยู่ด้านข้าง นางมองไปที่เสี้ยนจู่อันผิงด้วยความประหลาดใจ
แต่คิดอย่างนี้แล้วก็รู้สึกดีขึ้นเรื่อย ๆ และดีใจแทนคุณหนูที่มีพี่สามีดี ๆ อย่างนี้ ในอนาคตคุณหนูคงจะมีชีวิตที่สงบสุขและราบรื่นแน่นอน
อาอวี้รู้สึกดี และถานอวี้ซูเองก็เช่นกัน แต่เมื่อเห็นว่าพี่สามีในอนาคตโกรธเคืองและพยายามจะหักขาของสามีในอนาคตแทนนาง ถานอวี้ซูก็ชะงักงันไปครู่หนึ่ง โดยรู้ว่าพี่สามีคนนี้มีบุคลิกที่ไม่ยอมพ่ายแพ้ และเพราะกลัวว่ากู้เสี่ยวหวานจะทำอย่างนั้นจริง ๆ นางจึงเริ่มร้องไห้อีกครั้ง “ท่านพี่ ไม่ใช่ ไม่ใช่หนิงผิงที่รังแกข้า ไม่ เป็นข้าเองที่อยากจะร้องไห้”
หลังจากได้ยินเรื่องนี้ กู้เสี่ยวหวานก็รีบถามด้วยความเป็นห่วง “เป็นเพราะหนิงผิงพูดอะไรบางอย่างในจดหมายหรือเปล่า? เจ้าไม่ชอบหรือ ไอ้เด็กสารเลวนั่น ถ้าพูดดี ๆ ไม่ได้ก็อย่าพูดไร้สาระ”
อาอวี้ตกตะลึงอีกครั้ง ท่านเสี้ยนจู่… หนิงผิงคนนั้นเป็นน้องชายแท้ ๆ ของท่านนะ!
“ไม่ สิ่งที่เขาพูดล้วนเป็นคำพูดที่ดี” ถานอวี้ซูส่ายศีรษะ เมื่อนึกถึงข้อความในจดหมายของหนิงผิง ใบหน้าของนางเปลี่ยนเป็นสีแดงลามจนไปถึงใบหูด้วยเหตุผลบางอย่าง
กู้เสี่ยวหวานจะไม่เห็นท่าทางแปลกประหลาดของถานอวี้ซูได้อย่างไร
ด้วยท่าทางที่เขินอายและพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อปกป้องกู้หนิงผิง ไม่ว่ากู้เสี่ยวหวานจะโง่เขลาเพียงใดก็สามารถเดาได้ว่ากู้หนิงผิงแสดงความรักในจดหมายมากมาย
“แล้วหนิงผิงเขียนแสดงความรักมาอย่างไรบ้าง” เมื่อเห็นว่าถานอวี้ซูไม่เป็นอะไร นางก็รู้สึกโล่งใจ แต่น้อยครั้งนักที่จะได้เห็นหน้าเด็กคนนี้มีท่าทางเขินอาย
“เขาบอกว่า เขาคิดถะ…” ถานอวี้ซูหน้าแดงและโพล่งออกมาตามคำพูดของกู้เสี่ยวหวาน เมื่อพูดได้ครึ่งประโยค นางก็ตระหนักได้ในทันที
นางอดไม่ได้ที่จะเขินอาย ดังนั้นจึงกระทืบเท้าก่อนหันหน้าหนี และพูดกับกู้เสี่ยวหวานอย่างฉุนเฉียวว่า “ท่านพี่ ท่านรังแกข้า!”
ความจริงแล้ว กู้เสี่ยวหวานไม่ได้รังแกนางเลย
นางแค่อยากรู้เกี่ยวกับสิ่งที่เขียนในจดหมายของกู้หนิงผิง
ชายหนุ่มผู้ไม่เคยมีความรักมาก่อนและอายุเพียงสิบสี่ปี เขาจะเขียนคำพูดใด ๆ ที่ทำให้คนรักของเขาร้องไห้อย่างขมขื่นได้เชียวหรือ?
กู้หนิงผิงนี้มีความสามารถจริง ๆ กู้เสี่ยวหวานคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ และทันใดนั้นก็จำได้ว่าหลายปีมานี้ฉินเย่จือไม่เคยให้จดหมายกับนางสักฉบับ
นางก้มศีรษะลงอีกครั้งโดยไม่ตั้งใจ
สำหรับคนรักที่ยุ่งมากและเจอกันได้แค่ครึ่งเดือนครั้งก็ควรแสดงออกบ้างไม่ใช่หรือ? เช่น เขียนจดหมายรักบอกความในใจ สิ่งนี้สามารถทำได้ไม่ใช่หรือ
กู้เสี่ยวหวานต้องการสัมผัสกับความรู้สึกของเรื่องราวความรักที่ทำให้หัวใจเต้นแรงราวกับถูกกระตุ้น
หลังจากที่ถานอวี้ซูเก็บจดหมายไว้ในอ้อมแขนเหมือนสมบัติล้ำค่า กู้เสี่ยวหวานก็รู้สึกหดหู่ใจ และนั่งลงเงียบ ๆ ที่หน้าโต๊ะเครื่องแป้งพลางมองแหวนหยกและปิ่นปักผมที่ฉินเย่จือให้นาง
ไม่รู้ว่าทำไม ในภายหลังฉินเย่จือให้สิ่งของมากมายแก่นาง แต่สองสิ่งนี้เป็นสิ่งที่นางโปรดปรานมากที่สุด
บางทีนี่อาจเป็นสิ่งที่นางได้รับเป็นครั้งแรก และอีกชิ้นหนึ่งเขาแกะสลักด้วยตัวเอง ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าสองสิ่งนี้
“คุณหนู ท่านเป็นอะไรหรือเปล่า” อาจั่วยืนอยู่ด้านข้าง มองดูคุณหนูของตนที่นั่งอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง โดยใช้มือข้างหนึ่งกุมหน้าผาก ส่วนอีกมือหนึ่งเล่นกับแหวนหยกและปิ่นปักผมไม้เป็นระยะ ๆ ดวงตาคู่นั้นดูเหม่อลอย
อาจั่วไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับคุณหนูของตนเอง แต่รู้เพียงว่าหลังจากที่คุณหนูแกล้งจวิ้นจู่ นางก็เริ่มมีท่าทางเช่นนี้ราวกับว่ากำลังน้อยใจ
อาจั่วติดตามกู้เสี่ยวหวานตามคำพูดของฉินเย่จือ นางต้องปกป้องคุณหนูด้วยชีวิตและปฏิบัติต่อนางอย่างสุดหัวใจ
เมื่อคุณหนูไม่มีความสุข นางจึงต้องการทำให้คุณหนูมีความสุขให้ได้
เหมือนตอนนี้…
แม้อาจั่วจะไม่แน่ใจว่าตัวเองจะทำให้คุณหนูมีความสุขได้หรือไม่ แต่ก็เป็นครั้งแรกที่เห็นคุณหนูแสดงออกเช่นนี้หลังจากอยู่ด้วยกันมาหลายปี
“คุณหนู” เมื่อเห็นว่ากู้เสี่ยวหวานไม่พูด อาจั่วจึงเอ่ยเรียกอีกครั้งด้วยความเป็นห่วง
จากนั้นกู้เสี่ยวหวานก็สัมผัสได้ จึงเลิกเล่นแหวนหยกที่คอและเสียบปิ่นปักผมไม้กลับเข้าไปในผม ก่อนจะลุกขึ้นและพูดว่าไม่มีอะไรผิดปกติ
…………….
Comments