นายน้อยเจ้าสำราญ 1350 ศึกเกาะสเตอร์

Now you are reading นายน้อยเจ้าสำราญ Chapter 1350 ศึกเกาะสเตอร์ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่​ 1350 ศึก​เกาะ​สเตอร์​

“จาก​ความเร็ว​ของ​ทั้งคู่​ใน​ตอนนี้​ พวกเรา​จะไล่ตาม​กองทัพเรือ​ของ​ศัตรู​ทัน​ใน​ยาม​รุ่งสาง​”

บน​ดาดฟ้า​ของ​เรือ​ฉางอัน​จุด​โคมไฟ​สว่างไสว​ ฟู่เสี่ยว​ จั่ว​มู่และ​ฟางจาว​หยาง​นั่ง​ล้อมวง​สนทนา​กัน​ “ตกลง​กัน​แล้ว​ว่า​หลังจาก​ศึก​นี้​ข้า​จะมิทำการ​บัญชา​อีกต่อไป​”

ฟู่เสี่ย​วกวน​หันไป​มอง​ทาง​จั่ว​มู่ “เจ้าบอก​เอง​ว่าต่าง​คน​ต่าง​มีเรื่อง​ที่​ถนัด​มิเหมือนกัน​มิใช่หรือ​ ? ต่อไป​จะรบ​เยี่ยง​ไร​ก็​เป็น​หน้าที่​ของ​พวก​เจ้าแล้ว​”

ในขณะที่​เอ่ย​ ฟู่เสี่ย​วกวน​ก็ได้​ลุกขึ้น​ยืน​ บิดขี้เกียจ​แล้ว​หาว​ออกมา​ “ข้า​ไป​นอน​ล่ะ​ แต่​ก่อนที่​ข้า​จะนอน​ ข้า​อยาก​จะขอ​แนะนำ​เจ้าอย่างหนึ่ง​ หลังจากที่​กำจัด​ศัตรู​บน​เกาะ​สเตอร์​ได้​แล้ว​ ให้​รอ​อยู่​ที่นั่น​จะเป็นการ​ดี​ที่สุด​ กองหนุน​ของ​ศัตรู​จะต้อง​เคลื่อน​ทัพ​มาเป็นแน่​ ให้​ทหาร​ได้​พัก​กิน​ของ​อร่อย​ ๆ และ​นอนหลับ​พักผ่อน​เพื่อ​เก็บ​แรง​ต่อสู้​เถิด​”

“รับทราบ​” จั่ว​มู่ตอบรับ​ “ข้าน้อย​วางแผน​เอาไว้​ว่า​รอ​ให้​เรือ​เสบียง​มาถึงแล้ว​ค่อย​ส่งคน​ขึ้นไป​บน​เกาะ​สเตอร์…​ จากนั้น​ก็​ยึดครอง​เกาะ​นั้น​มาเป็น​ฐาน​เติม​เสบียง​ให้​แก่​กองทัพ​แนวหน้า​”

ฟู่เสี่ย​วกวน​ยิ้มแฉ่ง​พลาง​ครุ่น​คิดในใจ​ว่า​ตน​มิจำเป็นต้อง​กังวล​เลย​จริง ๆ​ จั่ว​มู่ได้​เติบใหญ่​แล้ว​ มิเหมือน​วันนั้น​ที่​ตน​ต้อง​คอย​พร่ำบ่น​สั่งสอน​ตั้ง​แต่เช้า​จรด​ค่ำ​

ดังนั้น​เขา​จึงโบกมือ​ไปมา​แล้ว​เดิน​กลับ​เข้าไป​ใน​ห้อง​โดยสาร​ของ​เรือ​

……

รัชสมัย​ต้าเซี่ย​ที่หก​ เดือน​หก​ วัน​ที่หนึ่ง​

กองทัพบก​ที่หนึ่ง​แห่ง​ต้าเซี่ย​ได้​ปรับ​กองทัพ​ที่​เมือง​ปา​แลร์​โมเป็นเวลา​สามวัน​ จากนั้น​ก็​ออกเดินทาง​อีก​ครา​ พวกเขา​กรีฑา​ทัพ​ไป​อย่าง​ยิ่งใหญ่​ทรงพลัง​ มุ่งหน้า​ไป​สู่เมือง​บาห์เรน​ซึ่งเป็น​เมืองหลวง​ของ​ฝูหล่า​งจี

ใน​รุ่งสาง​วันเดียวกัน​นั่นเอง​ กองทัพเรือ​ร่วม​ต้าเซี่ย​ก็ได้​ไล่ตาม​กองทัพเรือ​ที่หนึ่ง​ของ​ฝูหล่า​งจีได้​สำเร็จ​

ดยุก​วิลเลียม​ได้​สั่งการ​ให้​กองทัพเรือ​ของ​เขา​จัดตั้ง​ทัพ​เพื่อ​รับ​การ​โจมตี​บน​น่านน้ำ​บริเวณ​เกาะ​สเตอร์​ เขา​ได้​เตรียม​ต้อนรับ​การ​มาถึงของ​กองทัพเรือ​ร่วม​ต้าเซี่ย​

จั่ว​มู่เเละฟางจาว​หยาง​ยืน​เคียง​บ่า​กัน​อยู่​บน​ดาดฟ้า​ชั้น​สามของ​เรือ​ฉางอัน​ จาก​กล้องส่องทางไกล​พบ​ว่า​เบื้องหน้า​มีเรือ​ของ​ข้าศึก​เรียง​เป็นแถว​ยาว​ จั่ว​มู่ฉีก​ยิ้ม​ร่า​กับ​ภาพ​เบื้องหน้า​ “พวก​มัน​มิหนี​แล้ว​ ซ้ำยัง​รอ​พวกเรา​อีก​ต่างหาก​”

เมื่อ​กล่าว​ประโยค​นี้​จบ​ เขา​จึงวาง​กล้องส่องทางไกล​ลง​แล้ว​เดิน​ไป​ตบ​บ่า​ของ​ฟางจาว​หยาง​ “เหล่า​ฟาง เจ้ายัง​จำศึก​ครา​แรก​ของ​พวกเรา​ได้​อยู่​หรือไม่​ ? ”

ฟางจาว​หยาง​ครุ่น​ครู่หนึ่ง​ “ต่อให้​ตาย​ไป​แล้ว​ข้า​ก็​ยัง​จำได้ดี​ ! ”

ฟางจาว​หยาง​วาง​กล้องส่องทางไกล​ลง​แล้ว​ค่อย ๆ​ หรี่ตา​มอง​มหาสมุทร​ที่​ยังคง​ดำมืด​ “ตอนนั้น​เป็น​รัชสมัย​ต้าเซี่ย​ที่สอง​เดือน​เก้า​ กองทัพเรือ​ที่หนึ่ง​ของ​พวกเรา​มีเรือรบ​เพียงแค่​ 80 ลำ​เท่านั้น​ หา​กลอง​นับ​ดู​ ครานั้น​เป็น​ศึก​ครา​ที่สอง​ตั้งแต่​ที่​กองทัพเรือ​ถูก​สถาปนา​ขึ้น​มา”

จั่ว​มู่พยักหน้า​ ศึก​ทางทะเล​ครา​แรก​ พวกเรา​ต่อสู้​กับ​กองทัพเรือ​ของ​เคานต์ปิ​ซาร์​โร​โดย​มีไป๋​ยู่​เหลียน​เป็น​ผู้บัญชาการ​ ศึก​ครานั้น​กว่า​จะคว้า​ชัย​มาได้​ย่อม​มีราคา​ที่​ต้อง​จ่าย​ ศึก​ครานั้น​ได้​สร้าง​ประสบการณ์​มากมาย​ให้​แก่​กองทัพเรือ​ต้าเซี่ย​ และ​ได้​ทำให้​ต้าเซี่ย​ก้าว​กระโดด​ใน​ด้าน​เทคโนโลยี​ทางการ​ทหารเรือ​

“พวกเรา​ใช้เรือรบ​ 80 ลำ​ใน​การ​กำจัด​กองทัพ​ของ​แกรนด์​ดยุก​ฟิลิป​อัน​ใด​นั่น​ แต่ว่า​เหล่า​จั่ว​… แม้ว่า​ครา​นี้​พวกเรา​จะนำ​เอา​เรือรบ​ยุทโธปกรณ์​ล้ำสมัย​มาหนึ่งร้อย​แปดสิบ​กว่า​ลำ​ก็​จริง​ ทว่า​พวกเรา​จะประมาท​มิได้​เด็ดขาด​ ! ”

“จักรพรรดิ​พระ​เจ้าหลวง​ทรง​ตรัส​เอาไว้​ว่า​…ฝูหล่า​งจีเป็น​ประเทศ​ที่​มีความ​แข็งแกร่ง​ทางทะเล​อย่าง​แท้จริง​ แม้ว่า​ตลอด​หลาย​ปี​มานี้​จะมิได้​ลุ​กล้ำ​เข้าไป​ใน​แดน​บูรพา​ก็​จริง​ แต่​ดีมิดี​พวกเขา​อาจจะ​กำลัง​ซุ่มพัฒนา​เงียบ ๆ​ ก็​เป็นได้​ แม้ว่า​เบื้องหน้า​ของ​พวกเรา​จะมีเรือรบ​อยู่​แค่​หกสิบ​กว่า​ลำ​ ทว่า​เจ้าลอง​มอง​ดูเถิด​ว่า​มัน​ต่าง​จาก​เรือรบ​ที่​พวกเรา​เคย​เผชิญ​เมื่อ​ครานั้น​อย่าง​สิ้นเชิง​ บัดนี้​จักรพรรดิ​พระ​เจ้าหลวง​ทรง​พระราชทาน​อำนาจ​ทั้งหมด​ให้​แก่​เจ้า ดังนั้น​เจ้าอย่า​ได้​ทำการ​โดยประมาท​เป็นอันขาด​ ! ”

จั่ว​มู่เลิกคิ้ว​ขึ้น​ “นิสัย​ของ​ข้าเจ้า​เอง​ก็​ทราบ​ดี​มิใช่หรือ​ ? สิงโต​ย่อม​ทุ่ม​แรง​ล่า​กระต่าย​อย่าง​สุดกำลัง​ ข้า​มิใช่เฮ้อ​ซาน​เตา​ ศึก​ครา​นี้​…ข้า​จะกำจัด​ศัตรู​ให้​สิ้นซาก​โดยที่​มิให้​สูญเสีย​เรือ​ไป​แม้แต่​ลำ​เดียว​ ! ”

เมื่อ​จั่ว​มู่เอ่ยถึง​เฮ้อ​ซาน​เตา​ขึ้น​มาก็ได้​ทำให้​ฟางจาว​หยาง​ชะงักงัน​ เขา​ก้มหน้า​ลง​เล็กน้อย​ “เฮ้อ​…ถ้าหากว่า​เฮ้อ​ซาน​เตา​ยัง​มีชีวิต​อยู่​ล่ะ​ก็​… เขา​จะต้อง​ตามมา​ร่วม​รบ​กับ​พวกเรา​ด้วย​เป็นแน่​ เขา​จะได้​เป็น​สักขีพยาน​ของ​ความยิ่งใหญ่​นี้​ มิทราบ​เช่นกัน​ว่า​เขา​จะมีความสุข​มาก​เพียงใด​ ! ”

“ใช่สิ… ! ถ้าหากว่า​เขา​อยู่​บน​เรือ​กับ​พวกเรา​ใน​ตอนนี้​ เกรง​ว่า​คงจะ​แหกปาก​ป่าวร้อง​ ดีมิดี​อาจจะ​แย่งชิง​อำนาจ​ใน​การ​บัญชา​กับ​ข้า​อีก​ด้วยซ้ำ​ ! ”

ฟางจาว​หยาง​หัน​ค​วับ​ไป​เอ่ย​ถามจั่ว​มู่ “ถ้าหาก​มีการแย่งชิง​ เจ้าจะยอม​หรือไม่​ ? ”

“ข้า​ยอมให้​เขา​ได้​ทุกอย่าง​ สิ่งเดียว​ที่​ยอม​มิได้​ก็​คือ​อำนาจ​ใน​การ​บัญชา​ศึก​ สงคราม​มิใช่การละเล่น​ ข้า​ต้อง​ลำบากลำบน​ล่องเรือ​อยู่​ใน​มหาสมุทร​นาน​ถึงสอง​ปี​ ศึก​ครา​นี้​จะพ่ายแพ้​มิได้​ พวกเรา​ต้อง​คว้า​ชัยชนะ​อัน​ยิ่งใหญ่​ด้วย​เดิมพัน​ที่​น้อยที่สุด​… แท้จริง​แล้​วจะ​เอ่ย​เรื่อง​พวก​นี้​ใน​ตอนนี้​ก็​มิมีประโยชน์​อัน​ใด​หรอก​”

“ก็​ใช่น่ะ​สิ ” ฟางจาว​หยาง​สูด​หายใจเข้า​ลึก​ แล้ว​หันไป​มอง​มหาสมุทร​อัน​กว้างใหญ่​ไพศาล​อีก​ครา​ “รอ​ให้​พวกเรา​คว้า​ชัย​กลับมา​ได้​ เมื่อ​กลับ​ไป​ถึงต้าเซี่ย​ พวกเรา​เดินทาง​ไป​เยี่ยมเยียน​หลุมศพ​ของ​เจ้าหมอ​นั่น​ที่​เมือง​กวน​หยุ​น​เพื่อ​จุด​ธูป​บอกเล่า​การ​พิชิต​ต่างแดน​ที่​มิเคย​เกิดขึ้น​มาก่อน​ใน​ประวัติศาสตร์​กัน​เถิด​”

“ได้​สิ ! จำต้องหา​โอกาส​ไป​เยี่ยม​โจ่งห​ยู​ด้วย​เช่นกัน​ หลาย​ปี​มานี้​นาง​ต้อง​เลี้ยงดู​บุตร​สอง​คน​เพียงลำพัง​… พี่ชาย​และ​น้องสาว​คน​หนึ่ง​มีอายุ​เจ็ด​ขวบ​ ส่วน​อีก​คน​เพิ่งจะ​อายุ​ได้​สี่ขวบ​เท่านั้น​ แม้ว่า​จักรพรรดิ​พระ​เจ้าหลวง​จะทรง​พระราชทาน​บรรดาศักดิ์​กง​ให้​แก่​เฮ้อ​ซาน​เตา​ แม้ตำแหน่ง​จะสืบทอด​ตาม​สายเลือด​ แต่​มีเพียง​พวกเรา​เท่านั้น​ที่​รับรู้​ถึงความยากลำบาก​ของ​ผู้​เป็น​ภรรยา​”

จั่ว​มู่ส่าย​ศีรษะ​แล้ว​เอ่ย​ต่อว่า​ “ถ้าหาก​จะเอ่ยถึง​เรื่อง​การ​มอง​ทุกอย่าง​จน​ทะลุปรุโปร่ง​ ไป๋​ยู่​เหลียน​ต่างหาก​เล่า​ถึงจะเป็น​ผู้​ที่​สามารถ​มอง​ทุกอย่าง​ได้​ทะลุ​ประ​โปร่ง​อย่าง​แท้จริง​ เขา​มิคิด​ที่จะ​เป็นฝั่งเป็นฝา​ ส่วน​กวน​เสี่ยว​ซี เจ้าหมอ​นั่น​…เมื่อ​ศึก​ครา​นี้​สิ้นสุดลง​แล้ว​ คง​ต้อง​จัดการ​เรื่อง​งานแต่งงาน​ของ​เขา​สักหน่อย​แล้ว​ มิเช่นนั้น​อีก​ครึ่ง​ชีวิต​ที่​เหลือ​เขา​จะมิมีผู้ใด​สร้าง​ความอบอุ่น​บน​เตียง​ให้​แก่​เขา​ ทุกวันนี้​มีทิวทัศน์​งดงาม​ชวนมอง​ แต่​เมื่อ​แก่ตัว​แล้ว​อย่า​ทำให้​ตนเอง​ต้อง​ตก​อยู่​ใน​ความโดดเดี่ยว​หว้า​เหว่​เหมือน​ทิวทัศน์​ใน​ยาม​เย็น​เลย​”

จั่ว​มู่พับ​ความรู้สึก​ที่​เคล้าคลึง​ไป​ด้วย​อารมณ์​นี้​ลง​ “เรื่อง​นี้​รอ​ให้​พวกเรา​คว้า​ชัย​กลับมา​ได้เสีย​ก่อน​แล้ว​ค่อย​มาสนทนา​กัน​ให้​ละเอียด​ สำหรับ​ตอนนี้​เตรียมตัว​ทำศึก​กัน​ก่อน​เถิด​ ! ”

“ถ่ายทอด​คำสั่ง​ทาง​กา​รท​หา​ร.​.. ! ”

“รับทราบ​… ! ”

“จงถ่ายทอด​คำสั่ง​ของ​ข้า​ ให้​กองทัพเรือ​ที่สาม​รักษา​ทิศทาง​ของ​เรือ​เอาไว้​หัน​หางเสือ​ยี่สิบ​องศา​แล้ว​เดินหน้า​เต็มกำลัง​ ! ”

“กองทัพเรือ​ที่​ห้า​ให้​รักษา​ทิศทาง​เดินเรือ​เอาไว้​ ส่วน​กองทัพเรือ​ที่หก​ให้​หัน​หางเสือ​ไป​ทางขวา​ยี่สิบ​องศา​แล้ว​เดินหน้า​เต็มกำลัง​ ! ”

“ให้​กองทัพเรือ​ที่สอง​ลด​ความเร็ว​ลง​ แล้ว​รอ​จนกว่า​ปีก​ทั้งสอง​ข้าง​จะมาล้อมรอบ​ ! ”

“ข้า​ขอ​ออกคำสั่ง​ให้​กองทัพเรือ​ที่หนึ่ง​ สอง​และ​สามหัน​หางเสือ​สามสิบ​องศา​ แล้วไป​แย่งชิง​ท่าเรือ​ที่​เกาะ​สเตอร์​มาให้​ข้า​ ให้​ทหาร​ครึ่งหนึ่ง​ของ​เรือรบ​แต่ละ​ลำ​ขึ้นบก​แล้ว​ยึดครอง​เกาะ​สเตอร์​มาให้ได้​ ! ”

“……”

เมื่อ​เรือ​ฉางอัน​ออกคำสั่ง​เรียบร้อย​แล้ว​ กองทัพเรือ​ร่วม​ก็​เริ่ม​เคลื่อน​ไป​ข้างหน้า​ตามคำสั่ง​การ​ของ​เรือ​ฉางอัน​ทันที​

ท่ามกลาง​สายตา​ตกตะลึง​ของ​ดยุก​วิลเลียม​นั่นเอง​ เขา​เห็น​กองทัพเรือ​ของ​ข้าศึก​แปรขบวน​เป็น​รูป​พัด​และ​กำลัง​มุ่งหน้า​เข้า​มาหา​กองทัพเรือ​ที่หนึ่ง​ของ​ตน​

เขา​ขมวดคิ้ว​อย่าง​ตึงเครียด​ เพราะ​กองทัพเรือ​ฝ่าย​ศัตรู​เริ่ม​ขยับ​เข้ามา​ใกล้​ขึ้น​เรื่อย ๆ​ แล้ว​ เรือ​ของ​พวกเขา​ค่อย ๆ​ ขยาย​ใหญ่​มากขึ้น​เรื่อย ๆ​ !

เขา​มองเห็น​ได้​อย่าง​ชัดเจน​กระทั่ง​ว่า​บน​เรือ​มีธงรูป​เหยี่ยว​และ​ดาบ​กำลัง​พริ้ว​ไหว​ท่ามกลาง​สายลม​ ทั้ง​ยัง​ได้​เห็น​ปืนใหญ่​สีดำทะมึน​ดู​น่าเกรงขาม​ของ​เรือรบ​นี้​อีกด้วย​

“ข้า​ขอ​ออกคำสั่ง​…ให้​เรือรบ​ทุก​ลำ​รวมตัวกัน​โจมตี​ เป้าหมาย​ก็​คือ​กองทัพเรือ​ด้านหน้า​…”

“จงฟังคำสั่ง​ ปีกซ้าย​และ​ขวา​จำต้อง​ทำการ​คุ้มกัน​ให้​ดี​ ต้อง​ยืนหยัด​รักษา​เอาไว้​ให้ได้​จนกว่า​กองหนุน​จะเดินทาง​มาถึง ! ”

“ปรับ​ปลาย​กระบอก​ปืนใหญ่​…แล้ว​เพ่งเล็ง​ไป​ที่​ข้าศึก​ซึ่งกำลัง​ย่างกราย​เข้ามา​เบื้องหน้า​ ! ”

ท้อง​นภา​เริ่ม​สว่าง​มากขึ้น​ ตรง​เส้น​ขอบฟ้า​มีแสงสีแดง​โผล่​พ้น​ขึ้น​มาให้​เห็น​

ใน​ตอนนี้​กองทัพเรือ​ต้าเซี่ย​ก็ได้​ทำ​การแปร​ทัพ​อย่าง​รวดเร็ว​ฉับไว​ท่ามกลาง​แสงอรุโณทัย​

กระบอก​ปืนใหญ่​ได้​ยื่น​ออก​มาจาก​ด้าน​ข้าง​ของ​เรือ​

ระยะห่าง​แต่ละ​ฝ่าย​เหลือ​ราว​ 300 จั้งเท่านั้น​

ซึ่งมัน​ห่างไกล​จาก​ระยะ​ปืนใหญ่​ของ​ฝูหล่า​งจีซึ่งมีระยะ​กระสุน​อยู่​ที่​ 200 จั้งเท่านั้น​ !

ท่ามกลาง​สายตา​ตกตะลึง​ของ​ดยุก​วิลเลียม​ จั่ว​มู่ได้​วาง​กล้องส่องทางไกล​ลง​แล้ว​ออกคำสั่ง​ใน​ทันใด​ว่า​…

“โจมตี​… ! ”

มหาสมุทร​ที่​เงียบสงัด​อยู่​เดิมที​ได้​มีเสียง​ปืนใหญ่​ดังสนั่น​ก้อง​นภา​

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด