ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวยบทที่ 1596 เดาเหตุผล

Now you are reading ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย Chapter บทที่ 1596 เดาเหตุผล at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 1596 เดาเหตุผล

…………….

บทที่ 1596 เดาเหตุผล

ก่อนมาที่นี่ ฉินเย่จือได้สั่งให้คนไปตรวจสอบเรื่องนี้เรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้เขายังพบเบาะแสเกี่ยวกับชายที่ตายแล้วว่าเขาชื่อหวังซาน เมื่อเขาได้ยินว่าสมาชิกในครอบครัวตระกูลโหยวที่ถูกกู้เสี่ยวหวานโจมตีกลับที่ตระกูลหลี่หนีไป ฉินเย่จือมีความสุขมาก

แมวน้อยของเขาผู้ไม่เคยนั่งนิ่ง ช่างน่ารักจริง ๆ โชคดีที่เขาเก็บสมบัติชิ้นนี้ได้เร็วที่สุด

กู้เสี่ยวหวานไม่รู้ว่าฉินเย่จือกำลังคิดอะไรอยู่ในขณะนี้ ดังนั้นจึงบอกฉินเย่จือทุกสิ่งที่นางคิดเอาไว้

ฉินเย่จือฟังอย่างละเอียด และหลังจากฟัง เขาก็บอกข่าวทั้งหมดที่ได้รับมาแก่กู้เสี่ยวหวาน

นอกจากนี้ โหยวกุ้ยเฟยยังดูอ่อนโยนและใจดี มีเสน่ห์ แต่ในความเป็นจริง สาวใช้และคนรับใช้นับไม่ถ้วนรอบตัวนางเสียชีวิตไปไม่น้อย

เมื่อได้ยินข่าวนี้ กู้เสี่ยวหวานก็คิดถึงน้ำเสียงเย็นชาของโหยวซวงที่บอกว่า คนที่ตายเป็นเพียงคนต่ำต้อย “ตระกูลโหยวแตกต่างจากข่าวลืออย่างสิ้นเชิง ในบ้านของพวกเขาไม่ได้ดีอย่างที่ข่าวลือกล่าวไว้”

“ถูกต้อง สาวรับใช้บางคนเสียชีวิต และตระกูลโหยวก็บอกกับชาวบ้านว่าพวกเขาทำงานหนักเกินไปและยอมตายเพื่อตระกูลโหยว ดังนั้นพวกเขาจึงมอบเงินก้อนโตให้กับครอบครัวของผู้ตาย จนกระทั่งต่อมา ข้าพบว่าท้ายที่สุดแล้วพวกเขาเป็นเด็กกำพร้าที่ไม่มีพ่อ ไม่มีแม่ และไม่มีบ้าน”

“เด็กกำพร้าแบบนี้ ถ้าตายไปก็ไม่ต้องบอกโลกภายนอกว่าเกิดอะไรขึ้น แค่หาที่ฝังศพก็พอ พวกเขาไม่มีครอบครัว ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องอธิบายให้คนอื่นฟัง” กู้เสี่ยวหวานกล่าว

ฉินเย่จือไม่คาดคิดว่ากู้เสี่ยวหวานจะหัวไวเช่นนี้ เขาพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ ดวงตาของเปล่งประกายระยิบระยับราวกับดวงดาว

กู้เสี่ยวหวานแนบหน้าลงบนอกของฉินเย่จือ จึงไม่เห็นการแสดงออกของฉินเย่จือ แต่หลังจากคิดอยู่นานก็ถามว่า “มีสิ่งหนึ่งที่ข้ายังคงพบว่าแปลกมาก ทำไมครอบครัวใหญ่ถึงมีอำนาจมากมาย แต่ครอบครัวรองกลับธรรมดามาก ข้าได้ยินมาว่าครอบครัวรองของตระกูลโหยวยังให้กำเนิดลูก ๆ ที่มีความสามารถ แต่ทำไมพวกเขาถึงไม่สอบเข้าเพื่อตำแหน่งทางการ?”

พูดตามเหตุผล ถ้าครอบครัวรองตระกูลโหยวมีตำแหน่งทางการ อำนาจของตระกูลโหยวจะยิ่งน่ากลัวมากขึ้น

“ฮ่องเต้อยู่ครองบัลลังก์มาเกือบสิบปีแล้ว และตอนนี้เขาก็มีอายุเท่าเจ้า” ฉินเย่จือกล่าว “โหยวไท่ซื่อเป็นอาจารย์ของฮ่องเต้ สถานะสูงส่ง แต่ก็ยังห่างจากอำนาจอยู่มาก ต่อมาเมื่อฮ่องเต้เสด็จขึ้นครองบัลลังก์ พระองค์ต้องการสถาปนาฮองเฮาและกุ้ยเฟย โหยวไท่ซือมีลูกสาว นางจึงถูกโหยวไท่ซือส่งเข้ามาในวังเพื่อเป็นกุ้ยเฟย”

“ในครอบครัวมีลูกสาวคนหนึ่งกลายเป็นกุ้ยเฟย และโหยวไท่ซือก็เข้าใกล้อำนาจมากขึ้นอีกก้าวหนึ่ง”

“ถูกต้อง ต่อมาลูกชายของโหยวไท่ซือผ่านการสอบขุนนาง และต่อมาพวกเขาก็เข้าสู่ตำแหน่งสำคัญในเมืองหลวง ด้วยการพัฒนาในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ลูก ๆ ของตระกูลโหยวทั้งหมดมีความโดดเด่น ตอนนี้ตระกูลโหยวจึงเป็นเป้าหมายของขุนนางทั้งหมดในเมืองหลวง”

“ครอบครัวรองเลือกที่จะซ่อนตัวเพราะอำนาจของครอบครัวใหญ่ที่มากเกินไปงั้นหรือ?” กู้เสี่ยวหวานถาม

ลูกแมวฉลาดมาก ฉินเย่จือยิ้มกว้างก่อนจะลูบศีรษะลูกแมวตัวน้อยและชมเชย

“ฉลาดจริง ๆ แต่เจ้าเดาผิด การซ่อนตัวไม่ใช่ตัวเลือกของครอบครัวรอง”

“หมายความว่า…” ดวงตาของกู้เสี่ยวหวานเบิกกว้าง “เนื่องจากครอบครัวใหญ่มีอำนาจมากเกินไป ดังนั้นโหยวไท่ซือจึงปิดกั้นทุกหนทางของครอบครัวรองเพื่อป้องกันไม่ให้ลูก ๆ ของพวกเขากลายเป็นขุนนาง และไม่อนุญาตให้ลูกสาวแต่งงานกับตระกูลที่ดีเพราะกลัวว่าต้นไม้ใหญ่โดนลมโค่น”

“ไม่ผิด”

“ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมโหยวไท่ซือและน้องชายของเขาถึงไม่แยกจากกัน ว่ากันว่าพวกเขาเป็นพี่น้องกันที่รักกันอย่างมาก ดังนั้นโหยวไท่ซือที่มีทรัพย์สินมากมาย แต่เขายังไม่ลืมน้องชายที่ไร้ประโยชน์ของเขา ในทางกลับกัน มันเป็นการเฝ้าติดตามครอบครัวรอง และถ้าครอบครัวรองมีความต้องการที่จะร่ำรวยและมีอำนาจ ถึงเวลานั้นจะถูกครอบครัวใหญ่จัดการอย่างแน่นอน”

ฉินเย่จือพยักหน้ายอมรับคำพูดของกู้เสี่ยวหวาน

“สมาชิกครอบครัวใหญ่ของตระกูลโหยวมีแผนการที่แยบผลจริง ๆ” กู้เสี่ยวหวานเยาะเย้ย “ในแง่หนึ่ง เขาแสดงความเมตตากรุณา ศีลธรรม และความชอบธรรมภายนอกเพื่อให้ทุกคนคิดว่าตระกูลโหยวเป็นตระกูลที่มีความเมตตากรุณา แต่กลับกดขี่ครอบครัวของน้องชายอย่างต่อเนื่องเพื่อที่พวกเขาจะได้ไม่มีอนาคตที่สดใส ครอบครัวใหญ่ของตระกูลโหยวสามารถเพลิดเพลินกับความมั่งคั่งได้ตลอดไป ในขณะที่ครอบครัวรองตระกูลโหยวต้องยอมจำนนต่อครอบครัวใหญ่ แต่พวกเขาไม่กล้าพูดออกไป ประการแรกคือ สถานะของพวกเขาต่ำต้อย ดังนั้นจะไม่มีใครเชื่อสิ่งที่พวกเขาพูด ประการที่สองคือ ครอบครัวใหญ่ไร้ที่ติ คนอื่น ๆ รู้เพียงความเมตตากรุณาและความชอบธรรม พวกเขาจะคิดถึงเรื่องอื่นได้อย่างไร”

กู้เสี่ยวหวานคิดเช่นนี้ และฉินเย่จือก็ยอมรับว่ามันถูกต้อง

เป็นเวลาหลายปีที่ใช้ชีวิตในราชสำนัก ภูมิหลังของครอบครัวของทุกคน เขาสามารถเข้าใจได้อย่างชัดเจน เรื่องของตระกูลโหยว เดิมทีเป็นไปตามที่แมวน้อยคาดเดาและภาพลักษณ์ภายนอกก็ดูสมบูรณ์แบบ แต่เบื้องหลังจะเกิดอะไรขึ้นกับครอบครัวรองบ้างก็สุดจะรู้ได้

ปรากฏว่าตราบใดที่ไม่แตะต้องประเด็นสำคัญเหล่านี้ ข้อพิพาทระหว่างผู้อาวุโสตระกูลโหยวก็จะถูกตัดสินในตระกูลโหยว เขาจึงสามารถหลับตาข้างหนึ่งและไม่สนใจได้

แต่ตอนนี้พวกเขาได้ต่อสู้กับคนที่ไม่เกี่ยวข้องและแม้กระทั่งกับลูกแมวของเขาแล้ว

จะไม่ปล่อยไว้อีกแล้ว

ความดุร้ายฉายชัดในดวงตาเรียวยาว แต่มันก็หายวับไปอย่างรวดเร็ว เมื่อหน้าผากของเขาวางอยู่บนผมสีดำสลวยและมีกลิ่นหอม ดวงตาของเขาก็เต็มไปด้วยความรักอย่างลึกซึ้ง แต่ยังก็มีบางอย่างที่อยากจะเตือนแมวน้อยของตน

“มีหลายสิ่งหลายอย่างที่ไม่เหมาะที่ข้าจะออกมาแสดงตัว อาโม่และอาจั่วเป็นคนที่มีความสามารถ เรื่องบางเรื่องเจ้าสามารถปล่อยให้พวกเขาทำได้” ฉินเย่จือกล่าว

กู้เสี่ยวหวานรู้ว่าเขากังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของตนเอง จึงพยักหน้าตกลง “ข้ารู้ ข้ายังมีคำถามหนึ่งที่ข้าไม่เข้าใจ”

“อะไร”

“การตายของโหยวเฉียน ครอบครัวรองหรือครอบครัวใหญ่เป็นคนทำ?” ดวงตาของกู้เสี่ยวหวานกลมโตราวกับพระจันทร์ นัยน์ตาเปล่งประกายสว่างไสวดั่งดวงดาว ส่องสว่างยิ่งกว่าไข่มุกราตรี

…………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด