ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายสาวชาวสวน 42 แกล้งแม่เฒ่าจางให้หวาดกลัว

Now you are reading ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายสาวชาวสวน Chapter 42 แกล้งแม่เฒ่าจางให้หวาดกลัว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 42 แกล้งแม่เฒ่าจางให้หวาดกลัว

ผ่านไปครู่หนึ่ง ในที่สุดจางซิ่วเอ๋อก็วิ่งเข้ามาในป่า

นางชะงักนิดหน่อย เงยหน้ามองแม่เฒ่าจางที่ไล่ตามเข้ามา และเอ่ยเสียงดัง “ท่านย่า! ท่านอายุขนาดนี้แล้ว อย่ามาในที่ที่พลังหยินหนาแน่นแบบนี้เลย! เมื่อวานข้าเห็นผีผูกคอตายด้วย!”

พูดไปแล้วสีหน้าจางซิ่วเอ๋อก็มืดครึ้มบิดเบี้ยวขึ้นมา

แม่เฒ่าจางเห็นภาพนี้ก็ชะลอฝีเท้า ลังเลอยู่นานสุดท้ายก็ไม่กล้าไล่ตามเข้ามา

เวลานี้นางยืนอยู่ตรงทางเข้าป่าแล้วตะโกนเสียงดัง “นังตัวขาดทุน ออกมานะ!”

จางซิ่วเอ๋อไม่แปลกใจกับคำที่แม่เฒ่าจางใช้เรียกนางอย่างนังตัวซวย นังชั้นต่ำ นังตัวขาดทุนอะไรพวกนี้แล้ว

นางยิ้มตาหยีให้แม่เฒ่าจาง “ท่านย่า เชิญท่านด่าไปเถอะ ด่าได้เลย เรียกผีผูกคอตายนี่ไปด้วยจะดีที่สุด! ถึงตอนนั้นข้ากับชุนเถาอยู่ที่นี่ก็ไม่ต้องกลัวแล้ว!”

แม่เฒ่าจางได้ยินก็รีบหุบปากเงียบเชียบ ไม่กล้าโวยวายอะไรอีก

แต่ตอนนี้นางจ้องจางซิ่วเอ๋อตาขวาง

จางซิ่วเอ๋อเห็นนางกลัวและไม่น่าจะตามมาแล้ว จึงไม่สนใจนางแล้วหันหลังเดินออกมา

ทันทีที่กลับถึงบ้าน นางก็ได้กลิ่นหอมของปลา ที่แท้จางชุนเถาก็กำลังตุ๋นปลาอยู่

“พี่! กลับมาแล้วเหรอ?” จางชุนเถาวิ่งเข้ามา

จางชุนเถาช่วยยกตะกร้าสานบนหลังของจางซิ่วเอ๋อลง

ตะกร้าสานมีรอยบุบนิดหน่อย จางชุนเถาถามอย่างเป็นห่วง “พี่ ไม่เป็นอะไรใช่ไหมเจ้าคะ?”

จางซิ่วเอ๋อนึกขอบคุณความใส่ใจของนาง จึงพูดยิ้ม ๆ “ไม่เป็นไร แค่ไม่ทันระวังเลยล้มน่ะ ไม่มีอะไรเสียหายหรอก”

นางยังปวดเอวอยู่นิดหน่อย แต่ก็ไม่อยากบอกจางชุนเถา

“ตายแล้ว! พี่ ทำไมพี่ซื้อของมาเยอะขนาดนี้ล่ะเจ้าคะ?” จางชุนเถามองของที่อยู่ในถังไม้ภายในตะกร้าสาน และอุทานอย่างตกใจ

นางดึงของออกมาจนหมด ในนั้นมีชุดกระโปรงสองชุด สีชมพูดชุดหนึ่ง สีเขียวอ่อนชุดหนึ่ง

ชุดสีชมพูนั้นนางซื้อมาให้จางชุนเถา ส่วนชุดสีเขียวอ่อนจางซิ่วเอ๋อซื้อให้ตัวเอง

เสื้อผ้าที่มีรอยปะบนตัวใส่แล้วไม่ค่อยสบายเลย ตอนไม่มีตำลึงเงินก็ต้องทน พอมีตำลึงเงินแล้วจางซิ่วเอ๋อก็ไม่ยอมงกกับตัวเองหรอก

ถึงแม้สองชุดนี้จะเป็นผ้าหยาบ แต่จางชุนเถาก็ตื่นเต้นดีใจมาก นี่มันเสื้อผ้าที่ไม่มีรอยปะทั้งนั้น!

จางซิ่วเอ๋อรู้สึกผิดนิดหน่อยที่ไม่ได้ซื้อเสื้อผ้าให้จางซานหยา จึงซื้อลูกอมห่อนึงให้นางแทน

นางออกไปครั้งนี้ไม่ได้ซื้อเนื้อ เพราะที่บ้านมีปลาอยู่ไม่น้อย

นอกเหนือจากนี้ยังมีซีอิ๊วกับน้ำส้ม บวกกับเกลืออีกนิดหน่อย นี่เป็นของที่ตระกูลจางต้องการมากในตอนนี้

จางซิ่วเอ๋อวางของพวกนี้แล้วขึ้นเขาไปรับจางซานหยา

ปลามีกลิ่นแรงเกินไป จะให้จางซานหยาเอากลับไปให้แม่โจวกินไม่ได้ จางซิ่วเอ๋อคิดไปคิดมาแล้วจึงให้จางซานหยาไปบ้านผีสิงก่อน ส่วนตัวนางไปที่บ้านตระกูลจาง

ตอนมาถึงหน้าประตูตระกูลจาง นางก็เห็นแม่โจวซักผ้าอยู่ในลานบ้าน

จางซิ่วเอ๋อมองดูเสื้อผ้าพวกนั้นก็รู้วาไม่ใช่ของบ้านสาม แต่มีของคนอื่นด้วย ตัวที่สีสันฉูดฉาดเห็นได้ชัดว่าเป็นของจางอวี่หมิน

มันทำให้จางซิ่วเอ๋อฉุนนิดหน่อย

นางไม่ได้เข้าไปในตัวลานบ้าน แต่มองแม่โจวแล้วร้องเรียก “ท่านแม่”

“เอ๊ะ! ซิ่วเอ๋อ มีอะไรเหรอ?” แม่โจวเงยหน้าและเช็ดเหงื่อ

เวลานั้นจางอวี่หมินก็เดินออกจากห้องพอดี พอเห็นจางซิ่วเอ๋อก็ด่าอย่างไม่สนใจอะไร “บอกว่าห้ามเจ้ามาที่ตระกูลจางไม่ใช่เหรอ? หรือว่าไม่มีเงินกินข้าวจึงมาขอข้าวกิน?”

สิ่งที่จางอวี่หมินพูดนั้นไม่น่าฟังยิ่งนัก จางซิ่วเอ๋อจึงมองนางด้วยสายตาเย็นเยียบ “เจ้าดูให้ดี ๆ ข้ายังไม่ได้เข้าไปในบ้านตระกูลจางเลยนะ!”

พูดมาถึงตรงนี้จางซิ่วเอ๋อก็หันไปพูดกับแม่โจว “ท่านแม่ ท่านมานี่หน่อย ข้ามีเรื่องจะบอก”

จางอวี่หมินพูดเสียงเย็น “สะใภ้สี่ เจ้ายังซักผ้าไม่เสร็จเลย!”

จางซิ่วเอ๋อเอ่ยเสียงเย็น “ข้ามาหาแม่ข้า เพราะซานหยาเป็นลมด้วยความหิวอยู่บนเขา ตอนนี้ข้ากำลังจะไปหาท่านหมอ เลยอยากให้แม่ข้าไปเฝ้าซานหยา!”

“อย่างไรก็ต้องทำงานให้เสร็จก่อน!” จางอวี่หมินพูดอย่างไร้เหตุผล

จางซิ่วเอ๋อแค่นเสียง “งั้นก็ได้ ข้าจะได้พาซานหยามาส่ง ถึงตอนนั้นที่ซานหยาไปหาหมอก็ต้องให้ท่านย่าออกเงิน…..”

นางพูดมาถึงตรงนี้ก็มองจางอวี่หมินอย่างมีความหมาย

จางอวี่หมินตกใจขึ้นมา “อะไรนะ? ออกเงินเหรอ? ฝันไปเถอะ! สะใภ้สี่ พอแล้ว เจ้าไม่ต้องซักผ้าแล้ว รีบไปดูนังตัวขาดทุนเด็กเถอะ!”

จางอวี่หมินกลายเป็นคนที่คำก็ตัวขาดทุนสองคำก็ตัวขาดทุน สืบทอดวิธีพูดของแม่เฒ่าจางมาอย่างสิ้นเชิง

จางซิ่วเอ๋อถึงกับนึกในใจ ถ้าอีกหน่อยคนอย่างจางอวี่หมินไปอยู่บ้านสามีแล้วยังโอหังแบบนี้ เหอะ…..ได้เจอดีแน่!

แม่โจวเดินตามจางซิ่วเอ๋อไปสามสี่ก้าว เห็นว่าไม่มีใครได้ยินแล้วก็เอ่ยขึ้น “ซานหยาเป็นอะไร?”

น้ำเสียงของแม่โจวยังสงบเป็นปกติอยู่ ไม่ใช่ว่านางไม่เป็นห่วง แต่เมื่อครู่นี้จางซิ่วเอ๋อพูดว่าซานหยาหิวจนเป็นลม จะเป็นไปได้อย่างไรกัน? หลายวันมานี้ซานหยากินดีอยู่ดียิ่งกว่าตอนปีใหม่เสียอีก!

จางซิ่วเอ๋อจึงรีบบอก “ท่านแม่ ท่านไม่ต้องเป็นห่วง ซานหยาสบายดี ข้ามาหาท่านแม่เพราะที่บ้านตุ๋นปลาไว้ ของแบบนี้ไม่สะดวกเอากลับมา ก็เลยมาเรียกท่านไปกินด้วยกัน ถ้าข้าบอกตรง ๆ ว่าเรียกไปกินข้าว ท่านว่าจางอวี่หมินจะยอมให้มาเหรอ?”

แม่โจวได้ฟังก็ยิ้ม “เจ้าเด็กนี่ จางอวี่หมินเป็นอาสาวเจ้านะ เจ้าไปเรียกชื่อนางแบบนั้นได้อย่างไร?”

คำพูดแม่โจวเหมือนจะสั่งสอนจางซิ่วเอ๋อ แต่ในน้ำเสียงมีความขบขันไม่ได้ตำหนิเท่าใดนัก

จางซิ่วเอ๋อทำเสียงฟึดฟัด “ก็ท่านแม่เป็นพี่สะใภ้นางแท้ ๆ แต่นางก็ยังชี้นิ้วสั่งนี่เจ้าคะ?”

“เจ้าจะไปเอาอย่างนางได้อย่างไร?” น้ำเสียงแม่โจวจริงจังขึ้น

จางซิ่วเอ๋อรีบบอก “แม่ ข้าไม่ได้เอาอย่างนาง ข้าแค่ไม่ดูถูกคนอื่นเหมือนนาง”

แม่โจวไม่ได้เถียงอะไรกับคำพูดจางซิ่วเอ๋อ นางเองก็ไม่ชอบจางอวี่หมิน

โต๊ะถูกซ่อมไปบ้างแล้ว บัดนี้ตั้งอยู่ในลานบ้านกว้างขวาง อ่างไม้ใส่เนื้อปลาไว้เต็มหม้อถูกตั้งอยู่บนโต๊ะ ตอนชุนเถาตุ๋นปลานั้นก็ได้ใส่เครื่องปรุงที่เป็นของกึ่งสำเร็จ ความคาวของปลาจึงลดลงไป และมีกลิ่นหอมเป็นพิเศษ

ปลาดุกตัวใหญ่ถูกหั่นเป็นหลายท่อน แถมใส่ปลาหลีตัวไม่ใหญ่มากมาด้วย 2 ตัว ปริมาณไม่น้อยเลยล่ะ

แม่โจวตื่นเต้นอีกครั้ง ปลากะละมังใหญ่ขนาดนี้นางยังไม่เคยได้กินตั้งแต่สมัยอยู่บ้านตัวเองเลย แล้วก็อดบ่นไม่ได้ “ซิ่วเอ๋อ ปลานี่แพงนะ เจ้าซื้อของนี่มากินทำไม?”

จางชุนเถาเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “นี่เป็นของที่พวกเราจับมาเจ้าค่ะ” พูดมาถึงตรงนี้ แม่นางน้อยก็มีสีหน้าภูมิใจ

แม่โจวอึ้ง “จับเองเหรอ?”

จางชุนเถาจึงเริ่มเล่ากระบวนการจับปลาของทั้งสองให้แม่โจวฟัง โดยเฉพาะเรื่องแหครอบที่จางซิ่วเอ๋อถัก นางได้เล่าอย่างละเอียดเป็นฉาก ๆ

แม่โจวเบิกตากว้างเนิ่นนานกว่าจะได้สติ สายตาที่มองจางซิ่วเอ๋อก็ไม่เหมือนเดิม

เด็กคนนี้ โตแล้วจริง ๆ!

………………………………………

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด