ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวยบทที่ 1586 หน้าบ้านตระกูลหลี่
บทที่ 1586 หน้าบ้านตระกูลหลี่
…………….
บทที่ 1586 หน้าบ้านตระกูลหลี่
“อะไรนะ?” เมื่อกู้เสี่ยวหวานได้ยินสิ่งนี้ ร่างกายของนางก็ซวนเซจนแทบจะล้มลง ใบหน้าของนางพลันซีดเผือด มือเล็กคู่หนึ่งคว้าจับโต๊ะไว้แน่นเพื่อไม่ให้ร่างกายล้มลง “ไปบ้านตระกูลหลี่เดี๋ยวนี้!”
“คุณหนูใจเย็น ๆ ก่อนนะเจ้าคะ” เมื่ออาจั่วเห็นว่ากู้เสี่ยวหวานกำลังจะไปที่บ้านตระกูลหลี่อย่างไม่ลังเล ดังนั้นนางจึงรีบคว้าตัวกู้เสี่ยวหวานไว้และพูดว่า “ด้านนอกตระกูลหลี่ถูกล้อมรอบไปด้วยผู้คน ข้าเกรงว่าแม้แต่นกก็บินเข้าไม่ได้ ถ้าพวกเราไปก็คงทำอะไรไม่ได้เหมือนกัน”
“ตอนนี้อาการของฮูหยินเฒ่าหลี่ไม่แน่นอน และคนรับใช้ของตระกูลหลี่ก็ตายไปแล้วหนึ่งคน ถ้าข้าไม่ไปที่นั่น ข้าเกรงว่าคงจะมีคนตายมากกว่านี้” กู้เสี่ยวหวานกัดฟันพูด
ในตอนที่นางไปหาหลี่ฝานที่ห้องขัง หลี่ฝานจับมือของนางและขอร้องนางเพียงหนึ่งอย่างว่า “เสี่ยวหวาน ถ้าข้าออกไปไม่ได้ ข้าจะไม่โทษอะไรทั้งนั้น แต่ท่านแม่ของข้า ภรรยาและลูกทั้งสองคนของข้า เสี่ยวหวาน…โปรดดูแลพวกเขาแทนข้าให้ดี”
กู้เสี่ยวหวานตอบตกลง แต่รับปากได้ไม่นานก็เกิดเรื่องขึ้น
วันนี้ยังไม่รู้ว่าอาการของฮูหยินเฒ่าหลี่เป็นอย่างไร
กู้เสี่ยวหวานนึกถึงหลี่ฝานที่เอ่ยขอร้องนางก่อนที่นางจะออกมา ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ความสัมพันธ์ระหว่างสองตระกูลใกล้ชิดกันมากขึ้น ตอนนี้ตระกูลหลี่ประสบเคราะห์ร้าย แม้ว่านางจะไม่เห็นด้วยกับคำพูดบางส่วนของหลี่ฝาน แต่ก็ไม่มีเหตุผลที่จะเพิกเฉยต่อครอบครัวของเขา
“เราต้องลองไปที่นั่นดูก่อนแล้วจะรู้เอง” กู้เสี่ยวหวานกัดฟันก้าวเดินออกไปอย่างเด็ดเดี่ยว
อาจั่วรู้ว่าคุณหนูของตนเองมีความมุ่งมั่น และไม่มีใครสามารถเกลี้ยกล่อมได้หากนางตัดสินใจไปแล้ว ดังนั้นนางจึงได้แต่ปล่อยให้โค่วไห่นำรถม้าออกมา และมุ่งหน้าไปยังบ้านตระกูลหลี่
รถม้าแล่นไปตามถนนอย่างรวดเร็ว และในไม่ช้าก็มาถึงสถานที่หนึ่งซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้านตระกูลหลี่ เมื่อถึงบริเวณนี้ รถม้าไม่สามารถเคลื่อนไปต่อได้อีก
หนทางข้างหน้ารายล้อมไปด้วยผู้คน ไม่ต้องพูดถึงรถม้า แม้แต่การเดินคนเดียวก็ยังเป็นไปได้ยาก
“คุณหนู มีคนมากมายรออยู่ข้างหน้า ตระกูลหลี่ถูกล้อมเอาไว้แล้ว” อาโม่หยุดรถม้าแล้วพูดพลางมองไปยังถนนข้างหน้า
กู้เสี่ยวหวานเปิดม่านขึ้นและมองไปด้านหน้า ตรงนั้นมีเสียงร้องไห้ดังขึ้นไประยะ ๆ ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขายังกล่าวหาหลี่ฝานและร้านจิ่นฝูว่าก่ออาชญากรรม
ประตูบ้านตระกูลหลี่ถูกปิดอย่างแน่นหนา…
ยกเว้นหลี่ซือหย่วนวัยสิบขวบ ครอบครัวหลี่ที่เหลือเป็นผู้หญิงทั้งหมด เมื่อพวกเขาเจอเหตุการณ์นองเลือด ไม่รู้ว่าพวกเขาจะรู้สึกกลัวมากแค่ไหน ลุงหลี่ถูกขังอยู่ในห้องขังจึงมีความกลัวและความกังวล ไม่น่าแปลกใจเลยที่ฮูหยินเฒ่าหลี่หมดสติไปในทันทีที่รู้เรื่องนี้
“คุณหนู เราจะทำอย่างไรดี”
“ลงจากรถแล้วเดินเท้าเข้าไปแทน” กู้เสี่ยวหวานพูดอย่างหนักแน่น
“คุณหนู ถ้ามีคนมาทำร้ายท่าน…” อาจั่วลังเล หน้าที่ของนางคือปกป้องคุณหนู
กู้เสี่ยวหวานขมวดคิ้ว “เบียดเข้าไปเดี๋ยวนี้”
ฮูหยินเฒ่าหลี่มีสภาพจิตใจที่ย่ำแย่ เมื่อใดก็ตามที่นางทุกข์ใจ อาจจะส่งผลกระทบถึงชีวิตของนาง ดังนั้นต้องกินยาให้ทันเวลา
กู้เสี่ยวหวานมองประตูที่ปิดอยู่อย่างเป็นกังวลและพยายามแทรกตัวเข้าไปข้างในให้ได้
อาจั่ว อาโม่ โค่วตัน และโค่วไห่ยืนล้อมรอบกู้เสี่ยวหวานเอาไว้ ปกป้องนางอย่างแน่นหนาเพราะกลัวว่าคนอื่นจะเข้ามาทำร้ายกู้เสี่ยวหวานโดยไม่ได้ตั้งใจ
เมื่อเห็นว่ายังมีผู้คนเบียดเสียดกันแน่นขนัด บรรดาผู้ที่เฝ้าดูอยู่ก็ไม่พอใจและเริ่มสบถด่าออกมา “จะเบียดอะไรกันนักหนา รีบไปตายหรือ!”
เมื่อเห็นอาโม่และคนอื่น ๆ จ้องมองมาที่ตนเอง ใบหน้าที่เย็นชาราวกับผีที่เพิ่งคลานขึ้นมาจากขุมนรก ทำให้คนคนนั้นปิดปากแน่นและรีบแทรกตัวออกไปในทันที
หญิงคนหนึ่งที่มีคนคุ้มกันทั้งสี่คอยปกป้องเอาไว้ ค่อย ๆ เบียดเสียดแทรกตัวเข้ามา นอกจากนี้ทั้งสี่คนยังไร้ความรู้สึกราวกับวิญญาณร้าย คนอื่นจะปริปากด่าทอพวกเขาได้อย่างไร ใบหน้าที่นิ่งเฉยนั้นทำให้พวกเขาหวาดกลัวเล็กน้อย จึงพากันแหวกทางและให้กู้เสี่ยวหวานผ่านไป
หลังจากที่เข้าไปถึงหน้าบ้านตระกูลหลี่ได้ในที่สุด เสียงร้องไห้เหล่านั้นฟังดูน่าเวทนามากขึ้นเรื่อย ๆ
ผู้คนหลายสิบคนแต่งกายด้วยชุดขาวเพื่อไว้ทุกข์ พวกเขาคุกเข่าอยู่หน้าบ้านตระกูลหลี่ ส่งเสียงร้องไห้พลางตะโกนเสียงดังโวยวาย และผู้คนมากมายก็ล้อมรอบประตูบ้านตระกูลหลี่เอาไว้
บนไม้กระดานมีศพร่างหนึ่งถูกวางไว้ รอบด้านมีผู้คนมากมายคุกเข่าล้อมรอบศพไว้พลางร่ำไห้เสียงดัง
บรรยากาศหน้าบ้านตระกูลหลี่เป็นไปอย่างชุลมุน สมาชิกในครอบครัวของผู้ตายต่างพากันร้องไห้ด้วยความเศร้าโศก แต่ทว่ายังมีผู้คนอีกมากมายกำลังรอดูความสนุกอยู่ด้านนอก
“มันเป็นความโชคร้ายของตระกูลหลี่ การวางยาไม่ใช่เรื่องดี สมาชิกของตระกูลโหยวถูกวางยาพิษจนตาย เหอะ ๆ ข้าเกรงว่าครั้งนี้ตระกูลหลี่จะถูกทำลายไปด้วย” มีคนพูดอย่างเศร้าสร้อย
“คนที่ตายเป็นคนของตระกูลโหยวหรือ”
“ดูสิ! หญิงชราที่อยู่ข้าง ๆ ศพเป็นป้ารองของครอบครัวรองตระกูลโหยวไม่ใช่หรือ ส่วนคนที่ร้องไห้อยู่ข้าง ๆ นางก็เป็นน้องสาวของผู้ตายไม่ใช่หรือ คนตายเป็นลูกของอนุภรรยาของครอบครัวรองตระกูลโหยว” ผู้ที่รู้เรื่องนี้รีบอวดว่า “ข้ามีญาติที่ทำงานในครอบครัวรองตระกูลโหยว ข้าได้ยินมาว่า เมื่อโหยวไท่ซือได้ยินว่าหลานชายของเขาถูกวางยาพิษ เขาก็โกรธจนคว่ำโต๊ะ และเขาต้องการขอความเป็นธรรมให้กับหลานชายที่ตายไปของเขาอย่างแน่นอน แค่โหยวไท่ซือก็น่าตกใจพอแล้ว แต่มีอีกคนที่ยิ่งใหญ่กว่าในตระกูลโหยว… เจ้ารู้หรือไม่ว่าเป็นใคร?!”
“ใครล่ะ รีบบอกเราเร็วเข้า” ผู้คนหัวเราะชอบใจและซุบซิบกันอีกครั้ง ใครจะเป็นตายร้ายดีอย่างไร นั่นไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับพวกเขา
“โหยวอวี่เยียน! ลูกสาวภรรยาเอกของตระกูลโหยว ได้ยินมาว่าตอนนี้นางเป็นกุ้ยเฟยและได้รับความโปรดปรานจากฮ่องเต้ ลองคิดดูสิ ผู้ตายมีท่านลุงที่เป็นไท่ซือและมีพี่สาวเป็นกุ้ยเฟย และตามนิสัยชอบปกป้องคนที่มีสายเลือดเดียวกัน ครั้งนี้ตระกูลโหยวจะปล่อยตระกูลหลี่ไปหรือ”
“เหอะ ๆ!” ใครบางคนหัวเราะออกมาพลางมองไปที่ตระกูลหลี่แล้วถอนหายใจ “จบแล้ว จบแล้ว! ในครั้งนี้ตระกูลหลี่ทำให้พวกเขาขุ่นเคือง สำหรับตระกูลโหยว สิ่งที่สำคัญที่สุดคือครอบครัว ลูก ๆ ในครอบครัวแม้แต่อนุภรรยาล้วนเป็นสมบัติของเขา เหอะ ๆ! รอดูต่อไปเถอะ ตระกูลลี่… เฮ้อ!”
กู้เสี่ยวหวานกำมือแน่นขึ้นอีกครั้ง คิ้วของนางขมวดเข้าหากันมากขึ้น หากมีอะไรเกิดขึ้นกับตระกูลหลี่ในครั้งนี้ เกรงว่า…
นางไม่กล้าคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกต่อไป และแม้แต่คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็ยังหายใจลำบาก
ต้องไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับตระกูลหลี่ แม้ว่าจะใช้ทรัพย์สมบัติทั้งหมดก็ต้องรักษาตระกูลหลี่ไว้ให้ได้
“คุณหนู” เมื่อเห็นว่ากู้เสี่ยวหวานยืนอยู่ตรงนั้นโดยไม่พูดอะไรเป็นเวลานาน และความเย็นบนร่างกายของนางแผ่ออกมาเบา ๆ เดาว่าหลังจากได้ยินคำพูดของคนที่อยู่ข้าง ๆ เมื่อครู่นี้ หัวใจของนางก็กังวลมากขึ้น อาจั่วรีบดึงแขนเสื้อของกู้เสี่ยวหวานและกระซิบเบา ๆ
กู้เสี่ยวหวานพยักหน้าและกำลังจะพูดบางอย่าง แต่ทันใดนั้นประตูบ้านตระกูลหลี่ก็เปิดออก และชายร่างเล็กก็กระโดดออกมาจากข้างในโดยไม่ได้มองคนที่คุกเข่าอยู่รอบ ๆ และเตรียมวิ่งไปด้านหน้า
…………….
Comments