นางสนมแพทย์อัจฉริยะบทที่ 221 ยิงธนู โชคชะตาที่ต้องเป็นสนม

Now you are reading นางสนมแพทย์อัจฉริยะ Chapter บทที่ 221 ยิงธนู โชคชะตาที่ต้องเป็นสนม at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 221 ยิงธนู โชคชะตาที่ต้องเป็นสนม
หากว่าก่อนหน้านี้มีความคิดเพียงเล็กน้อย ตอนนี้คงคิดอย่างเต็มตัว
ยิ่ง เฟิ่งชิงเฉินไม่ยอมให้คนอื่นดู แสดงว่าต้องมีเงื่อนงำแน่นอน
อาการบาดเจ็บของพี่องค์รัชทายาทนั้นรุนแรงมาก แม้แต่หมอก็บอกว่าไม่สามารถช่วยได้แล้ว แต่เฟิ่งชิงเฉินกลับรักษาจนหายขาดได้ซีหลิงเหยาหวาไม่เชื่อว่าทักษะการรักษาของเฟิ่งชิงเฉินจะยอดเยี่ยมไปกว่าเหล่าคนชราที่เรียนการรักษามาทั้งชีวิต
ทักษะทางการรักษาไม่ต่างจากทักษะอื่นๆ ต้องใช้เวลามากในการเรียนรู้และฝึกฝน ไม่ว่าจะมีพรสวรรค์มากแค่ไหน ในอายุอย่างเฟิ่งชิงเฉินนั้น เป็นไปมิได้ที่จะประสบความสำเร็จเช่นนี้ มันต้องมีเหตุผลอื่นร่วมด้วยแน่ๆ
นางจะขุดความลับของเฟิ่งชิงเฉินออกมาให้ได้อย่างแน่นอน หากว่าคนสามารถรู้ความลับของเฟิ่งชิงเฉินได้ และมีเทคนิคในการชุบชีวิตคนตายได้ นั่นคือสิ่งที่ดีที่สุด…
เมื่อเห็นว่าสถานการณ์เป็นเช่นนี้แล้ว ซูหว่านก็ยืนขึ้น ท่าทีของนางดูเหมือนจะอยู่ข้างเดียวกับองค์หญิงเหยาหวา “ข้าก็คิดเช่นเดียวกับองค์หญิงเหยาหวา เฟิ่งชิงเฉินไม่ว่าเจ้าจะเห็นด้วยหรือไม่ก็ตาม แต่วิชาเปิดช่องท้องนั้น ข้าจะต้องเห็นกับตาให้ได้ ก่อนที่จะมาข้าและองค์หญิงเหยาหวาได้ไปที่พระราชวังมา และได้รับอนุญาตจากฮ่องเต้ เฟิ่งชิงเฉินเจ้ากล่าวว่าข้าและองค์หญิงเหยาหวามิใช่คนตงหลิง เจ้าไม่คุกเข่าย่อมได้ เช่นนั้นพระราชโองการของฮ่องเต้แห่งแคว้นตงหลิง เจ้ากล้าที่จะขัดขืนหรือ?”
เอาจักรพรรดิไปข่มเหงนางหรือ? น่าเสียดายที่พวกเจ้าไม่มีสารพระราชโองการ เฟิ่งชิงเฉินยังคงปฏิเสธ ” พระราชโองการของฮ่องเต้ ชิงเฉินมิอาจขัดขืน เพียงแต่ชิงเฉินมิได้รับสารพระราชโองการของฮ่องเต้ ดังนั้นโปรดอภัยที่ชิงเฉินไม่อาจช่วยขจัดความสงสัยขององค์หญิงเหยาหวาและคุณหนูซูได้ การช่วยชีวิตคนก็เหมือนการดับไฟที่ไหม้รุกราน หวังว่าทั้งสองจะมีเมตตา อย่าขัดขวางชิงเฉินช่วยชีวิตคน คนเราทำอยู่ข้างล่าง ฟ้าสวรรค์คอยจับตามองอยู่ข้างบน หาก ทำให้หมอรักษาไม่ทันเวลา นั่นบาปเท่ากับฆ่าคน”
เฟิ่งชิงเฉินไม่ได้กล่าวเกินจริง จำปัจจุบันมีผู้ป่วยจำนวนมากที่เสียชีวิตด้วยน้ำมือของเจ้าหน้าที่โง่เขลา
หากว่าเหล่าเจ้าหน้าที่หรือลูกผู้ใหญ่โต เมื่อได้รับบาดเจ็บขึ้นมาจะได้อยู่ห้องคนไข้ชั้นดีทันที และพักอยู่ในห้องผู้ป่วยส่วนตัวหรือห้องชุด ต้องมีหมอส่วนตัวไม่พอ และต้องการทีมหมอที่คอยรับใช้พวกเขาเพียงคนเดียวทั้งวันอีก เดิมทรัพยากรทางการแพทย์มีน้อยอยู่แล้ว พวกเขายังจะมาเอาเปรียบอีก
ถึงขนาดที่ว่าพวกเขาต้องการให้หมอคนไหนวินิจฉัยรักษา หากหมอคนนั้นกำลังช่วยชีวิตคนอยู่ ก็ต้องเอาคนไข้ลงจากเตียงฉุกเฉินก่อน
ชีวิตนี้ ชาติที่แล้ว หรือชาติหน้าของเฟิ่งชิงเฉิน ล้วนเกลียดชังคนโง่เขลาอย่างองค์หญิงเหยาหวาและซูหว่านที่ขัดขวางการรักษาของหมอเพียงเพราะประโยชน์ของตน
โชคดีที่วันนี้พวกนางมาเร็ว หากมาช้ากว่านี้และนางกำลังทำการผ่าตัดกับซุนฮูหยินอยู่ แล้วพวกนางจะบุกเข้ามา เช่นนั้นผลที่ตามมาคงจะร้ายแรงอย่างมาก
เฟิ่งชิงเฉินเชื่อว่าผู้หญิงสองคนนี้ทำเรื่องแบบนี้ออกมาได้แน่นอน
“เฟิ่งชิงเฉิน เจ้ากำลังบอกว่าข้าโกหกเจ้างั้นหรือ? ข้าเป็นถึงคุณหนูของตระกูลซู จะมาโกหกเด็กสาวกำพร้าที่ไม่มีอะไรเลยอย่างเจ้าหรือ? เฟิ่งชิงเฉินเจ้าต้องเข้าใจว่าข้าและเจ้านั้นต่างกันราวกับฟ้าดิน ข้ารังเกียจที่จะมาโกหกเจ้า” ซูหว่านกล่าวและเดินไปข้างหน้าเฟิ่งชิงเฉิน
เมื่อเทียบกับซูหว่านที่แต่งตัวด้วยเสื้อผ้าและอัญมณีที่สวยงาม เฟิ่งชิงเฉินซึ่งแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าธรรมดา ๆ ดูโทรมมาก ออร่าของนางถูกปิดกั้นโดยเครื่องประดับแวววาวของซูหว่านไปทั้งหมด
แต่นางไม่รู้ว่า เครื่องประดับทั้งตัวของซูหว่านเทียบไม่ได้กับเม็ดหยกที่คอของเฟิ่งชิงเฉินเลยแม้แต่น้อย
ซูหว่านพอใจกับผลลัพธ์นี้อย่างมาก นางมองไปที่เฟิ่งชิงเฉินด้วยรอยยิ้มและเผยกลิ่นอายเหนือกว่าออกมา “เฟิ่งชิงเฉิน สิ่งที่ข้าซูหว่านต้องการ ไม่มีสิ่งไหนที่ข้าเอามามิได้ วันนี้ก็เช่นกัน วิชาเปิดช่องท้องนั้นข้าจะดูอย่างแน่นอน และเสด็จอาเก้าข้าก็จะแต่งงานด้วยเช่นกัน เจ้าทำตัวดีๆแล้วกัน บางทีหากข้าใจอ่อน ข้าอาจจะอนุญาตให้เจ้ามาเป็นสนมได้”
“สนมหรือ? ค่อยพูดตอนที่คุณหนูซิ่วได้แต่งเจ้าจวนอ๋องเก้าเถิด แม้ว่าแต่งเข้าจวนอ๋องเก้าแล้วก็ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับข้า คุณหนูซิ่ววางใจได้ ชาตินี้ข้าจะไม่มีวันเป็นนางสนมของใคร” เฟิ่งชิงเฉินโกรธเคืองอย่างมาก ไม่รู้ว่าโจวสิงพาคนมาช่วยได้หรือยัง เพราะผู้หญิงสองคนนี้น่าขยะแขยงมากเกินไป
เป็นแค่คนนอก แต่กลับข้าที่จะมาชี้นิ้วสั่งคนที่เป็นเจ้าของจวนเฟิ่งในแคว้นตงหลิง น่าขยะแขยงที่สุด
“ไม่เป็นสนม? เจ้าคิดอยากเป็นภรรยาหรือ? เจ้าน่ะหรือ? นี่เป็นคำตลกที่น่าตลกที่สุดเท่าที่ข้าเคยได้ยินมาในตงหลิง” ซูหว่านปิดหน้าและยิ้ม จากนั้นหันไปบอกกับองค์หญิงเหยาหวาราวกับเรื่องตลก
“ไม่เป็นนางสนมงั้นหรือ? เกรงว่าเจ้าคงต้องผิดหวัง” องค์หญิงเหยาหวาเหลือบมองเฟิ่งชิงเฉินด้วยสายตาที่ครุ่นคิด
เฟิ่งชิงเฉินเลือกได้แค่สองทาง คือตายหรือเข้าจวนรัชทายาทซีหลิง
องค์รัชทายาทได้ตัดสินใจแล้วว่า เลือกนางสนมทั้งสี่แคว้น เฟิ่งชิงเฉินจะเป็นตัวแทนตงหลิง ด้วยฐานะตำแหน่งของเฟิ่งชิงเฉินนางไม่มีแม้แต่คุณสมบัติที่จะเป็นพระชายารอง เป็นได้แค่หญิงที่เอาไว้นอนเท่านั้น
เฟิ่งชิงเฉินไม่แยแสซูหว่าน เสด็จอาเก้าจะจัดการหญิงนี้เอง
นางเชื่อว่าเสด็จอาเก้าไม่มีทางปล่อยให้หญิงนี้ได้ดั่งใจเป็นแน่ เสด็จอาเก้าเป็นคนที่มาตรฐานสูง และคาดว่าเขาคงจะมาตรฐานสูงต่อภรรยาตัวเองด้วยเช่นกัน ซูหว่านเคยวางแผนร้ายกับเขาครั้งหนึ่ง ฉะนั้นไม่มีทางที่นางจะได้เป็นพระชายาอ๋องเก้า
ตรงกันข้าม ซีหลิงเหยาหวา คำพูดของนางทำให้เฟิ่งชิงเฉินรู้สึกถึงวิกฤต
หรือว่าองค์รัชทายาทแห่งซีหลิงต้องการนำตัวนางไปที่แคว้นซีหลิง หากเป็นเช่นนั้น นางต้องแย่อย่างแน่นอน หากรู้เช่นนี้แต่แรกไม่ควรช่วยชีวิตคนนั้นจริงๆ ให้เขาตายไปเสียดีกว่า
องค์รัชทายาทซีหลิงกล่าวว่า ฮ่องเต้จะต้องมอบตัวนางเป็นของขวัญอย่างแน่นอน เช่นนั้นนางจะไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะปฏิเสธ
เฟิ่งชิงเฉินมองไปที่ซีหลิงเหยาหวาด้วยสายตาที่เย็นชา ทำให้ซีหลิงเหยาหวาหวาดกลัวอย่างมาก นางถอยหลังไปไม่รู้ตัว จนเมื่อซีหลิงเหยาหวารู้ตัวอีกที นางก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ
บ้าจริง ตนเป็นถึงองค์หญิงที่มีเกียรติที่สุดในซีหลิง แต่กลับถูกเด็กกำพร้าขู่เข็ญจนต้องถอยหลังไป หากว่าเรื่องมีใครรู้เข้า นางต้องเสียหน้าซีหลิงเหยาหวาอย่างแน่นอน
ซีหลิงเหยาหวาเดินเข้าไปหาเฟิ่งชิงเฉิน เพื่อเป็นการรักษาเกียรติของตน นางเอ่ยคำสั่งต่อหน้าเฟิ่งชิง เฉิน ” ทหาร ล้อมรอบจวนเฟิ่งเอาไว้ ส่งตัวคุณหนูเฟิ่งไปที่บ้านไม้”
“ขอรับ” ทหารซีหลิงแสดงให้เห็นถึงข้อดีของพวกเขาในด้านความเร็ว ในชั่วพริบตาพวกเขาก็ล้อมห้องโถงใหญ่ของจวนเฟิ่งเอาไว้ได้ มีองครักษ์แปดคนยืนอยู่ด้านหลังเฟิ่งชิงเฉิน “คุณหนูเฟิ่ง เชิญขอรับ………..”
“อาจารย์” ซุนซือสิงมองดูการเคลื่อนไหวนี้ ผ่านไปอยู่นานเขาไม่รู้ต้องตอบสนองอย่างไร
นี่เป็นสิทธิพิเศษของราชวงศ์หรือ? พวกนางคิดอยากจะทำกระไรก็ทำตามใจได้ ไม่มีใครสามารถปฏิเสธได้ และเมื่อปฏิเสธพวกเขาจะใช้กำลังในการบีบบังคับ
“ไม่เป็นไร เราไปกันเถอะ” เฟิ่งชิงเฉินตบไหล่ซุนซือสิง นางมิได้โกรธเคือง
เสด็จอาเก้าเคยกล่าวไว้ว่า เมื่อต้องเผชิญกับอำนาจ กลอุบายต่างๆล้วนไร้ประโยชน์ ซีหลิงเหยาหวาใช้กำลัง ดังนั้นนางจะไม่เผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้
“ข้าคิดว่าเจ้าเก่งกาจแค่ไหนเสียอีก ที่แท้ก็ไม่เท่าไหร่ คุณชายใหญ่ตระกูลหวังกล่าวว่าเจ้ามีความเป็นคนแข็งแกร่งไม่ยอมใคร เดิมข้าคิดว่าเจ้าจะไม่ยอมใครง่ายๆเสียอีก ที่แท้เจ้าก็กลัวตายกลัวตายมันก็ดี” ซีหลิงเหยาหวากล่าวพร้อมเยาะเย้ย
“องค์หญิง อย่าหัวเราะเร็วเกินไป ผู้ชนะคือผู้ที่หัวเราะในตอนท้ายต่างหาก” เฟิ่งชิงเฉินด่าโจวสิงอยู่ในใจ ทำไมยังไม่มีสักที ดูท่าทีของผู้หญิงสองคนนี้แล้ว วันนี้นางไม่อยากผ่าตัดก็คงจะโดนบังคับให้ทำ
ยิ่งกว่านั้น ไม่มีทางที่จะคุยกับผู้หญิงด้วยเหตุผล พวกนางไม่เห็นความสำคัญของชีวิตคนหากว่าซุนฮูหยินเป็นกระไรไป มิตรภาพครู-ลูกศิษย์ของนางกับซุนซือสิงก็คงจะจบลงไปด้วย และนางก็ได้ก่อนความแค้นกับตระกูลซุนอย่างเต็มตัว และทำให้วงการหมอแห่งตงหลิงโกรธเคืองอย่างแรง
ผู้หญิงใจร้าย!
“ข้าจะหัวเราะจนถึงสุดท้ายอย่างแน่นอน พวกเจ้าตายกันหมดแล้วหรือ? เห็นหรือไม่ว่าหมอหญิงเฟิ่งเหนื่อย แบกนางไปสิ”
เมื่อซีหลิงเหยาหวากล่าวจบ องครักษ์ก็ลงมือ “ขอรับ”
“หยุด!”
เสียงที่ดุดันดังขึ้น ตามด้วยเสียง “ฟิ้ว…” ลูกธนูคมพุ่งไปที่ข้อมือขวาขององครักษ์ที่จับตัวเฟิ่งชิงเฉินเอาไว้…
“อ๊าก…” องครักษ์ที่บาดเจ็บรีบกดมือขวาเอาตนเอาไว้ เลือดเขาไหลหยดลงมา
“ปกป้ององค์หญิง”
“คุ้มกันองค์หญิง มีมือลอบสังหาร”
องครักษ์ของซีหลิงทำท่าทีราวกับว่าเจอศัตรูแข็งแกร่ง เร่งคุ้มกันซีหลิงเหยาหวาเอาไว้ ขณะเดียวกันก็เอาดาบใหญ่แนบไปที่คอของเฟิ่งชิงเฉินและซุนซือสิง…
เฟิ่งชิงเฉินและซุนซือสิงยืนตัวตรงพร้อมกัน ดาบขนาดใหญ่ส่องประกายรอบคอพวกเขาอย่างเย็นชา แต่ไม่ได้ทำให้ทั้งสองคนตกใจ พวกเขามองไปที่ประตูพร้อมกัน สงสัยว่าใครกันจึงหยิ่งผยองนัก.. .

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *