ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวยบทที่ 1598 ศาลาเทียนหมิง

Now you are reading ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย Chapter บทที่ 1598 ศาลาเทียนหมิง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 1598 ศาลาเทียนหมิง

…………….

บทที่ 1598 ศาลาเทียนหมิง

บนกำแพงด้านหลังเก้าอี้มีภาพวาดจากฝีมือจิตรกรชื่อดังแขวนอยู่ ในห้องเต็มไปด้วยภายวาดหลากลาย แต่หากสังเกตดี ๆ จะพบถึงความแตกต่าง และเห็นได้ชัดว่าภาพวาดผืนนี้ดูดีกว่า ทั้งสง่างามและสูงส่ง

ยิ่งไปกว่านั้น ที่นี่เงียบสงบแตกต่างจากภายนอกโดยสิ้นเชิง เหมาะเป็นที่สำหรับขุนนางไว้ใช้พักผ่อนหย่อนใจ

ทั้งสองนั่งประจันหน้ากัน โดยมีโต๊ะสีเหลี่ยมซึ่งทำมาจากไม้หวงฮวาหลีกั้นกลางระหว่างพวกเขา มีชุดน้ำชาตั้งอยู่กลางโต๊ะ เวลานี้ซูจือเยว่ไม่ต้องการให้ผู้อื่นมาวุ่นวาย และเขาจะชงชาด้วยตนเอง

ต้มน้ำ ล้างชา ชงชา รินชา

“เสี้ยนจู่ ในเมืองหลวงแห่งนี้ ศาลาเทียนหมิงมีชื่อเสียงมาก ชาทุกชนิดที่นี่เป็นใบชาสด ใบชาสดจะถูกเก็บจากต้นใหม่ ๆ และส่งตรงมายังศาลาเทียนหมิง เกรงว่าในเมืองหลวงจะไม่มีโรงน้ำชาใดที่มีชาบ่มได้มากเท่ากับศาลาเทียนหมิง เสี้ยนจู่เชิญขอรับ”

ซูจือเยว่รินชาถ้วยหนึ่งจากนั้นเลื่อนไปตรงหน้าของหญิงสาวที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม กู้เสี่ยวหวานมองชาสีเหลืองอ่อนที่ส่งกลิ่นหอมกรุ่น กู้เสี่ยวหวานหยิบถ้วยชาขึ้นสูดดมแผ่วเบา หลังจากนั้นไม่นานก็รู้สึกว่าชามีกลิ่นหอมหวานและคงจะให้ความสดชื่น นางกำลังคิดถึงชาที่ซูจือเยว่ถืออยู่ในมือตอนนี้

“นี่คือชาขาวผู่เอ๋อร์” กู้เสี่ยวหวานเป่าชาเบา ๆ แล้วยกขึ้นจิบ แน่นอนว่ารสชาติของมันหวานหอมและสดชื่น

ซูจือเยว่ดูเหมือนจะประหลาดใจ และไม่อยากจะเชื่อ “เสี้ยนจู่รู้จักชานี้ด้วยหรือ”

กู้เสี่ยวหวานไม่ได้ดื่มชามานานแล้ว และชาขาวผู่เอ๋อร์นี้รสชาติดีกว่าน้ำต้มสุกเสียอีก

หญิงสาวขมวดคิ้ว ทันใดนั้นก็รู้สึกสงสัยเล็กน้อย ฉินเย่จือชงชาใดให้ตนเองดื่มกัน หลังจากคุ้นเคยกับชานั้นนางก็รู้สึกว่าชาอื่นไม่มีรสชาติอะไรเลย

ซูจือเยว่ไม่ได้สังเกตเห็นความประหลาดใจของกู้เสี่ยวหวาน และทำเพียงมองอีกฝ่ายอย่างอยากรู้อยากเห็น

กู้เสี่ยวหวานวางถ้วยในมือลง พลางส่ายหน้าและพูดว่า “ข้าไม่เข้าใจ แต่ข้าเคยดื่มมันมาก่อนหน้านี้”

เมื่อก่อนพ่อชอบดื่มชาและมักจะมีใบชาอยู่ในบ้านเสมอ นอกจากนี้มักจะซื้อชาใหม่ ๆ กลับมาด้วย หลังจากนั้นก็จะแนะนำชาแต่ละชนิดให้แม่ฟัง

แต่นางไม่ได้มีความรู้เรื่องชามากกว่าคนที่นี่นัก

“ชานี้เป็นสินค้าใหม่ของปีนี้ เสี้ยนจู่เคยดื่มจากที่ไหนงั้นหรือ?” ซูจือเยว่ถามอย่างสงสัย เมื่อมองไปที่อีกฝ่าย เขาก็ทั้งตื่นเต้นและประหม่า

กู้เสี่ยวหวานขมวดคิ้ว นางไม่รู้ว่าชาขาวผู่เอ๋อร์ไม่มีจำหน่ายที่นี่ ดังนั้นจึงต้องคิดหาทางเอาตัวรอด “อ่า ข้าเพิ่งดื่มไปเมื่อไม่นานนี้ บางทีข้าอาจนำมาจากที่นี่”

แน่นอนว่าคำอธิบายของกู้เสี่ยวหวาน ทำให้ความสงสัยของซูจือเยว่หายไป และพูดด้วยรอยยิ้ม “ชาขาวผู่เอ๋อร์นี้เป็นสินค้าใหม่ของปีนี้ รสชาติของมันนั้นหอมหวาน”

กู้เสี่ยวหวานพยักหน้า ก่อนจะมองไปรอบ ๆ ห้องรับรองของโรงชา พลางเอ่ยขึ้น “การตกแต่งห้องนี้มีเอกลักษณ์และสง่างาม เหมาะกับนายน้อยซูเป็นอย่างยิ่ง”

“เสี้ยนจู่รู้ว่าโรงน้ำชาแห่งนี้เป็นของข้าหรือ” ซูจือเยว่รู้สึกประหลาดใจ

“มันเป็นเพียงการคาดเดาของข้าเท่านั้น ไม่คิดมาก่อนว่ามันจะถูกต้อง” กู้เสี่ยวหวานกล่าวด้วยรอยยิ้ม

เมื่อนางก้าวเข้ามาในโรงน้ำชาก็พบว่ามีคนรอนางอยู่ข้างนอก ดูเหมือนว่าซูจือเยว่จะเป็นแขกประจำของศาลาเทียนหมิงนี้ นอกจากนี้ห้องรับรองที่ตกแต่งอย่างหรูหราและเรียบง่ายภายในสะอาดสะอ้าน ผู้ตกแต่งห้องนี้คงจะเป็นผู้ชื่นชอบศิลปะเช่นนี้

และหลังจากเข้ามาห้องรับรอง คนที่พานางเข้ามาดูเหมือนจะไม่เคยพบซูจือเยว่มาก่อน และเขาก็ไม่ได้ออกตัวว่าต้องการชงชาให้อีกฝ่าย หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งคือความเงียบของผู้ชายคนนี้แปลได้ว่าต้องได้รับคำสั่งมาจากซูจือเยว่แล้ว

เมื่อเห็นความคุ้นเคยของซูจือเยว่กับโรงน้ำชาแห่งนี้ และเอ่ยถึงชาราวกับมันเป็นร้านของตนเอง เห็นดังนั้นกู้เสี่ยวหวานก็เดาได้ทันทีว่าเขาเป็นเจ้าของโรงน้ำชาแห่งนี้

“ว่ากันตามตรง ข้าหลงรักการดื่มชาและการพบปะสหาย ต่อมาเมื่อนึกถึงความสะดวก ข้าจึงเปิดโรงน้ำชานี้เองคงจะดีกว่า วันไหนไม่มีอะไรทำข้าก็มักจะดื่มชาที่นี้สักถ้วย เสี้ยนจู่เป็นคนแรกที่รู้ว่าข้าเป็นเจ้าของโรงน้ำชานี้ ข้าไม่เคยบอกใครมาก่อน” ซูจือเยว่เอ่ยขึ้น

กู้เสี่ยวหวานมองตามน้ำชาที่เขาริน มองไม่เห็นความสุขหรือความโกรธบนใบหน้าของเขา

คนแรกที่รู้

เดิมทีกู้เสี่ยวหวานคิดว่าไม่ว่าสิ่งที่นางพูดจะถูกหรือผิด ซูจือเยว่จะปฏิเสธนาง อย่างไรก็ตาม ถ้าโรงน้ำชาแห่งนี้เป็นของเขาและหลายคนรู้เรื่องนี้ เขาคงจะไม่ปฏิบัติกับนางอย่างหยาบคาย

เพียงแต่ไม่มีใครรู้เรื่องนี้ นางแค่ถามไปเพียงเท่านั้นว่าทำไมเขาถึงนัดตัวเองโดยไม่ต้องจองห้องรับรองล่วงหน้า

กู้เสี่ยวหวานเอ่ยคำถามนี้ออกไป แต่กลับกล่วว่า “ชานี้รสชาติดีนัก”

กู้เสี่ยวหวานยกชาขึ้นจิบ

“ตราบเท่าที่ท่านเสี้ยนจู่ชอบ ที่นี่ยังมีชาอีกมากมาย และข้าจะมอบให้ท่านนำกลับบ้านไปด้วย” ทันทีที่ซูจือเยว่ได้ยินว่ากู้เสี่ยวหวานบอกว่าชอบ จึงรีบออกคำสั่ง “หลายชิ่ง รีบไปบรรจุชานี้และนำขึ้นมา”

แม้ว่าซูจือเยว่จะเป็นคนอ่อนโยนและสง่างาม แต่เนื่องจากรูปร่างหน้าตาที่หล่อเหลาและท่าทางที่อ่อนโยนของเขาทำให้มีผู้คนมากมายรอบตัวเข้าหาเขาเป็นครั้งคราว

ในความเป็นจริงภายใต้รูปลักษณ์ที่เรียบง่ายนั้น ซูจือเยว่เป็นคนที่ยากจะเข้าถึง แม้ว่าเขาจะยิ้มอย่างมีความสุขให้กับคนที่เขาไม่ชอบ แต่มันก็แค่หน้ากากฉาบหน้าเท่านั้น และไม่ได้นับว่าอีกฝ่ายเป็นสหายของตนเอง

แต่คราวนี้ ซูจือเยว่ทำตามคำพูดของเสี้ยนจู่ และบอกเสี้ยนจู่อันผิงว่าเขาเป็นเจ้าของศาลาเทียนหมิงนี้ เพราะแม้แต่นายท่านเองก็ไม่รู้เรื่องนี้เลย

หลายชิ่งรู้สึกประหลาดใจมากและคราวนี้เขาบอกว่าเขาจะให้ชาขาวผู่เอ๋อร์แก่แม่นางกู้ หลายชิ่งก็ยิ่งประหลาดใจและขบกรามแน่น

นี่คือชาโปรดของนายน้อย ในร้านไม่มีขายและสงวนไว้ให้นายน้อยดื่มคนเดียวเท่านั้น

…………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด