ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวยบทที่ 1590 ความพ่ายแพ้

Now you are reading ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย Chapter บทที่ 1590 ความพ่ายแพ้ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 1590 ความพ่ายแพ้

…………….

บทที่ 1590 ความพ่ายแพ้

“เจ้าอวดดีและพูดเรื่องไร้สาระอันใดอยู่ เจ้ากล่าวหาว่าเราไม่พอใจการจัดการของฮ่องเต้งั้นหรือ” ใบหน้าขอโหยวซวงพลัดซีดเผือด ไม่คิดว่าตนจะถูกใส่ร้ายว่าไม่พอใจการจัดการของฮ่องเต้

หากเรื่องนี้ไปถึงหูของฮ่องเต้จริง ๆ…

เมื่อนึกถึงความเข้มงวดของท่านลุง ร่างกายของโหยวซวงและสีซื่อต่างก็รู้สึกเย็นวาบ

“พวกเจ้าไม่พอใจกับคำตัดสินของกองกำลังรักษาความสงบ ทั้งตอนนี้ยังไม่รอผลการสอบสวนก็พาคนมาหาเรื่องตระกูลหลี่ถึงที่ ไม่ว่าตระกูลหลี่จะฆ่าคนหรือไม่นั้นยังไม่ได้รับการตัดสิน แต่พวกเจ้ากลับสรุปเอาเองว่าเป็นฝีมือตระกูลหลี่ ข้าลองนึก ๆ ดูแล้ว พวกเจ้าคงไม่พอใจกับการจัดการของกองกำลังรักษาความสงบ และต้องการแก้แค้นด้วยตัวเองสินะ?” กู้เสี่ยวหวานพูดอย่างเย็นชา

“ข้าได้ยินมาว่าโหยวไท่ซือพยายามปกป้องครอบครัวของตนเองเป็นอย่างดี นั่นนับว่าเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ ถ้าข้าเป็นเขา ข้าก็จะปกป้องครอบครัวของตนเองอย่างเป็นธรรมชาติ ตระกูลโหยวต้องการปกป้องคนจากตระกูลตัวเอง แล้วคนตระกูลอื่นล่ะ ตำแหน่งนั้นสูงส่งและทรงอำนาจ แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าตระกูลโหยวเอาแต่ปกป้องครอบครัวของตัวเองโดยไม่สนใจใครหน้าไหน ไม่เช่นนั้นก็คงไม่มีคนถูกกล่าวหาว่าเป็นฆาตกรโดยยังไม่ได้รับการตัดสินเช่นนี้”

นิ้วของกู้เสี่ยวหวานชี้ไปทางศพที่ตายอย่างอนาถใต้สิงโตหิน และพูดอย่างเศร้าใจ

นางไม่เข้าใจความคิดนี้เลยแม้แต่น้อย จนกระทั่งโหยวซวงพูดอย่างเฉยเมยว่าตระกูลหลี่ต้องชดใช้ด้วยชีวิต นางจึงตระหนักว่าตระกูลโหยวในข่าวลือไม่มีสิ่งใดผิดปกติ

นางแค่พยายามใช้ข้อเท็จจริงเพื่อหักล้างคำพูดของตระกูลโหยว แน่นอนว่าหลังจากได้ยินคำพูดของกู้เสี่ยวหวาน สีหน้าของทุกคนจากตระกูลโหยวก็เปลี่ยนไปทันที

ขาของสีซื่ออ่อนแรงจนแทบยืนไม่ไหว ถ้ามันเป็นความจริงอย่างที่กู้เสี่ยวหวานพูดล่ะก็…

ตอนนี้หากมองไปรอบ ๆ ก็พบว่าเริ่มมีคนชี้หน้าซุบซิบตระกูลโหยวแล้ว

“ผู้หญิงคนนี้พูดถูก ตระกูลโหยวบอกว่าพวกเขากำลังปกป้องครอบครัวของพวกเขา แต่ดูสาวใช้คนนั้นสิ นางทำผิดอะไร แต่กลับถูกคนในตระกูลโหยวผลักล้มจนหัวกระแทกจนตาย โหยวไท่ซือมีตำแหน่งและอำนาจสูงส่ง แต่ตอนนี้ตระกูลโหยวเพิกเฉยต่อชีวิตของคนอื่น”

“ใช่ใช่ใช่ ข้าเคยคิดว่าตระกูลโหยวปกป้องผู้อ่อนแอและเป็นคนดี แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าพวกเราจะไม่สามารถทำให้พวกเขาโกรธเคืองได้ หากเราทำให้พวกเขาขุ่นเคืองใจ พวกเราก็กลายเป็นแค่เท่ารากหญ้าที่พวกเขาพร้อมจะเหยียบย่ำได้เสมอ”

คำพูดจากผู้คนรอบข้างทำให้ใบหน้าของโหยวซวงและสีซื่อซีดเซียว แต่พวกเขาไม่สามารถโต้แย้งได้สักคำ

ก่อนอื่นเขาไม่พอใจกับการจัดการงานของฮ่องเต้ และไม่เชื่อในคำตัดสินของกองกำลังรักษาความสงบ ดังนั้นพวกเขาจึงต้องการแก้แค้นด้วยตัวเอง สุดท้ายคือตระกูล โหยวใส่ใจเฉพาะครอบครัวของตัวเองโดยไม่คำนึงถึงคนอื่น ครอบครัวเล็ก ๆ แบบนี้จะปกป้องดินแดนเพื่อฮ่องเต้ได้อย่างไร?

พูดง่าย ๆ ว่า ความเห็นแก่ตัวของตระกูลโหยวได้รับการอธิบายอย่างชัดเจน และแม้แต่ผู้คนโดยรอบก็เข้าใจได้ทันที

โหยวซวงต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เมื่อกำลังจะเอ่ยปาก เหลียนเอ้อร์ก็หยุดนางไว้และกระซิบว่า “คุณหนูอย่าเพิ่งแย้งอะไรเลย หญิงผู้นี้รับมือได้ไม่ง่าย เราหยุดก่อนที่มันจะบานปลายไปมากกว่านี้เถอะ ไม่อย่างนั้น…”

ไม่เช่นนั้นไม่รู้ว่านางกำลังจะพูดอะไรเพื่อใส่ร้ายตระกูลโหยว โดยที่พวกเขาไม่อาจหาข้อแก้ตัวได้

ด้วยวิธีนี้ โหยวซวงได้แต่กัดฟันกรอดและจ้องมองที่กู้เสี่ยวหวานอย่างดุดันราวกับว่าต้องการที่จะจ้องมองกู้เสี่ยวหวานให้ทะลุ

“สีอี๋เหนียง เรากลับก่อนเถอะ ผู้หญิงคนนี้ไม่ง่ายเลย อีกทั้งยังมีคนมากมายอยู่ที่นี่ เราไม่ได้รับผลประโยชน์อะไรแม้เพียงเล็กน้อย เราไปรายงานนายท่านก่อนแล้วค่อยตัดสินใจ นายท่านสนใจชื่อเสียงของตระกูลเป็นอย่างมาก อย่าทำให้นายท่านขุ่นเคือง” คำพูดของเหลียนเอ้อร์ทำให้สีหน้าของสีซื่อและโหยวซวงเปลี่ยนไปอีกครั้ง

ก่อนจากไป พวกเขาจ้องไปที่กู้เสี่ยวหวานอย่างเดือดดาลและพาศพนั้นกลับไปด้วย

เมื่อเห็นว่าพวกเขาจากไปแล้ว ประตูตระกูลหลี่ที่พลุกพล่านก็กลับสู่ความเงียบสงบดังเดิม และกู้เสี่ยวหวานก็ถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอก

นางรีบตามหลี่เมี่ยวเมี่ยวเข้าไปในบ้านและเห็นฮูหยินเฒ่าหลี่ หลังจากให้ยาแก่นาง นางก็ได้สติขึ้นเล็กน้อย

เมื่อเห็นว่ากู้เสี่ยวหวานมีความตั้งใจแน่วแน่ที่จะช่วยเหลือหลี่ฝาน ฮูหยินเฒ่าหลี่รู้สึกสะเทือนใจอย่างยิ่ง “เสี่ยวหวาน ลุงหลี่ของเจ้าเป็นผู้บริสุทธิ์มาตลอดชีวิต ข้ากล้าสาบานต่อสวรรค์ว่าลุงหลี่ของเจ้าจะไม่มีวันทำเรื่องเลวร้ายแบบนี้”

ฮูหยินหลี่ไม่เชื่อและกู้เสี่ยวหวานก็ไม่เชื่อเช่นกัน “ท่านป้าไม่ต้องห่วง ข้าไม่เชื่อว่าท่านลุงจะทำเรื่องแบบนั้น ก่อนที่ข้าจะมา ข้าก็ไปที่กองกำลังรักษาความสงบเพื่อพบท่านลุง ขณะนี้เขายังไม่เป็นอะไรมาก และเขาบอกข้าว่าเขาไม่ใช่คนทำเรื่องแบบนั้น ถ้าร้านจิ่นฝูไม่ทำเช่นนี้ก็ต้องมีใครบางคนอยู่เบื้องหลัง ตราบใดที่จับผู้ร้ายได้ก็จะรู้ตัวคนที่ใส่ร้ายร้านจิ่นฝูและท่านลุงหลี่”

“ร้านจิ่นฝูยอดเยี่ยมมาก หลายคนจึงไม่ชอบร้านจิ่นฝู” ฮูหยินเฒ่าหลี่เช็ดน้ำตาและรู้สึกโล่งใจเมื่อได้ยินว่าหลี่ฝานสบายดี

“ถ้ามีคนเคลื่อนไหว พวกเขาจะทิ้งเงื่อนงำไว้ พวกเขาต้องการกำหนดเป้าหมายไปที่ร้านจิ่นฝูและทำร้ายท่านลุง แต่ข้าจะไม่ปล่อยให้พวกเขาทำสำเร็จแน่ ท่านป้าหลี่อย่ากังวล ข้าจะไปช่วยท่านลุงหลี่ให้ได้อย่างแน่นอน” กู้เสี่ยวหวานกล่าวอย่างหนักแน่น

ไม่รู้ทำไม ฮูหยินหลี่จึงมีความไว้วางใจและหวังพึ่งพาเด็กคนนี้อย่างไม่อาจบรรยายได้ เมื่อเห็นว่านางเข้มแข็งมาก ความตึงเครียดในใจของนางก็น้อยลงเล็กน้อย นางจับมือกู้เสี่ยวหวานและพูดอย่างขอบคุณ “ข้าเชื่อเจ้า ข้าเชื่อเจ้า”

กู้เสี่ยวหวานรีบไปช่วยหลี่ฝาน แต่หลังจากพูดคุยกับคนของตระกูลหลี่ นางก็จากไป ก่อนออกเดินทางโค่วไห่ถูกทิ้งไว้เพื่อปกป้องความปลอดภัยของคนในตระกูลหลี่

เมื่อเห็นท่าทางของกู้เสี่ยวหวาน คนในตระกูลหลี่ก็รู้สึกขอบคุณกู้เสี่ยวหวานมากยิ่งขึ้น

…………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด