ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ 107 พลังที่ผิดปกติ
มู่เฉียนซีกระตุกมุมปาก “ข้าคิดไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะเป็นคนชอบซุบซิบข่าวลือเช่นนี้เยวี่ยเจ๋อ ไม่ว่าเขาจะชอบบุรุษหรือสตรี มันก็ไม่ได้เกี่ยวกับอะไรกับเจ้า”
“แต่ว่าเขาเป็นคู่หมั้นของพี่ใหญ่ แล้วเขากลับชอบบุรุษ…”
“พระราชโองการของซวนหยวนจือ เจ้าคิดว่าข้าจะคิดจริงจังรึ ?” มู่เฉียนซีถามกลับ
ได้ยินวาจามู่เฉียนซี หัวใจเยวี่ยเจ๋อพลันกระฉับกระเฉงขึ้นมาทันใด ในงานเลี้ยงองค์ไทเฮา พี่ใหญ่ของเขานั้นต้องรับพระราชโองการให้สมรสกับเยี่ยอ๋อง ส่วนตนเองไม่สามารที่จะทำอะไรได้ ได้แต่หงุดหงิดงุ่นง่านใจ บัดนี้องค์ชายเยี่ยก็ชอบบุรุษ ส่วนพี่ใหญ่นั้นก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรในเรื่องของงานแต่งงานนัก เช่นนั้นทุกสิ่งอย่างก็คงจะเป็นปกติได้เหมือนก่อนหน้านี้ แต่องค์ชายเยี่ย ในเมื่อชอบบุรุษแล้ว เหตุใดจึงยังมายุ่งกับพี่ใหญ่ ?
เยี่ยอ๋องชอบบุรุษเห็น ๆ เหตุใดจึงยังมายุ่งกับพี่ใหญ่ ? แต่อย่างไรการที่ได้รู้ว่าเยี่ยอ๋องชอบบุรุษก็เป็นเรื่องที่ทำให้เขารู้สึกปีติยินดี
เหมืองวิญญาณอยู่ไม่ไกลจากเมืองจื่อตูนัก ชั้นนอกของเหมืองถูกซวนหยวนจือขุดไปจนว่างเปล่า และภายในก็ถูกปิดตายด้วยหินแข็ง ไม่ว่าจะเป็นการโจมตีด้วยอะไรก็ไม่สามารถทำให้มันเปิดออกได้
มู่เฉียนซีกล่าวขึ้น “เยวี่ยเจ๋อ เจ้าลองดูสิ ”
“ได้เลยพี่ใหญ่”
— ตูม! —
เยวี่ยเจ๋อพยายามอย่างสุดกําลัง หินก้อนนั้นก็ยังไม่สั่นคลอน มู่เฉียนซีขมวดคิ้วมองหินแข็งทื่อ กล่าวว่า “จะต้องมีปีศาจเป็นแน่ เมื่อมันแข็งเช่นนี้บางทีข้างในมันอาจไม่ปกติ อา… ถึงจะไม่ปกติก็ต้องงัดแงะเปิดให้ได้ …มู่อี มู่เอ๋อร์ พวกเจ้าลองดู”
การโจมตีของราชาแห่งภูตทําให้หินก้อนนั้นแตกเป็นเสี่ยง ๆ แต่ข้างในยังมีหินอีกชั้นหนึ่ง
“มีเพียงการโจมตีเต็มกําลังของระดับราชาแห่งภูตเท่านั้นจึงจะสามารถเปิดได้ หินก้อนนี้แข็งยิ่งนัก”
มุมปากมู่เอ๋อร์กระตุก “ท่านผู้นำคงไม่ให้พวกข้าขุดเหมืองหรอกกระมัง!”
มู่เฉียนซีกล่าว “วางใจเถอะ ใช้องครักษ์เงาตระกูลมู่มาขุดหยกขุดแร่ มันเกินความจำเป็นไปจริง ๆ ข้ามีวิธีอื่น กลับจวนกันก่อนเถอะ”
“ขอรับ”
……
“คนของจวนสกุลมู่หยุดทํางานแล้วหรือ ?” องค์รัชทายาทซวนหยวนหลี่ซางถามข้ารับใช้ เวลานี้กําลังเฝ้าดูความเคลื่อนไหวของเหมืองวิญญาณอยู่ตลอดเวลา
“ขอรับองค์รัชทายาท”
“ฮ่า ๆ ๆ! ตอนนี้มู่เฉียนซีนางคงจะผิดหวังมากเลยสิ นางกลายเป็นคู่หมั้นซวนหยวนจิ่วเยี่ยเจ้าคนแปลกประหลาดนั่น นางยังจะคิดถึงสินสอดทองหมั้นราคาแพงของราชวงศ์ของพวกข้า ฝันไปเถอะ! คนอย่างนางสมควรได้รับสินสอดทองหมั้นที่ไร้ค่าเท่านั้น” ซวนหยวนหลี่ซางกล่าว แววตาอาฆาตมาดร้าย เขายังคงเคืองแค้นสตรีอำมหิตทั้งยังยโสโอหังผู้นั้น
ตั้งแต่ไหนแต่ไรมา เขาไม่พอใจซวนหยวนจิ่วเยี่ยเป็นอย่างมาก น่าเสียดายที่ชายผู้นั้นไม่ง่ายที่จะล่วงเกิน การสู้รบปรบมือกับเขาอย่างหนักก็คงเหมือนการเอาไข่กระทบหิน แต่ตอนนี้… คนรักของเขาได้ปีนขึ้นไปเล่นบนหัวของเขาแล้ว ซวนหยวนหลี่ซางรู้สึกไม่พอใจจิ่วเยี่ยมากขึ้นไปทุกที …ทว่าเมื่อได้รับข่าวว่าตระกูลมู่พ่ายแพ้ อารมณ์ของเขาก็ดีขึ้นมาก
มู่เฉียนซีให้คนซื้อของบางอย่าง หิน ถ่าน และอื่น ๆ หลายวันมานี้ไม่ได้ปรุงยาเลย แต่กําลังสร้างความสนุกแปลก ๆ
“เยวี่ยเจ๋อ ทําตามวิธีของข้า เอาไปลองระเบิดหินที่เหมืองวิญญาณดูสิ”
เยวี่ยเจ๋อถือของสีดํานั้นไว้ กล่าวว่า “พี่ใหญ่ ของดํานี้เป็นอาวุธวิญญาณก็ไม่ใช่ จะสามารถระเบิดหินแข็งของเหมืองวิญญาณได้จริงหรือ ?”
มู่เฉียนซี “แม้ว่านี่จะไม่ใช่อาวุธวิญญาณ แต่เจ้าก็อย่าได้ดูแคลนพลังของดินปืนสีดํา รีบบอกผลลัพธ์กับข้าด้วย ถึงเวลามันจะปะทุขึ้นก็ให้เจ้าออกไปไกล ๆ หน่อย อย่าให้โดนตัวเองบาดเจ็บ”
“ขอรับ” เยวี่ยเจ๋อรับคำ
— ตูม! ตูม! ตูม! —
ทันใดนั้นก็มีเสียงดังสนั่นออกมาจากเหมืองวิญญาณ จากนั้นภูเขาก็แตกเป็นเสี่ยง ๆ เยวี่ยเจ๋อบังเอิญโชคดีที่ตัวเองได้ยินคําพูดของพี่ใหญ่ เขารีบหลบไปไกล ไม่อย่างนั้นคงอยู่ในสภาพน่าสังเวชแล้ว
“เปิดแล้ว! เปิดแล้ว! คุณชายเยวี่ยระเบิดออกได้จริง ๆ” พลังของดินปืนสีดํากองนั้นแข็งแกร่งกว่าการโจมตีของราชาแห่งภูตเสียอีก ระเบิดจนหินแข็งแตกเป็นเสี่ยง ๆ แต่เห็นได้ชัดว่ามันยังไม่เพียงพอ หากคิดจะเข้าไปให้ลึก ก็ต้องขุดเข้าไปเรื่อย ๆ ถึงจะได้
เยวี่ยเจ๋อกล่าวขึ้นอย่างตื่นเต้น “ต้องเอาเรื่องนี้ไปบอกกับพี่ใหญ่”
ในเมื่อมันได้ผล มู่เฉียนซีจึงได้ผสมดินดำขึ้นมากองหนึ่งแล้วให้คนนำมันไปส่ง หลังจากที่พยายามอย่างหนัก ในที่สุดก็มีข่าวส่งมาจากที่เหมือง “เจอหยกวิญญาณแล้ว มีหยกวิญญาณเยอะมากขอรับ”
หยกวิญญาณนี้ ที่นี่ไม่เพียงแต่มีจำนวนมากเท่านั้น ยังมีคุณภาพที่ดีกว่าของตอนที่ราชวงศ์มาขุดไปอีกหลายขุม
มู่เฉียนซีกล่าวขึ้น “ปิดข่าวเอาไว้ ส่งคนที่น่าเชื่อถือที่สุดไปขุดแล้วแบ่งปันให้แก่คนที่ต้องการมัน ช่วยให้พวกเขาได้กลายเป็นคนที่แข็งแกร่งให้เร็วที่สุด ”
“ขอรับ!”
เหมืองที่ปิดตายไป ได้ฟื้นคืนชีพขึ้นอีกครั้ง แต่ด้วยความหนังหนาใบหน้าด้านของราชวงศ์ จะต้องมาแย่งมันกลับไปเป็นแน่แท้ ฉะนั้นแล้วพวกเขาจึงต้องระมัดระวังเอาไว้
การเปิดผนึกชีพจรเป็นไปอย่างราบรื่น ซวนหยวนจือได้ฝึกฝนจนทะลุขั้นจักรพรรดิแห่งภูต ไม่รู้ว่าจะเก็บตัวฝึกฝนไปจนถึงเมื่อไร มู่เฉียนซีเองก็ทำใจให้สงบแล้วฝึกฝนเช่นกัน
“ท่านผู้นำตระกูล ที่เหมืองแร่นั่น มีการพบอะไรใหม่”
“พบเจออะไรรึ ?” พวกนั้นขุดเอาหยกวิญญาณออกมาเยอะขึ้นเรื่อย ๆ มู่เฉียนซีคาดเดาว่าที่แห่งนั้นมีแร่ที่มิอาจเปรียบกับที่ใดได้
“เราพบทางลับด้านใน ทางลับนั้นดูไม่เหมือนธรรมชาติ เหมือนกับมีอะไรบางอย่างขุดมันขึ้นมา”
มู่เฉียนซีถามขึ้น “พวกเจ้าได้ลองเข้าไปหรือยัง ?”
“ยังขอรับ ข้ารอคำสั่งจากผู้นำตระกูลก่อน”
มู่เฉียนซีกล่าว “เช่นนั้นเข้าไปดูกันกับข้าเถอะ”
“ขอรับ”
เมื่อมู่เฉียนซีเจอปากทางทางลับนั้นก็เดินเข้าไปข้างใน ทางเดินในทางลับคับแคบนัก มีความสูงและกว้างประมาณเท่าคนหนึ่งคนเท่านั้น “ไป!” มู่เฉียนซีออกคำสั่ง นางรู้สึกว่ายิ่งเข้าไปข้างในลึกขึ้นก็ยิ่งเจอหยกวิญญาณมากขึ้นเรื่อย ๆ
อุณหภูมิเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ มู่อีและพวกมีพลังระดับราชาแห่งภูต สามารถใช้ปราณวิญญาณปกป้องตนเองได้ แต่ว่ามู่เฉียนซีนั้น… นางเป็นเพียงจอมภูตระดับหนึ่งน้องใหม่ จึงจำต้องใช้พลังวารีเรียกสายน้ำมาห่อหุ้มตัวของตนเองไว้
เมื่อถึงจุดสิ้นสุดของเส้นทาง มู่เฉียนซีก็ได้เห็นทะเลสาบขนาดใหญ่อยู่ใต้ดิน ทะเลสาบนี้ไม่ใช่ทะเลสาบที่เป็นน้ำ กลับเป็นทะเลสาบที่มีไฟลุกโชน
มู่อีกล่าวขึ้น “โอ้! คิดไม่ถึงเลยว่าพื้นที่เหมืองภายใต้การควบคุมของราชวงศ์ซวนหยวนจะมีสถานที่ที่วิเศษเช่นนี้อยู่”
ในทะเลสาบ ลาวากําลังพลุ่งพล่านอย่างบ้าคลั่ง ดอกบัวสีแดงเพลิงประดับด้วยไฟลอยออกมาเมื่อลาวาพลุ่งพล่าน ดวงตาดำขลับของมู่เฉียนซีส่องประกายตื่นเต้น “นั่นมัน… บัวอัคคีสามก้าน”
ดอกบัวสามดอก กลีบดอกแต่ละกลีบใสราวกับคริสตัลเชื่อมต่อกัน หากมันไม่ใช่บัวอัคคีสามก้านแล้วมันจะคืออะไร ? นั่นเป็นสมุนไพรวิญญาณระดับเก้าที่หาได้ยากนัก! กลับได้มาเจอมันอยู่ที่นี่
“หากท่านผู้นำตระกูลต้องการสมุนไพรวิญญาณนั่น ข้าจะไปเอามาให้” มู่อีกล่าว เขาพุ่งไปยังทะเลสาบเพลิง ทันใดนั้นเสื้อผ้าของเขาก็ลุกโชนขึ้นมา พลังวิญญาณปกป้องร่างกายก็ยังไร้ประโยชน์
มู่เฉียนซีตะโกนเสียงเรียบ “มู่อี เจ้ากลับมานี่”
มู่อีตกใจเหงื่อแตกพลั่ก รีบถอยออกไป และเมื่อเขากลับออกมา กลายเป็นมนุษย์เพลิงไปเสียแล้ว โชคดีที่มู่เฉียนซีนำพลังภูตวารีของแหวนมังกรเทพวารีช่วยไว้ได้ทัน ไฟที่ลุกโชนอย่างน่ากลัวจึงได้ดับลง ไม่เช่นนั้นเขาคงเป็นแผลไฟไหม้ไปทั้งตัว หากเป็นเช่นนั้นแน่นอนว่าจะต้องลำบากมากอย่างแน่นอน
มู่อีกล่าว น้ำเสียงหวาดกลัวระคนหวั่นวิตก “เพลิงนั่นมันอะไรกัน ? เหตุใดพลังวิญญาณถึงป้องกันไว้ไม่ได้ ?”
มู่เฉียนซีผู้นำตระกูลมู่ไม่ค่อยที่จะสนใจในสิ่งใดอย่างมากมายเช่นนี้นัก เมื่อเห็นว่านางอยากได้ดอกบัวอัคคีนั่น ก็อยากที่จะช่วยเบาแรงนางบ้าง น่าเสียดายเขากลับไม่มีปัญญาจะทำได้
มู่เฉียนซีกล่าวขึ้น “พวกเจ้ารออยู่ที่นี่ ข้าจะไปเอง”
“มิได้นะท่านผู้นำ!” พวกเขาหน้าซีด
มู่อีนั้นเป็นถึงราชาแห่งภูตระดับหนึ่งยังเกือบโดนเผาสิ้นชีพ ตอนนี้สตรีผู้นำตระกูลเป็นเพียงจอมภูต หากจะไปจริง ๆ ละก็ อันตรายมาก
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “อย่าได้แตกตื่น พวกเจ้าอย่าลืมสิว่าข้าเป็นจอมภูตธาตุวารี บางทีพลังวิญญาณธรรมดาคงไม่อาจต้านทานได้ แต่พลังวิญญาณธาตุวารีกลับสามารถต้านทานได้”
กล่าวจบมู่เฉียนซีกระโดดขึ้นไปบนท้องฟ้า และเมื่อเปลวไฟกําลังลุกโชน นางก็ถูกห่อหุ้มด้วยเปลวไฟสีฟ้า
— ตูม! —
น้ำกับไฟพุ่งเข้าต่อสู้กันอย่างดุเดือดกลางอากาศ พวกมู่อีที่มองอยู่ตะลึงตาค้าง
.
Comments