ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ 444 เทพบุตรอันดับหนึ่ง
สายตาสอบถามจ้องมองไปที่มู่เฉียนซี “ชื่อของเจ้าสองคนเหมือนกันมาก! หากไม่ใช่ว่ารูปร่างหน้าตาของเจ้าทั้งสองไม่เหมือนกันแล้วล่ะก็ ข้าก็คงคิดว่าเจ้าสองคนเป็นพี่น้องกัน” “อะไรนะ? มู่เฉียนซี! ” สีหน้าของน่าหลานอวี้เปลี่ยนไปอย่างมาก ครู่หนึ่ง นึกไม่ถึงว่าในใจเกิดความสับสนขึ้น เขากล่าวด้วยเสียงขรึมว่า “เซี่ย ที่เจ้าบอกข้ามันเป็นเพียงเรื่องล้อเล่นใช่หรือไม่? ” เชียนอ้าวเซี่ย “อวี้ ข้าจริงจัง” “จริงจัง! ” น่าหลานอวี้กำหมัดแน่น จนเส้นเอ็นบนกำมือกระตุก เขาแทบจะเข้าไปชกหน้าเชียนอ้าวเซี่ยสักหมัดสองหมัด เชียนอ้าวเซี่ยโน้มตัวเข้ามากระซิบข้างหูน่าหลานอวี้ว่า “อวี้ เจ้าชอบผู้ชายไม่ใช่เหรอ เสี่ยวซีของข้าเป็นผู้หญิงนะ อาการเช่นนี้ของเจ้าทำให้ข้าเข้าใจผิดคิดว่าเจ้าชอบเสี่ยวซี” น่าหลานอวี้สะดุ้งเล็กน้อย ใบหน้าเต็มไปด้วยความสับสน ในเวลานี้ มู่เฉียนซีก็ยืนขึ้นและมองไปเชียนอ้าวเซี่ยพลางกล่าว “ข้าไม่สนว่าเจ้าจะชอบนางจริงหรือไม่ แต่ข้าต้องบอกเจ้าอย่างหนึ่งว่ามู่เฉียนซีนางเป็นผู้หญิงของข้า ทางที่ดีเจ้าควรจะอยู่ห่าง ๆ นางให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้” เจ้าลามกเซี่ยนี่ช่างน่ารำคาญยิ่งนัก มู่เฉียนซีรู้สึกว่าใช้วิธีนี้ทำให้เชียนอ้าวเซี่ยตัดใจไปก็ดีเหมือนกัน อาถิงตอนนี้โกรธจนแทบจะระเบิดอยู่แล้ว “เจ้าบ้า ชื่อเสียงของข้าล้วนแต่ถูกเจ้าทำลายจนหมดสิ้นแล้ว” “เอาใบหน้าของข้าไปป่าวประกาศว่าตัวเองเป็นผู้หญิงของข้า จะ เจ้า นี่เจ้าไม่รู้จักอับอายขายหน้าบ้างหรือไงห๊ะ” มู่เฉียนซีกล่าวอย่างเกียจคร้าน “อืมมมม แล้วจะยังไงล่ะ? ถึงอย่างไรเจ้าก็เป็นคนในพันธสัญญากับข้า เอารูปร่างหน้าตาเจ้ามาใช้นิดใช้หน่อยก็คงไม่เป็นไรหรอก! ” ในตอนนี้เองรอยยิ้มที่สดใสของเชียนอ้าวเซี่ยก็แข็งทื่อลงทันที เขารีบคว้าแขนน่าหลานอวี้พลางกล่าวถามว่า “อวี้ ขะ เขาพูดจริงเหรอ? ” ในใจของน่าหลานอวี้สับสนมาก เขาตอบกลับว่า “ข้าจะรู้ได้ยังไงกันล่ะ? ” เชียนอ้าวเซี่ยหันไปมองมู่เฉียนซีราวกับสามีที่มีความขุ่นเคืองใจ “อวี้ เจ้าว่าเจ้าหนุ่นี่มีอะไรดีเหรอ อายุก็ยังน้อย แก่กว่าเสี่ยวซีไม่กี่ปี ไม่เหมาะสมกับเสี่ยวซีเลยสักนิด! ” น่าหลานอวี้กล่าว “เซี่ย เจ้าหุบปากเดี๋ยวนี้นะ มู่ซีไม่ดีตรงไหน” เชียนอ้าวเซี่ย “ไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าเจ้านี่มีอะไรดีถึงทำให้เสี่ยวซีชอบ ดูท่าแล้วก็ไม่ได้เป็นคนดีมีน้ำใจเหมือนข้าสักนิด” “เจ้าเป็นคนดีมีน้ำใจ เจ้าแน่ใจเหรอ……” “อวี้ เจ้า! ” ทั้งสองทะเลาะกันอย่างเมามัน มู่เฉียนซีกล่าวขึ้นมาว่า “หยุดทะเลาะกันได้แล้ว แล้วข้าวนี่จะได้กินไหม! ” “ชื่อเชียนอ้าวเซี่ยใช่ไหม! ต่อไปหากเจ้ากล้าเข้าใกล้มู่เฉียนซีอีก ข้าจะวางยาพิษให้เจ้าตายอย่างวอนาถเลยคอยดู” เชียนอ้าวเซี่ยตอนนี้เปรียบเสมือนหมูตายแล้วย่อมไม่กลัวน้ำร้อน เขากล่าวว่า “หากข้าโดนยาพิษ เสี่ยวซีก็จะช่วยข้า ข้าเป็นของเสี่ยวซีแล้ว นางไม่อาจเห็นข้าตายไปง่าย ๆ หรอกนะ! ” น่าหลานอวี้กล่าว “เซี่ย เจ้าตัดใจซะเถอะ! มู่ซีคือหมอปีศาจ ฝีมือการใช้พิษของเขาเก่งกาจกว่ามู่เฉียนซีมาก หากเขาอยากจะให้เจ้าตาย แม้แต่มู่เฉียนซีก็ไม่อาจช่วยเจ้าได้” “เช่นนั้นก็ทำให้เสี่ยวซีเสียใจที่ข้าจากไป มันก็คุ้มค่าแล้ว” เชียนอ้าวเซี่ยหันมองไปที่มู่เฉียนซี ถึงแม้ว่าจะเป็นเหมือนการพูดแค่ขำ ๆ แต่นี่ก็เป็นการบอกมู่เฉียนซีว่าเขาจะไม่มีวันยอมถอยเด็ดขาด แม้แต่ความตายเขาก็ไม่กลัว น่าหลานอวี้กล่าวว่า ‘เซี่ย มู่เฉียนซีไม่มีทางชอบเจ้าหรอก เจ้าไปที่ไหนก็เป็นผีเสื้อดอมดมสตรีไปทั่วเช่นนี้ นางไม่มีทางสนใจเจ้าหรอก” เชียนอ้าวเซี่ยตอบกลับ “ต่อไปนี้ข้าจะชอบเพียงแค่เสี่ยวซีผู้เดียวเท่านั้น ส่วนสตรีอื่น ข้าจะตัดสัมพันธ์เสียให้หมด” มู่เฉียนซีรีบกินให้อิ่มท้องแล้วจะรีบกลับ นางไม่อยากจะอยู่ต่อแล้ว มู่เฉียนซีกล่าวว่า “น่าหลาน ข้าขอตัวก่อน” “มู่ซี เราอยู่คุยกันก่อนสิ” มู่เฉียนซีกล่าวอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “ข้างกายมีผึ้งบินหึ่ง ๆ เช่นนี้ ข้าไม่อยากอยู่ต่อจริง ๆ” เชียนอ้าวเซี่ย “นี่เจ้าหนุ่ม เจ้ายังไปไม่ได้! บอกข้ามานะว่าเจ้าเอาเสี่ยวซีไปซ่อนไว้ที่ไหน? ” ในฐานะที่เป็นหัวหน้าหอเชียนอิน เขารู้ข่าวแล้วว่าเสี่ยวซีได้มาที่เซี่ยตู เมื่อได้ยินว่ามีคนมาเจออวี้ เดิมทีก็คิดว่าจะเป็นเสี่ยวซี คิดไม่ถึงว่าจะไม่เจอเสี่ยวซี แต่กลับมาเจอกับศัตรูหัวใจเข้า มู่เฉียนซีกล่าว “ใช่ เจ้าพูดถูก ข้าซ่อนนางเอาไว้ เพราะไม่อยากจะให้นางมาเจอกับเจ้า แล้วเจ้าก็ฝันไปเถอะนะว่าจะได้เจอนาง” เชียนอ้าวเซี่ยกล่าวอย่างโกรธเกรี้ยวว่า “เจ้ามันปีศาจ เจ้าอย่าคิดนะว่าจะครองเสี่ยวซีไว้ได้ คอยดูสักวันข้าจะแย่งเสี่ยวซีกลับมาให้ได้” มู่เฉียนซีค่อย ๆ พ่นคำพูดออกมาสามคำอย่างเชื่องช้าว่า “ฝันไปเถอะ! ” เชียนอ้าวเซี่ยตอนนี้แทบจะกลายเป็นจิ้งจอกที่โกรธเกรี้ยวดุดันก็มิปาน “ข้าไม่มีวันยอมแพ้เด็ดขาด! ” เมื่อเดินออกมาจากหออันดับหนึ่ง มู่เฉียนซีก็ยกมือนวดขมับทันที การปรากฏตัวของเจ้าลามกเซี่ยนั่นช่างเป็นสิ่งที่คาดไม่ถึงจริง ๆ ดูเหมือนว่าเซี่ยตูคงจะเป็นถิ่นของเขา ด้วยความสามารถที่พัวพันไม่ยอมเลิกราของเขานั้น ช่างทำให้น่ารำคาญใจยิ่งนัก! มู่เฉียนซีกล่าว “อาถิง ดูเหมือนคงต้องยืมใช้รูปร่างหน้าตาของเจ้าต่อไปแล้วหล่ะ! ” ครานี้อาถิงกล่าวอย่างใจกว้างว่า “ไม่ใช้ใบหน้าข้าไปเป็นน้ำผึ้งดึงดูดผีเสื้อยั่วยวนคนอื่น แต่ใช้เป็นข้าขับไล่แมลงวันแทน ข้าก็ใจกว้างกับเจ้าสักครั้งก็ย่อมได้” มู่เฉียนซียิ้มมุมปากเล็กน้อยก่อนจะกล่าวว่า “อืม! อาถิงใจกว้างที่สุดแล้ว” “เหอะ! เจ้ารู้ก็ดี เพราะแต่ไหนแต่ไรมาข้าก็ไม่ใช่คนที่ก่อเรื่องวุ่นวายอย่างไร้เหตุผลอยู่แล้ว” มู่เฉียนซีแอบคิดในใจว่า ไม่ก่อเรื่องวุ่นวายไร้เหตุผลก็ไม่ใช่คนนะสิ ชิ๊ ถึงอย่างไรเสียทั้งสองก็มีพันธสัญญาต่อกัน อาถิงกล่าว “เจ้าบ้า นี่เจ้ากำลังด่าข้าในใจเหรอ? ” “ข้าเปล่า! ” มู่เฉียนซีต้องการล่าถอย แต่ถึงอย่างไรก็มาที่นี่เป็นครั้งแรก จึงมีเรื่องมากมายที่ต้องทำ! ทว่า สุดท้ายนั้นร่างชุดขาวผู้หนึ่งก็เดินออกมา และตะโกนใส่มู่เฉียนซีว่า “เจ้าปีศาจ หยุดเดี๋ยวนี้นะ! ข้าจะไปกับเจ้า ข้าไม่เชื่อหรอกว่าจะหาเสี่ยวซีไม่เจอ” น่าหลานอวี้เองก็รู้สึกจนปัญญาเป็นอย่างมาก ดึงสหายที่ไร้เหตุผลของตัวเองเอาไว้และกล่าวว่า “เซี่ย เจ้าหยุดก่อเรื่องได้แล้ว มู่ซียังมีเรื่องสำคัญที่ต้องจัดการ” “ข้าไม่สน! ไม่มีเรื่องไหนจะสำคัญไปกว่าเรื่องที่ข้าตามหาเสี่ยวซี” เชียนอ้าวเซี่ยยังคงกล่าวอย่างเด็ดเดี่ยว และไม่มีใครสามารถห้ามเขาไว้ได้ ในขณะที่เชียนอ้าวเซี่ยกำลังจะพรวดพราดออกมา ทันใดนั้นก็มีเสียงดังขึ้นจากริมถนน “สวรรค์! เป็นองค์รัชทายาทเซี่ย! ” “ในที่สุดข้าก็ได้เห็นองค์รัชทายาทเซี่ยตัวจริงแล้ว” “กรี๊ดดดด! องค์รัชทายาทเซี่ยรูปโฉมงดงามยิ่งนัก! ” “นายน้อยน่าหลานก็ไม่เลวเลยนะ! บุรุษผู้นั้น……บุรุษผู้นั้นเป็นใคร……” ผ่านไปครู่หนึ่งบนถนนก็เต็มไปด้วยผู้คนมากมาย เสียงกรี๊ดกร๊าดก็ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง “องค์รัชทายาทเซี่ย! ” มู่เฉียนซีหันหลังกลับไปมองชายผู้ที่มีเสน่ห์ผู้นั้น หลังจากที่นางเข้ามาในเซี่ยตู นางก็ได้ยินชื่อขององค์รัชทายาทเซี่ยว่าเขามีรูปโฉมงดงาม มีเสน่ห์จนสตรีทุกคนล้วนแต่หลงใหล และได้รับฉายาว่าเป็นบุรุษรูปงามอันดับหนึ่งของเซี่ยโจว หรือเทพบุตรอันดับหนึ่งนั่นเอง น่าหลานอวี้กล่าว “มู่ซี เขาเป็นองค์รัชทายาทแห่งแคว้นเฉียนเซี่ย หากเจ้ามีเรื่องอะไรก็ขอให้เขาจัดการให้ได้ บอกว่าข้าใช้ก็แล้วกัน” เชียนอ้าวเซี่ยกล่าวอย่างไม่พอใจ “อวี้ นี่เจ้าพูดอะไรออกไป? เจ้าจะให้ข้าช่วยคนที่เป็นศัตรูหัวใจของข้างั้นเหรอ ข้าไม่ทำเด็ดขาด! ” “แต่มันเป็นเรื่องที่มู่เฉียนซีต้องการทำ” “งั้นข้า……” เขายังไม่ทันได้ตอบ มู่เฉียนซีก็กล่าวปฏิเสธทันที “ไม่จำเป็น ข้ากับเฉียนซีจัดการกันเองได้” เชียนอ้าวเซี่ยกลัดกลุ้มใจขึ้น “เจ้าไม่ต้องการแล้วอย่างไร ข้าจะทำ เจ้าจะห้ามได้เหรอ? ในแคว้นเฉียนเซี่ยนี้ไม่มีอะไรที่ข้าจัดการไม่ได้”
สายตาสอบถามจ้องมองไปที่มู่เฉียนซี “ชื่อของเจ้าสองคนเหมือนกันมาก! หากไม่ใช่ว่ารูปร่างหน้าตาของเจ้าทั้งสองไม่เหมือนกันแล้วล่ะก็ ข้าก็คงคิดว่าเจ้าสองคนเป็นพี่น้องกัน”
“อะไรนะ? มู่เฉียนซี! ” สีหน้าของน่าหลานอวี้เปลี่ยนไปอย่างมาก
ครู่หนึ่ง นึกไม่ถึงว่าในใจเกิดความสับสนขึ้น เขากล่าวด้วยเสียงขรึมว่า “เซี่ย ที่เจ้าบอกข้ามันเป็นเพียงเรื่องล้อเล่นใช่หรือไม่? ”
เชียนอ้าวเซี่ย “อวี้ ข้าจริงจัง”
“จริงจัง! ”
น่าหลานอวี้กำหมัดแน่น จนเส้นเอ็นบนกำมือกระตุก เขาแทบจะเข้าไปชกหน้าเชียนอ้าวเซี่ยสักหมัดสองหมัด เชียนอ้าวเซี่ยโน้มตัวเข้ามากระซิบข้างหูน่าหลานอวี้ว่า “อวี้ เจ้าชอบผู้ชายไม่ใช่เหรอ เสี่ยวซีของข้าเป็นผู้หญิงนะ อาการเช่นนี้ของเจ้าทำให้ข้าเข้าใจผิดคิดว่าเจ้าชอบเสี่ยวซี”
น่าหลานอวี้สะดุ้งเล็กน้อย ใบหน้าเต็มไปด้วยความสับสน
ในเวลานี้ มู่เฉียนซีก็ยืนขึ้นและมองไปเชียนอ้าวเซี่ยพลางกล่าว “ข้าไม่สนว่าเจ้าจะชอบนางจริงหรือไม่ แต่ข้าต้องบอกเจ้าอย่างหนึ่งว่ามู่เฉียนซีนางเป็นผู้หญิงของข้า ทางที่ดีเจ้าควรจะอยู่ห่าง ๆ นางให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้”
เจ้าลามกเซี่ยนี่ช่างน่ารำคาญยิ่งนัก มู่เฉียนซีรู้สึกว่าใช้วิธีนี้ทำให้เชียนอ้าวเซี่ยตัดใจไปก็ดีเหมือนกัน
อาถิงตอนนี้โกรธจนแทบจะระเบิดอยู่แล้ว “เจ้าบ้า ชื่อเสียงของข้าล้วนแต่ถูกเจ้าทำลายจนหมดสิ้นแล้ว”
“เอาใบหน้าของข้าไปป่าวประกาศว่าตัวเองเป็นผู้หญิงของข้า จะ เจ้า นี่เจ้าไม่รู้จักอับอายขายหน้าบ้างหรือไงห๊ะ”
มู่เฉียนซีกล่าวอย่างเกียจคร้าน “อืมมมม แล้วจะยังไงล่ะ? ถึงอย่างไรเจ้าก็เป็นคนในพันธสัญญากับข้า เอารูปร่างหน้าตาเจ้ามาใช้นิดใช้หน่อยก็คงไม่เป็นไรหรอก! ”
ในตอนนี้เองรอยยิ้มที่สดใสของเชียนอ้าวเซี่ยก็แข็งทื่อลงทันที เขารีบคว้าแขนน่าหลานอวี้พลางกล่าวถามว่า “อวี้ ขะ เขาพูดจริงเหรอ? ”
ในใจของน่าหลานอวี้สับสนมาก เขาตอบกลับว่า “ข้าจะรู้ได้ยังไงกันล่ะ? ”
เชียนอ้าวเซี่ยหันไปมองมู่เฉียนซีราวกับสามีที่มีความขุ่นเคืองใจ “อวี้ เจ้าว่าเจ้าหนุ่นี่มีอะไรดีเหรอ อายุก็ยังน้อย แก่กว่าเสี่ยวซีไม่กี่ปี ไม่เหมาะสมกับเสี่ยวซีเลยสักนิด! ”
น่าหลานอวี้กล่าว “เซี่ย เจ้าหุบปากเดี๋ยวนี้นะ มู่ซีไม่ดีตรงไหน”
เชียนอ้าวเซี่ย “ไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าเจ้านี่มีอะไรดีถึงทำให้เสี่ยวซีชอบ ดูท่าแล้วก็ไม่ได้เป็นคนดีมีน้ำใจเหมือนข้าสักนิด”
“เจ้าเป็นคนดีมีน้ำใจ เจ้าแน่ใจเหรอ……”
“อวี้ เจ้า! ”
ทั้งสองทะเลาะกันอย่างเมามัน มู่เฉียนซีกล่าวขึ้นมาว่า “หยุดทะเลาะกันได้แล้ว แล้วข้าวนี่จะได้กินไหม! ”
“ชื่อเชียนอ้าวเซี่ยใช่ไหม! ต่อไปหากเจ้ากล้าเข้าใกล้มู่เฉียนซีอีก ข้าจะวางยาพิษให้เจ้าตายอย่างวอนาถเลยคอยดู”
เชียนอ้าวเซี่ยตอนนี้เปรียบเสมือนหมูตายแล้วย่อมไม่กลัวน้ำร้อน เขากล่าวว่า “หากข้าโดนยาพิษ เสี่ยวซีก็จะช่วยข้า ข้าเป็นของเสี่ยวซีแล้ว นางไม่อาจเห็นข้าตายไปง่าย ๆ หรอกนะ! ”
น่าหลานอวี้กล่าว “เซี่ย เจ้าตัดใจซะเถอะ! มู่ซีคือหมอปีศาจ ฝีมือการใช้พิษของเขาเก่งกาจกว่ามู่เฉียนซีมาก หากเขาอยากจะให้เจ้าตาย แม้แต่มู่เฉียนซีก็ไม่อาจช่วยเจ้าได้”
“เช่นนั้นก็ทำให้เสี่ยวซีเสียใจที่ข้าจากไป มันก็คุ้มค่าแล้ว”
เชียนอ้าวเซี่ยหันมองไปที่มู่เฉียนซี ถึงแม้ว่าจะเป็นเหมือนการพูดแค่ขำ ๆ แต่นี่ก็เป็นการบอกมู่เฉียนซีว่าเขาจะไม่มีวันยอมถอยเด็ดขาด
แม้แต่ความตายเขาก็ไม่กลัว
น่าหลานอวี้กล่าวว่า ‘เซี่ย มู่เฉียนซีไม่มีทางชอบเจ้าหรอก เจ้าไปที่ไหนก็เป็นผีเสื้อดอมดมสตรีไปทั่วเช่นนี้ นางไม่มีทางสนใจเจ้าหรอก”
เชียนอ้าวเซี่ยตอบกลับ “ต่อไปนี้ข้าจะชอบเพียงแค่เสี่ยวซีผู้เดียวเท่านั้น ส่วนสตรีอื่น ข้าจะตัดสัมพันธ์เสียให้หมด”
มู่เฉียนซีรีบกินให้อิ่มท้องแล้วจะรีบกลับ นางไม่อยากจะอยู่ต่อแล้ว
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “น่าหลาน ข้าขอตัวก่อน”
“มู่ซี เราอยู่คุยกันก่อนสิ”
มู่เฉียนซีกล่าวอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “ข้างกายมีผึ้งบินหึ่ง ๆ เช่นนี้ ข้าไม่อยากอยู่ต่อจริง ๆ”
เชียนอ้าวเซี่ย “นี่เจ้าหนุ่ม เจ้ายังไปไม่ได้! บอกข้ามานะว่าเจ้าเอาเสี่ยวซีไปซ่อนไว้ที่ไหน? ”
ในฐานะที่เป็นหัวหน้าหอเชียนอิน เขารู้ข่าวแล้วว่าเสี่ยวซีได้มาที่เซี่ยตู เมื่อได้ยินว่ามีคนมาเจออวี้ เดิมทีก็คิดว่าจะเป็นเสี่ยวซี คิดไม่ถึงว่าจะไม่เจอเสี่ยวซี แต่กลับมาเจอกับศัตรูหัวใจเข้า
มู่เฉียนซีกล่าว “ใช่ เจ้าพูดถูก ข้าซ่อนนางเอาไว้ เพราะไม่อยากจะให้นางมาเจอกับเจ้า แล้วเจ้าก็ฝันไปเถอะนะว่าจะได้เจอนาง”
เชียนอ้าวเซี่ยกล่าวอย่างโกรธเกรี้ยวว่า “เจ้ามันปีศาจ เจ้าอย่าคิดนะว่าจะครองเสี่ยวซีไว้ได้ คอยดูสักวันข้าจะแย่งเสี่ยวซีกลับมาให้ได้”
มู่เฉียนซีค่อย ๆ พ่นคำพูดออกมาสามคำอย่างเชื่องช้าว่า “ฝันไปเถอะ! ”
เชียนอ้าวเซี่ยตอนนี้แทบจะกลายเป็นจิ้งจอกที่โกรธเกรี้ยวดุดันก็มิปาน “ข้าไม่มีวันยอมแพ้เด็ดขาด! ”
เมื่อเดินออกมาจากหออันดับหนึ่ง มู่เฉียนซีก็ยกมือนวดขมับทันที การปรากฏตัวของเจ้าลามกเซี่ยนั่นช่างเป็นสิ่งที่คาดไม่ถึงจริง ๆ ดูเหมือนว่าเซี่ยตูคงจะเป็นถิ่นของเขา ด้วยความสามารถที่พัวพันไม่ยอมเลิกราของเขานั้น ช่างทำให้น่ารำคาญใจยิ่งนัก!
มู่เฉียนซีกล่าว “อาถิง ดูเหมือนคงต้องยืมใช้รูปร่างหน้าตาของเจ้าต่อไปแล้วหล่ะ! ”
ครานี้อาถิงกล่าวอย่างใจกว้างว่า “ไม่ใช้ใบหน้าข้าไปเป็นน้ำผึ้งดึงดูดผีเสื้อยั่วยวนคนอื่น แต่ใช้เป็นข้าขับไล่แมลงวันแทน ข้าก็ใจกว้างกับเจ้าสักครั้งก็ย่อมได้”
มู่เฉียนซียิ้มมุมปากเล็กน้อยก่อนจะกล่าวว่า “อืม! อาถิงใจกว้างที่สุดแล้ว”
“เหอะ! เจ้ารู้ก็ดี เพราะแต่ไหนแต่ไรมาข้าก็ไม่ใช่คนที่ก่อเรื่องวุ่นวายอย่างไร้เหตุผลอยู่แล้ว”
มู่เฉียนซีแอบคิดในใจว่า ไม่ก่อเรื่องวุ่นวายไร้เหตุผลก็ไม่ใช่คนนะสิ ชิ๊
ถึงอย่างไรเสียทั้งสองก็มีพันธสัญญาต่อกัน อาถิงกล่าว “เจ้าบ้า นี่เจ้ากำลังด่าข้าในใจเหรอ? ”
“ข้าเปล่า! ”
มู่เฉียนซีต้องการล่าถอย แต่ถึงอย่างไรก็มาที่นี่เป็นครั้งแรก จึงมีเรื่องมากมายที่ต้องทำ!
ทว่า สุดท้ายนั้นร่างชุดขาวผู้หนึ่งก็เดินออกมา และตะโกนใส่มู่เฉียนซีว่า “เจ้าปีศาจ หยุดเดี๋ยวนี้นะ! ข้าจะไปกับเจ้า ข้าไม่เชื่อหรอกว่าจะหาเสี่ยวซีไม่เจอ”
น่าหลานอวี้เองก็รู้สึกจนปัญญาเป็นอย่างมาก ดึงสหายที่ไร้เหตุผลของตัวเองเอาไว้และกล่าวว่า “เซี่ย เจ้าหยุดก่อเรื่องได้แล้ว มู่ซียังมีเรื่องสำคัญที่ต้องจัดการ”
“ข้าไม่สน! ไม่มีเรื่องไหนจะสำคัญไปกว่าเรื่องที่ข้าตามหาเสี่ยวซี” เชียนอ้าวเซี่ยยังคงกล่าวอย่างเด็ดเดี่ยว และไม่มีใครสามารถห้ามเขาไว้ได้
ในขณะที่เชียนอ้าวเซี่ยกำลังจะพรวดพราดออกมา ทันใดนั้นก็มีเสียงดังขึ้นจากริมถนน
“สวรรค์! เป็นองค์รัชทายาทเซี่ย! ”
“ในที่สุดข้าก็ได้เห็นองค์รัชทายาทเซี่ยตัวจริงแล้ว”
“กรี๊ดดดด! องค์รัชทายาทเซี่ยรูปโฉมงดงามยิ่งนัก! ”
“นายน้อยน่าหลานก็ไม่เลวเลยนะ! บุรุษผู้นั้น……บุรุษผู้นั้นเป็นใคร……”
ผ่านไปครู่หนึ่งบนถนนก็เต็มไปด้วยผู้คนมากมาย เสียงกรี๊ดกร๊าดก็ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง
“องค์รัชทายาทเซี่ย! ” มู่เฉียนซีหันหลังกลับไปมองชายผู้ที่มีเสน่ห์ผู้นั้น หลังจากที่นางเข้ามาในเซี่ยตู นางก็ได้ยินชื่อขององค์รัชทายาทเซี่ยว่าเขามีรูปโฉมงดงาม มีเสน่ห์จนสตรีทุกคนล้วนแต่หลงใหล และได้รับฉายาว่าเป็นบุรุษรูปงามอันดับหนึ่งของเซี่ยโจว หรือเทพบุตรอันดับหนึ่งนั่นเอง
น่าหลานอวี้กล่าว “มู่ซี เขาเป็นองค์รัชทายาทแห่งแคว้นเฉียนเซี่ย หากเจ้ามีเรื่องอะไรก็ขอให้เขาจัดการให้ได้ บอกว่าข้าใช้ก็แล้วกัน”
เชียนอ้าวเซี่ยกล่าวอย่างไม่พอใจ “อวี้ นี่เจ้าพูดอะไรออกไป? เจ้าจะให้ข้าช่วยคนที่เป็นศัตรูหัวใจของข้างั้นเหรอ ข้าไม่ทำเด็ดขาด! ”
“แต่มันเป็นเรื่องที่มู่เฉียนซีต้องการทำ”
“งั้นข้า……”
เขายังไม่ทันได้ตอบ มู่เฉียนซีก็กล่าวปฏิเสธทันที “ไม่จำเป็น ข้ากับเฉียนซีจัดการกันเองได้”
เชียนอ้าวเซี่ยกลัดกลุ้มใจขึ้น “เจ้าไม่ต้องการแล้วอย่างไร ข้าจะทำ เจ้าจะห้ามได้เหรอ? ในแคว้นเฉียนเซี่ยนี้ไม่มีอะไรที่ข้าจัดการไม่ได้”
Comments