ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ 924 ราตรีแห่งเลือด
สายลมพัดกระโชกแรง มู่เฉียนซีได้กลิ่นอายของพิษ พิษชนิดนี้…
แววตาของมู่เฉียนซีเย็นชาขึ้นมาในทันที นางกล่าวกับจิ่วเยี่ยว่า “จิ่วเยี่ย ดูเหมือนว่าเมืองชางหมางจะเกิดเรื่องบางอย่างที่น่าสนใจขึ้นแล้วล่ะ ข้าอยากจะไปดูสักหน่อย”
“อืม!” จิ่วเยี่ยพยักหน้าเบา ๆ
มู่เฉียนซีเปิดประตูออกมาก็เห็นกู้ไป๋อียืนรออยู่หน้าประตูแล้ว
มู่เฉียนซีกล่าวถาม “เสี่ยวไป๋ เจ้าก็รู้สึกได้ใช่หรือไม่ ?”
กู้ไป๋อีพยักหน้า “ทั่วทั้งเมืองชางหมางล้วนแต่เต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือดและกลิ่นอายของการเข่นฆ่า”
“ถึงแม้ว่าที่นี่จะเป็นเมืองเมืองหนึ่งที่อยู่ในทุ่งหญ้ารกร้าง แต่หากกล่าวตามหลักและเหตุผลแล้ว กลางเมืองเช่นนี้ไม่ควรจะมีกลิ่นอายของการเข่นฆ่าที่รุนแรงถึงเพียงนี้สิ” มู่เฉียนซีขมวดคิ้วขึ้น
“อู๋ตี้ เจ้าแอบซ่อนตัวอยู่แถวนี้ คอยคุ้มกันความปลอดภัยให้ท่านเจ้าเมืองเหยียนและพวกด้วย” มู่เฉียนซีกล่าว
“ขอรับ!”
“ไปเถอะ!” ร่างทั้งสองเคลื่อนไหวไปในความมืด
กู้ไป๋อีรู้ดีว่าชายผู้นั้นต้องตามมาอย่างลับ ๆ เป็นแน่ เพียงแค่ไม่ปรากฏตัวออกมาก็เท่านั้น นางไม่น่าจะมีอันตรายใด
มู่เฉียนซีได้มาถึงสถานที่ที่มีกลิ่นคาวเลือดเข้มข้นที่อยู่ใกล้พวกเขาที่สุดแล้ว นี่เป็นห้องพักชั้นหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลกับโรงเตี๊ยมของพวกเขามากนัก
ทันทีที่มู่เฉียนซีและกู้ไป๋อีเดินเข้าไปก็ได้เห็นคนที่อยู่ด้านในนอนตายอย่างน่าสังเวช โดยสภาพศพนั้นดูไม่ได้เลยแม้แต่น้อย
นางกวาดสายตามองศพที่นอนแน่นิ่งอยู่บนพื้นและกล่าวว่า “คนเหล่านี้หน้าตาคุ้น ๆ ดูเหมือนจะเป็นพวกที่ประมูลของได้ในงานประมูลวันนี้”
กู้ไป๋อีกล่าว “แหวนมิติที่ติดตัวพวกเขาหายไปทั้งหมดไม่มีเหลือแม้แต่วงเดียว”
มู่เฉียนซีคาดเดาถึงสาเหตุการถูกฆ่าสังหารของพวกเขาได้แล้ว “เป้าหมายของพวกมันก็คือฆ่าชิงทรัพย์ แต่เพื่อชิงทรัพย์ก็สามารถดักปล้นที่นอกเมืองได้ มาลงมือกลางเมืองในค่ำคืนเช่นนี้ ช่างกำเริบเสิบสานราวกับบ้านเมืองไม่มีขื่อไม่มีแป!”
“อีกอย่าง ไม่ใช่แค่นี้…”
มู่เฉียนซีกับกู้ไป๋อีไปยังสถานที่อื่น และสิ่งที่เห็นล้วนแต่เป็นศพที่ตายอย่างน่าสังเวชทั้งสิ้น
พวกเขาก็เป็นผู้ที่เข้าร่วมการประมูลในวันนี้เช่นกัน โดยแหวนมิติของพวกเขานั้นได้หายไปทั้งสิ้น
และอีกหลายคนที่พบหลังจากนั้นก็กลายเป็นศพที่มีสภาพเช่นเดียวกัน ในเบื้องต้นมู่เฉียนซีสามารถมั่นใจได้แล้วว่าได้มีคนเปิดศึกเข่นฆ่าอย่างกล้าหาญกลางเมืองก็เพื่อชิงทรัพย์ ทำเช่นนี้ ไม่เห็นท่านเจ้าเมืองเมืองชางหมางอยู่ในสายตาเลยแม้แต่น้อย!
มู่เฉียนซีกล่าว “พวกนั้นมีพลังที่แข็งแกร่ง อีกทั้งยังเชี่ยวชาญในการใช้พิษ ลงมือได้รวดเร็วและแม่นยำมาก ไม่ทำให้ผู้อื่นสังเกตเห็นได้เลย”
มู่เฉียนซีหันไปพูดกับกู้ไป๋อีว่า “เสี่ยวไป๋ เราไปดูจากที่ที่สูงที่สุดของเมืองชางหมางกัน”
“ขอรับ!”
ร่างสองร่างเคลื่อนไหวไปที่ชั้นบนสุดของหอที่สูงที่สุดในเมืองชางหมาง สายลมพัดกระโชกกลิ่นคาวเลือดที่เข้มข้นมากขึ้นเรื่อย ๆ ลอยมา
สายตาของมู่เฉียนซีมองไปยังสถานที่หนึ่งที่อยู่ใจกลางเมือง นางกล่าว “ที่นั่นเป็นสถานที่ที่กลิ่นคาวเลือดเข้มข้นที่สุดแล้ว”
กู้ไป๋อีแสดงความคิดเห็น “การครอบครองพื้นที่ใจกลางเมืองเช่นนี้ ที่นั่นน่าจะเป็นตำแหน่งที่ตั้งของจวนท่านเจ้าเมือง”
แววตาของมู่เฉียนซีเผยความประหลาดใจขึ้น “แม้แต่จวนท่านเจ้าเมืองก็กล้าลงมือ พวกมันกำเริบเสิบสานถึงขั้นลงมือสังหารในจวนท่านเจ้าเมืองเลยอย่างนั้นเหรอ”
“เราไปดูกันเถอะ อย่าได้แหวกหญ้าให้งูตื่นเชียวล่ะ!”
“อืม!” กู้ไป๋อีตอบรับ
ครั้นแล้วพวกเขาก็เร่งฝีเท้าไปทางจวนท่านเจ้าเมือง ซึ่งเวลานี้ในจวนท่านเจ้าเมืองก็เกิดเสียงการเข่นฆ่าขึ้นมาแล้วเช่นกัน
“ฆ่าพวกมันซะ!”
ภายใต้คำสั่งของท่านเจ้าเมืองชาง ยอดฝีมือที่ยังคงมีชีวิตอยู่ในจวนท่านเจ้าเมืองตอนนี้ก็พยายามโคจรพลังวิญญาณและพลังชีวิตของตนอย่างสุดความสามารถเพื่อฆ่าคนตรงหน้าเหล่านี้
ตุบ!
ทางด้านฝ่ายของท่านเจ้าเมืองชางนั้นพลังความแข็งแกร่งก็นับว่าอ่อนแอกว่าฝ่ายตรงข้ามอยู่แล้ว อีกทั้งฝ่ายตรงข้ามยังใช้พิษอย่างไม่คำนึงถึงสิ่งใด สิ่งนี้ทำให้กำลังในการต่อสู้ของพวกเขายิ่งลำบากยากเย็นยิ่งขึ้น!
ตุบ ตุบ ตุบ!
ผู้คนที่อยู่ข้างจวนท่านเจ้าเมืองล้มลงไปกับพื้นทีละคน ๆ
ท่านเจ้าเมืองชางกล่าว “พวกเจ้าเป็นใครกันแน่ เหตุใดถึงกล้าลงมือเช่นนี้ในเมืองชางหมางของข้า?”
“หึ หึ หึ! คนกำลังจะตาย ถ้ารู้ว่าพวกข้าเป็นใครแล้วมันจะมีความหมายใด?”
“พวกเจ้ารังแกกันเกินไปแล้ว!” ถึงอย่างไรเสียท่านเจ้าเมืองชางก็เป็นถึงมหาจักรพรรดิยอดยุทธ์ระดับสามผู้หนึ่ง และเมื่อเขาได้โกรธเกรี้ยวจนถึงที่สุดแล้ว เขาก็ระเบิดพลังที่ทั้งยิ่งใหญ่และทรงอานุภาพออกมา!
ตูม!
พลังนั้นได้โจมตีไปทางคนชุดดำผู้หนึ่ง ทว่า คนชุดดำผู้นั้นเพียงแค่ถอยหลังไปหลายก้าวเท่านั้นและดูเหมือนไม่ได้รับบาดเจ็บเลยแม้แต่น้อย!
ฉึก!
แต่เสื้อผ้าของคนชุดดำกลับถูกพลังของท่านเจ้าเมืองชางฉีกออกเป็นชิ้น ๆ และเผยให้เห็นร่างกายที่เหมือนกับหินก็มิปาน
ท่านเจ้าเมืองชางเห็นเช่นนี้ก็ตกตะลึงไปชั่วขณะ “พวกเจ้า! นี่พวกเจ้าไม่ใช่คน ร่างกายของคนไม่ได้เป็นเช่นนี้!”
“เจ้าไม่มีสิทธิ์ที่จะรู้ ไปตายซะเถอะ!” แสงเย็นวาบพาดผ่านดวงตาของคนชุดดำ มือของเขายกขึ้นและพุ่งเข้าไปที่ท่านเจ้าเมืองชางโดยตรง
เมื่อมู่เฉียนซีกับกู้ไป๋อีมาถึงก็ได้เห็นฉากนี้เข้าพอดี ร่างของคนผู้นี้เหมือนกับร่างของหญิงอรสรพิษนั่นเกินไปแล้ว ร่างของคน ความคิดของคน แต่กลับสวมเนื้อหนังของสัตว์วิญญาณ
จะคนก็ไม่ใช่ จะสัตว์ก็ไม่เชิง
มู่เฉียนซีตะโกนขึ้นอย่างเย็นชา “โล่วิญญาณน้ำแข็ง!”
โล่วิญญาณน้ำแข็งได้ขวางการโจมตีตรงหน้า จากนั้นเงาจันทราอันเย็นยะเยือกก็ได้โจมตีไปที่คนผู้นั้น!
“เงาจันทราหนาวเหน็บ!”
กระบี่เฉียนหานของกู้ไป๋อีออกจากฝักแล้ว!
ตูม!
ท่านเจ้าเมืองชางร่นตัวถอยหลังไปหลายก้าว โล่วิญญาณน้ำแข็งได้ต้านทานพลังส่วนใหญ่ของคนชุดดำเอาไว้ ทำให้เขาไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด
ส่วนคนชุดดำผู้นั้นถูกพลังของกระบี่เฉียนหานทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บ ถึงแม้ว่าเขาจะมีร่างกายอันแข็งแกร่งเป็นเกราะป้องกันอยู่ แต่มันก็ทำให้เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสเช่นกัน
พรวด! คนชุดดำกระอักเลือดคำโตออกมาคำหนึ่ง และกล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจว่า “ทักษะกระบี่ แข็งแกร่งมาก!”
ท่านเจ้าเมืองชางที่ก้าวผ่านประตูแห่งความตายมาได้ในตอนนี้ดวงตาก็เปล่งประกายขึ้น มีคนมาช่วยเขาแล้ว
“ท่าน ช่วยข้าด้วย หากรอดพ้นจากภัยพิบัตินี้ไปได้ ข้าจะตอบแทนท่านทั้งสองอย่างงามเลย”
ร่างในชุดม่วงและร่างในชุดขาวจรดเท้าลงมายังพื้นดิน กวาดสายตามองไปที่คนชุดดำทั้งสิบ
สายตาอันเย็นยะเยือกทั้งสองคู่นั้นทำให้คนชุดดำเหล่านี้เกิดลางสังหรณ์ที่เลวร้ายขึ้น
ผู้ที่เป็นหัวหน้าของกลุ่มคนชุดดำกล่าวถามขึ้นว่า “พวกเจ้าเป็นใคร?”
มู่เฉียนซีกล่าวอย่างหยอกล้อว่า “ดูเหมือนว่าพวกเจ้าจะไล่ปล้นฆ่าผู้ที่เข้าร่วมประมูลในครั้งนี้ไม่ใช่หรอกรึ เหตุใดถึงไม่รู้ล่ะว่าข้าเป็นใคร?”
ท่านเจ้าเมืองชางตกตะลึงจนเสียงสั่น “พวกมันปล้นฆ่าผู้ที่เข้าร่วมการประมูลในครั้งนี้รึ! หรือว่าเรื่องทั้งหมดนี้เป็นโรงประมูลชางหมางที่เป็นคนก่อเรื่อง?”
มู่เฉียนซีส่ายหน้าพลางกล่าว “คงจะไม่ใช่!”
คนชุดดำมองพวกเขาและกล่าวเสียงขรึม “ดูท่า พวกเจ้าก็คงจะเป็นผู้ที่เข้าร่วมประมูลในครั้งนี้เหมือนกัน ในเมื่อพวกเจ้ามาหาพวกข้าถึงที่ ก็ดี พวกข้าจะได้ไม่ต้องเสียเวลาตามหาพวกเจ้า!”
มู่เฉียนซียิ้มพลางกล่าว “พวกเจ้าคิดว่าพวกเจ้ามีความสามารถพอจะทำอันใดข้าได้อย่างนั้นเหรอ?”
“พวกข้ามีความสามารถนั้นหรือไม่ ประเดี๋ยวพวกเจ้าก็รู้เอง บอกชื่อแซ่ของเจ้ามาซะโดยดีเถอะนะ และบอกข้ามาว่าวันนี้พวกเจ้าประมูลอันใดไปได้บ้าง” สายตาของพวกเขามองไปที่มู่เฉียนซีอย่างเจ้าเล่ห์
มู่เฉียนซียิ้มพลางกล่าว “การประมูลในวันนี้ ผู้ที่ประมูลเยอะที่สุดก็คือข้า คำตอบนี้ พวกเจ้าพึงพอใจหรือไม่?”
ท่านเจ้าเมืองชางกล่าว “ท่านคือสาวน้อยผู้ที่ใช้หยกวิญญาณหมื่นล้านชิ้นประมูลหยกเย็นศักดิ์สิทธิ์ผู้นั้นหรอกรึ จะว่าไปเสียงนี้ก็ค่อนข้างเหมือนนางอยู่เหมือนกัน!”
เพื่อความปลอดภัยของผู้ประมูล เสียงที่ถูกส่งออกมาจากห้องส่วนตัวทั้งหมดได้ทำให้เปลี่ยนไป แต่ก็ยังมีความคล้ายคลึงอยู่บ้าง
คนชุดดำเหล่านี้ได้ยินเช่นนั้นเข้าก็ตกใจจนผงะไปเช่นกัน “นึกไม่ถึงจะเจ้าจะเป็นหญิง เจ้าคือเป้าหมายใหญ่อันดับสองของภารกิจของพวกข้าในครั้งนี้ ในเมื่อเจ้ามาหาถึงที่ เช่นนั้นข้าก็จะไม่เกรงใจแล้ว!”
พลังวิญญาณอันน่าสะพรึงกลัวได้โคจรขึ้น ฝ่ายตรงข้ามกำลังพุ่งมา
เดิมทีท่านเจ้าเมืองชางคิดว่าพวกเขากล้าออกมาช่วยเช่นนี้ ต้องมีความมั่งคั่งเป็นอย่างมาก และพลังความแข็งแกร่งก็คงไม่อ่อนแออย่างแน่นอน!
ทว่า เมื่อได้เห็นพลังของมู่เฉียนซีและกู้ไป๋อีแล้ว เขาก็แทบไม่อยากจะเชื่อสายตา!
Comments