ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวยบทที่ 1581 จดหมายจากท่านแม่ทัพ

Now you are reading ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย Chapter บทที่ 1581 จดหมายจากท่านแม่ทัพ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 1581 จดหมายจากท่านแม่ทัพ

…………….

บทที่ 1581 จดหมายจากท่านแม่ทัพ

“เป็นไปได้หรือไม่ว่าลูกจ้างในร้านจะมีความคับแค้นใจกับคนพวกนั้น เลยแอบใส่ยาพิษเข้าไป” ฤทธิ์ของยาพิษนั้นรุนแรง ได้ยินมาว่าคนพวกนั้นกินเข้าไปไม่ถึงครึ่งชั่วยามก็เริ่มน้ำลายฟูมปากและมีเลือดไหลออกมาจากรูทวารทั้งเจ็ด… น่าสยดสยองยิ่งนัก!

“ยังไม่ชัดเจน ข้าได้ยินเสี่ยวเซิ่งจื่อบอกว่า พ่อครัว แม่ครัว และเหล่าลูกจ้างถูกพาตัวไปทั้งหมด” กู้เสี่ยวหวานคิดไม่ตก

“ถ้าเป็นกรณีนี้ ต้องมีความโกรธแค้นมากเพียงใดถึงกล้าฆ่าแกงกันในที่สาธารณะได้” ถานอวี้ซูพึมพำ “หนีปิ่ง ผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบ เขาเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาเก่าของท่านปู่ เขาซื่อสัตย์และเที่ยงตรง อีกทั้งยังเป็นขุนนางที่ดี ข้าจะบอกท่านปู่ ให้ท่านปู่ไปบอกเรื่องนี้แก่ผู้บัญชาการหนี สถานที่แห่งนั้นราวกับนรก ถ้าได้เหยียบย่างเข้าไปต้องได้รับความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่”

เมื่อกู้เสี่ยวหวานได้ยินสิ่งนี้ จึงพยักหน้าและขอบคุณ “อวี้ซู ขอบคุณเจ้าแล้ว”

“ท่านพี่ขอบคุณข้าทำไมกัน เรื่องของท่านก็คือเรื่องของข้า นอกจากนี้ ข้าได้ยินมาว่าเถ้าแก่หลี่คอยดูแลท่านและพี่หนิงผิง เขาเป็นผู้มีพระคุณของครอบครัวกู้ ดังนั้นเขาจึงเป็นผู้มีพระคุณของข้าด้วย” ถานอวี้ซูกล่าวอย่างหนักแน่น

“ไม่ได้สิ ข้าจำเป็นต้องขอบคุณเจ้า เพราะข้าก็เป็นเจ้าของร้านอีกคนของร้านจิ่นฝู” กู้เสี่ยวหวานกล่าว “ทั้งร้านจิ่นฝูและร้านฝูจิ่นมีส่วนเกี่ยวข้องกับข้า ตอนนี้เกิดเรื่องขึ้นกับร้านจิ่นฝูก็ย่อมต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับข้า ถ้าเกิดหายนะในร้านจิ่นฝู ข้าก็ไม่สามารถหลบหนีได้ นอกจากนี้ลุงหลี่ยังเป็นผู้มีพระคุณของข้า เขาช่วยเหลือข้าตั้งแต่ตอนที่ข้ายากจนและไม่มีแม้แต่เงินจะกินข้าว เขาเป็นคนแรกที่เชื่อในตัวข้าและสนับสนุนข้า ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับเขา ข้าจะไม่มีวันให้อภัยตัวเอง”

เวลานั้นนางเองก็มีส่วนร่วมในแผนการที่จะมาเปิดร้านที่เมืองหลวง หากนางไม่ต้องการเปิดร้านจิ่นฝู ครอบครัวของท่านลุงจะยังคงใช้ชีวิตอย่างสุขสบายในเมืองหลิวเจีย และไม่ต้องมาเจอเหตุการณ์เช่นนี้

หลังจากที่ถานอวี้ซูได้ฟัง นางก็รู้สึกประหลาดใจ

“ท่านพี่ไม่ต้องกังวลไป ท่านลุงหลี่จะไม่เป็นอะไรแน่นอนเจ้าค่ะ”

“อวี้ซู ข้าต้องการขอพบท่านลุงหลี่จะได้หรือไม่” กู้เสี่ยวหวานต้องการถามด้วยตนเองว่าเกิดอะไรขึ้นในวันนี้

ถานอวี้ซูพยักหน้า “ท่านพี่ไม่ต้องกังวล ท่านรอข้าที่นี่ เมื่อข้าจัดการเรียบร้อยแล้ว ข้าจะพาท่านไปที่นั่น”

ด้านถานเย่สิงเองก็ได้ยินมาว่ามีเรื่องในร้านจิ่นฝู เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย ยิ่งไปกว่านั้น ร้านอาหารแห่งนี้กำลังได้รับความสนใจในเมืองหลวง ผู้คนย่อมให้ความสนใจเป็นธรรมดา ไม่ต้องพูดถึงการเสียชีวิตของคนทั้งสี่คนเลย

ในเวลานั้น ครอบครัวกู้ดูแลอวี้ซูและถานเย่สิงเป็นอย่างดี ดังนั้นเขาจึงต้องการตอบแทน “เจ้าสามารถมอบจดหมายลายมือของข้าให้กับเสี้ยนจู่อันผิงได้ และหนีปิ่งจะรู้ว่ามันหมายถึงอะไร ข้าจะบอกหนีปิ่งด้วยว่าเสี้ยนจู่อันผิงเป็นผู้มีพระคุณ โปรดแสดงความสุภาพกับนางด้วย”

ไม่ง่ายเลยที่ถานเย่สิงจะเข้ามาแทรกแซงเรื่องคนตายในเมืองหลวง นับเป็นพระคุณอย่างสูงที่สามารถทำได้

ถานอวี้ซูกำลังจะจากไปพร้อมกับจดหมาย แต่ถานเย่สิงก็กล่าวเสริมว่า “ให้รองผู้บัญชาการเฉินไปกับเจ้าด้วย”

มันคงเป็นเรื่องไม่ดีถ้าจะให้ผู้หญิงไปที่นั่นตามลำพัง

เมื่อได้ยินดังนั้น ถานอวี้ซูก็ยิ้มและรีบพูดว่า “ขอบคุณเจ้าค่ะ”

ถานเย่สิงส่ายหน้า ก่อนจะคลี่ยิ้มเมื่อเห็นท่าทางของหลานสาว ไม่รู้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นในร้านจิ่นฝูจะยุติได้หรือไม่

มันคงจะดีถ้าคนธรรมดาตาย แต่…

เฮ้อ…

ปล่อยให้เป็นเรื่องของโชคชะตาเถอะ

ถานอวี้ซูได้รับจดหมายและยังสามารถพารองผู้บัญชาการเฉินเหมิ่งที่มากอำนาจไปด้วยได้ กู้เสี่ยวหวานจึงมีความมั่นใจมากขึ้นในการเดินทางครั้งนี้ และนางรู้สึกขอบคุณแม่ทัพถานเย่อย่างสุดซึ้ง

หลังจากเตรียมการบางอย่างแล้ว ก็พากู้เสี่ยวหวานไปที่กองกำลังรักษาความสงบ

หลังจากที่พวกเขาจากไปแล้ว ในขณะที่ไม่มีใครเห็น สาวใช้ในชุดสีเขียวก็วิ่งไปที่ประตูหลัง

ในไม่ช้า รถม้าก็มาถึงกองกำลังรักษาความสงบ ทหารยามหกคนสวมชุดเกราะเหล็ก สวมหมวก และถือหอกยาวยืนอยู่ที่ประตูอย่างเคร่งขรึม พลางตะโกนเสียงดัง “นั่นใคร!”

จดหมายที่ถูกเขียนขึ้นด้วยลายมือของถานเย่สิงถูกยื่นออกมาจากรถม้า “จดหมายที่เขียนด้วยลายมือของท่านแม่ทัพถาน ข้ามีธุระสำคัญที่ต้องคุยกับผู้บัญชาการหนี”

ผู้คุมเห็นตราประทับหัวเสือบนจดหมายก็รีบคุกเข่าลงและพูดว่า “ท่านแม่ทัพถาน ข้ามีตาหามีแววไม่ ให้รถม้าเข้าไปข้างใน!”

หลังจากพูดจบ เขาก็รีบเปิดประตูทันควัน

หนีปิ่งกำลังสอบปากคำนักโทษภายในห้องขัง เมื่อได้ยินว่าท่านแม่ทัพถานกำลังมาจึงรีบกลับไปที่ห้องโถง และคาดเดาจุดประสงค์ของการมาเยี่ยมของท่านแม่ทัพถาน

แต่เมื่อมาถึงกลับไม่เห็นแม่ทัพถานแต่อย่างใด เห็นเพียงรองผู้บัญชาการเฉินเหมิ่งในชุดเกราะที่ติดตามท่านแม่ทัพถานตลอดเวลายืนอยู่กลางห้องโถง ข้างกายมีคนสองคนยืนอยู่

“รองผู้บัญชาการเฉิน มีเรื่องอันใดถึงมาที่นี่งั้นหรือ” รองผู้บัญชาการเฉินคนนี้เป็นคนที่ท่านแม่ทัพถานไว้ใจได้มากที่สุด การได้เจอเขาก็เหมือนกับการได้เจอท่านแม่ทัพถาน

“ผู้บัญชาการหนี ข้ามาที่นี่ตามคำสั่งของท่านแม่ทัพถานเพื่อหารือเรื่องบางอย่าง” รองผู้บัญชาการเฉินกล่าวเคล้ารอยยิ้มและประสานมือทำความเคารพอีกฝ่าย

กู้เสี่ยวหวานสวมเสื้อคลุมตัวหนา เมื่อเห็นผู้บัญชาการคนนี้ซึ่งรับผิดชอบในการลาดตระเวนจับโจรในเมืองหลวง ร่างสูงใหญ่ในชุดดำอายุประมาณสี่สิบปี บริเวณคางไว้เครา มีใบหน้าใหญ่และจมูกโต เขาดูเป็นคนที่ซื่อสัตย์และใจดี

“หากท่านแม่ทัพถานมีคำสั่ง เช่นนั้นคำสั่งของแม่ทัพถาน ผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างพวกเราจะทำให้ดีที่สุดและจะไม่ทำให้ภารกิจของท่านแม่ทัพล้มเหลว” หนีปิ่งเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของถานเย่สิงในกองทัพ เขาติดตามถานเย่สิง กล้าหาญและเก่งกาจ เขาชื่นชมและเคารพถานเย่สิงมาก

หลังจากที่เขากลับมาประจำการที่เมืองหลวง ถานเย่สิงได้ช่วยเหลือเขาเอาไว้มาก ดังนั้นหนีปิ่งจึงเคารพท่านแม่ทัพที่ใจดีคนนี้มาก

“ผู้บัญชาการหนี เนื่องจากท่านพูดอย่างนั้นข้าจะไม่อ้อมค้อม หลี่ฝานเจ้าของร้านจิ่นฝูที่ถูกกองกำลังรักษาความสงบจับกุมในข้อหาฆาตกรรมวันนี้ เขาเป็นผู้มีพระคุณของน้องชายข้า ข้าได้ยินมาว่าวันนี้เขามีปัญหา ข้าจึงอยากมาหาเขา”

หนีปิ่งมองตามสายตาของเฉินเหมิ่งและเห็นคนสองคนที่แต่งกายด้วยเสื้อผ้าผู้ชาย พวกเขาคือคนสองคนที่เขาเห็นเมื่อครู่

คนที่อยู่ตรงหน้าเขามีหน้าตาที่ดี รูปร่างสมส่วน พวกเขาไม่ใช่ผู้ชาย เห็นได้ชัดว่าเป็นหญิงสาวสวยสองคน

…………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด