นายน้อยเจ้าสำราญ 1162 ศึกหุบเขาลั่วหลาง

Now you are reading นายน้อยเจ้าสำราญ Chapter 1162 ศึกหุบเขาลั่วหลาง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1162 ศึกหุบเขาลั่วหลาง

ราชโองการถอยทัพถูกส่งออกมาจากแคว้นซูเฟิง ซึ่งมาถึงมือของอัลดูลาในวันเดียวกันกับที่กองทัพสามารถยึดครองหุบเขาลั่วหลางได้แล้ว

เขาอ่านราชโองการจากฝ่าบาท จากนั้นก็นิ่งอึ้งอยู่พักใหญ่ กองทัพต้าเซี่ย 3,000 นายกำจัดกองทัพเทียนเย่า 100,000 นายทั้งยังยึดเมืองเทียนเย่าได้สำเร็จเยี่ยงนั้นหรือ ?

เป็นไปได้เยี่ยงไรกัน ?

เขาเคยทำสงครามกับกองทัพเทียนเย่ามาก่อน เขาเข้าใจแสงยานุภาพของกองทัพนั้นดี เขาสามารถเอ่ยได้เต็มปากเลยว่าหากกองทัพ 50,000 นายในมือของเขาต้องเผชิญหน้ากับกองทัพเทียนเย่า 30,000 นายในตอนนี้ พวกเขาย่อมเป็นฝ่ายที่ปราชัยอย่างมิต้องสงสัย

ปัญหามิได้อยู่ที่ความเด็ดขาดในการทำศึก ทว่าปัญหานี้มีต้นตอมาจากอาวุธยุทโธปกรณ์ของทหารชั้นยอดแห่งแคว้นเทียนเย่า พวกเขาได้รับการฝึกฝนอย่างหนัก ทั้งยังมีเสบียงอุดมสมบูรณ์

แคว้นเทียนเย่าเป็นแคว้นที่มั่งคั่ง พวกเขามีภูเขาทองคำสามลูกอยู่ในกำมือ !

พวกเขาสามารถซื้อสิ่งที่ต้องการจากแคว้นซูเฟิงหรือแคว้นซ่างหลัวได้ตามอำเภอใจ ทั้งยังมิเคยต่อรองราคาเลยสักครา ทั้งสองแคว้นจำต้องขายของให้แก่พวกเขา เพราะเหตุใดน่ะหรือ ? ก็เพราะทั้งสองแคว้นนี้ล้วนต้องการทองคำน่ะสิ !

กองทัพต้าเซี่ยมาจากที่ใดกัน ?

เหตุใดถึงมิเคยได้ยินชื่อเสียงเรียงนามมาก่อน ?

มิว่าทหารต้าเซี่ยจะเป็นเทพเจ้ามาจากที่ใด พวกเขาก็มิมีทางกำจัดแคว้นที่เกรียงไกรด้วยกำลังพลเพียงแค่ 3,000 นายหรอก !

ราชโองการของฝ่าบาทหมายความว่าเยี่ยงไรกัน ?

บัดนี้เขาได้หุบเขาลั่วหลางมาแล้ว ที่ราบอาลันล่าที่กว้างใหญ่ไพศาลก็มิเอาแล้วเยี่ยงนั้นหรือ ?

ในขณะที่เขากำลังสองจิตสองใจอยู่นั่นเอง สายสืบนายหนึ่งก็ได้วิ่งเข้ามาอย่างร้อนรน

“เรียน…ท่านแม่ทัพ บัดนี้มีกองทัพราว 3,000 นายกำลังมุ่งหน้ามายังหุบเขาลั่วหลาง พวกเขาสวมใส่ชุดเกราะสีเงินขอรับ ! ”

ชุดเกราะสีเงินเยี่ยงนั้นหรือ ?

หรือว่านี่จะเป็นกองทัพที่ฝ่าบาททรงตรัสถึงในราชโองการ ?

มีเพียงแค่ 3,000 นายเท่านั้นหรือ ?

อัลดูลาโพล่งยิ้มออกมา “พวกมันอยู่ห่างจากหุบเขาลั่วหลางมากเพียงใด ? ”

“เรียนท่านแม่ทัพ ราว 10 ลี้ขอรับ”

“ดังนั้น…พวกเขาจะมาถึงในอีก 2 เค่อใช่หรือไม่ ? ”

สายลับนายนั้นชะงักงันไปชั่วครู่ “ข้าน้อยเกรงว่า พวกเขาจะมาถึงในอีก 1 เค่อนี้ขอรับ ! ”

“ไอหยา…ม้าศึกของพวกมันมิเลวเลยนี่”

“มิใช่ขอรับท่านแม่ทัพ พวกเขามิมีม้าศึก พวกเขาวิ่งมาขอรับ”

อัลดูลาผงะตกใจพร้อมกับเบิกตาโพลง “เจ้าหมายความว่า…พวกมันวิ่งเร็วกว่าม้าศึกอีกหรือ ? ”

“เรียนท่านแม่ทัพ พวกเขาวิ่งเร็วกว่าม้าศึกจริง ๆ ขอรับ ! ”

น่าสนใจมากยิ่งนัก อัลดูลายืนตัวตรง “ถ่ายทอดคำสั่ง ทหารทุกนายเตรียมตัวรบ… ! ”

คำสั่งของเขาถูกส่งต่อไปทั้งกองทัพ จากนั้นกองทัพทั้งห้าหมื่นนายก็ปักหลักอยู่ที่หุบเขาลั่วหลาง บริเวณนี้เป็นส่วนที่แคบที่สุด มีความกว้างเพียงแค่นำม้าสี่ตัวมายืนชิดกันเท่านั้นเอง

นี่เป็นจุดตั้งรับที่ดีเยี่ยม อัลดูลาเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าทหารห้าหมื่นนายของตนจะกำจัดกองทัพ 3,000 นายของต้าเซี่ยลงได้อย่างง่ายดาย

แอนกัสรองแม่ทัพจ้องมองเขาด้วยสายตาวิตกกังวล “ท่านแม่ทัพ พวกเรากำลังขัดราชโองการของฝ่าบาทอยู่นะขอรับ ! ”

“อย่าเป็นกังวลไปเลย เพียงแค่พวกเราสามารถกำจัดกองทัพต้าเซี่ยได้ แคว้นซูเฟิงของเราก็จะได้ครอบครองที่ราบอาลันล่าทั้งหมด กองทัพต้าเซี่ยก็มาได้ถูกเวลาเสียเหลือเกิน ข้าชักอยากจะรู้แล้วสิว่าพวกมันจะเก่งสักเท่าใดกันเชียว”

“แอนกัส เจ้าเคยได้ยินชื่อเสียงเรียงนามของกองทัพต้าเซี่ยมาก่อนหรือไม่ ? ”

แอนกัสส่ายศีรษะพรืดพร้อมกับทำหน้าฉงนออกมา

“ไปเถิด พวกเราไปปะทะกับกองทัพต้าเซี่ยสักหน่อย ! ”

……

……

หวงจินเย่ผู้บัญชาการกองพลที่สองของกองทัพเรือต้าเซี่ย ได้นำกองทัพทหาร 3,000 นายเดินทางหามรุ่งหามค่ำมายังหุบเขาลั่วหลาง

ในระหว่างทาง พวกเขาได้พบกับทหารของแคว้นซ่างหลัวที่รอดชีวิตมาจากสนามรบที่หุบเขาลั่วหลาง เมื่อทหารที่รอดชีวิตพวกนี้รู้ว่ากองทัพ 3,000 นายกำลังจะเข้าไปปราบปรามข้าศึกที่หุบเขาลั่วหลาง เพื่อขับไล่ข้าศึกออกจากที่ราบอาลันล่าและเพื่อรุกเข้าไปโจมตีแคว้นซูเฟิง พวกเขาก็หัวเราะเยาะขึ้นมา

ให้ตายเถิด…ทำตัวเหมือนลูกวัวแรกเกิดมิกลัวเสือไปได้ !

กองทัพ 3,000 นายรบกับกองทัพ 50,000 นาย กองทัพ 3,000 นายพิชิตที่ราบอาลันล่า กองทัพ 3,000 นายจะรุกรานแคว้นซูเฟิง… กองทัพเหล่านี้เป็นชาวต้าเซี่ยที่สวมชุดเกราะสีเงิน พวกเขาดูมิกลัวตายเลยสักนิด

พวกเขาประจำการอยู่ในพื้นที่ห่างไกล จึงมิเคยได้ยินความร้ายกาจของกองทัพต้าเซี่ยมาก่อน

พวกเขามองคนกลุ่มนี้ที่วิ่งเร็วดุจพายุ ราวกับว่าต้องการมองคนกลุ่มนี้เป็นคราสุดท้ายก่อนที่พวกเขาจะถูกส่งไปตาย

“ไปเถิด ฝ่าบาทคงสติฟั่นเฟือนไปแล้ว ! ”

“พวกต้าเซี่ย…ได้ยินมาว่าพวกเขาเดินทางมาจากดินแดนอันไกลโพ้น แคว้นซ่างหลัวของเรากลายเป็นประเทศอาณานิคมของประเทศต้าเซี่ยแล้ว บางทีทหารพวกนี้อาจจะเก่งกาจจริง ๆ ก็เป็นได้”

“เจ้าสู้รบมาทั้งชีวิต เหตุใดถึงมิรู้สี่รู้แปดกัน ต่อให้พวกเขาเก่งกาจแล้วเยี่ยงไร ? พวกเขามีเพียงแค่ 3,000 คนเท่านั้น ทว่าข้าศึกยึดหุบเขาลั่วหลางเอาไว้ได้แล้ว เกรงว่าพวกเขาจะถูกเขมือบจนเกลี้ยงตรงทางเข้าโดยที่มิทันรู้ตัวน่ะสิ !

“ไปเถิดพวกเรา ข้าชรามากแล้ว ข้ามิอยากเป็นทหารแล้ว ข้าจะกลับไปทำนา ! ”

“……”

พวกเขาละทิ้งเจตจำนงที่จะปกป้องรักษาบ้านเกิดแล้วเดินจากไป ทหารบางคนเงยหน้ามองทหารต้าเซี่ยตอนเดินผ่าน สายตาของทหารเหล่านั้นจ้องมองอย่างอาลัยและเห็นใจในความมิรู้ถึงภัยอันตรายที่รออยู่เบื้องหน้า

หวงจินเย่นำกองทัพ 3,000 นายมาถึงทางเข้าหุบเขาลั่วหลางแล้ว

ถ้าหากเป็นกองทัพทั่วไป พวกเขาจะใช้เชือกปีนขึ้นไปบนยอดเขาทั้งสองข้างของหุบเขาแล้วค่อยบุกโจมตี ทว่าหน่วยปฏิบัติการพิเศษที่เฮ้อซานเตาฝึกนั้นมิเหมือนกับผู้ใด พวกเขาเป็นพวกหัวรั้น !

หวงจินเย่เองก็มิต่างกัน

“พี่น้องทั้งหลาย ข้าศึกจะต้องวางกับดักคอยพวกเราอยู่เป็นแน่ ! ”

“ทุกคนจงเว้นระยะห่าง 3 ฉื่อแล้วลุยไปพร้อมกับข้า ! ”

ทว่าในสายตาของอัลดูลา เขามองว่าพวกทหารชุดเกราะสีเงินกำลังรนหาที่ตาย !

เขาจ้องมองทหารต้าเซี่ยที่กำลังบุกเข้ามา จากนั้นก็คำนวณระยะห่างเงียบ ๆ ในใจ เมื่อทหารต้าเซี่ยเข้ามาในรัศมี 2 จั้ง เขาก็ออกคำสั่งทันที “ยิง ! ”

พลธนูที่ยืนอยู่ด้านหน้าสุดโก่งธนูและยิงออกไประลอกแรก การยิงธนูครานี้ได้ยิงออกไปทั้งสิ้นหนึ่งพันกว่าดอกด้วยกัน ซึ่งเพียงพอที่จะยิงคน 30 – 50 คนให้พรุนเป็นรังผึ้งได้

ทว่าผลที่ออกมานั้นทำให้อัลดูลาต้องถลึงตาโตอย่างผิดคาด

ทหารชุดเกราะสีเงินมิแม้แต่จะชักดาบขึ้นมาป้องกัน !

พวกเขามิแยแสลูกศรธนูที่ยิงออกมาจากฝั่งตนเลยสักนิด !

ลูกธนูพุ่งไปที่ร่างของพวกเขาพร้อมส่งเสียงดัง “ติ้งต้าง” ทว่ามิมีศัตรูคนใดล้มตายเลยแม้แต่คนเดียว !

พวกเขายังคงวิ่งพุ่งมาทางนี้อย่างบ้าคลั่งดังเดิม !

ระยะห่าง 2 จั้งสำหรับกองทัพต้าเซี่ยคือจุดที่พวกเขาจะทะยานขึ้นสู่ท้องนภา

หวงจินเย่ลอยตัวขึ้นสู่ท้องนภาภายใต้สายตาตกตะลึงของอัลดูลา “ชักดาบ…”

เมื่อถ่ายทอดคำสั่งออกไปแล้ว เสียงหวีดหวิวก็ดังสนั่นขึ้นมาโดยพร้อมเพรียงกัน ทหารราว 10 นายบินขึ้นไปบนท้องนภา ชุดเกราะสีเงินที่สะท้อนกับแสงสุริยายามเช้าส่องแสงแยงตา

“บั่นศีรษะพวกมันเสีย… ! ”

หวงจินเย่ลอยมาหยุดอยู่บนศีรษะของพลธนูนายหนึ่ง พลธนูยังมิทันได้จับลูกศรขึ้นมาเลยด้วยซ้ำ ทว่าดาบในมือของหวงจินเย่ก็ได้ตวัดไปที่ร่างของเขาแล้ว

“เฉี้ยง… ! ”

ดาบกวัดแกว่งเพียงแค่หนึ่งครา ร่างของพลธนูก็ขาดสะบั้นได้อย่างง่ายดายราวกับหั่นเต้าหู้

“ยิงคราที่สอง ! เตรียมพร้อม… ! ” อัลดูลาตกใจกลัวสุดขีด เขาถ่ายทอดคำสั่งที่สองออกไป

ทว่าในตอนที่พลธนูเพิ่งจะโก่งคันศรในมือ กองทัพต้าเซี่ยก็ลอยตัวอยู่เหนือศีรษะของพวกเขาเรียบร้อยแล้ว

บัดนี้หุบเขาลั่วหลางมีสภาพมิต่างอันใดกับลานประหารเลยสักนิด

อัลดูลากลัวจนฉี่ราด จนทหารแคว้นซูเฟิงทิ้งชุดเกราะแล้ววิ่งหนี

“ท่านแม่ทัพ รีบหนีเร็วเข้า ! ”

แอนกัสคว้าร่างของอัลดูลาที่ยังคงกลัวจนตัวแข็งทื่อวิ่งหนี เขาแย่งม้าศึกสองตัวมาจากทหารฝ่ายตนเองแล้วเผ่นหนีทันที เมื่ออันดูลาได้สติขึ้นมา

เขาก็กระโดดขึ้นม้าศึกทันที ม้าศึกทะยานออกไปอย่างรวดเร็ว แซ่ม้าถูกฟาดลงไปถี่รัว

เขาหันหลังไปมองจากบนหลังม้า มองเห็นโลหิตสาดกระเซ็นทั่วทั้งหุบเขาลั่วหลาง !

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด