นายน้อยเจ้าสำราญ 436 ข้าจะดูแลท่าน 70 ปี

Now you are reading นายน้อยเจ้าสำราญ Chapter 436 ข้าจะดูแลท่าน 70 ปี at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 436 ข้าจะดูแลท่าน 70 ปี

ใบหน้าอวบอ้วนของฟู่ต้ากวนปรากฏรอยยิ้มสดใสขึ้น

ฝุ่นผงจากการเดินทางบนใบหน้าของเขายังคงติดอยู่ แต่มิได้บ่งบอกถึงความเหนื่อยล้าแต่อย่างใด กลับแสดงออกถึงความยินดีจากใจจริง

“ลูกพ่อ พ่อคิดถึงเจ้ามากยิ่งนัก ! ”

ฟู่เสี่ยวกวนเรียกเสี่ยวฉีเข้ามาแล้วกำชับว่า “เสี่ยวฉี เจ้าจงไปบอกให้พ่อครัวทำอาหารเลิศรสมาหลาย ๆ อย่าง ข้าจะดื่มกับท่านพ่อสักหน่อย ! ”

เสี่ยวฉีเคยเดินทางติดตามต่งชูหลานไปยังเมืองหลินเจียง นางเคยพบฟู่ต้ากวนมาก่อน เพียงแต่คาดมิถึงว่าฟู่ต้ากวนจะเดินทางมาที่นี่

นางเอ่ยทักทายฟู่ต้ากวนอย่างมีมารยาท จากนั้นก็หันหลังเดินจากไป

ฟู่เสี่ยวกวนจึงได้ยื่นตัวเข้ามาใกล้ใบหน้าของฟู่ต้ากวนแล้วมองดูอย่างละเอียดก่อนจะเอ่ยถามขึ้นมาว่า “ท่านไปอยู่ที่ใดมากัน ? ”

“หลังออกมาจากราชวงศ์อู๋ ข้าก็ได้เดินทางไปยังแคว้นฝาน และได้เดินทางไปเข้าพบหัวหน้านิกายฝูเพื่อขอคำอวยพรให้เจ้า และเสกสิ่งของนี้ให้กับเจ้าด้วย…”

ฟู่ต้ากวนหยิบตราหยกออกมาแล้วส่งให้กับฟู่เสี่ยวกวน “สิ่งนี้เจ้าจงเก็บรักษาไว้ให้ดี”

ฟู่เสี่ยวกวนรับไปมองและรู้สึกตกตะลึงเป็นอย่างมาก เนื่องจากตราหยกนี้คือตราหยกที่จักรพรรดิเหวินเคยกล่าวถึงเมื่อตอนอยู่ ณ กวนหยุนถาย !

นี่คือหยกสีเลือด สลักรูปเฟิ่งหลงไว้ด้านบน ด้านหนึ่งสลักชื่ออู๋ฉางเฟิง อีกด้านหนึ่งสลักชื่อสวี่หยุนชิง ตัวอักษรนั้นเล็กเป็นอย่างมากแต่ก็มองเห็นได้ชัดเจน มองดูแล้วประณีตมากยิ่งนัก

ฟู่เสี่ยวกวนลูบ ๆ คลำ ๆ อยู่สักพัก ก่อนจะเก็บมันลงไปแล้วมองไปยังฟู่ต้ากวนด้วยสีหน้านิ่งเรียบ

“นี่คือเรื่องราวของพวกเขา บัดนี้ข้าขอถามท่านหน่อยเถิด ท่านคือผู้ใดกันแน่ ? ”

ฟู่ต้ากวนหัวเราะเหอะ ๆ ราวกับตาแก่ทึ่ม ๆ

“ข้าเป็นลุงของเจ้า ! ”

ฟู่เสี่ยวกวนชะงักลงด้วยความตื่นตกใจ “พี่ชายของจักรพรรดิเหวินเยี่ยงนั้นหรือ ? ”

“อืม ที่จริงคือพี่ชายพ่อเดียวกันแต่คนละแม่ ไทเฮาซีเป็นพระมารดาของจักรพรรดิเหวิน”

“เหตุใดท่านจึงยอมรับความผิดนี้ ? ข้าหมายถึงว่า ท่านมีวัตถุประสงค์อันใดที่เข้าไปดูแลสวี่หยุนชิงและเลี้ยงดูข้าจนเติบใหญ่ขึ้นมาได้ 17 ปี ? ”

ฟู่ต้ากวนวางมือบนเข่าของเขาและครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “เรื่องมันยาว เจ้าสามารถเข้าใจได้ง่าย ๆ ว่า จักรพรรดิเหวินและข้านั้นแม้จะมิได้มีแม่คนเดียวกัน แต่พวกเราก็รักกันยิ่ง เขาบังเอิญไปชื่นชอบสวี่หยุนชิงแต่ไทเฮาซีมิชอบนาง”

“เดิมทีที่ ไทเฮาซีเริ่มการต่อสู้นองเลือดที่ทะเลสาบสือหลี่ นางตั้งใจจะจัดการให้บุตรสาวของจัวอี้สิงอภิเษกกับจักรพรรดิเหวินขึ้นเป็นจักรพรรดินี แต่ในตอนนั้นสำหรับสายตาทุกคนแล้วรู้สึกว่าช่างเป็นเรื่องปกติยิ่ง”

“จักรพรรดิเหวินเพิ่งจะได้ขึ้นครองราชย์ พี่น้องทั้งแปดยกเว้นข้าอีกทั้งบรรดาองค์ชายและเชื้อพระวงศ์กว่าพันคน ได้ถูกไทเฮาซีฆ่าทิ้งทั้งหมด จัวอี้สิงเป็นขุนนางเก่าแก่แห่งราชวงศ์อู๋ ดังนั้นหากจักรพรรดิเหวินอภิเษกสมรสกับจัวจื่อเยียน จะทำให้ตำแหน่งของจักรพรรดิเหวินมั่นคงขึ้นไปอีกและมีผลดีต่อการปกครองบ้านเมืองยิ่ง”

“เพียงแต่น้องชายของข้าผู้นี้เป็นคนรักเดียวใจเดียว ต่อให้ตายเขาก็มิยินยอมอภิเษกสมรสกับจัวจื่อเยียน ไทเฮาไม่รู้จะทำเยี่ยงไรดี จึงได้เกิดเรื่องนั้นขึ้น”

“จักรพรรดิเหวินเองก็รู้ดีว่าไทเฮาทรงร้ายกาจเพียงใด และเป็นกังวลว่านางจะทำร้ายแม่ของเจ้า จึงได้ฝากแม่และเจ้าให้ข้าดูแล แน่นอนว่าเขายังให้ทรัพย์สินเงินทองจำนวนมากแก่ข้าอีกด้วย จึงทำให้ตระกูลของเราเป็นพ่อค้าที่ดินที่มั่งคั่งในหลินเจียง”

เสี่ยวฉีพร้อมบ่าวรับใช้คนอื่น ๆ เดินถืออาหารมากมายเข้ามา

ฟู่เสี่ยวกวนรินสุราให้แก่ฟู่ต้ากวน ทั้งสองร่วมดื่มสุราและสนทนากันอย่างสนุกสนาน

“การตายของแม่เจ้านั้น ที่จริงข้าก็มีส่วนผิด”

“เหตุใดจึงกล่าวเยี่ยงนี้ ? ”

“ไท่เหอปีที่ห้าสิบ ฤดูใบไม้ผลิ ข้าเดินทางออกจากเมืองหลินเจียง 10 วัน และแม่ของเจ้าก็ได้จากไปในระหว่างนั้น”

ฟู่ต้ากวนตกอยู่ในอารามเศร้าทันพลัน น้ำเสียงของเขาทุ้มต่ำและยกสุราขึ้นดื่มก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยความเสียใจว่า “แม่ของเจ้ามิได้จากไปด้วยอาการเจ็บป่วยอย่างที่เจ้ารับรู้มาโดยตลอด แต่มีคนวางยานาง นางถูกวางยาพิษ”

ฟู่เสี่ยวกวนขมวดคิ้วขึ้นแล้วเอ่ยถามว่า “ไทเฮาซีเยี่ยงนั้นหรือ ? ”

“เป็นฝีมือของเซียวเฉียง ! แต่ทว่าเรื่องนี้ไทเฮาซีทรงให้ขันทีเกาส่งข่าวมายังนาง”

“นังผู้หญิงโง่นั่นจึงตกหลุมพราง ข้าเองก็โง่เช่นกันที่หลงเชื่อ ดังนั้นแม่ของเจ้าจึงจากไปอย่างมิมีวันกลับ ดังนั้นจักรพรรดิเหวินจึงได้กักขังนางไว้ในตำหนักเย็นต่อหน้าเจ้า เป็นการแก้แค้นให้แม่ของเจ้า”

ฟู่เสี่ยวกวนนิ่งเงียบไปเสียเนิ่นนาน ก่อนจะหัวเราะออกมา “เหตุใดท่านจึงต้องมาปกป้องท่านแม่และข้ากัน ? ”

ชายอ้วนยิ้มออกมาอย่างจริงใจ แต่เขามิได้ตอบคำถามนั้น กลับเอ่ยขึ้นมาว่า “ได้ยินว่าเจ้าจะแต่งงานแล้ว แม้ว่าข้าจะมิใช่พ่อแท้ ๆ ของเจ้า แต่ก็เลี้ยงเจ้ามาถึง17 ปี ข้าจึงอยากจะเห็นเจ้าแต่งงานเป็นฝั่งเป็นฝาด้วยตาตนเอง”

ฟู่เสี่ยวกวนเผยอยิ้ม แล้วรินสุราให้แก่ฟู่ต้ากวน จากนั้นเขาจึงยกแก้วขึ้นดื่ม

ในหัวของเขาปรากฏภาพมากมายในหลายปีที่ผ่านมา

เมื่อเขาลืมตาขึ้นมามองโลกใบนี้ ก็ได้พบกับตาอ้วนนี่เป็นคนแรก

ชายอ้วนผู้นี้รักและเอ็นดูเขาอย่างมิมีที่ติ ปกป้องเขา อีกทั้งยังมอบสมบัติของตระกูลมากมายให้แก่เขา

ชายอ้วนผู้นี้เกรงว่าเขาจะเป็นอันตราย จึงได้พยายามให้เขาอยู่แต่ในเมืองหลินเจียง และกลับไปเป็นพ่อค้าที่ดินในหลินเจียง เพียงแต่ชายอ้วนผู้นี้มิได้รู้ว่าแท้จริงแล้วเขาเองก็ต้องการเช่นนั้น

ความทรงจำที่หลอมรวมกันนี้ มิว่าเขาจะเคยทำตัวเยี่ยงไร แต่ในสมองก็มีเพียงชายอ้วนคนนี้ที่ฝังลึก

มิว่าเขาจะเคยทำเรื่องราวร้ายแรงเพียงใด ในท้ายที่สุดก็จะมีชายอ้วนผู้นี้คอยจัดการให้เสมอมา

ดังนั้นฟู่เสี่ยวกวนจึงเอ่ยขึ้นมาว่า “ข้าขอกล่าวจากใจว่า ข้าได้ใช้ชีวิตกับท่านมาถึง 17 ปี แต่เพิ่งได้มาพบเจอกับจักรพรรดิเหวินเพียงมิกี่คราเท่านั้น หากจะกล่าวถึงความรู้สึก อย่าได้หาว่าข้าลำเอียงเลย แต่ว่าข้านั้นผูกพันกับท่านมากกว่าจักรพรรดิเหวินเสียอีก”

“พ่อของร่างนี้คือจักรพรรดิเหวิน มองดูแล้วคงมิผิดเป็นแน่ แต่ความรู้สึกนึกคิดของข้านั้น ผู้เป็นพ่อที่แท้จริงนั้นคือท่าน”

“พ่อของข้า…มาดื่มกันเถอะ ท่านจะเป็นพ่อของข้าไปตลอดทั้งชีวิตนี้ ท่านเลี้ยงดูข้ามาถึง 17 ปี ต่อจากนี้ข้าจะดูแลท่านไป 70 ปี ! ”

“พ่อของร่างนี้คือจักรพรรดิเหวินแต่ความรู้สึกนึกคิดของข้านั้น ผู้เป็นพ่อที่แท้จริงนั้นคือท่าน ! ” ประโยคนี้ฟู่ต้ากวนมิค่อยเข้าใจเท่าใดนัก แต่เขาก็สัมผัสได้ถึงความจริงใจของฟู่เสี่ยวกวนกับคำกล่าวเมื่อครู่

เขายกแก้วขึ้นมา ภายในใจรู้สึกปวดร้าว มันช่างอึดอัดมากยิ่งนัก ราวกับเม็ดทรายที่ปลิวไปตามลม

เดิมทีเจ้าเด็กผู้นี้ถูกตนเลี้ยงจนเสียคน คิดมิถึงว่าบัดนี้จะเก่งกาจถึงเพียงนี้

เขาสร้างอุตสาหกรรมใหญ่โตของครอบครัวขึ้นที่ซีซาน ตั้งหลักปักฐานที่เมืองจินหลิง บทกวีของเขาโด่งดังไปทั่วทั้งใต้หล้า ชื่อเสียงของเขามิว่าจะเด็กหรือคนชราต่างก็รู้จักเขาทั้งสิ้น !

นี่เป็นความภาคภูมิใจอย่างยิ่ง !

เขามิได้โลภมากหลังจากที่รู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของตนเองแล้ว เขายังคงกลับมาที่ราชวงศ์หยู กลับมาใช้ชีวิตอย่างที่เขาชื่นชอบ ยังคงเป็นเด็กน้อยของเขาดังเดิม

“ลูกพ่อ คำนี้เจ้าเป็นผู้กล่าวออกมาเอง เมื่อพ่อแก่ตัวไปแล้วเจ้าจงคำนี้ไว้ให้ดี พ่อคงต้องพึ่งพาเจ้าแล้ว ! ”

ศาลาเถาหรานเปี่ยมไปด้วยเสียงหัวเราะสนุกสนาน สองพ่อลูกสนทนากันอย่างเบิกบาน พวกเขามิได้เอ่ยถึงเรื่องตัวตนของฟู่เสี่ยวกวนอีก และมิได้เอ่ยถึงเรื่องของอู๋ฉางเฟิงกับสวี่หยุนชิงอีกเช่นกัน

เรื่องนี้ได้ผ่านไปพร้อมกับสุราในค่ำคืนนี้ และได้กลายเป็นอดีตไปเสียแล้ว

ฟู่ต้ากวนยังคงเป็นฟู่ต้ากวน และฟู่เสี่ยวกวนก็ยังคงเป็นฟู่เสี่ยวกวนดังเดิม

“ลูกพ่อ เจ้าจะแต่งงานเป็นฝั่งเป็นฝาแล้ว รีบมีบุตรเร็ว ๆ เข้าล่ะ ข้าเบื่อจะแย่มิมีอันใดให้ข้าทำ ข้าจะเลี้ยงลูกให้เจ้าเอง ที่หลินเจียงยังมีแม่ทั้งหกของเจ้าอยู่อีกด้วย”

“ท่านพ่อ หลังงานแต่งงานของข้าเสร็จสิ้นแล้ว ท่านพ่อควรกลับไปยังหลินเจียงสักหน่อยเถิด แม่ทั้งห้าคนนั้นอาจจะคลอดบุตรแล้วก็เป็นได้ จวนฟู่คงจะครึกครื้นมากยิ่งนัก”

ค่ำคืนนี้ สองพ่อลูกดื่มสุรากันเสียจนเมามาย ทั้งสองโอบกอดกัน ศีรษะทั้งคู่แนบเข้ามาใกล้

เมื่อซูโหรวและซูซูเดินทางมาถึงในยามค่ำคืน ก็ได้พบเข้ากับภาพอันน่าประทับใจเช่นนี้…

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด