ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน / ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐีบทที่ 238 เขามาแล้วจริงๆ
บทที่ 238 เขามาแล้วจริงๆ
“ว้าว เฉินเกอเราเข้ามากันได้จริงๆหรอเนี่ย!”
เฉินหลินพูดอย่างเซอร์ไพรส์
ถูกเฉินเกอกอดเอวเอาไว้ เธอก็ไม่ได้คัดค้าน
เพราะสถานการณ์มันพลิก ช่างน่าตื่นเต้นเสียจริง
ตอนนี้พวกเขาได้เข้ามาในงานแล้ว
งานวันเกิดของหลินยียี ครั้งนี้จัดงานได้ยิ่งใหญ่พอสมควร น่าจะเป็นเพราะคุณพ่อหลินยียีต้องการใช้โอกาสนี้ จัดงานสังสรรค์ขนาดใหญ่
ติงห้าวนั้น เป็นคนฝั่งของเขาหยุนเหมิงก็ต้องมีสิทธิ์มางานนี้อยู่แล้ว
สรุปแล้วตอนนี้ที่งานมีคนร่วมๆร้อยกว่าชีวิต คุณชายคุณหนูและยังมีพวกเถ้าแก่ทั้งหลายต่างมากันไม่น้อย
ภายในการตกแต่งสไตล์คล้ายๆพิธีมงคลสมรส ตรงกลางยังมีทางเดินขนาดยาว ทั้งสองข้างสำหรับผู้ที่มาร่วมงาน
เฉินเกอพาเฉินหลินเข้ามาในงานแล้ว ก็หาที่นั่งนั่งลงโดยตรง
ถึงอย่างไรก็มีคนมางานจำนวนมาก ต่างก็หาเพื่อนนั่งกันเอง
และติงห้าว นั้น หลังจากเข้ามาแล้วก็จ้องมองเฉินเกอและเฉินหลินอย่างดุเดือด แล้วพาหลี่ชือหานไปนั่งกับเพื่อนอีกโต๊ะหนึ่งด้วยใบหน้าที่เขียวปี๋
“เฉินเกอ? นายมาได้ยังไง?”
เวลานี้ เสียงที่เต็มไปด้วยความสงสัยได้ดังขึ้นที่ข้างหูของเฉินเกอ
เฉินเกอหันหน้าไปมอง ก็ตกใจเหมือนกัน
เป็นหญิงสาวคนหนึ่ง ซึ่งเป็นลูกสาวของคุณอาเจียงชื่อเจียงหรานหราน
ข้างกายเธอยังยืนอยู่ด้วยกลุ่มหนุ่มหล่อสาวสวย เวลานี้ เจียงหรานหรานมองเฉินเกอด้วยความประหลาดใจ
เจียงหรานหรานทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้?
แต่คิดดูอีกที เฉินเกอก็พอจะเข้าใจ
ใช่แล้ว คุณอาเจียงเป็นหัวหน้าสำนักงานกลุ่มผู้ลงทุน ตัวเองก็ยังลงทุนอยู่ที่อำเภอผิงอัน เขาต้องคบค้าสมาคมกับผู้จัดการเหล่านั้นอยู่แล้วนายก็คิดดู นี่มันคืองานที่คุณพ่อของหลินยียีตั้งใจที่จะจัดขึ้นมา แม้กระทั่งคนอย่างติงห้าวที่อยากจะมาก็มาได้ เจียงหรานหรานก็สามารถที่จะหาบัตรเข้างานได้อยู่แล้ว
ไม่คิดว่าจะบังเอิญเพียงนี้ ทำให้เจอกันจนได้
“หรานหราน คนนี้คือเพื่อนของเธอหรอ?”
ข้างกายเจียงหรานหราน มีคนชายหนุ่มรูปงานคนหนึ่งเวลานี้ได้ถามขึ้น
“ก็ไม่เชิญเป็นเพื่อน เป็นคนที่ออกมาจากบ้านเกิดของฉัน พ่อของเขามีบางอย่างเกี่ยวข้องกับพ่อของฉันเมื่อหลายปีก่อน ตอนนี้ไม่ได้ไปมาหาสู่กับบ้านเขามานานมากแล้ว บ้านเขาตอนนี้ติดหนี้ตั้งมากมาย พ่อแม่และคนในบ้านเขาต่างไปใช้แรงงานที่ต่างประเทศกันแล้ว ฉันเพียงแต่คิดไม่ถึง สถานที่แบบนี้เขาก็สามารถที่จะมาได้”!
เจียงหรานหรานเหลือบมองเฉินเกอแล้วพูด
อย่างไรเสียครั้งที่แล้วตอนที่อยู่ร้านอาหารฝรั่งเฉินเกอทำให้เธอขายหน้าเจียงหรานหรานยังคงจำได้ขึ้นใจ
เดิมทีครั้งนี้ กว่าตัวเองจะได้บัตรมาหนึ่งใบไม่ใช่เรื่องง่ายเลยเธอต้องไปขอร้องให้คุณพ่อไปช่วยหาบัตรเข้างานในครั้งนี้ พ่อเธออุตส่าห์ไปขอให้หัวหน้าช่วยถึงได้บัตรมา ตัวเองนั้น ก็อยากที่จะออกมาเพิ่มวิสัยทัศน์
นี่ไง การออกงานครั้งนี้ ก็ทำให้ได้รู้จักคุณชายท่านหนึ่งในจิงหลินที่ชื่อจางหล่าง
ทางบ้านของจางหล่างเมื่อก่อนประกอบธุรกิจที่ใหญ่โต ตอนนี้ได้ยินมาว่าโครงการ เขาหยุนเหมิงได้เริ่มขึ้นแล้ว ได้เป็นตัวแทนหนึ่งของโรงแรมในเขาหยุนเหมิงในอนาคตไม่ขาดแคลนทุนทรัพย์อย่างแน่นอน
เป็นคุณชายที่ร่ำรวยอย่างแท้จริง
หากเทียบกันแล้ว หลินตงที่อยู่ต่อหน้าคนชายท่านนี้ก็ถูกบดบังรัศมีไปหมด
เจียงหรานหรานถึงขั้นที่รู้สึกว่า เมื่อก่อนตัวเองเพื่อเฉินเกอแล้วยังเคยตบหน้าหลินตง เป็นเรื่องที่ฝังอยู่ในใจตลอดมา มันช่างน่าขำสิ้นดี
“คุณชายจาง นี่คือหนุ่มน้อยแสนจน เมื่อก่อนตอนที่เขาเรียนม.ปลายอยู่ในอำเภอผิงอันเขาขึ้นชื่อเรื่องโคตรจน!”
งานเลี้ยงครั้งนี้หลินตงก็ต้องมาอยู่แล้ว ตอนนี้ได้เดินออกมาจากกลุ่มคน พูดกับ จางหล่างอย่างประจบประแจง
“อ้อ เห่อๆ ที่แท้เป็นแบบนี้นี่เอง พวกเราไปหาที่นั่งกันดีกว่า เพื่อจะได้นั่งคุยกันดีๆ!”
จางหล่างพูดกับหนุ่มๆสาวๆที่อยู่ด้านหลัง
“พี่จาง เพิ่งมาหรอครับ ผมได้จองที่นั่งไว้ให้พี่แล้ว!”
เวลานี้ ติงห้าวได้พาหลี่ชือหานเดินเข้ามาทักทาย
ถึงอย่างไรตอนนี้โต๊ะของติงห้าวและพวกเฉินเกอใกล้กันมาก
“เหล่าติง นายมาเช้านะเนี่ย! น้องหรานหราน ไปเถอะ พี่จะพาเธอไปรู้สึกเพื่อนของพี่คุณชายติง!”
จางหล่างแนะนำอย่างยิ้มแย้ม
ตอนนี้ติงห้าวก็ไม่ธรรมดา อย่างไรเสียเขาก็มีร้านอยู่ที่เขาหยุนเหมิง
ฐานะทางสังคมก็ต้องเพิ่มสูงขึ้นเป็นธรรมดา
ก็นับว่าได้เข้าสู่วงจรของพวกคุณชายกันแล้ว
และผ่านกันแนะนำของทุกคน เจียงหรานหรานก็ต้องก็ได้รู้จักทุกคนแล้ว
พูดตามตรงเจียงหรานหรานได้รับผลตอบแทนมากมายในวันนี้ ยังได้เรียนรู้เป็นครั้งแรกว่าอะไรคือเสน่ห์ของแวดวงสังคมไฮโซ
เดิมที เจียงหรานหรานคิดว่าวงการของคุณชายผู้ร่ำรวยเหล่านี้ หัวข้อที่สนทนาน่าจะเป็นพวกรถยนต์หรูและของหรูหราอื่น ๆ
แต่ว่าพวกเขาเหล่านั้นไม่ได้สนทนาเรื่องเหล่านี้เลย
ส่วนใหญ่จะคุยเรื่อง ที่ได้พบเห็นในชีวิตประจำวัน และเรื่องราวที่เกี่ยวกับทักษะการจัดการด้านการลงทุนและการเงินที่ได้เรียนรู้จากรุ่นพ่อรุ่นแม่
ทำให้เจียงหรานหรานเหมือนกับว่าได้เปิดโลกใบใหม่
หากเทียบกันแล้ว คนที่ชอบอวดรวยแบบหลินตง เป็นเพียงแค่ลูกเป็ดขี้เหร่ตัวหนึ่งเท่านั้น
ยิ่งไม่ต้องไปพูดถึงเศรษฐีใหม่อย่างเฉินเกอ แค่เห็นหน้าก็รู้สึกขยะแขยงจนจะแย่อยู่แล้ว!
มีอะไรดีน่าอวดหรอ
และการโอ้อวดของติงห้าวนั้น
ก็ทำให้สีหน้าของเฉินหลินดูแย่มาก
เพราะมาถึงตรงนี้แล้ว บทบาทฐานะคุณชายเฉินของเฉินเกอไม่อาจจะแสดงต่อไปได้อีกแล้ว
เพราะในงานเลี้ยงต่างมีแต่คุณชายที่ร่ำรวยกันทั้งนั้น
แล้วมองดูคนอย่างติงห้าว ชีวิตรุ่งโรจน์แค่ไหน รู้จักเพื่อนตั้งมากมาย
ล้มเหลว เฉินหลินคิดในใจ วันนี้ช่างเป็นวันที่ล้มเหลวเสียจริง
ไม่สามารถที่จะเงยหัวขึ้นมาได้เลย!
“เอ่อแล้ว เทพธิดาอย่างหลินยียีจะออกมาเมื่อไหร่หรอ?”
มีคุณชายบางคนก็เป็นเหมือนกับติงห้าว เป็นครั้งแรกที่มาร่วมงานที่ยิ่งใหญ่แบบนี้ และเป็นครั้งแรกที่จะได้เห็นเทพธิดาสาวสวยในข่าวลืออย่างหลินยียี ขณะนี้จึงถามอย่างร้อนรน
และตอนนี้ ด้านหลังโรงแรม
“ผู้จัดการหวัง คุณแน่ใจว่าดูไม่ผิดนะ? เขา………เขามาหรอ? เป็นไปได้ไง?”
หลินยียีที่เพิ่งแต่งหน้าเสร็จ ตอนนี้ได้ยินคำพูดของผู้จัดการหวังเป่า รีบผลักช่างแต่งหน้าออกแล้วยืนขึ้นถาม
“ห๊า? คุณหนูหลิน คุณชายเฉินมาคุณไม่รู้หรอ?”
หวังเป่าอึ้งไปเล็กน้อย
“ไม่ เขาจะมาได้ไง……คุณน่าจะดูผิดแล้วมั้ง แล้วข้างกายเขา ยังมีผู้หญิงมาด้วยหนึ่งคนหรอ?”
ทำไมช่วงนี้หลินยียีถึงไม่ติดต่อเฉินเกอเลยละ
ก็เพราะว่าหลังจากที่เฉินเกอเป็นแฟนกับซูมู่หาน หลินยียีก็เสียใจ รู้ว่าเฉินเกอไม่มีทางที่จะชอบตัวเอง ตัวเองเห็นเฉินเกอแล้ว ก็จะให้เศร้าเล็กน้อย
เดิมทีงานวันเกิดครั้งนี้ หลินยียีก็ตั้งใจที่จะเชิญเฉินเกอมาร่วมงาน
แตคุณพ่อบอกว่า
ช่วงนี้คุณชายเฉินกำลังยุ่งกับโครงการที่อำเภอผิงอัน และญาติผู้ใหญ่ท่านหนึ่งของเฉินเกอร่างกายไม่แข็งแรงจนต้องเข้าโรงพยาบาลอีก
ท่านเตือนให้ตัวเองอย่าไปรบกวนคุณชายเฉิน
และงานเลี้ยงครั้งนี้ พูดตามตรง คนที่มาไม่ใช่ผู้บริหารระดับสูงของบริษัท เธอดูพวกคุณายไป๋เสี่ยวเฟยก็ยังไม่มากันเลย
ดังนั้นเธอจะไปเชิญคุณชายเฉินทำไม?
หลินยียีเลยตกลงอย่างจำยอม
แท้จริงแล้ว ในใจคิดถึงเฉินเกอตลอดเวลา
ตอนนี้ ได้ยินหวังเป่าพูดว่าคุณชายเฉินมา จะไม่ให้เธอตื่นเต้นได้อย่างไร แต่ก็ไม่กล้าที่จะเชื่อเท่าไหร่
“จริงครับ คุณหนูหลิน ผมจะจำคุณชายเฉินผิดได้อย่างไรกัน บัตรเข้างานผมเป็นคนให้เขากับมือเอง อ้อๆ เหมือนคุณชายเฉินจะพาผู้หญิงมาด้วยคนหนึ่ง!”
หวังเป่ายิ้มเจื่อนๆแล้วพูด
“ฉันยังคงไม่อยากเชื่อว่าเขาจะมา!” พูดจบก็หันหน้าไปทางพนักงาน: “เตรียมตัวได้แล้ว อีกเดี๋ยวฉันก็จะออกไปแล้ว!”
ภายในงานเลี้ยง
ในขณะนี้ด้วยแสงไฟที่สลัว หลินยียีในชุดราตรีสายคล้องไหล่สีขาว ค่อยๆเดินออกมา
“ว้าว สวยมาก สวยงามมากจริงๆ!”
“โอ้มายก๊อด คุณยียีช่างสวยเหลือเกิน!”
และเฉินเกอนั้น ได้ยินเสียงของผู้คน ก็ได้เงยหน้ามองขึ้นไปบนเวที…….
Comments