ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวยบทที่ 1606 ล่วงเกินขันทีฉี

Now you are reading ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย Chapter บทที่ 1606 ล่วงเกินขันทีฉี at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 1606 ล่วงเกินขันทีฉี

……….

บทที่ 1606 ล่วงเกินขันทีฉี

“ฝ่าบาท ท่านต้องตัดสินแทนหม่อมฉันนะเพคะ ฮือ ฮือ ฮือ ฝ่าบาท หลี่ฝานนั้นฆ่าคนมีพยานหลักฐานจริง ขอฝ่าบาทโปรดรับสั่งให้ปลิดชีวีตของหลี่ฝาน แก้แค้นให้น้องชายของหม่อมฉันนะเพคะ”

ฉินเย่จือไม่สนใจนาง เกี้ยวนั้นผ่านโหยวกุ้ยเฟยตรงเข้าประตูไปแล้วหยุดอยู่ที่ประตูใหญ่ของตำหนักหย่างซิน

โหยวกุ้ยเฟยมองเกี้ยวหลังใหญ่ที่ใช้แปดคนหามอย่างฟุ่มเฟือยและหยุดอยู่ตรงประตูของตำหนักหย่างซิน มีฐานะเช่นนี้นอกจากไทเฮาและผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์แล้วยังจะมีผู้ใดอีก

ความหรูหราของเกี้ยวหลังนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ในปัจจุบัน

เพียงแค่เห็นแผ่นหลังที่โดดเด่นล้ำเลิศเดินลงมาจากเกี้ยว ยังมองไม่เห็นใบหน้าที่ชัดเจน ผู้คนรอบข้างทั้งหมดก็คุกเข่าลง เหลือแต่เพียงหัวดำ ๆ อยู่ภายใต้แรงกดดันนั้นจนไม่มีผู้ใดกล้าเงยหน้าขึ้น

โหยวกุ้ยเฟยครุ่นคิดอยู่สักครู่จึงลุกขึ้นและก็วิ่งไปข้างหน้า “ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์เพคะ ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์เพคะ”

อาโย่วที่อยู่ข้างฉินเย่จือขวางนางเอาไว้ ใบหน้าที่หล่อเหลานั้นดำคล้ำจนกลายเป็นสีหมึก “โหยวกุ้ยเฟย”

โหยวกุ้ยเฟยถูกขัดขวางไม่อาจก้าวต่อไปได้ จึงอดไม่ได้ที่จะพาลโกรธ “เจ้าเป็นใคร จึงกล้าที่จะมาขวางทางข้า เจ้าขี้ข้า เจ้ามีกี่หัวกัน อีกสักเดี๋ยวข้าจะรายงานฝ่าบาทให้ลงโทษเจ้าที่ไม่รู้จักความเคารพ”

แต่ว่าอาโย่วนั้นไม่ได้หวาดกลัวนางเลยแม้แต่น้อย ฝักดาบในมือข้างหนึ่งนั้นก็ถูกชักออกและดาบก็โผล่ออกมาสามฉื่อส่องแสงเจิดจ้าอย่างเย็นเยียบ

“ดาบเล่มนี้เป็นดาบอัสนีที่ฝ่าบาททรงพระราชทานด้วยมือของพระองค์เองให้แก่กระหม่อม สังหารเฉพาะผู้ที่เป็นภัยต่อท่านอ๋อง ไม่ว่าผู้ใดที่เข้าใกล้ท่านอ๋องและไม่หวังดีต่อท่านอ๋อง ก็ไม่สมควรที่จะได้รับการให้อภัย” ดาบของอาโย่วชักออกจากฝัก ตัวดาบที่ส่องแสงออกจากฝักนั้นส่งเสียงฟังดูน่าขนลุก

“เจ้า เจ้า เจ้ากล้าฆ่าข้า” โหยวกุ้ยเฟยมองดาบเล่มนั้นก็หวาดกลัวจนขาอ่อน ทั่วทั้งตัวราวกับถูกแรงดึงออกไปอย่างไรอย่างนั้น ไร้เรี่ยวแรงจนทรุดอยู่บนพื้น

ดวงตามองไปที่แผ่นหลังอันสง่าผ่าเผยของผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ที่เดินจากไป ตั้งแต่ต้นจนจบนั้นไม่เคยหันมามองเลยแม้แต่แวบเดียว

บุรุษเช่นนี้มีรูปร่างท่าทางที่ล้ำเลิศ และยังมีความสามารถที่ทำให้ผู้คนหวาดกลัวจนตัวสั่น ต่อสู้อย่างไร้พ่าย พญามัจจุราชผู้นั้น แม้แต่ผู้ที่อยู่ข้างกายเขาก็ราวกับภูตผีที่ปีนป่ายออกมาจากขุมนรก เพียงแค่มองปราดเดียวก็ทำให้นางเป็นอัมพาตไปทั้งตัว หวาดกลัวจนอ่อนปวกเปียก

นางได้รับความตกใจกลัวและไม่อาจกล่าวอะไรได้อีก

“กุ้ยเฟยเหนียงเหนียง เชิญท่านเสด็จกลับไปเถอะพะยะค่ะ ฝ่าบาททรงเรียกท่านอ๋องมาปรึกษาหารือเรื่องสำคัญ เรื่องของตระกูลท่านนั้นย่อมมีคนของกองกำลังรักษาความสงบดูแลให้ ขอร้องกุ้ยเฟยได้โปรดอย่ามารบกวนฝ่าบาทด้วยเรื่องนี้อีกเลย” ขันทีฉีก้มหน้าลงและหนีบไม้ขนไก่ไว้ในอ้อมแขน เอื้อมมือไปประคองกุ้ยเฟย

“เจ้าเป็นขี้ข้าที่ไม่ใช่บุรุษไม่ใช่สตรี อย่ามาแตะต้องข้า” จู่ ๆ โหยวกุ้ยเฟยก็แผดเสียงตะโกน พวกเหล่าข้ารับใช้ที่คอยปรนนิบัติที่เหลือรออยู่ด้านนอกได้ยินเสียงที่แผดร้องนี้ ก็ค่อย ๆ พากันมอง เมื่อเห็นว่าผู้ที่ถูกด่าทอคือขันทีฉี ทุกคนต่างก็ค่อย ๆ ก้มหัวลงไม่กล้าส่งเสียงดัง

ตำหนักหย่างซินเงียบสงบมาก เงียบเสียจนแม้แต่ผู้ที่เดินยังไร้สุ้มเสียง ยิ่งไปกว่านั้นเสียงที่แผดร้องด้วยความโกรธเกรี้ยวนี้ทำให้นกตกใจจนบินไปทั่วตำหนักหย่างซิน รวมไปถึงด้านในของตำหนักหย่างซินด้วย

มือขันทีฉีที่ยื่นออกมาหยุดชะงัก ความตกตะลึงเล็กน้อยพาดผ่านระหว่างคิ้วตาของเขาแล้วกลับมาเป็นปกติในทันที รีบชักมือกลับมาอย่างเงียบ ๆ ราวกับว่าความตกตะลึงเมื่อครู่นี้เป็นเพียงแค่ช่วงเวลาสั้น ๆ

นางกำนัลที่อยู่ด้านข้างก็ตกใจอย่างมาก เหลือบมองอย่างหวาดกลัวดูเหมือนว่าขันทีฉีจะไม่ได้เก็บเอามาใส่ใจ จึงหันไปมองโหยวกุ้ยเฟยที่ดูเหมือนกับว่าจะไม่ได้ตระหนักถึงอะไรเลย จึงพูดด้วยเสียงสั่นเครือ “พระสนมเพคะ”

เมื่อได้ยินเสียงนี้แล้ว โหยวกุ้ยเฟยจึงฟื้นจากความตกใจที่ถูกอาโย่วขู่ขวัญเมื่อครู่นี้

เมื่อครู่นี้นางถูกอาโย่วทำให้หวาดกลัวมากจนใบหน้าซีดเผือด ดาบที่ส่องแสงเป็นประกายนั้นยังมีเสียง “ชิ้ง” ที่ดังแสบแก้วหู และยังมีแววตาที่น่าขนลุกของอาโย่ว น่ากลัวมาก น่าหวาดกลัวมากจริง ๆ

ดาบที่ส่องแสงเป็นประกายนั้นกระทบเข้ามาในดวงตาของนาง เมื่อครู่นางคิดว่าดาบนั่นจะผ่าเข้ามาจนทำให้ศีรษะนางขาด

หลังจากที่ตั้งสติได้ โหยวกุ้ยเฟยจึงเพิ่งรู้ว่าตัวเองทำเรื่องโง่เง่าไว้เพียงใด

ขันทีฉีหวังดีเข้ามาช่วยประคองนาง กลับถูกนางทักทายด้วยคำพูดที่ไม่เป็นคำพูด และยังด่าทอด้วยคำพูดที่ไม่น่าฟังเช่นนั้นอีก

ขันทีฉีเป็นเป็นขันทีที่คอยอยู่ข้างฮ่องเต้ ถึงแม้ว่าจะเป็นขันทีแต่ว่าก็คอยติดตามฮ่องเต้ตลอด แม้ว่าอายุจะน้อยแต่กลับเป็นผู้ที่ได้รับความไว้วางใจอยู่ข้างกายฝ่าบาทมานานแล้ว เป็นผู้มีเกียรติที่สุดที่ได้รับความโปรดปรานจากฝ่าบาท ผู้ใดจะกล้าดูหมิ่นดูแคลนแม้แต่ครึ่งคำ

ยิ่งไม่ต้องกล่าวถึงเหล่านางสนมที่เข้าไปประจบประแจงเพื่อสืบดูที่ประทับของฝ่าบาท ทั้งยังไม่เคยมีผู้ใดกล้าด่าทอขันทีฉีว่าเป็นขี้ข้าที่ไม่ใช่บุรุษไม่ใช่สตรี

ดวงตาของขันทีฉีนั้นเย็นชาเล็กน้อย เมื่อก่อนนั้นยังรู้สึกว่าโหยวกุ้ยเฟยสง่างามและใจกว้าง ถึงอย่างไรนั้นก็มาจากจวนของโหยวไท่ซือ ย่อมต้องเป็นบุคคลที่น่ายกย่องชื่นชม

ตอนนี้ใบหน้านี้ถูกเปิดเผยจนไม่มีอะไรเหลือแล้ว

ขี้ข้าที่ไม่ใช่บุรุษไม่ใช่สตรี

จุ๊จุ๊ ฝีปากของโหยวกุ้ยเฟยนี่เป็นพิษเสียจริง ๆ

ขันทีฉียืนอยู่กลางแสงดวงอาทิตย์ เมื่อยืดตัวขึ้นและก้มหน้าลง แต่เนื่องจากรูปร่างที่สูงนั้นจึงบดบังแสงอาทิตย์ของโหยวกุ้ยเฟย ทอดเงาตกกระทบอยู่บนร่างของโหยวกุ้ยเฟยและยังมีดวงตาที่เย็นยะเยือกนั้นอีก

และจือฉินที่อยู่ด้านข้างก็ดึงแขนเสื้อของตัวเองด้วยความหวาดกลัว

โหยวกุ้ยเฟยจึงเพิ่งเข้าใจว่านางทำเรื่องโง่เง่าลงไปแล้ว

นางดูถูกขันทีฉีผู้นี้มาตลอด ในฐานะบุรุษกลับไร้ประโยชน์ ร่างกายพิการยังมาทำเรื่องที่ต่ำต้อยอีก นางเหยียดหยามดูแคลนขันทีทุกคนในวังหลวง

แต่ไม่ว่าจะกล่าวอย่างไรขันทีฉีก็เป็นขันทีที่อยู่ข้างกายฝ่าบาท คอยปรนนิบัติรับใช้อย่างใกล้ชิด ทุกการเคลื่อนไหวและที่ประทับอยู่ของฝ่าบาทขันทีผู้นี้ล้วนรู้ทั้งหมด นางทำได้เพียงแค่ไปประจบประแจงขันทีฉี ถึงแม้ว่าในใจจะขยะแขยงข้ารับใช้ผู้นี้มากที่ไม่ใช่ทั้งบุรุษไม่ใช่ทั้งสตรีก็ตาม แต่ว่าต่อหน้าแล้วนางไม่เพียงแต่ไม่อาจล่วงเกินผู้ที่สูงส่งท่านนี้ ตรงกันข้ามยังต้องนอบน้อมต่อผู้สูงส่งท่านนี้อีกด้วย

“ขันทีฉี เมื่อครู่นี้เปิ่นกงได้รับความตกใจจนหวาดกลัว เมื่อครู่นี้จึง . . .” โหยวกุ้ยเฟยยืนขึ้นและอธิบายทันที

ขันทีฉีกลับก้าวถอยหลังหนึ่งก้าวและประสานมือคำนับอย่างนอบน้อมกล่าวว่า “กุ้ยเฟยเหนียงเหนียงทนกระหม่อมไม่ได้ กระหม่อมเป็นเพียงแค่ข้ารับใช้ที่ต้อยต่ำ พระสนมเสด็จกลับไปในตำหนักเถอะพะยะค่ะ กระหม่อมต้องไปปรนนิบัติฝ่าบาทแล้ว” กล่าวจบก็โบกไม้ขนไก่ ขันทีฉีเองก็ไม่มองหน้าโหยวกุ้ยเฟยที่ใบหน้านั้นแข็งทื่อไปแล้วเล็กน้อยและเดินจากไปอย่างสง่าผ่าเผย

……….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด