ทะลุมิติไปเป็นเศรษฐีนียุค 80 [重生八零致富记] 367 พี่น้องคลานตามกันมา
ตอนที่ 367 พี่น้องคลานตามกันมา
จี้เจี้ยนเยี่ยกับจี้มู่ตานเลือกฤกษ์ยามที่ดี ก่อนประกาศว่าพวกเขาจะสร้างบ้าน
พวกเขาทำการทุบบ้านเก่าและสร้างบ้านใหม่ขึ้น ส่วนเรื่องไม่มีที่อยู่นั้นไม่ใช่เรื่องใหญ่ เพราะยังมีบ้านหลังเดิมของครอบครัวจี้อยู่ ซึ่งพวกเขาสามารถอยู่ที่นั่นได้
ข่าวนี้เป็นที่ฮือฮาในหมู่บ้านมากทีเดียว
ทุกคนต่างคิดว่าจี้เจี้ยนอวิ๋นจะเป็นคนแรกที่สร้างบ้าน แต่กลับเป็นจี้เจี้ยนเยี่ยแห่งบ้านตระกูลจี้ ซึ่งคาดไม่ถึงว่าจะเป็นคนแรกที่เริ่มสร้างบ้าน
จี้เจี้ยนเยี่ยกับจี้มู่ตานเป็นคนที่กระตือรือร้นที่สุดในหมู่บ้าน ในสมัยนี้ การสร้างบ้านเป็นเรื่องที่เชิดหน้าชูตาไม่น้อย
คุณพ่อจี้ยินดีมาก ไม่ใช่เพียงแค่เขา แต่คุณแม่จี้ยังพลอยดีใจไปด้วย
แม้ว่าจี้เจี้ยนเยี่ยจะไม่ใช่ลูกชายที่กตัญญูมากนัก แต่เขาก็ยังเป็นลูกชายของนางอยู่วันยังค่ำ นางไม่ใจร้ายขนาดไม่เหลียวแลลูกชายตนเองหรอก
ส่วนจี้เจี้ยนอวิ๋นกับซูตานหงก็มาแสดงความยินดีด้วยเช่นกัน
จี้มู่ตานเคยมีชีวิตยากลำบากมาก่อน เดือนหนึ่งได้กินเนื้อเพียงเดือนละ 2 หรือ 3 ครั้งเท่านั้น หล่อนเป็นตัวอย่างของผู้ที่คิดก้าวหน้าไม่ยอมท้อถอย ช่วงหลายปีมานี้ ทางบ้านของหล่อนได้เงินจากหล่อนไปได้แค่บางส่วน ตอนนี้เงินทองเล็กน้อยไม่ใช่เรื่องใหญ่
หลังจากแต่งงาน แน่นอนว่าหล่อนต้องอยู่ด้วยลำแข้งของตนเองให้ได้ก่อน เมื่อถึงเวลาค่อยกลับไปแสดงความกตัญญูก็ยังไม่สาย
จี้มู่ตานต้องการคนมาช่วยทำอาหารเลี้ยงคนงาน หล่อนไม่กล้าแบกหน้าไปขอความช่วยเหลือจากซูตานหง เพราะซูตานหงต้องปฏิเสธกลับมาแน่นอน เจ้าหล่อนยังมีลูกต้องเลี้ยง ย่อมไม่ว่างเป็นธรรมดา
หล่อนจึงไปเรียกเฝิงฟางฟาง
เฝิงฟางฟางรู้สึกหัวเสียมากทีเดียว ทว่าหล่อนยังยอมรับปาก
ที่หล่อนไม่พอใจนักไม่ใช่เพราะสิ่งที่จี้มู่ตานทำ แต่เพราะก่อนหน้านี้ตนหลงผิดไป และเชื่อมั่นในตัวนางปีศาจอย่างจี้อวิ๋นอวิ๋นต่างหาก!
เดิมทีครอบครัวของหล่อนใกล้สร้างบ้านได้แล้ว หล่อนเก็บเงินได้มากกว่า 3,000 หยวน เกือบถึง 4,000 หยวน หากเก็บเพิ่มอีกสักนิดก็จะสร้างบ้านได้
ถึงอย่างไรมันก็ไม่ได้ใช้เงินมากเท่าแต่ก่อน หากหยิบยืมเงินอีก 1,000 2,000 3,000 หรือ 4,000 หยวน ก็สามารถสร้างบ้าน 2 ชั้นหรือ 1 ชั้นได้
คงไม่ได้เป็นอย่างในตอนนี้ เงินทั้งหมดสูญสลาย ครอบครัวของน้องสามไม่ยอมจ้างหล่อนไปทำงาน ที่บ้านจึงไม่มีรายได้ พวกเขาจึงต้องพึ่งพางานในไร่
เฝิงฟางฟางก่นด่าจี้อวิ๋นอวิ๋นไปหลายครั้ง มิหนำซ้ำนางแพศยานั่นยังไปยุ่งเกี่ยวกับพี่ใหญ่ของอวิ๋นลี่ลี่อีก นิสัยเจ้าหล่อนช่างกู่ไม่กลับจริง ๆ
อย่าถามว่าหล่อนรู้เรื่องนี้ได้อย่างไร เป็นเพราะหล่อนเห็นพี่ใหญ่ของอวิ๋นลี่ลี่ย่องเข้าไปในห้องของจี้อวิ๋นอวิ๋นกลางดึก จึงแนบหูแอบฟัง และตอนนั้นก็มีเสียงกุกกักเล็กน้อย
แต่หล่อนไม่ได้สนใจเรื่องนี้นัก จี้อวิ๋นอวิ๋นไม่ได้ทำเรื่องแบบนี้แค่ครั้งหรือ 2 ครั้ง ตอนที่แต่งงานกับหลี่จื้อ หล่อนก็ออกไปคบชู้เช่นกัน
ตราบใดที่หล่อนสามารถหาเงินและส่งลูกชายเล่าเรียนถึงมหาวิทยาลัยได้ หล่อนก็คร้านจะยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของจี้อวิ๋นอวิ๋น!
แต่การมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับชายแต่งงานแล้วดูจะเป็นเรื่องเกินขีดจำกัดของหล่อนเช่นกัน
ถึงอย่างนั้นหล่อนก็มีสิทธิ์ที่จะรู้เรื่องเหล่านี้ ไม่อย่างนั้นคงไม่พอใจหากถูกปิดบัง แม้จะไม่มีประโยชน์แต่อย่างใด อย่างน้อยหล่อนก็นำไปนินทาได้
ทว่าทุกครั้งที่คิดว่าตนต้องเสียเงินที่เก็บออมมาหลายปีทั้งหมดไป หล่อนก็ยังนึกโกรธเคืองอยู่บ้าง
จี้เจี้ยนเยี่ยเริ่มสร้างบ้านแล้ว เขาจ้างคนงานมาทำงานให้ ส่วนตัวเขายังออกไปทำงานทุกวัน
จี้มู่ตานช่วยอีกแรง ชาวบ้านสนิทสนมกับครอบครัวหล่อน บางคนยังแวะมาหา แต่ซูตานหงไม่เคยมาสักครั้ง เธอไม่เคยเข้ามายุ่มย่ามเรื่องนี้ ไม่มีใครรู้ได้ว่าเป็นเพราะเหตุใด เมื่อครั้งที่แม่ของเธอสร้างบ้านก่อนหน้านี้ เธอก็ไม่ได้กลับไปเช่นกัน
จี้เจี้ยนอวิ๋นเป็นคนที่มา เขานำปลากับกุ้งเป็นจำนวนมากมาให้ทุกวัน บอกให้จี้มู่ตานกับเฝิงฟางฟางเอาไปทำอาหารเลี้ยงคนงาน
เรื่องนี้ช่วยให้จี้มู่ตานประหยัดเงินได้มาก ปลาที่ได้มามีแต่ตัวโต ๆ หากไปซื้อจะต้องราคาแพงไม่น้อย พวกมันถูกนำไปทำอาหารเลี้ยงคนงาน 5 คน ซึ่งพวกเขากินกันหมดเกลี้ยง
มีปลา 2 ตัว ผัก พร้อมด้วยอาหารอื่นเป็นจำนวนมาก
ระหว่างวันจี้มู่ตานไม่ได้ต่อว่าอะไร หล่อนกลับมาบ่นกับจี้เจี้ยนเยี่ยฟังในเย็นวันนั้น “พวกเขากินจุมากเลยค่ะ ฉันไม่เคยเห็นใครสวาปามมากขนาดนี้มาก่อน แล้วฉันก็ไม่ค่อยพอใจด้วย ข้าว 3 หรือ 4 ชามยังไม่พอ พวกเขากินข้าวตั้ง 5 ชามเลยนะคะ!”
“อย่าคิดมากเลย ให้พวกเขากินไป แค่เร่งทำงานให้ครอบครัวเราพอแล้ว ไม่เป็นไรหรอกน่า” จี้เจี้ยนเยี่ยบอก
จี้มู่ตานนิ่งเงียบ แม่ว่าคนพวกนี้จะกินล้างกินผลาญ แต่พวกเขาก็ทำงานกันได้ดีมาก
“เงินของครอบครัวเราไม่พอแล้วค่ะ คงต้องยืมเงินจากบ้านสามแล้ว” จี้มู่ตานเอ่ย
“เท่าไหร่กัน?” จี้เจี้ยนเยี่ยถาม
“แค่ยืมเงินจากน้องสามมาก็ได้ค่ะ ยืมสัก 2,000 หยวน ตอนนี้ครอบครัวเรามีเงินเดือนของคุณอยู่ ภายใน 2 หรือ 3 ปีก็คงจะใช้คืนเขาหมด” จี้มู่ตานบอก
“ผมว่า 2,000 หยวนดูจะเยอะไปหน่อยนะ” จี้เจี้ยนเยี่ยท้วง
“อะไรกัน ไม่ใช่ว่าคุณจะไม่คืนเขาสักหน่อยนี่ คุณใช้คืนเขาภายใน 2 หรือ 3 ปีก็หมดแล้ว แล้วคุณรู้อะไรไหมคะ ฉันได้ยินเฝิงฟางฟางบอกมา คุณรู้ไหมว่าครั้งก่อนน้องสี่กลับมายืมเงินน้องสามไปเท่าไหร่?” จี้มู่ตานบอก
“เท่าไหร่ล่ะ?” จี้เจี้ยนเยี่ยถามกลับ
เขาไม่รู้เรื่องพวกนี้แต่อย่างใด
“13,000 หยวน!” จี้มู่ตานเอ่ย
“มากขนาดนั้นเลยเหรอ?” จี้เจี้ยนเยี่ยตาโต
“ฉันได้ยินเฝิงฟางฟางบอกมาอย่างนั้น ต้องไม่ผิดแน่ ๆ ค่ะ มันเป็นเงินที่จี้อวิ๋นอวิ๋นเอาไปจ่ายหนี้” จี้มู่ตานบอก
“แล้วใครเป็นคนใช้คืนล่ะ? จี้อวิ๋นอวิ๋นไม่มีปัญญาใช้คืนหรอก” จี้เจี้ยนเยี่ยถาม
เขาไม่เคยคิดสนใจน้องสาวคนนี้ แน่นอนว่าหลังดูจากท่าทางแล้ว เขาก็รู้ว่าเจ้าหล่อนคงไม่สนใจพี่รองอย่างเขาเช่นกัน
“น้องสี่บอกว่าจะใช้คืนให้ ตอนนี้เขาเลยทำงานหาเงินหัวหมุนเลย ครั้งก่อนที่เห็นอวิ๋นลี่ลี่พาเยียนเอ๋อร์กลับมา เธอก็ซูบลงไปเยอะ คงจะเก็บเงินได้มากแล้วล่ะค่ะ” จี้มู่ตานบอก
“เงินนี้เจี้ยนเหวินไม่ได้เอาไปใช้ ทำไมต้องให้เขาใช้คืนคนเดียวด้วยล่ะ?” จี้เจี้ยนเยี่ยว่าอย่างไม่พอใจ
สำหรับน้องสี่อย่างเจี้ยนเหวิน จี้เจี้ยนเยี่ยยังให้ความสำคัญอยู่มาก เขาไม่เคยดูถูกพี่รอง กลับยังเคารพมากทีเดียว เป็นธรรมดาที่จะรู้สึกผูกพันกับอีกฝ่าย
“คุณก็รู้นิสัยใจคอน้องสี่ดี คุณภูมิใจในตัวเขาด้วยนี่ เขาไม่ยอมทำเรื่องที่เดือดร้อนคนอื่นน่ะสิคะ ก็เลยแบกรับเรื่องนี้ไว้คนเดียว” จี้มู่ตานบอก
จี้เจี้ยนเยี่ยมุ่ยหน้า แต่ไม่ได้พูดสิ่งใด เจี้ยนเหวินมีนิสัยเป็นเช่นนั้นจริง ๆ
“เห็นบอกว่าจะใช้คืนใน 5 ปีนะ ภายใน 5 ปีนี้ต้องเก็บเงินให้ได้ 13,000 หยวน นอกจากสอนหนังสือแล้ว เขาต้องไปทำงานเสริมอื่น ๆ ด้วย แต่ถึงจะทำงานหนักแค่ไหน ก็อาจจะหามาจ่ายคืนไม่ทันหรอก” จี้มู่ตานเอ่ย
“เจี้ยนอวิ๋นคงไม่ได้เข้มงวดเรื่องนี้กับเขานักหรอกมั้ง” จี้เจี้ยนเยี่ยกล่าว
“แต่น้องสี่ก็ต้องทำตามที่รับปากไว้นะคะ” จี้มู่ตานบอก “ช่างเรื่องนี้ก่อนเถอะค่ะ พรุ่งนี้คุณไปยืมเงินน้องสามมานะคะ”
“ได้” จี้เจี้ยนเยี่ยรับคำ
เขามายืมเงินในวันรุ่งขึ้น
เรื่องที่พี่ชายจะมายืมเงินไปทำธุระ จี้เจี้ยนอวิ๋นไม่คิดปฏิเสธ ถ้า 2,000 หยวนยังไม่พอก็สามารถมายืมอีกได้
จี้เจี้ยนเยี่ยบอกว่าต้องใช้เงินไม่น้อยถึงเกือบ 6,000 หยวน เช่นเดียวกับคนอื่น ๆ ในยุคนี้ แน่นอนว่าต้องเอาไปเป็นค่าวัสดุก่อสร้าง ใครที่เริ่มสร้างบ้านต่างต้องมีการหยิบยืมเงินคนอื่นบ้าง แต่การยืมมากเกินไปในคราวเดียวก็ไม่ใช่เรื่องดีนัก
อันที่จริงในความคิดของจี้เจี้ยนเยี่ย เขาคิดว่า 2,000 หยวนเป็นเงินไม่น้อยแล้ว
อีกฝ่ายเป็นพี่น้องคลานตามกันมา ไม่อย่างนั้นอีกฝ่ายจะให้ใครยืมเงินมากขนาดนี้กันล่ะ?
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
เจ็บใจที่ไปเชื่อนังสองอวิ๋นใช่ไหมล่ะสะใภ้ใหญ่ หลังจากนี้คงเข็ดยันวันตายแล้วสินะ
เงิน 6000 หยวนไม่ใช่เงินจำนวนน้อย ๆ เลยจริง ๆ ค่ะ
ไหหม่า(海馬)
Comments