ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวยบทที่ 1588 ข้าจะไม่ยอมให้เกิดอะไรขึ้นกับพวกเจ้า
บทที่ 1588 ข้าจะไม่ยอมให้เกิดอะไรขึ้นกับพวกเจ้า
…………….
บทที่ 1588 ข้าจะไม่ยอมให้เกิดอะไรขึ้นกับพวกเจ้า
อาโม่และคนอื่น ๆ ยืนขว้างหน้าเพื่อป้องกันกู้เสี่ยวหวานเอาไว้ สายตาจับจ้องไปยังสีอี๋เหนียงผู้ชั่วร้ายอย่างหวาดระแวง สีซื่อตั้งตาคอยอยู่เป็นเวลานาน หากแต่ไม่มีผู้ใดเอ่ยสิ่งใด โทสะในใจจึงปะทุขึ้น “คนล่ะ ไปมุดหัวอยู่ที่ไหนกันหมด จับคนพวกนั้นมาให้ข้าเดี๋ยวนี้”
“สีอี๋เหนียง คนของเราถูกทุบตีจนหมดสภาพแล้ว ท่านดูสิ” ชายที่คาดว่าเป็นพ่อบ้านเดินไปหาสีซื่อด้วยท่าทางนอบน้อมและชี้ไปด้านข้าง คนรับใช้เหล่านั้นถูกทุบตีจนนอนหมดสภาพอยู่บนพื้น แม้ว่าพวกเขาจะลุกขึ้นมาได้ แต่ก็ไม่เหลือเรี่ยวแรงใดแล้ว
สีซื่อไม่ได้คิดว่าเรื่องจะเลวร้ายลงเช่นนี้ ตอนได้ยินก็แค่ตกใจเล็กน้อย แต่หลังจากได้สติก็เอ่ยอย่างโกรธเคือง “ผู้ใดมันอาจหาญทำลายคนของตระกูลโหยว ใครหน้าไหนกัน! พวกเจ้ารีบไปรายงายต่อท่านเจ้าหน้าที่เดียวนี้”
ถ้อยคำเหล่านั้น แม้แต่เหล่าข้ารับใช้ก็รู้สึกทราบซึ้ง “สีอี๋เหนียง ท่านไม่ต้องเป็นห่วง คนพวกนั้นยังอยู่ที่นี่ ข้าส่งคนไปแจ้งกองกำลังรักษาความสงบเดี๋ยวนี้ พวกเขาคงจะมาถึงในไม่ช้านี้ พวกเขาจะให้ความยุติธรรมแก่คนของเราอย่างแน่นอน”
สีซื่อพยักหน้า ชำเลืองมองคนรับใช้ที่ได้รับบาดเจ็บ เอ่ยน้ำเสียงสั่นเครือน่าสงสาร “หลังจากกลับไป ไปตามหมอมาตรวจพวกเขาว่ามีอาการบาดเจ็บร้ายแรงหรือไม่ หากอาการบาดเจ็บของพวกเขาร้ายแรงก็ให้พวกเขากลับไปพักเสีย”
“สีอี๋เหนียงไม่ต้องกังวล นายท่านใจดีกับเรามาก พวกเราต้องตอบแทนนายท่าน แม้ว่าจะต้องเป็นวัวและม้ารับใช้พวกท่านไปตลอดชีวิตก็ตาม” พ่อบ้านเหลียนพูด
กู้เสี่ยวหวานเฝ้าดูอย่างเย็นชา มองเจ้านายและข้ารับใช้แสดงความภักดีต่อกัน เพียงแค่คำพูดไม่กี่คำของสีซื่อก็ทำให้บรรยากาศที่เงียบสงบในตอนนี้มีชีวิตชีวาอีกครั้ง
“เห็นหรือไม่ ตระกูลโหยวปฏิบัติต่อคนรับใช้อย่างดี ผู้เป็นนายกังวลกับความเป็นความตายของคนในปกครอง มีเจ้านายเช่นนี้ คนรับใช้จึงไม่ต้องกังวลว่าจะถูกต่อว่า ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการทำงาน ไม่แปลกใจเลยที่ผู้คนมากมายเต็มใจไปที่บ้านตระกูลโหยว ถ้าข้ามีลูกสาวในครอบครัวก็จะส่งลูกสาวไปด้วย ข้าทำงานที่นั่น ได้ยินมาว่าไม่เพียงแต่เจ้านายจะปฏิบัติต่อคนใช้อย่างดีเท่านั้น แต่เงินค่าจ้างต่อเดือนก็เยอะมากเช่นกัน
“ใช่แล้ว ใช่แล้ว ข้าก็ได้ยินมาเหมือนกัน มีคนบอกว่าคนรับใช้ตระกูลโหยวได้รับการปฏิบัติอย่างดี เจ้านายจะไม่ลงโทษคนรับใช้แม้ว่าคนรับใช้จะทำผิดพลาด ยิ่งกว่านั้นเห็นหรือไม่ว่า คนรับใช้เหล่านั้นที่ได้รับบาดเจ็บ อี๋เหนียงก็เป็นห่วงพวกเขามาก และรีบให้ตามหมอมาดูอาการเจ็บปวดของพวกเขา หากเจ็บหนักก็สามารถพักผ่อนได้หลายวัน เหอะเหอะ การมีเจ้านายที่ดีเช่นนี้ช่างเป็นพรของตนเองจริง ๆ”
“นอกจากนี้ยังต้องขอบคุณความสามารถของโหยวไท่ซือในการดูแลครอบครัว พวกเจ้าไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนหรือ แม้ว่าโหยวไท่ซือจะเป็นหัวหน้าครอบครัว แต่เขาปฏิบัติต่อทุกคนในครอบครัวโหยวอย่างเท่าเทียมกัน ไม่ว่าเขาจะเป็นลูกของภรรยาเอกหรืออนุภรรยา ทั้งหมดคือหัวใจและจิตวิญญาณของเขา และตอนนี้ตระกูลโหยวได้สูญเสียลูกชาย เกรงว่าโหยวไท่ซือจะไม่ปล่อยตระกูลหลี่ไปง่าย ๆ”
ผู้คนรอบข้างถอนหายใจ กู้เสี่ยวหวานฟังอย่างตั้งใจและมองไปยังสองนายบ่าวที่แสดงความห่วงใยต่อกันอย่างลึกซึ้ง คำพูดของพวกเขากระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นของกู้เสี่ยวหวาน
ได้ยินมาตลอดว่าตระกูลโหยวเข้มงวดในการดูแลตระกูล ภายใต้การชักนำของโหยวไท่ซือ ตระกูลโหยวจึงเป็นตระกูลที่เปี่ยมด้วยคุณธรรม เมตตา และความชอบธรรม ในอาณาจักรตาชิง ตระกูลโหยวไม่มีการแบ่งสถานะระหว่างภรรยาเอกกับอนุภรรยา
แม้แต่คนรับใช้ของตระกูลโหยวก็ยังได้รับการปฏิบัติอย่างดี ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นในตระกูลอื่น ทั้งหมดนี้เป็นเพราะความเมตตากรุณาของโหยวไท่ซือ ทุกคนในต้าชิงจึงยกย่องเขามาก
เพียงแค่คำพูดเหล่านี้ กู้เสี่ยวหวานอาจไม่พบข้อสงสัยเกี่ยวกับตระกูลนี้ได้แม้แต่น้อย แต่ตอนนี้ประโยคที่โหยวซวงพูดออกมาทำให้กู้เสี่ยวหวานสงสัยว่า ตระกูลโหยวซึ่งเป็นผู้มีคุณธรรมและมีเมตตาจริงหรือ?
ข่าวลือหนาหูต่างบอกว่าตระกูลโหยวเต็มไปด้วยความดี ข่าวลือเหล่านั้นเป็นความจริงหรือ?
กู้เสี่ยวหวานไม่อยากจะเชื่อ และก็อดไม่ได้ที่จะเชื่อว่าตอนนี้ตระกูลโหยวกำลังพุ่งเป้าไปที่ตระกูลหลี่ นางต้องหาสิ่งผิดปกติของตระกลูโหยว ไม่ว่าในกรณีใด แม้ว่าครอบครัวจะสามัคคีกันเพียงใด แต่ก็ต้องมีข้อเสียบ้างสิ?
สีซื่อปาดน้ำตา จากนั้นมองไปที่กู้เสี่ยวหวานและคนอื่น ๆ ด้วยสายตาที่ขุ่นเคือง “เจ้าบอกว่าเป็นญาติของตระกูลหลี่หรือ?”
“ใช่” กู้เสี่ยวหวานพยักหน้า
“ไม่ นางไม่ใช่ นางเพียงแค่รู้จักกับครอบครัวของเรา นางไม่ใช่ญาติของพวกข้า” ขณะที่กู้เสี่ยวหวานพยักหน้าและตอบว่าใช่ หลี่เมี่ยวเมี่ยวก็แย้งเสียงดัง จากนั้นก็ส่งสายตาให้กู้เสี่ยวหวานให้หยุดพูด
“ใช่หรือไม่ใช่กันแน่!” เมื่อได้คำตอบที่ไม่ตรงกันจากหญิงทั้งสอง สีซื่อจึงตะโกนเสียงดัง “หากไม่ใช่ ตระกูลโหยวจะไม่ดึงผู้บริสุทธิ์มาพัวพัน แต่หากว่าหากใช่ พวกเจ้าจะต้องถูกฝังไปกับลูกชายของข้า”
คำพูดของสีซื่อนั้นโหดเหี้ยม หลี่เมี่ยวเมี่ยวรีบจับมือกู้เสี่ยวหวานไว้พลางเอ่ยอย่างหนักแน่น “นางไม่ใช่ นางไม่ใช่ นางเป็นแค่ลูกค้าประจำของร้านเราท่านั้น”
เมื่อเห็นหลี่เมี่ยวเมี่ยวพูดแบบนี้ กู้เสี่ยวหวานจึงรู้สึกสะเทือนใจเล็กน้อย “เมี่ยวเมี่ยว”
“ท่านพี่ ท่านพ่อยังถูกจับไว้ในห้องขัง เป็นตายร้ายดีอย่างไรก็ไม่อาจรู้ได้ แต่ข้าเชื่อว่าท่านพ่อไม่ทำเรื่องต่ำช้าเช่นนี้แน่นอน สถานะครอบของเราตอนนี้ ข้าไม่สามารถดึงท่านเข้ามาเกี่ยวข้องได้ ท่านจะต้องไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ท่านต้องหาวิธีช่วยพ่อของข้าออกมาให้ได้ ถ้าท่านเอาตัวเข้ามายุ่ง เช่นนั้นจะไม่มีคนช่วยท่านพ่อของข้า” หลี่เมี่ยวเมี่ยวกระซิบและมองกู้เสี่ยวหวานด้วยสายตาคาดหวัง
กู้เสี่ยวหวานมองเด็กหญิงที่ใบหน้าเปรอะเปื้อนด้วยน้ำตา และเห็นสายตาที่เต็มไปด้วยความหวังที่กำลังมองมาที่ตนเอง
กู้เสี่ยวหวานพยักหน้าและเอ่ยให้อีกฝ่ายมั่นใจ “ไม่ต้องกังวล ข้าจะไม่ยอมให้เกิดอะไรขึ้นกับพวกเจ้าอย่างแน่นอน”
หลังจากพูดจบ นางจึงหยิบขวดยาออกมาจากแขนเสื้ออย่างระมัดระวังและส่งให้หลี่เมี่ยวเมี่ยวอย่างลับ ๆ “เมี่ยวเมี่ยว นี่สำหรับเจ้า รีบเอาไปให้ฮูหยินเฒ่ากินเสีย”
…………….
Comments