ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน / ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐีบทที่251 ตีกันแล้ว

Now you are reading ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน / ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐี Chapter บทที่251 ตีกันแล้ว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่251 ตีกันแล้ว

ไม่ใช่ว่ามาเจอกันและทำความรู้จักแล้วผูกมิตรกันหรอ?

เฉินเกอฟังความหมายนี้แล้ว ราวกับว่าจะจัดงานแต่งให้เสร็จยังไงอย่างนั้น

ดังนั้นตอนนี้เหงื่อท่วมเต็มหัวของเขาไปหมด

“ข้อที่1 ก่อนที่ลูกสาวฉันจะแต่งงานกับคุณ คุณต้องเอาบ้านของคุณ และรถยนต์ของคุณ เออใช่ คุณยังไม่มีรถยนต์นิ ก็บ้านก่อนแล้วกัน โฉนดบ้านต้องเปลี่ยนเป็นชื่อของลูกสาวฉัน เปลี่ยนเป็นชื่อของลูกสาวฉันนะ ไม่ใช่ชื่อร่วมกันของพวกคุณสองคน แบบนี้คุณสามารถเอาความจริงใจของคุณออกมาได้ใช่ไหม?”

หญิงวัยกลางกล่าว

“ออ!”

เฉินเกอพยักหน้าด้วยท่าทีที่เบื่อหน่าย

บ้านหลังที่แพงที่สุดของตนเองนั้นมีมูลค่า800ล้านเลยนะ เขาครุ่นคิดอยู่ในใจว่าต่อให้เขาให้บ้านแก่เธอ แล้วเธอจะกล้าเอาหรอ?

เหอะๆ

“ข้อที่2 ต่อมาก็เป็นเรื่องของพ่อแม่คุณ และคุณยังมีพี่สาวคนหนึ่งใช่ไหม?อันนี้ต้องพูดไว้ล่วงหน้าก่อนเลยนะว่า ต่อจากนี้ถ้าพี่สาวของคุณแต่งงานแล้ว ค่าสินสอดที่ฝ่ายชายให้พี่สาวของคุณ คุณห้ามถอยคืนให้เขา และต้องเก็บออมเข้าไปในบัญชีของลูกสาวฉัน และยังมีอีกคือเงินเดือนที่คุณหาได้รวมทั้งเงินที่พ่อแม่ของคุณหามาได้ ก็ต้องให้ลูกสาวฉันเป็นคนจัดการดูแล อันนี้คงไม่มีปัญหาใช่ไหม?และแน่นอน ต่อมาก็คือพ่อแม่ของคุณจะอาศัยอยู่ร่วมกับพวกคุณไม่ได้ บ้านของคุณอยู่ในเมือง ถ้าพ่อแม่ของคุณอยากจะมาเล่นในเมืองสองสามวันก็ได้ แต่ต้องออกไปเช่าบ้านหรือนอนโรงแรมเท่านั้น!”

หญิงวัยกลางกล่าว

“คุณได้ยินหรือยัง?”

หญิงวัยกลางถามขึ้นอีกครั้ง

เฉินเกอพยักหน้ารัวๆราวกับว่ากำลังทุบกระเทียมอยู่:“ได้ยินแล้วได้ยินแล้ว คุณพูด คุณพูด!”

เฉินเกอไม่เพียงแต่พยักหน้า ยังหยิบสมุดโน้ตเล่มเล็กออกจากกระเป๋าของเขา และจดอย่างละเอียดเป็นจังหวะ

นัดดูตัวครั้งแรก เฉินเกอได้เรียนรู้ประสบการณ์อย่างจังเลย ให้ตายเถอะ! เฉินเกออยากรู้ว่า ยังมีเงื่อนไขอะไรที่โหดร้ายอีก

เพราะถ้าหากว่าไม่ใช่เพื่อนร่วมงานของซูถิงแนะนำมา เฉินเกอก็คงจะเริ่มสงสัยแล้วว่าสองคนนี้ใช่พวกหลอกลวงการแต่งงานหรือเปล่า

หญิงวัยกลางเห็นว่าเฉินเกอโง่และเชื่อฟังขนาดนี้ ในใจของเธอก็รู้สึกมีความสุข

และพูดต่อ:

“ส่วนข้อที่3นั้น ก็เป็นเรื่องของงานแต่งงาน ลูกสาวฉันทำงานอยู่ที่ไหนคงไม่ต้องให้ฉันพูดแล้วใช่ไหม?เหอะๆ พอถึงเวลาผู้คนที่มาร่วมงานแต่งต่างก็เป็นบุคคลใหญ่ที่มีหน้ามีตา ดังนั้นรถแต่งงานของคุณจะเกรดต่ำไม่ได้ ลูกสาว รถออดี้เป็นอย่างไร?”

หญิงวัยกลางตัดสินใจไม่ถูก จึงถามหญิงสาว

ส่วนหญิงสาว เธอสะบัดเส้นผมเบาๆแล้วพูดขึ้น:“เอาเป็นรถBenzหรือรถBMWดีกว่า แต่ว่ารถBMWนั้นอย่างน้อยก็ต้องซีรีส์7ขึ้นไปเท่านั้นถึงจะได้!”

“ได้เลย ถ้างั้นก็รถBenzหรือไม่ก็รถBMWแล้วแต่ที่คุณดูแล้วเลือกเองละกัน!”

หญิงวัยกลางพูดกับเฉินเกอ

“ส่วนข้อที่4ก็……”

“ยังมีข้อที่4?ไม่ใช่ข้อตกลงสามข้อหรอ?”

เฉินเกออ้าปากเป็นรูปโอพร้อมถามขึ้น

“คุณ!”

และในขณะนี้หญิงวัยกลางและหญิงสาวก็ได้เงยหน้าขึ้นมองไปที่เฉินเกอด้วยสายตาที่ว่างเปล่า

“อุ๊ยๆ ต้องขออภัยด้วยครับ ข้อที่4ข้อที่4 คุณพูดคุณพูด ฉันฟังอยู่!”เฉินเกอแสดงสีหน้าที่จริงจัง

“ข้อที่4ก็คือค่าสินสอดสำหรับงานแต่ง พวกเราก็ไม่ขอมาก เพียงแค่ใส่ใจกับภาพพจน์หน่อย ก็ม่วงหมื่นพันแดงและเขียวทั้งหมดละกัน!”

“สักครู่ครับคุณป้า ม่วงหมื่นพันแดงและเขียวทั้งหมดเป็นจำนวนเงินเท่าไหร่หรอ?”เฉินเกอพูดอย่างขมขื่น

“เหอะ โง่ถึงบ้านเลยจริง ๆ ม่วงหมื่นพันแดงและเขียวทั้งหมดก็เป็นเงินประมาณ150,000หยวน และอันนี้เอาเป็นเงินสดนะ อย่างบัตรเครดิตหรือบัญชีธนาคารพวกเราก็ไม่ดู จะเอาเงินสดเท่านั้น อันนี้เป็นกฎของทางบ้านเรา! แน่นอน นี้เป็นค่าสินสอดในงานหมั้น และยังมีเงินค่าเสื้อผ้าในวันแต่งงานที่ทางบ้านของคุณให้ และในส่วนหนึ่งต้องตักเตือนคุณสักหน่อย เพื่อหางานนี้ให้กับลูกสาวของฉัน ทางบ้านของเราได้เสียค่าใช้จ่ายไปไม่น้อย และน้องชายของเธอก็ยังต้องเรียนหนังสือ ดังนั้นในส่วนนี้ทางบ้านเราก็ไม่มีค่าอะไรให้พวกคุณกลับ! อย่างไรก็ตามทางครอบครัวฝ่ายหญิงอย่างเราก็แค่หวังว่าให้พวกคุณสองคนอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ก็เพียงพอแล้ว!”

“ออออ!นี้ยังสามารถอยู่กันอย่างมีความสุขอีกหรอ?”เฉินเกอพยักหน้าอย่างเข้าใจชัดเจน

“ห๊ะ?คุณพูดว่าอะไรนะ?”

หญิงวัยกลางสะดุ้ง

“ฉันบอกว่าดี!คุณพูดต่อสิ!”เฉินเกอยิ้ม

แน่นอนว่าเขาไม่แต่งแน่ และตอนนี้เขาก็แค่รู้สึกสงสัยในเงื่อนไขพวกนี้เท่านั้น

“เหอะ ส่วนข้อที่5 ก็เป็นข้อที่สำคัญมากที่สุด หลังจากที่ลูกสาวฉันแต่งไปแล้ว ภายในสามปี คุณห้ามแตะเนื้อต้องตัวเธอ นี้เป็นกฎของทางบ้านเก่าของเรา และอีกอย่างก็คือหลังจากครบสามปี คุณต้องได้รับความยินยอมจากลูกสาวของฉันก่อนจึงจะแตะเนื้อต้องตัวเธอได้ !”

หญิงวัยกลางกล่าว

ให้ตายเหอะ!

ในขณะนี้เฉินเกอก็ตกใจอย่างหนัก และปากกาในมือของเขาก็ตกลงไปบนพื้น

“คุณก็ไม่ต้องแสดงกิริยาท่าทางอาการแบบนั้น คุณลองคิดดูสิ ตอนนี้ถ้าอยากจะแต่งงานมันยากมากขนาดไหน และอย่างคนที่สวยงามและมีบุคลิกดีอย่างลูกสาวฉัน ที่ทั้งทำงานและดี คุณฝันหวานอย่างมีความสุขไปเถอะ!”

หญิงวัยกลางเพิ่งพูดจบ

ทันใดนั้นหญิงสาวก็เอามือมาปิดปากพร้อมกับคลื่นไส้ไปสองสามที

“คุณแม่ คุณช่วยพยุงฉันไปห้องน้ำหน่อย!แอวะ~”

หลังจากพูดจบ ภายใต้ความช่วยพยุงตัวของหญิงวัยกลาง หญิงสาวก็ไปห้องน้ำพร้อมกับอาการคลื่นไส้

และเหงื่อที่หน้าผากของเฉินเกอก็ไหลลงมา

บอกตามตรง ถ้าไม่ใช่เพราะนี่เป็นความกังวลของลี่เสี้ยว เฉินเกอก็ไม่มา

อีกอย่างในสถานการณ์อย่างนี้ เฉินเกอแทบอดไม่ได้ที่อยากจะวิ่งหนี

เฉินเกอหยิบกระดาษทิชชูขึ้นมาเช็ดเหงื่อที่หน้าผาก และรู้สึกว่าตัวเองนั้นอั้นจนเริ่มปวดปัสสาวะเล็กน้อย เลยวางแผนจะไปห้องน้ำ

แต่ไม่คาดคิดว่าระหว่างที่ไปห้องน้ำนั้น ก็ได้ยินหญิงวัยกลางคนนั้นตบที่หลังของหญิงสาวพร้อมกับพูดว่า:

“เป็นอะไรหรือเปล่า?ทำไมมีปฏิกิริยารุนแรงขนาดนี้?”

หญิงวัยกลางถามด้วยความเป็นห่วง

“อื้ม ๆ ไอ้เด็กน้อยตัวร้ายนี้ เตะฉันอีกแล้ว!”

“เฮ้อ ก็บอกแล้ว ว่าให้คุณระวังให้คุณระวังหน่อย ทำบ้าอะไรมั่วซั่วกับคนผิวดำเนี่ย!”

หญิงวัยกลางกล่าว

“คุณแม่ คุณอย่าพูดเจี๋ยเค่อะแบบนี้สิคะ เจี๋ยเค่อะไม่ใช่คนผิวดำธรรมดา แต่เขาเป็นคนผิวดำของประเทศM!และเขาบอกแล้ว ว่าหลังจากสามปีผ่านไปเขาจะกลับมาหาฉันอย่างแน่นอน!”

ด้านนอก เฉินเกอมีความรู้สึกแย่มาก กระทบกระเทือนจิตใจซะเหลือเกินและในเวลาเดียวกันก็ถูกแม่ลูกคู่นี้ทำให้เฉินเกอช็อกและประหลาดใจมาก

ไม่น่าแปลกเลยทำไมถึงอยากจะเร่งรีบทำให้ความสัมพันธ์ไปได้สวยขนาดนี้

เพราะเร่งรีบหาคนมารับของที่ใช้แล้วอย่างนั้นหรอ?

อีกอย่างแต่งหนึ่งแถมหนึ่ง ยังแถมส่งไข่ดำตัวน้อยอีกด้วย?

ไม่ได้ละ เล่นไม่ได้อีกแล้ว ขืนเล่นต่อไปอีกเรื่องจะไม่สามารถจบได้แน่นอน!

เฉินเกอครุ่นคิดในใจ

อยากจะหาพวกลี่เสี้ยว แต่ก็เห็นได้ชัดว่าพวกเขาแอบหลบซ่อนออกไปด้านนอกแล้ว

ในขณะนี้เองเฉินเกอไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไร ก็เลยนั่งกลับไปที่ที่นั่งเดิม

ผ่านไปไม่นาน ทั้งสองแม่ลูกก็กลับมา

“เอาล่ะเฉินเกอ เมื่อกี้ที่พวกเราพูดไปฟังเข้าใจหมดแล้วใช่ไหม?ถ้าเข้าใจหมดแล้ว งั้นคุณกลับไปก็หาฤกษ์วันที่เหมาะสมวันหนึ่ง และพยายามจัดงานแต่งงานให้เสร็จภายในเดือนนี้เลย!”

หญิงวัยกลางกอดไหล่แล้วกล่าว

“สักครู่ครับคุณป้า ผมยังมีอะไรบางอย่างจะพูด!”

เฉินเกอพูดขึ้นอย่างเชื่องช้า

“หืม?อย่างคุณยังมีอะไรจะพูดอีกหรอ เอาล่ะเอาล่ะ คุณพูดเถอะ!”

หญิงวัยกลางกล่าวอย่างไม่ประสบอารมณ์

ในเวลานี้เองเฉินเกอมองไปที่หญิงสาวแล้วพูดขึ้นว่า:“คุณให้ผมดูคุณหน่อยได้หรือเปล่า?”

“คุณไม่ใช่ดูแล้วหรอ?ยังอยากจะดูอะไรอีก?”

หญิงสาวขมวดคิ้ว และมองไปที่เฉินเกอด้วยสายตาที่ว่างเปล่า

“ฉันหมายถึงให้คุณยกกระโปรงขึ้นมา ให้ฉันดูก่อน ฉันจะขอตรวจของก่อน!”

เฉินเกอกล่าว

“อะไรนะ?”

ดวงตาของหญิงวัยกลางและหญิงสาวเบิกกว้างขึ้นมาทันที

พระเจ้า ตอนนี้กำลังนัดดูตัวกันอยู่นะ และอีกอย่างระดับของโรงแรมนี้ก็ไม่ได้ต่ำด้วย ในสถานการณ์แบบนี้ ชายคนนี้กลับใช้คำพูดพูดออกมาได้ไร้ยางอายขนาดนี้

“คุณนี่มันบ้าหรอ?”หญิงสาวลุกขึ้นยืนกะทันหัน และโยนแก้วไวน์ลงไปบนพื้นจนแตกเป็นเสี่ยงๆ

“แม่งเอ๊ย ไม่ได้บ้าแล้วจะอยู่คุยกับพวกคุณสองคนนานขนาดนี้หรอ!ฉันนี่พอเลยจริง ๆ ของอะไรกันเชียว ถึงได้ตั้งเงื่อนไขอะไรมากมายขนาดนี้!”เฉินเกอทนไม่ไหว พร้อมกับด่าพวกเขาโดยตรง

นี่มันปฏิบัติต่อตนเองอย่างกับว่าตนเองเป็นคนโง่คนหนึ่ง ในตอนแรกยังดีอยู่ แต่หลังจากที่กลับมาจากการไปห้องน้ำ เฉินเกอยิ่งคิดเท่าไหร่ก็ยิ่งโกรธมากขึ้น

เลยอยากจะหาเรื่อง

“สารเลว!”

“เพี๊ยะ!”

หญิงวัยกลางยิ่งเป็นคนที่ไม่น่ากวนโมโหเท่าไหร่นัก และในขณะนี้สีหน้าของเธอนั้นดุร้าย และมือทั้งสองข้างของเธอก็พุ่งเข้าไปตบอย่างไม่สนใจ และตบเข้าที่ใบหน้าของเฉินเกอ

“แม่งเอ๊ยไปให้พ้น!”

“เพี๊ยะ!”

และเฉินเกอ ก็ตบย้อนกลับไปทีหนึ่ง แรงของเฉินเกอนั้นไม่น้อยเลย เพียงแค่ครั้งเดียวก็ตบจนหญิงวัยกลางล้มลงกับพื้น

ทันในนั้นเอง ซูถิงลี่เสี้ยวและแม่สื่อ พวกเขาทั้งสามคนที่กำลังพูดคุยและหัวเราะกันอยู่ก็กลับกันเข้ามาแล้ว

ลี่เสี้ยว:“เรื่องนี้คุณยังต้องกังวลให้มาก ๆสักหน่อยนะ!”

แม่สื่อกล่าว:“วางใจเถอะ ความสัมพันธ์ของฉันกับถิงถิงเป็นอย่างไรล่ะ จะว่าไป ฉันเห็นทางฝ่ายหญิงเขาก็ค่อนข้างพอใจกับเฉินเกอดี!”

“เฮ้ยๆ พวกเราลองฟังดูว่าพวกเขาคุยเรื่องอะไรกันบ้าง!”

ลี่เสี้ยวพวกเขาทั้งสามคนมาถึงที่หน้าประตู และพวกเขาก็ไม่ได้คิดจะเข้าไปโดยตรง

และในตอนนี้เองพวกเขาก็ได้ยินเสียงทุบโต๊ะทุบจานปังๆๆๆออกมาจากด้านใน

ทันใดนั้น พวกเขาทั้งสามคนก็ตกใจ และรีบผลักประตูให้เปิดออก……

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด