ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน / ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐีบทที่ 245 ขายรถเถอะ
บทที่ 245 ขายรถเถอะ
“คุณอาเจียง น้าถางผมมาเยี่ยมพวกท่านครับ!”
เฉินเกอถือของฝากมาตั้งมากมาย ขณะนั้นพูดอย่างยิ้มเล็กน้อย
กำลังเตรียมที่วางของฝากลง
ถังหรานเชิดใส่เฉินเกอโดยไม่พูด
โดยเฉพาะเจียงเว่ยตงที่นอนอยู่ตาไม่ขยับเลยแม้แต่น้อย
เจียงหรานหรานมองเฉินเกอที่ถูกคนเมินจนกระอักกระอ่วนอยู่ห่างๆ เพราะเจียงหรานหรานรู้ว่า เฉินเกออยู่จินหลิงโคตรได้ดิบได้ดีเลย
ได้ขับแม้กระทั่งรถเบนซ์จิ๊บ
วันนั้น เขายังส่งตัวเองไปที่สถานีขนส่งด้วย
พูดตามตรง ในใจรู้สึกหวั่นไหวกับเฉินเกอเล็กน้อย
เพียงแต่ว่าเรื่องนี้เมื่อวานยังไม่ทันได้คุยกับคุณพ่อ เพราะเจียงหรานหรานกลับมาถึง คุณพ่อก็เกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้นแล้ว รู้สึกเหมือนฟ้าจะถล่มลงมา
ใครยังจะมีกะจิตกะใจพูดเรื่องเที่ยวของตัวเองอีก
ดังนั้นเธอจึงเดินเข้าไป รับของฝากจากเฉินเกอแล้ววางลงบนโต๊ะ
ขอบใจนะเฉินเกอ ที่มาเยี่ยมพ่อของฉัน!
เจียงหรานหรานกล่าว
และหลินตงนั้น ได้เหล่ตา จงใจมองไปหาเฉินเกอ
เฉินเกอก็ไม่รู้จะพูดอะไร ก็เลยมองหาเก้าอี้แล้วนั่งลงฟังพวกเขาสนทนา
สำหรับพฤติกรรมของเจียงเว่ยตงนั้น เฉินเกอได้เตรียมใจไว้แล้ว
“เฮ้ย เงินทุนเงินทุน ตอนนี้ควรจะไปแหล่งเงินทุนจากไหนเพื่อมารับช่วงโครงการอสังหาริมทรัพย์นี้ต่อนะ?”
เจียงเว่ยตงชายอาวุโสกล่าวอย่างเศร้าใจในขณะนี้
“คุณอาเจียงไม่รู้ว่าคุณอาได้ไปคุยกับบริษัทดรีมเมอร์กรุ้ปในจินหลิง? ตอนนี้พวกเขากำลังจะทุ่มงบหนึ่งหมื่นล้านหยวนมาลงทุนที่อำเภอผิงอันของเรา โครงการนี้ของคุณได้ไปคุยกับเขาหรือยัง?”
“ได้ไปคุยแล้วอย่างแน่นอน พูดตามตรง อารู้จักผู้จัดการเหล่านั้นที่อยู่ข้างใน เมื่อก่อนความสัมพันธ์ไม่เลวทีเดียว หากไปตอนนี้ ก็ไม่ได้แล้ว ไม่มีบริษัทไหนยินยอมที่จะรับช่วงโครงการอสังหาริมทรัพย์นี้ต่อ!”
เจียงเว่ยตงส่ายหัวอย่างเจ็บปวด
“ตอนนี้ความหวังก็อยู่ที่พวกเขาแล้ว เพราะว่าเงินแค่นี้สำหรับบริษัทดรีมเมอร์กรุ้ปแล้ว คงไม่ถือว่าเป็นเงินมากมายอะไร ขอเพียงพวกเขายอมช่วย เรื่องนี้ก็แก้ไขได้แล้ว พ่อผมพูดแบบนี้ครับ!”
หลินตงเห็นว่าแกนกลางตอนนี้คือตัวเองอย่างเห็นได้ชัด ก็พูดอย่างมีภาคภูมิใจ
เสี่ยวตง เรื่องนี้ นายต้องให้พ่อนายช่วยห่วงใยหน่อยนะ บุญคุณใหญ่หลวงนี้ อากับน้าถางของนาย ยังมีหรานหรานจะจำเรื่องนี้ไปตลอดชีวิตเลย
“คุณอาวางใจเถอะครับ คุณพ่อผมจะต้องพยายามไปคุยกับบริษัทดรีมเมอร์กรุ้ปแทนคุณอาครับ!”
แต่ในใจกลับคิด
เช้อ พ่อผมไม่มีทางมาสนใจหรอก
ถ้าไม่ใช่เพราะจะจีบลูกสาวของคุณเจียงหรานหราน ตัวเองยังขี้เกียจที่จะมาเปลืองน้ำลายอยู่แถวนี้
เพียงแต่เรื่องเอาหน้า หลินตงต้องเอาอยู่แล้ว
“ดีๆๆ ได้ยินคำพูดนี้ของเสี่ยวตงอาก็สบายใจแล้ว เสี่ยวตงคืนนี้อยากเพิ่งกลับนะ อยู่ทานข้าวกันก่อน ยังมีเพื่อนนักเรียนของหรานหรานด้วย อยู่ทานข้าวทั้งหมดเลยนะ อาจจะให้น้าถางไปทำกับข้าวตอนนี้เลย!”
ในที่สุดสีหน้าของเจียงเว่ยตงก็ดีขึ้นไม่น้อย
“ได้ ฉันไปจัดการก่อน เฮ้ย แต่ว่าผักเหลือไม่เยอะแล้ว ต้องไปซื้อเพิ่มอีกหน่อย ฉันยังต้องจัดการพวกเนื้อหมูเป็ดไก่ ไม่สามารถปลีกตัวออกไปซื้อเลย!”
ถังหรานกล่าวอย่างร้อนใจ
เวลานี้เหลือบมองเห็นเฉินเกอที่นั่งดื่มน้ำอยู่ในมุมอย่างเงียบๆ ขณะนั้นได้พูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยดีนัก:
“เฉินเกอ นายนั่งอยู่นี่ก็ไม่มีอะไรทำ เดี๋ยวน้าเขียนรายการให้นาย นายออกไปซื้อกับข้าวตามรายการมาให้น้าหน่อย!”
“ผม?”
เฉินเกอตกตะลึง
เรียกอย่างกับตัวเองเป็นคนใช้อย่างนั้น
เฮ้ย มาคิดๆดูแล้ว อยู่ที่นี่ดูสีหน้าของพวกเจียงเว่ยตง เฉินเกอก็รู้สึกอึดอัดเหมือนกัน
พอดีเลย ตัวเองลงไปข้างล่างจะได้โทรบอกหลี่เจิ้นกั๋ว ให้รับโครงการอสังหาริมทรัพย์นี้มาทำต่อ
แบบนี้เรื่องที่คุณพ่อฝากฝังไว้ก็ถือว่าเรียบร้อยแล้ว
ดังนั้นจึงตอบตกลง
หากไม่ใช่ว่าคุณพ่อกำชับครั้งแล้วครั้งเล่า เฉินเกอไม่สนใจแน่นอน!
เขาไม่ใช่คนที่ชอบเลียแข้งเลียขาแบบคนอื่น!
เข่อๆ!
“เฉินเกอ ฉันไปเป็นเพื่อนนายเอง!”
เจียงหรานหรานเห็นเฉินเกอถือตะกร้าออกไป ก็พูดขึ้น
“หรานหรานลูกจะไปทำไม? ใครที่สำคัญใครที่ไม่สำคัญลูกแยกไม่ออกเลยหรอ? รีบมาดูแลเรื่องน้ำให้กับเสี่ยวตง!”
เจียงเว่ยตงได้ยินคำพูดนี้แล้วก็ร้อนใจทันที
ถังหรานก็ยิ่งมองเห็นความผิดปกติที่เกิดขึ้น
ลูกสาวเป็นอะไรไปนะ ตั้งแต่ที่เฉินเกอเข้าประตูมา การพูดการจากับเฉินเกอก็ไม่เหมือนเมื่อก่อนเลย
คนตระกูลเฉินไม่ใช่คนดี!
ถังหรานได้หยิกเจียงหรานหรานไปหนึ่งที เพื่อให้เธออยู่ดูแลหลินตง
หลังจากที่เฉินเกอลงมา ก็รีบโทรศัพท์ไปหาหลี่เจิ้นกั๋ว
ได้พูดเรื่องนี้กับหลี่เจิ้นกั๋ว
หลี่เจิ้นกั๋วไม่มีปัญหาอยู่แล้ว รีบไปจัดการทันที
เฉินเกอถึงได้ไปตลาดอย่างจำยอม ก็ไปซื้อผักตามรายการ
หลังจากที่ขึ้นมาถึงบนบ้าน
กลับพบว่าบรรยากาศในตระกูลเจียงเปลี่ยนแปลงจากหน้ามือเป็นหลังมือเลย
“ยินดีด้วยครับคุณอาเจียง!”
“ใช่ไง ไม่คิดว่าบริษัทดรีมเมอร์กรุ้ปจะตกลงรับช่วงโครงการอสังหาริมทรัพย์นี้ต่อ และเป็นการลงทุนทั้งหมดด้วย อาคิดไม่ถึงจริงๆ!”
เจียงเว่ยตงก็ไม่ต้องให้น้ำเกลือแล้ว สีหน้าของเขาฟื้นฟูกลับมาได้ดีมากและกล่าวว่า
กำลังกำโทรศัพท์ในมือไว้แน่น ราวกับว่าเป็นเหมือนของมีค่า
“มาๆ วันนี้ต้องดื่มเป็นเพื่อนอาหน่อย! โดยเฉพาะนายนะเสี่ยวตง!”
เจียงเว่ยตงกล่าว
เขารู้สึกว่า เรื่องนี้พ่อของหลินตงต้องมีส่วนร่วมในการช่วยเหลืออย่างแน่นอน
หรืออาจเป็นเพราะสายสัมพันธ์ของตัวเอง
ผู้ว่าเพิ่งโทรมาเมื่อกี้ ให้ตัวเองกลับสู่ตำแหน่งเดิม ให้รับผิดชอบเรื่องนี้โดยเฉพาะ
ต่อมาก็แค่รวบรวมเงินบริจาคสักก้อน ก็สามารถแก้ไขเรื่องนี้ได้อย่างสมบูรณ์
ทำไมถึงจะไม่ดีใจละ
แล้วก็มองหลินตงและเจียงหรานหรานแวบหนึ่ง
เจียงเว่ยตงมีความคิดบางอย่างโผล่ขึ้นมา
“หรานหราน พ่อจะบอกลูกว่า……..”
“เฉินเกอ นายกินกับสิ!”
กำลังจะพูด กลับเห็นลูกสาวตัวเองคีบกับข้าวให้เฉินเกออยู่
ลูกกะตาของเจียงเว่ยตงเกือบจะกระเด็นออกมาแล้ว หรานหรานลูกทำอะไรน่ะ? เฉินเกอมีมือเอง ตัวเขาเองคีบไม่เป็นหรอ?
เจียงหรานหรานกล่าว: “พ่อคะ พ่อไม่รู้ เฉินเกอเขา………..”
หลินตงจับจ้องไปที่เฉินเกออย่างดุเดือด นิ่งไปสักพักแล้วกล่าว: “เฮ้ยคุณอาเจียง คุณอาคงยังไม่รู้ เฉินเกอไม่ได้เหมือนเมื่อก่อนแล้ว!”
ในเมื่อก็พูดเหมือนกัน ตัวเขาต้องเป็นคนมาพูดเอง
“อะไรที่ไม่เหมือนเมื่อก่อน?” น้าถางก็ได้ยกกับข้าวมาอีกอย่างแล้วถามขึ้น
“เข่อๆ ตอนนี้เฉินเกอถูกหวย ยังซื้อรถเบนซ์จิ๊บ G500ให้ตัวเองหนึ่งคัน สุดยอดมั้ยละ! หรานหรานก็ต้องดีกับเขาเป็นธรรมดา!”
หลินตงพูดอย่างสนุกปาก
“ว้าว……..”
คนทั้งโต๊ะอาหารไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิงได้ยินแล้วก็ตกตะลึงตามกัน
“นายถูกหวยเท่าไหร่กัน?”
น้าถางถาม
เฉินเกอก็ไม่รู้ว่าจะพูดยังไงดี
เดิมทีเพราะว่าต้องการปกปิดฐานะตัวเอง ก็เลยโกหกเจียงหรานหรานว่าถูกหวย แต่ในขณะนี้ เพราะคำโกหกนี้ก็ต้องโกหกต่อไป
“ซื้อรถเบนซ์จิ๊บไปคันหนึ่ง!” เฉินเกอกล่าว
“อะไรนะ? ถูกหวยแล้วซื้อรถเบนซ์จิ๊บ แม่งเอ๊ยนายถูกหวยสองล้าน?”
ทุกคนต่างอึ้งกันไปหมด
เฉินเกอก็ทำได้เพียงอยู่เงียบๆ
ป้าง!
ทันใดนั้น เจียงเว่ยตงโยนตะเกียบลงบนโต๊ะด้วยสีหน้าที่เย็นชา
“บ้าไปแล้ว โง่เง่าเสียจริง!”
เจียงเว่ยตงกล่าว: “เฉินเกอ คนอื่นจะอวดน่ะได้ แต่นายไม่รู้สถานการณ์ตัวเองเลยหรอ? นายจะอวดทำไม? ยังซื้อรถเบนซ์อีก เอาสองล้านนี้ไปทำเรื่องอื่นที่ดีกว่านี้ไม่ดีหรอ!”
เจียงเว่ยตงส่ายหัว
หลินตงเต็มไปด้วยความสุขที่ได้แก้แค้น พูดอย่างยิ้มแย้ม: “ใช่ครับคุณอาเจียง คุณอาลองคิดดู รถคันนี้ราคาสองล้านหยวน หากเอาออกมาหนึ่งล้านหยาว มาร่วมบริจากให้คุณอา อย่างนี้คุณอาก็สามารถที่จะจัดตำแหน่งงานให้เฉินเกอที่สำนักงาน แต่ตอนนี้ละ เห่อๆ เฉินเกอก็แค่รู้จักใช้เงินอย่างฟุ่มเฟือยและไปเปรียบเทียบกับคุณชายที่ร่ำรวยพวกนั้น!”
“ใช่แล้ว ยังเป็นเสี่ยวตงที่พอมีวิสัยทัศน์อยู่บ้าง เฉินเกออาถามนายนะ อยู่ที่อำเภอผิงอันนายมีบ้านหรือยัง?
เฉินเกอส่ายหัว
“แล้วนายหางานได้หรือยัง?”
เฉินเกอก็ส่ายหัวเหมือนเดิม
“เฮ้ย ไม่เคยเห็นคนที่ไม่มีความคิดอย่างนายเลย เอาอย่างนี้ละกัน อาศัยที่ยังถอยรถมาได้ไม่นาน รีบไปขายมันซัก แล้วมาร่วมบริจาคสักแปดแสนหรือหนึ่งล้าน เงินที่เหลือก็ซื้อบ้านสักหนึ่งหลัง อายังสามารถหางานที่มีประกันสังคมห้ากองทุนให้นายทำ จะโอ้อวดอะไรล่ะ หางานที่มั่งคงทำยังจะดีซะกว่า!”
“เอาละ ยังมีอีกเรื่อง……..”
เจียงเว่ยตงดื่มเหล้าไปหนึ่งอึก มองไปยังเฉินเกอ
Comments