ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวยบทที่ 1613 หาอู๋เทียนเจอ
บทที่ 1613 หาอู๋เทียนเจอ
……….
บทที่ 1613 หาอู๋เทียนเจอ
“เจ้า เจ้า เจ้าเป็นใคร จะทำอะไร” แสงไฟใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงร้องอันน่าหวาดกลัวดังขึ้น
เดินไปข้างหน้าไม่กี่ก้าว แสงไฟก็ส่องไปที่ใบหน้าที่หวาดกลัวของอู๋เทียน เมื่ออีกฝ่ายเห็นว่าผู้มาใหม่เป็นใคร ร่องรอยของความประหลาดใจก็ฉายบนใบหน้าของเขาในทันที “เจ้า…เจ้ามาทำอะไรที่นี่?”
“อู๋เทียน ข้าอยากจะถามเจ้า ทำไมเจ้าถึงอยู่ในร้านจุ้ยอวี้กู่ไจ ทำไมเจ้าไม่ถูกจับหลังจากไป จากเหตุการณ์ใหญ่ที่เกิดขึ้นในร้านจิ่นฝู แล้วเจ้าหนีออกมาได้อย่างไร”
คำถามของอาโม่ทำให้อู๋เทียนปิดหน้าและร้องไห้ “ข้าต้องขอโทษเถ้าแก่หลี่ ข้าไม่ควรเชื่อคำพูดของคนอื่น ข้าเป็นคนที่ทำร้ายเถ้าแก่หลี่ และข้าเป็นคนที่ทำร้ายร้านจิ่นฝู”
“พูดมา เจ้าทำอะไรลงไป” อาโม่พูดพร้อมขมวดคิ้ว
“มีคนในร้านจุ้ยอวี้กู่ไจได้ยินว่าข้าทำอาหารในร้านจิ่นฝู พวกเขาเคยมาหาข้าและบอกว่าตราบใดที่ข้ามาที่ร้านจุ้ยอวี้กู่ไจ พวกเขาจะจ่ายเงินเดือนให้ข้าสามเท่า ตอนแรกข้าไม่เห็นด้วย พวกเขาจึงมาหาข้าอีกครั้งและเพิ่มจำนวนเงินขึ้นเรื่อย ๆ ข้าจะทรยศร้านจิ่นฝูเพราะเรื่องนี้ได้อย่างไร และข้าไม่เคยตกลง” อู๋เทียนพูดพร้อมเช็ดน้ำตา
“พวกเขาขอให้เจ้าไปเป็นคนทำอาหารที่จุ้ยอวี้กู่ไจหรือ” อาโม่ถามกลับด้วยความประหลาดใจ “แล้วเจ้าบอกเถ้าแก่หลี่ว่าพวกเขามาหาเจ้าหรือเปล่า”
“ไม่ เป็นเพราะไม่ได้บอก เถ้าแก่หลี่จึงไม่ได้ระวังร้านจุ้ยอวี้กู่ไจ” อู๋เทียนบ่นพึมพำและร้องไห้อีกครั้ง “วันนั้น ข้าไปร้านจิ่นฝูตามปกติและทุกอย่างเรียบร้อยดี ข้าทำอาหารใหม่ทั้งหมดและชิมอาหารทุกจาน ถ้ามีการวางยาพิษข้าคงตายไปแล้ว แต่ข้ากลับยังสบายดี คนอื่นก็ไม่เป็นอะไร มีแค่โต๊ะนั้นโต๊ะเดียว” อู๋เทียนร้องไห้คร่ำครวญ “ท่านพี่อาโม่ ท่านเชื่อข้าหรือไม่ เรื่องทั้งหมดนี้ข้าไม่รู้ ก่อนเหตุการณ์นั้นจะเกิดขึ้น ข้าหมดสติไปแล้ว เมื่อตื่นขึ้นมาก็พบว่าตนเองมาอยู่ที่นี่แล้ว จากนั้นข้าก็ได้ยินคนพูดถึงเรื่องที่เกิดในร้านจิ่นฝู่ คนเหล่านั้นบอกว่าข้าโชคดีที่ข้าสามารถออกจากร้านจิ่นฝูได้ก่อนที่จะเกิดเหตุร้ายขึ้น และบอกว่าตอนนี้เป็นขาลงของร้านจิ่นฝู่แล้ว นั่นทำให้ข้ารู้สึกสบายใจที่จะทำงานในร้านจุ้ยอวี้กู่ไจ ในอนาคตร้านจุ้ยอวี้กู่ไจจะกลายเป็นร้านอาหารที่ดีที่สุดในต้าชิง”
“เจ้าบอกว่าเจ้าหมดสติไป พอตื่นขึ้นมาก็อยู่ที่นี่แล้วหรือ” อาโม่ถาม
อู๋เทียนพยักหน้า “ใช่ ตอนนั้นข้ายังจำได้ว่าข้าทำอาหารไปหลายจาน จากนั้นไม่นานข้าก็รู้สึกวิงเวียนและหมดสติไป เมื่อข้าตื่นขึ้นมาอีกครั้งเหตุการณ์ในร้านจิ่นฝูก็เกิดขึ้นแล้ว และข้าก็มาอยู่ที่นี่”
ไม่น่าแปลกใจที่ลูกจ้างคนนั้นบอกว่าคนทำอาหารของร้านจิ่นฝูมองการณ์ไกลและจากไปก่อนจะเกิดเรื่องขึ้นในร้านจิ่นฝู
นี่ไม่ใช่การมองการณ์ไกล นี่คือคนที่กำลังเหวี่ยงแหขนาดใหญ่และทำลายร้านจิ่นฝูและบุคคลนั้นหลงคิดผิดว่า ความรุ่งเรืองในปัจจุบันของร้านจิ่นฝูเป็นเพราะอาหารจานใหม่ของอู๋เทียน ดังนั้นเขาจึงพาอู๋เทียนออกไปก่อนที่จะสร้างเหตุการณ์นั้นขึ้น
การรักษาพ่อครัวไว้คือกุญแจสู่ความเจริญรุ่งเรืองของร้านอาหาร
สำหรับร้านจิ่นฝูก็จะถูกทำลายโดยที่ไม่ต้องทำอะไรเลย
จะไม่มีร้านอาหารใดที่สามารถแข่งขันกับร้านจุ้ยอวี้กู่ไจได้อีกต่อไป
“ตอนนี้เจ้าจะทำอะไร” อาโม่ถาม
“”ข้าวางแผนที่จะอยู่ที่นี่เพื่อดูว่าข้าจะได้รับข่าวใด ๆ ที่สามารถช่วยเถ้าแก่ได้หรือไม่” อู๋เทียนเช็ดน้ำตา และพูดอย่างหนักแน่น
“งั้นก็ระวังตัวด้วย” อาโม่ไม่พูดอะไรอีก และหันหลังเตรียมจากไป อู๋เทียนเอ่ยรั้งเขาจากด้านหลัง “ท่านพี่อาโม่ คิดว่าครั้งนี้ร้านจิ่นฝูจะปลอดภัยหรือไม่”
อาโม่ไม่หันศีรษะกลับ น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความหนักแน่น “ใช่ ร้านจิ่นฝูไม่เป็นไร จะยังคงเป็นร้านอาหารอันดับหนึ่งในต้าชิงเหมือนเดิม และจะไม่มีใครมาแทนที่ได้”
คำพูดเหล่านี้ทำให้ใจของอู๋เทียนสงบลง
อาโม่ออกไปแล้ว และคนสองคนที่อยู่หน้าประตูยังคงหลับสนิท
เขาออกจากร้านจุ้ยอวี้กู่ไจและกลับไปที่สวนชิงอย่างรวดเร็ว เมื่อไปถึงก็เรียกอาจั่ว และมุ่งหน้าไปยังห้องของกู้เสี่ยวหวานพร้อมกัน
หลายวันมานี้กู้เสี่ยวหวานนอนไม่ค่อยหลับเลยทำให้นอนไม่พอ เมื่อได้ยินว่าอาโม่กลับมา และมีเรื่องสำคัญต้องรายงาน จึงบอกให้พวกเขาเข้ามาทันที
กู้เสี่ยวหวานสวมเสื้อคลุมบาง ยกมือขึ้นกอดอกและนั่งบนเก้าอี้เพื่อรอให้พวกเขาเข้ามา
“คุณหนู ข้าเจออู๋เทียนแล้ว” อาโม่บอกกู้เสี่ยวหวานทุกอย่างที่ได้รับรู้มา
หลังจากที่กู้เสี่ยวหวานได้ยินเรื่องนี้ นางก็ยืนยันหนักแน่นมากขึ้นว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับร้านจุ้ยอวี้กู่ไจ
“เขาต้องการอยู่ในร้านจุ้ยอวี้กู่ไจเพื่อสืบข่าวคราว?”
“ใช่ เขาบอกว่าเขาต้องคืนความบริสุทธิ์ให้ร้านจิ่นฝู” อาโม่ตอบ
“พวกเจ้าคิดอย่างไร” กู้เสี่ยวหวานมองไปที่อาโม่และอาจั่วและถามความคิดเห็นของพวกเขา
“ร้านจุ้ยอวี้กู่ไจต้องการจะกำจัดร้านจิ่นฝูและมาแทนที่ร้านจิ่นฝู” อาจั่วตอบหลังจากได้ยินสิ่งนี้
“จากนั้นล่ะ?” กู้เสี่ยวหวานหรี่ตาและถามต่อไป
“จากนั้น….” อาโม่และอาจั่วมองหน้ากัน พวกเขามองเห็นความสับสนในแววตาของกันและกัน “หาเงิน”
“เงินทำอะไรได้บ้าง” กู้เสี่ยวหวานตักเตือน
“ซื้อของได้มากมาย”
“ยังสามารถซื้อคนและอาวุธได้” กู้เสี่ยวหวานพูดอย่างเย็นชา
“คุณหนูหมายถึง…” ครั้นได้ยินดังนั้นใบหน้าของอาโม่และอาจั่วก็ซีดลง
ก่อนที่ฮ่องเต้องค์ใหม่จะขึ้นครองบัลลังก์ เดิมทีแล้วหมิงอ๋องต้องการเป็นฮ่องเต้ แต่ฮ่องเต้องค์ใหม่ได้รับการสนับสนุนจากฮ่องเต้องค์ก่อน แม้ว่าหมิงอ๋องต้องการครอบครองบัลลังก์สักเท่าไรเขาก็ต้องระวังสองคนนี้ไว้
อย่างไรก็ตาม เมื่อฮ่องเต้เติบโตขึ้นทุกวันและมีความคิดมั่นคงขึ้น หมิงอ๋องก็จะร้อนรนขึ้นเรื่อย ๆ
ขยายความแข็งแกร่งและขึ้นเป็นฮ่องเต้ นี่ไม่ใช่สิ่งที่หมิงอ๋องนึกถึงมาตลอดหรือ?
กู้เสี่ยวหวานอยู่ในเมืองหลวงเป็นเวลานานและได้ยินฉินเย่จือพูดเกี่ยวกับเมืองหลวงมากมาย ฉินเย่จือยังเล่ารายละเอียดเกี่ยวกับหมิงอ๋องให้นางฟัง
“บางทีพวกเขาอาจไม่ได้หมายความแบบนี้ แต่ใครจะรับประกันได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในภายหลัง” กู้เสี่ยวหวานนวดขมับเพราะนอนหลับไม่ค่อยสนิทมาหลายวัน อีกทั้งตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว นางจึงเริ่มง่วงขึ้นมา
……….
Comments