ทะลุมิติไปเป็นเศรษฐีนียุค 80 [重生八零致富记] 366 ฝากชีวิตไว้กับเจี้ยนอวิ๋น
ตอนที่ 366 ฝากชีวิตไว้กับเจี้ยนอวิ๋น
เนื่องจากมีการเปิดขายเครื่องใช้และอุปกรณ์ทันสมัย ก็ทำให้ห้างสรรพสินค้าเข้าสู่วสันตฤดูหนที่สอง*ทันที
*วสันตฤดูหนที่สอง = การตกหลุมรักอีกครั้ง
พวกมันทั้งใช้งานง่ายและสะดวกรวดเร็ว และยังไม่มีควันอีกด้วย
แม้จะต้องใช้แก๊สอย่างระมัดระวังอยู่บ้าง แต่ก็ไม่พบว่าเกิดเหตุอันตรายจากการใช้แก๊สแต่อย่างใด ขอเพียงใช้อย่างถูกวิธี มันก็ถือว่าเป็นอุปกรณ์เครื่องใช้ที่สะดวกมาก
จี้เจี้ยนอวิ๋นมีความคิดจะเปิดร้านค้าในเมืองที่ขายของเหล่านี้โดยเฉพาะทันที
เมื่อพูดเรื่องนี้กับซูตานหง เธองุนงงไปเช่นกัน “ในชีวิตนี้คุณจะทำมันซะทุกอย่างเลยเหรอคะ?”
“ไม่เห็นเป็นไรเลยครับ เราทำมาหากินได้ทุกอย่าง แค่ไม่ทำเรื่องทุจริตก็พอแล้วครับ” จี้เจี้ยนอวิ๋นบอก
“ให้ต้าจื้อกับจินจื่อไปดูแลสิคะ ถ้างานที่สวนยุ่ง ให้แค่อีก 2 คนไปช่วยคงพอ” ซูตานหงเอ่ย
จี้เจี้ยนอวิ๋นมุ่ยหน้าและท้วงขึ้น “ทั้งสองคนยังเด็กเกินกว่าจะอยู่ที่นั่นนะครับ”
“คุณเปิดร้านในเมืองนี่คะ เปิดร้านบนถนนเดียวกับร้านที่ต้าจวินดูแลอยู่ บอกให้ต้าจวินแวะไปดูสักหน่อย ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลยค่ะ” ซูตานหงกล่าว
เธอเป็นคนซื้อร้านที่ต้าจวินดูแลอยู่ จึงรู้ทำเลที่ตั้งเป็นอย่างดี
อีกทั้งร้านของเหล่าฉินยังอยู่ไม่ห่างนัก หากมีเรื่องให้รบกวนก็สามารถวิ่งไปขอความช่วยเหลือ และอีกฝ่ายจะมาช่วยได้ในเวลาไม่นาน
จี้เจี้ยนอวิ๋นเห็นว่าเป็นความคิดที่ดี เขาจึงตกลงตามนี้
แถวนั้นมีร้านค้าอยู่หลายร้าน ราคาที่เขาเสนอให้ทำให้พวกเขายอมขายได้อย่างง่ายดาย ทว่าพื้นที่ร้านที่ยอมขายให้เขานั้นเล็กเกินไปเสียหน่อย มีพื้นที่ทั้งหมดไม่ถึง 30 ตารางเมตรด้วยซ้ำ
มันไม่ใช่ราคาที่จี้เจี้ยนอวิ๋นเห็นว่าเหมาะสมนัก หากแต่มันอยู่ใกล้กับร้านของต้าจวิน โดยห่างไปเพียง 3 ร้านเท่านั้น ใกล้กว่านี้ไม่มีอีกแล้ว
จี้เจี้ยนอวิ๋นรู้ว่าเขาจะทำเงินได้ ในช่วงเวลาอย่างนี้ หากต่อไปมีเครื่องใช้ในครัวเรือนมากขึ้น คงจะขายได้ไม่ง่ายนัก เขาจึงกัดฟันซื้อร้านค้านี้มา
ขั้นตอนต่อไปคือการตกแต่งร้าน และจัดวางชั้นและของอื่น ๆ
เป็นธรรมดาที่ต้าจวินจะรู้เรื่องนี้ เขาบอกให้เซียวจวิ้นไปช่วยหลังเลิกเรียน เซียวจวิ้นรับคำเป็นอย่างดี เขาเคยช่วยแต่งร้านลุงอวิ๋นมาก่อน ย่อมต้องช่วยได้อย่างแน่นอน
หน้าท้องของเฉินซวงซวงยังไม่ยื่น แต่ร่างกายดูมีน้ำมีนวลขึ้น หล่อนดูมีหน้าตาสดใสมากทีเดียว จี้เจี้ยนอวิ๋นเห็นรอยยิ้มเบิกบานกับครอบครัวปรากฏบนใบหน้าของสหายร่วมรบของเขา เขาเองก็พลอยยินดีตามไปด้วย
เมื่อย้อนนึกถึงตอนที่ต้าจวินยังอยู่ที่บ้านเกิด เขายังจำบรรยากาศอึมครึมรอบตัวต้าจวินได้ดี
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ในตอนนั้นไม่ใช่ความผิดของต้าจวิน เนื่องจากเขาไร้ซึ่งความหวังในชีวิต ขาไม่สมประกอบ และครอบครัวยังมีที่ดินอยู่เท่าหยิบมือ ซ้ำอยู่ในพื้นที่ห่างไกล นอกจากนี้ยังไม่มีเงินอีกด้วย เขาถึงคิดว่าชีวิตของเขาคงถึงทางตันแล้ว
นึกไม่ถึงว่าจี้เจี้ยนอวิ๋นจะพาครอบครัวของเขามาอยู่ที่นี่
ชีวิตทุกวันนี้ช่างสุขสบาย ผู้ชายที่ผ่านร้อนผ่านหนาวอย่างเขามาย่อมรู้สึกยินดีและพึงพอใจเป็นอย่างยิ่ง
เมื่อคุณแม่ต้าจวินรู้ว่าเจี้ยนอวิ๋นจะมาเปิดร้านข้าง ๆ นางก็ออกตัวด้วยหวังจะช่วยเหลือเขาได้บ้างเช่นกัน รวมถึงรับปากว่าจะรับผิดชอบอาหารการกินของจินจื่อและต้าจื้อให้
“ฉันไม่ลำบากในเรื่องทำอาหารให้พวกเด็ก ๆ อยู่แล้ว แค่บอกให้พวกเขามากินที่นี่ก็พอ มากินด้วยกันนี่แหละ สะดวกดี” คุณแม่ต้าจวินบอก
จี้เจี้ยนอวิ๋นไม่ปฏิเสธน้ำใจนาง จึงได้แต่กล่าวขอบคุณนางไป โดยให้ค่าอาหาร คนหนึ่งตกเดือนละ 15 หยวน 2 คนรวมเป็น 30 หยวนได้
นับเป็นเงินจำนวนมาก คุณแม่ต้าจวินบอกว่ามากเกินไปซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่จี้เจี้ยนอวิ๋นยืนกรานจะให้ตามนี้ นางจึงไม่อาจคัดค้านได้
จี้เจี้ยนอวิ๋นยังเช่าบ้านเล็ก ๆ ให้จินจื่อกับต้าจื้ออยู่ ให้พวกเขาได้อาบน้ำ ตากเสื้อผ้าและนอนหลับ ก่อนจะออกไปดูแลร้านในช่วงกลางวัน
จี้เจี้ยนอวิ๋นไม่ได้วางแผนให้พวกเขาไปส่งของถึงบ้านลูกค้า เพียงแค่สอนวิธีการติดตั้งให้ที่ร้านเท่านั้น อธิบายวิธีการใช้งานเตาแก๊สให้ชัดเจน จดจำวิธีการปิดแก๊ส ไม่อย่างนั้นอาจเกิดเหตุแก๊สรั่วได้
ร้านค้าเปิดหลังจากยุ่งมาเกือบ 10 วัน จี้เจี้ยนอวิ๋นทำสิ่งต่าง ๆ ได้รวดเร็วอยู่เสมอ โดยไม่ต้องกังวลแต่อย่างใด
ใช้เวลา 5 วันในการตกแต่งร้าน และอีก 3 วันในการซื้อสินค้ามาวางขาย ในช่วง 2 วันสุดท้าย จี้เจี้ยนอวิ๋นได้สอนวิธีการใช้งานให้พวกเขา
พวกเขาอยู่ในวัยเล่าเรียน จึงเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว ต้าจวินและเซียวจวิ้นแวะมาดู และเข้าใจวิธีการใช้พวกมันเช่นกัน
อันที่จริงพวกเขาเรียนรู้เรื่องอุปกรณ์เหล่านี้ได้ไวมากทีเดียว ราวกับเกิดมามีพรสวรรค์ด้านนี้ ฝึกเพียง 2 วันก็เพียงพอสำหรับพวกเขาแล้ว
เมื่อถึงเวลาเปิดร้าน จี้เจี้ยนอวิ๋นก็แวะมาในวันที่เปิดร้านวันแรกด้วย
พวกเขาจุดประทัด เพื่อเป็นการฉลองการเริ่มต้นที่ราบรื่น
ทุกอย่างในร้านขายลดราคา โดยทุกชิ้นลดราคาถึง 20 เปอร์เซ็นต์
เฉินซวงซวงมาซื้อไป 1 ชุดให้พ่อแม่ของหล่อนทันที ตระกูลเฉินร่ำรวย แม้จะกินอยู่อย่างเรียบง่าย หากแต่พวกเขามีฐานะมั่งคั่ง
อันที่จริงหล่อนต้องการซื้อไปให้บ้านของสามีอีกชุดหนึ่งเช่นกัน เพียงแต่คุณแม่ต้าจวินไม่ยอมให้ซื้อให้ นางกลัวว่าหล่อนจะขัดสนเงินทอง จึงกล่าวปฏิเสธ บอกว่าใช้เตาฟืนใหญ่ ๆ ก็ดีแล้ว ถึงกระนั้นหล่อนก็ยังซื้อมา 1 ชุด ถือเป็นการอุดหนุนกิจการของจี้เจี้ยนอวิ๋น
คุณพ่อกับคุณแม่เฉินไม่ได้คัดค้านอะไร แม้พวกเขาคิดว่ามันไม่ใช่ของจำเป็นนัก แต่เมื่อเฉินซวงซวงได้ลองใช้ หล่อนก็ติดใจอุปกรณ์เหล่านี้ทันที
หล่อนนำกระดูกหมูมาปรุงอาหาร พร้อมใส่เห็ดหอม ปรุงด้วยซีอิ๊วขาว และเครื่องเทศอื่น ๆ นำไปต้มพร้อมกับไข่ ก่อนทำการเคี่ยวไปเรื่อย ๆ
หล่อนมีฝีมือช่ำชองด้านการทำอาหาร หลังได้ลองใช้ไม่กี่ครั้ง จึงสามารถเรียนรู้การใช้งานได้ เฉินซวงซวงไม่สนใจคำห้ามปรามของคุณแม่ต้าจวิน และออกเงินซื้ออีกชุดให้ครอบครัวสามี มันทั้งใช้งานง่ายดาย และไม่มีควันแม้แต่น้อย
ที่สำคัญคือหล่อนเคยซื้อมาก่อนแล้ว เงินที่จ่ายไปนั้นช่างคุ้มค่า ถือเป็นการซื้อเพื่อนำไปสร้างรายได้ต่อ
ซื้อมาแล้วจะเสียหายอะไรล่ะ?
อีกคนที่มาอุดหนุนเขา นั่นคือผู้อำนวยการเหอ
เขาขับรถมาซื้อถึงที่ เถ้าแก่ใหญ่คนนี้เคยใช้มาก่อนแล้ว แต่ครั้งนี้เขามาซื้อกลับไป 2 อย่าง ได้แก่ หม้ออัดความดัน 2 ใบ และเตาแก๊ส
คิดเป็นเงินจำนวนหนึ่ง
เขาลดราคา 20 เปอร์เซ็นต์ใน 3 วันแรก หลังจากพ้น 3 วันไป จะกลับมาขายในราคาเดิม
ส่วนเครื่องเรือนต่าง ๆ แม้จะมีราคาแพง แต่ต้องบอกว่าหากได้ใช้งาน นับว่าไม่เสียดายเงิน
เป็นธรรมดาที่จี้เจี้ยนเยี่ยซึ่งรับหน้าที่ซื้อของเหล่านี้จะงานยุ่งมากกว่าเดิม ถึงจะงานล้นมือแต่เขาก็มีความสุข
ถึงการประเมินเดือนนี้แล้ว เงินเดือนของเขาคงมากกว่า 100 หยวน เมื่อคิดรวมกับส่วนแบ่งยอดขาย!
เป็นไปอย่างที่คาด จี้เจี้ยนอวิ๋นให้เงินเขาถึง 103 หยวน
ผู้ที่มีความสุขที่สุดหนีไม่พ้นจี้มู่ตาน จี้เจี้ยนอวิ๋นกำชับไม่ให้พวกเขาบอกใคร ไม่อย่างนั้นจะกลับไปได้เงินเดือนเท่าเดิม สองสามีภรรยาจึงเก็บเงียบเรื่องนี้ไว้
“คุณคงมองการณ์ไกลแล้ว ที่ไม่ยอมฟังฉันแล้วไปทำงานกับจี้อวิ๋นอวิ๋น เห็นไหม ตอนนี้เฝิงฟางฟางได้แต่กลับไปตกอับเหมือนเดิม สภาพเป็นยังไงล่ะ?” จี้มู่ตานว่าอย่างย่ามใจ
“คุณก็รู้ว่าก่อนหน้านี้ผมไม่อยากไปทำงานด้วย แต่ก็ยังจะมาตามตอแยผม” จี้เจี้ยนเยี่ยบอก
“ฉันก็แค่คล้อยตามพวกเขา คุณคิดว่าครอบครัวเราจะหาเงินได้สักกี่ทางกันล่ะ?” จี้มู่ตานว่าขึ้น
“ไม่มีทางจะรวยเพราะจี้อวิ๋นอวิ๋นได้หรอก สู้อยู่อย่างมั่นคงกับเจี้ยนอวิ๋นดีกว่า” จี้เจี้ยนเยี่ยเอ่ย เขาเฝ้ามองน้องสามมาตลอด และมั่นใจที่จะฝากชีวิตไว้กับอีกฝ่าย
“ถึงเวลาที่ครอบครัวเราจะสร้างบ้านได้แล้วนะ ตอนนี้บ้านก็ทรุดโทรมแล้วด้วย” จี้เจี้ยนเยี่ยนึกขึ้นได้ ก่อนบอกขึ้น
“ดีเลยค่ะ” จี้มู่ตานรับคำอย่างอารมณ์ดี
ตอนนี้ครอบครัวหล่อนมีเงินเก็บบ้างแล้ว จึงสามารถเริ่มสร้างบ้านได้
……………………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
พี่จี้กะจะขายทุกอย่างเลยเหรอคะ โหดมากกก
โชคดีแล้วที่พี่รองจี้ไม่ไหลตามกระแส ไม่อย่างนั้นคงตกอับอย่างสองบ้านที่เหลือแน่นอน
ไหหม่า(海馬)
Comments