นายน้อยเจ้าสำราญ 1330 บุปผาบานยามวสันต์

Now you are reading นายน้อยเจ้าสำราญ Chapter 1330 บุปผาบานยามวสันต์ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่​ 1330 บุปผา​บาน​ยาม​วสันต์​

บุปผา​บาน​ยาม​วสันต์​

ฟ้าหลัง​ฝน​แจ่มใส

กองทัพ​ใน​ชุด​เกราะ​สีเงิน​ชะงัก​ฝีเท้า​ลง​ท่ามกลาง​แสงสุริยา​ยาม​วสันตฤดู​

และ​นี่​ก็​คือ​กองทัพ​พิชิต​แดน​ไกล​แห่ง​ต้าเซี่ย​ !

ซึ่งก็​คือ​กองทัพบก​ที่หนึ่ง​แห่ง​ต้าเซี่ย​ !

บัดนี้​กองทัพ​ได้​เคลื่อน​ผ่าน​จักรวรรดิ​ซิลู​ซิด​เป็นที่​เรียบร้อย​แล้ว​ ระหว่าง​ทางได้​ผ่าน​ประเทศ​น้อย​ใหญ่​มามากมาย​ บัดนี้​กองทัพ​ได้​เคลื่อนตัว​เข้าสู่​จุด​เชื่อมต่อ​ระหว่าง​เอเชีย​ตะวันตก​และ​ยุโรป​แล้ว​ ซึ่งเมือง​นั่น​ก็​คือ​เมือง​ปา​แลร์​โม !

ผู้​ที่​ติดตาม​กวน​เสี่ยว​ซีมาด้วย​นั้น​คือ​เวล​ลี​สอ​ดี​ต​มาร์ค​วิ​สของ​เมือง​ฝูสั่ว​

บัดนี้​เวล​ลี​สกำลัง​ยก​แขน​เสื้อ​ขึ้น​ปาดเหงื่อ​บน​หน้าผาก​ จากนั้น​ก็​ควัก​แผนที่​แผ่น​ใหญ่​มากาง​ไว้​บน​ก้อนหิน​ขนาด​ยักษ์​

เขา​มอง​อย่าง​พินิจพิเคราะห์​ จากนั้น​ก็​วางมือ​ลง​ไป​บน​แผน​ที่แล้ว​เอ่ย​ขึ้น​มาว่า​ “ท่าน​แม่ทัพ​ ตำแหน่ง​ที่​พวกเรา​ยืน​อยู่​ตอนนี้​ก็​คือ​ใต้​เทือกเขา​พิ​เร​นีส…”​

เขา​เงยหน้า​ขึ้น​พลาง​ทอดสายตา​มองออก​ไป​ และ​พอ​จะเห็น​เคล้า​เมือง​ตั้งอยู่​ข้างหน้า​ลาง​ ๆ เขา​ยื่นมือ​ออก​ไป​ชี้ แล้ว​เอ่ย​ต่อว่า​ “นั่น​ก็​คือ​เมือง​ปา​แลร์​โม ! ”

“มัน​คือ​อาณาเขต​ของ​ฝูหล่า​งจี พระราชินี​ของ​โปรตุเกส​ก็​ซึ่งคือ​สมเด็จ​พระราชินี​มารี​อา​ที่สอง​ พระองค์​เป็น​สตรี​ที่​เก่งกาจ​นาง​หนึ่ง​ ได้ยิน​มาว่า​บัดนี้​เพิ่งจะ​อายุ​ 24 สี่ปี​เท่านั้น​ แต่กลับ​รวม​เอกราช​ทั้ง​ทวีปยุโรป​ได้​ภายใน​ระยะเวลา​แค่​สามปี​เท่านั้น​ ! ”

“ส่วน​เมืองหลวง​ของ​ฝูหล่า​งจีนั้น​คือ​เมือง​บาห์เรน​ ถ้าหาก​พวก​ท่าน​อยาก​ตี​บาห์เรน​ล่ะ​ก็​ จำต้อง​ตีเมือง​ปา​แลร์​โมให้​แตก​เสีย​ก่อน​ ! ”

เวล​ลี​สดึง​สายตา​กลับมา​แล้ว​มอง​ไป​ทาง​กวน​เสี่ยว​ซี จากนั้น​ก็​เอ่ย​รายงาน​อย่าง​จริงจัง​ว่า​ “ท่าน​แม่ทัพ​ เมือง​ปา​แลร์​โมมีทหารบก​ของ​สมเด็จ​พระราชินี​มารี​อา​ที่สอง​ประจำการ​อยู่​สี่กองทัพ​ รวม​ทั้งสิ้น​กว่า​แปด​แสน​นาย​ ! ”

“อาวุธ​ปืน​ของ​พวกเขา​นั้น​ก้าวหน้า​ยิ่งกว่า​ปืน​ของ​จักรวรรดิ​ซิลู​ซิด​ พวกเขา​ยัง​เป็น​ทหาร​ชั้นยอด​ที่​ผ่าน​ร้อย​ศึกสงคราม​ ผนวก​กับ​เมือง​ปา​แลร์​โมมีป้อมปราการ​อัน​แข็งแกร่ง​ ท่าน​แม่ทัพ​… ข้า​ยอมรับ​ว่า​ทหาร​ของ​ท่าน​นั้น​เก่งกาจ​ยิ่ง​ แต่​เยี่ยง​ไร​ข้า​ก็​คิด​ว่า​พวก​ท่าน​ยัง​ยาก​ที่จะ​โจมตีเมือง​แห่ง​นี้​ได้​ ! ”

“แม้จะใช้เรือ​เหาะ​ของ​พวก​ท่าน​ทุ่ม​ระเบิด​ลงมา​ก็​เกรง​ว่า​คงจะ​ยาก​ ! ”

“เพราะ​เมือง​ปา​แลร์​โมนั้น​กว้างใหญ่​ยิ่งนัก​ แม้ว่า​ระเบิด​ที่​พวก​ท่าน​นำมา​จะสร้าง​ความ​เสีย​ให้​แก่​กำแพง​ด้าน​ใด​ด้าน​หนึ่ง​ได้​ แต่​มัน​ยัง​มิเพียง​พอที่จะ​กำจัด​กองทัพ​ที่​มีมาก​ถึงแปด​แสน​นาย​ได้​ ! ”

“พวก​ท่าน​ได้​เปิดเผย​อาวุธ​ลับ​ใน​ศึก​เมือง​ฝูสั่ว​เมื่อ​ครานั้น​ คาด​ว่า​ท่าน​แม่ทัพ​มิชาล​ที่​ประจำการ​ ณ เมือง​ปา​แลร์​โมคงจะ​ทราบ​ถึงการ​มีอยู่​ของ​มัน​แล้ว​”

“อีก​อย่าง​…การ​ที่​ท่าน​เคลื่อน​ทัพ​กำลัง​พล​สี่แสน​นาย​นั้น​ เกรง​ว่า​ทุกวันนี้​ความเคลื่อนไหว​ของ​กองทัพ​จะอยู่​ใน​สายตา​ของ​ท่าน​แม่ทัพ​มิชาล​ตลอดเวลา​ ! ”

กวน​เสี่ยว​ซีขมวดคิ้ว​เป็น​ปม​แน่น​ จากนั้น​ก็​ยก​กล้องส่องทางไกล​ขึ้น​มาส่อง​ไป​ยัง​เมือง​ปา​แลร์​โม

ใต้​เทือกเขา​พิ​เร​นีส​เป็น​พื้นที่ราบ​กว้างใหญ่​ เมือง​ปา​แลร์​โมตั้งอยู่​ตรง​ที่ราบ​นั่น​พอดี​

ซึ่งเป็น​เมือง​ขนาดใหญ่​ ใหญ่​เสีย​ยิ่งกว่า​เมือง​กวน​หยุ​น​เสีย​ด้วยซ้ำ​ นั่น​หมายความว่า​เมือง​แห่ง​นี้​ได้​มีการกักตุน​สิ่งของ​เอาไว้​มากมาย​ มาก​พอที่จะ​รองรับ​ทหาร​แปด​แสน​นาย​และ​ประชากร​นับ​ล้าน​ได้​

หากว่า​กองทัพ​ที่หนึ่ง​บุกเข้าไป​จาก​เทือกเขา​พิ​เร​นีส​ เช่นนั้น​ก็​จะตกเป็น​เป้าสายตา​ของ​ทหารยาม​เมือง​ปา​แลร์​โมทันที​ ดังนั้น​มิสามารถ​โจมตีเมือง​ปา​แลร์​โมอย่าง​กระทันหัน​ได้​

ถ้าหากว่า​จะทำ​ลูกบอล​ไฟกลิ้ง​ลง​จาก​ภูเขา​นั้น​ย่อม​ได้​ แต่​หาก​เป็น​ดั่ง​ที่​เวล​ลี​สเอ่ย​จริง ๆ​ ล่ะ​ก็​ มัน​มิได้​ก่อให้เกิด​ความเสียหาย​ใด​ต่อ​เมือง​นี้​มาก​นัก​

บน​กำแพงเมือง​เห็น​ปืนใหญ่​จำนวนมาก​ได้​ลาง​ ๆ ต่อให้​โจมตี​ทางอากาศ​ ทว่า​กองทัพบก​นั้น​มิมีม้าศึก​ จึงต้อง​อาศัย​สอง​ขา​ใน​การ​วิ่ง​ ระยะทาง​จาก​ตรงนี้​จนถึง​เมือง​ปา​แลร์​โมน่าจะ​ราว ๆ​ สิบ​ลี้​ เมื่อ​ผ่าน​พื้นที่ราบ​ราว​สิบ​ลี้​นี้​ไป​ กองทัพ​จะต้อง​ประสบ​กับ​การ​โจมตี​ด้วย​ปืนใหญ่​อย่าง​รุนแรง​

แม้ว่า​จะรบ​ชนะ​ศึก​ครา​นี้​ กองทัพ​ที่หนึ่ง​จะต้อง​บาดเจ็บ​และ​ล้มตาย​กัน​อย่าง​แสน​สาหัส​

เช่นนั้น​ศึก​นี้​มิอาจ​ประมาท​ได้​อีกต่อไป​

กวน​เสี่ยว​ซีวาง​กล้องส่องทางไกล​ลง​แล้ว​ออกคำสั่ง​ทันใด​

“ให้​กองทัพ​ปักหลัก​อยู่​บน​สันเขา​พิ​เร​นีส​ ! ”

บัดนี้​ แม่ทัพ​มิชาล​ที่​ได้​ทราบ​ข่าว​จาก​สายลับ​ทหาร​ก็ได้​ขึ้น​มาบน​กำแพงเมือง​ เขา​ยก​กล้องส่องทางไกล​ขึ้น​มาดูลาดเลา​เช่นกัน​

ทว่า​กล้องส่องทางไกล​ของ​เขา​นั้น​ด้อย​กว่า​ของ​กวน​เสี่ยว​ซีมาก​นัก​ จึงทำให้​เห็น​ได้​มิชัดเจน​เท่าใด​นัก​ ราวกับว่า​มีควัน​กำลัง​พวยพุ่ง​ขึ้น​มาจาก​แนว​สันเขา​

มิชาล​ขมวดคิ้ว​ฉงน​ บัดนี้​นายพล​ทั้ง​สี่กองทัพ​ก็​กำลัง​ส่อง​ดูลาดเลา​เช่นกัน​ จากนั้น​ก็​เผยอ​ยิ้มมุมปาก​

พวกเขา​เป็น​กองทัพ​ที่​เก่งกาจ​ที่สุด​ใน​ฝูหล่า​งจี !

พวกเขา​มีปืน​เหมา​เซ่อ​ที่​เพิ่ง​ผลิต​มาใหม่​ล่าสุด​ !

และ​บน​กำแพง​นี้​ยังมี​ปืนใหญ่​ราชสีห์​นับ​พัน​ที่​มีระยะ​ยิง​อยู่​ที่​ 90 จั้ง !

เมือง​ปา​โมแลร์​มียุทโธปกรณ์​มาก​พอที่จะ​ทำให้​ทหาร​แปด​แสน​นาย​รบ​ได้​นาน​ถึงสามเดือนเต็ม​ !

ครา​หนึ่ง​ฝ่าบาท​ทรง​ตรัส​ว่า​มีความเป็นไปได้​สูงที่​กองทัพ​จาก​แดน​บูรพา​จะผ่าน​มาทาง​นี้​ และ​วันนี้​ศัตรู​ก็​ปรากฏตัว​ขึ้น​บน​สันเขา​พิ​เร​นีส​ นี่​เป็น​การพิสูจน์​ว่า​คำทำนาย​ของ​พระนาง​เป็นจริง​

ศึก​ที่​ได้​เตรียมการ​ไว้​ก่อน​ล่วงหน้า​ จะต้อง​กำจัด​กองทัพ​จาก​แดน​บูรพา​ได้​อย่าง​แน่นอน​ !

“ท่าน​แม่ทัพ​ขอรับ​ กองทัพ​ที่หนึ่ง​ขอ​ออกศึก​ขอรับ​ ! ”

บุรุษ​เครา​หยิก​ลุกขึ้น​ยืน​แล้ว​เอ่ย​ต่อว่า​ “กองทัพ​ของ​ข้าศึก​ยังคง​เหน็ดเหนื่อย​เมื่อยล้า​ หวัง​ที่จะ​ฟื้นฟู​พละกำลัง​บน​สันเขา​พี​เร​นีส ​ ข้าน้อย​คิด​ว่า​มิควร​ให้โอกาส​กองทัพ​ของ​ข้าศึก​ได้​พัก​หายใจ​ ! ให้​ฮึด​ขึ้น​มาสู้อย่าง​เด็ดเดี่ยว​ ให้​ศพ​ของ​พวก​มัน​ฝังอยู่​บน​สันเขา​พี​เร​นีส​ ! ”

มิชาล​วาง​กล้องส่องทางไกล​ลง​ แล้ว​หัน​ศีรษะ​ไป​ทางทหาร​ผู้​นั้น​ “นายพล​วิ​ต​ตัน​ อย่า​ได้​ลืม​พระ​ราช​เสาวนีย์​ของ​องค์​ราชินี​ ! ”

วิ​ต​ตัน​ผงะ​เล็กน้อย​ จากนั้น​ก็​นึกถึง​พระ​ราช​เสาวนีย์​ของ​พระราชินี​ที่​ให้​ยืนหยัด​รักษา​เมือง​ปา​แลร์​โมขึ้น​มาได้​ !

“แค่​พวกเรา​รักษา​เมือง​ปา​แลร์​โมเอาไว้​ได้​ ข้าศึก​ก็​ยาก​ที่จะ​คืบ​ใกล้​เข้ามา​ได้​ ! ”

มิชาล​กวาดสายตา​อัน​น่าเกรงขาม​มองดู​นายพล​ทั้ง​สี่แล้ว​เอ่ย​ต่อว่า​ “ข้าศึก​นั้น​มาจาก​แดน​ไกล​ พวก​มัน​ไร้​กองหนุน​ พวก​มัน​จะต้อง​โจมตีเมือง​ปา​แลร์​โมอย่าง​แน่นอน​ ! ”

“พวก​เจ้าจงจำคำ​ของ​ข้า​ไว้​ ! อย่า​ได้​บุกเข้าไป​อย่าง​หุนหันพลันแล่น​ พวกเรา​มีเวลา​เหลือเฟือ​ พวกเรา​ยังมี​ยุทโธปกรณ์​ ข้าศึก​ย่อม​รีบ​กว่า​พวกเรา​อยู่แล้ว​ เยี่ยง​ไร​พวกเรา​ก็​ต้อง​รบ​ชนะ​อย่าง​ง่ายดาย​อยู่แล้ว​ เช่นนั้น​จะไป​แกว่งเท้าหาเสี้ยน​เพื่อ​อัน​ใด​กัน​ ! ”

“ข้า​ขอ​ออกคำสั่ง​ ! ”

มิชาล​แผดเสียง​สั่ง นายพล​ทั้ง​สี่ยืน​เหยียด​ตัวตรง​

“ให้​ผลัด​เวร​ยาม​กัน​ประจำ​อยู่​บน​กำแพงเมือง​ทั้ง​สี่ด้าน​อย่าง​เคร่งครัด​ ! ”

“ทหาร​สายลับ​จำต้อง​รู้​ตำแหน่ง​ของ​ข้าศึก​อย่าง​แน่ชัด​ และ​อีก​อย่าง​ ข้า​ต้องการ​ที่จะ​ทราบ​ว่า​ข้าศึก​ทำ​อัน​ใด​กัน​บน​เทือกเขา​พี​เร​นีส​ ! ”

“นอกจากนี้​ให้​ระวัง​เรือ​เหาะ​ของ​ข้าศึก​เอาไว้​ให้​ดี​ เมื่อ​เห็น​เรือ​เหาะ​ของ​ข้าศึก​เหิน​ขึ้น​ท้อง​นภา​เมื่อใด​ ให้​ทหาร​ที่​เฝ้าระวัง​อยู่​บน​กำแพง​หา​ที่​หลบซ่อน​ และ​ทหาร​ใน​หอ​ปืนใหญ่​จะต้อง​ระวัง​การ​โจมตี​กะทันหัน​ของ​ศัตรู​ทันที​ ! ”

“ให้​ทั้ง​สี่กอง​สังเกต​ที่ราบ​สีทอง​อย่า​ให้​มีสิ่งแปลกปลอม​ใด​เข้ามา​ เมื่อ​ค้นพบ​สิ่งแปลกปลอม​เมื่อใด​ให้​รายงาน​ข้า​ในทันที​ ! ”

เมือง​ปา​แลร์​โมได้​เข้าสู่​สภาวะ​สงคราม​ใน​ชั่ว​อึด​ใจเดียว​

ทหาร​ที่​ประจำ​การณ์​อยู่​บน​กำแพง​เพิ่มขึ้น​หลาย​เท่าตัว​ กระสุน​ปืนใหญ่​ถูก​ลำเลียง​มายัง​หอ​ปืนใหญ่​มิขาด​สาย​

แน่นอน​ว่า​ชาวเมือง​ปา​แลร์​โมย่อม​ทราบ​แล้ว​ว่า​อสุรกาย​จาก​ตะวันออก​ได้​เดินทาง​มาถึงแล้ว​ แต่​พวกเขา​มิได้​รู้สึก​หวาดกลัว​เลย​สักนิด​ เพราะ​องค์​ราชินี​ได้​ทำนาย​เอาไว้​แล้ว​ว่า​อสุรกาย​จะมาเยือน​ใน​สักวัน​อย่าง​แน่นอน​

จะว่า​ไป​แล้ว​ ที่นี่​มีกองทัพ​ของ​จักรวรรดิ​ทั้งสิ้น​แปด​แสน​นาย​ ได้ยิน​มาว่า​อสุรกาย​มีราว​สี่แสน​นาย​เท่านั้น​ เช่นนี้​พวก​มัน​จะต้อง​แหลก​เป็น​เม็ดทราย​อยู่​บน​ที่ราบ​สีทอง​และ​ถูก​ฝังอยู่​ใน​นั้น​ไป​ตลอดกาล​

……

กระโจม​เคลื่อนที่​ของ​กองทัพ​ถูก​กาง​ขึ้น​มาบน​สันเขา​พี​เร​นีส​ ควัน​ขาว​ลอย​ข​โมง กองทัพบก​ที่หนึ่ง​กำลัง​ประกอบอาหาร​อยู่​บน​สันเขา​พี​เร​นีส​

ณ กระโจม​ของ​แม่ทัพ​ บัดนี้​กวน​เสี่ยว​ซีและ​เผิงยวี๋เยี่ยน​ได้​เรียก​ประชุม​แม่ทัพ​ทั้ง​สิบ​คน​ เพื่อ​ประชุม​เกี่ยวกับ​ศึก​ของ​เมือง​ปา​แลร์​โมใน​ครา​นี้​

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด