[นิยายแปล] ฝ่าปริศนา ตะลุยโลกเบื้องหลัง 102 ไฟล์ 11 : เสียงกระซิบเรียกร้องให้รับผิดชอบตัวเอง [9.1]
พวกเราขึ้นบันไดไปจนสุดแล้ว จนมาถึงชั้นบนสุดของโกดังซักที
ที่นี่ไม่เหมือนกับชั้นล่างๆ เลย ตามกำแพงมีกองกล่องที่แปะหมายเลขเอาไว้เรียงอยู่เป็นแถวๆ กับชั้นวางของที่มีแฟ้มเอกสารแน่นแทบจะล้นออกมา ด้านหลังเป็นหน้าต่างแผ่นสกายไลท์แผ่นใหญ่ที่แบ่งเป็นตารางๆ ข้างใต้ก็มีโต๊ะเขียนหนังสือตัวนึง ล้อมรอบไปด้วยต้นไม้ในกระถาง พอเห็นที่นี่แล้ว ภาพจำที่เข้ามาก็คือห้องแล็บแบบในมหาลัยเลยแฮะ
อุรุมิ รูนะนั่งอยู่อยู่บนโต๊ะนั่น โบกมือมาให้พวกเรา ส่วนคุณโคซากุระก็นั่งเหม่ออยู่ที่เก้าอี้หมุนได้อยู่ข้างๆ สายตาเหลือบมองอยู่ที่ของที่เธอถืออยู่ในมือ
ภาพเงาย้อนแสง 2 ร่างที่นอนแทบเท้ารูนะอยู่นั่น คนนึงคือผู้ติดต่อประเภท 4 ที่ฉันเคยเห็นมาก่อนหน้านี้แล้ว คนที่มีหัวบวมๆ เหมือนก้อนราก้อนใหญ่คนนี้น่ะ
ส่วนอีกคนก็คลานอยู่เหมือนกิ้งก่า ปลายแขนปลายขาของเขาแตกกิ่งก้านออกไปเป็นเหมือนเส้นใยเล็กๆ ดูก็คล้ายๆ กับส่วนปลายของไม้กวาดอยู่นะ ส่วนหัวของเขาก็ลงมาจนทั้งน่าเกลียดทั้งน่ากลัว มันกลายเป็นก้อนยุ่ยๆ เหมือนบ๋อยดอง ขนาดก็เหลือแค่ประมาณกำปั้นคนเอง
ผู้หญิงคนนีงที่กำลังอ่านไฟล์เอกสารอยู่ที่อีกฟากนึงของโต๊ะก็ลุกขึ้นยืน แล้วพอเห็นฉันปุ๊บก็เริ่มร้องลั่นโวยวายทันทีเลย
“นังปีศาจ! ยัยงูพิษ! แกมาที่นี่ทำไม!? กลับไปภพภูมิของแกซะ!”
“เอ๋… ไม่จริงน้า”
โทริโกะส่ายหน้าแบบไม่อยากจะเชื่อ
ป้าขอบคุณคนนั้นนี่นา มาที่นี่ด้วยงั้นเหรอเนี่ย?
“ท่านลูน่า ยัยนั่นน่ะอันตรายเกินไป ทำไมถึงทิ้งยัยนั่นเอาไว้เฉยๆ คนเดียวล่ะ? ได้โปรดอย่าเย่อหยิ่งแบบนี้สิ”
“ก็ไม่ได้ทิ้งเอาไว้ตามลำพังซะทีเดียวนะ อันที่จริง พวกเราก็ให้ทุกคนอยู่ข้างล่างด้วยไม่ใช่เหรอ? แสดงว่า 2 คนนี้เก็บพวกนั้นได้หมดเลยสินะเนี่ย? สุดยอดไปเลยนี่นา ไม่คิดงั้นเหรอ?”
ฉันไม่พูดอะไรตอบไป แค่ตอบด้วยการหันปากกระบอกลูกซองไปหารูนะเท่านั้นเอง
“โอ้ เดี๋ยวสิ”
“คืนคุณโคซากุระมานะ”
“นี่ ใจเย็นๆ ก่อนนะ โอเคมั้ย? ถ้ายิง เดี๋ยวคุณโคซากุระก็โดนไปด้วยหรอก รู้ใช่มั้ย? อย่ามาขู่เค้าด้วยเรื่องที่เธอทำไม่ได้ดีกว่าน่า”
“งั้น ถ้าแบบนี้ล่ะ?”
โทริโกะพูดก่อนจะเอา AK ยกขึ้นเล็ง
“ฉันยิงไม่พลาดแน่”
“โห เธอคือคุณนิชินะสินะ? สวยอย่างที่เค้าได้ยินมาจริงๆ ด้วยแฮะ เค้ามีคำถามนู่นนี่อยากจะถามเต็มไปหมดเลยล่ะ เอาปืนลงก่อน—แล้วมาคุยกันดีมั้ย?”
ฉันเห็นบางอย่างในตาขวาด้วย เป็นลำแสงสีเงินที่ออกมาจากปากของรูนะ ลอยเข้ามาหาหูของฉันกับโทริโกะ
“โทริโกะ! ปัดทิ้งไปเลย!”
พอฉันตะโกนบอก มือซ้ายของโทริโกะก็เหวี่ยงไปในอากาศ [เสียง] ที่อยู่ตรงหน้าฉันก็โดนกระแทกกลับไป บิดไปบิดมาเหมือนกับว่ามันกำลังถอยหนี ไม่นาน รูนะก็กระพริบตาปริบๆ
“เอ๊ะ? นี่ได้ทำอะไรลงไปหรือเปล่าเนี่ย?”
“เสียงของเธอใช่ไม่ได้ผลหรอกน่า—ฉันเห็นได้ทุกอย่างนั่นแหละ”
“อ้อ เหรอ…?”
รู้สึกสะใจจริงๆ เลย แต่ดูเหมือนรูนะจะยังไม่เข้าใจนะ จะว่าไป รูนะไม่มีตาแบบของฉันนี่เนอะ มันก็น่าจะเป็นแบบนี้นี่แหละ คงไม่เคยคิดเลยล่ะมั้งว่าเสียงของตัวเองจะมีรูปร่างทางกายภาพด้วยน่ะ
“ท่านลูน่า คนๆ นั้นคือท่านนิชินะ เสียงของท่านอาจจะโดนมือที่เปล่งประกายนั่นเข้าไปก่อกวนก็ได้?”
ป้าขอบคุณพูดขัดขึ้นมา
“นัยน์ตาปีศาจของนังนั่นน่าจะสามารถมองเห็นการทำงานของเสียงท่านได้ ห้ามเข้าเผชิญกับทั้งนัยน์ตาทั้งมือพร้อมกันเด็ดขาดเลยนะ”
วิธีพูดของป้านี่ทั้งงมงายทั้งไม่สมอารมณ์เลย แต่ความสามารถในการรับรู้เข้าใจนี่จะดูถูกไม่ได้เลยแฮะ
เมื่อได้ยินแบบนั้น รูนะก็หันไปพูดกับโทริโกะ
“หืม แสดงว่าพรสวรรค์ของพวกคุณเป็นคู่หูกันเลยสินะ คุณนิชินะ เค้าได้ยินมาว่าคุณไล่ตามท่านซัทสึกิอยู่เหมือนกันนี่นา แบบนี้ พวกเราก็อยู่ในฐานะเดียวกันเลย เค้าว่า สนิทๆ กันไว้ดีกว่านะ”
“อย่ามาเหลวไหล”
“เปล่าซะหน่อย เค้าอิจฉาคุณนิชินะมากเลยนะ ได้อยู่กับท่านซัทสึกิด้วย ได้ออกเที่ยวไปในโลกสีฟ้าด้วยกัน… เค้าอิจฉานะ ถ้าให้พูดตามตรง เค้าอยากใช้เสียงของเค้าจับเธอเอาไว้ แล้วเค้นทุกอย่างที่เธอรู้เกี่ยวกับท่านซัทสึกิออกมาให้หมดจนหยดสุดท้ายไปเลย ที่จริง นั่นก็เป็นสิ่งที่เค้าวางแผนจะทำอะนะ”
น้ำเสียงที่ดูเป็นมิตรจนเกินไปที่ยัยนั่นใช้มาจนถึงตอนนี้ก็ขรึมขึ้นมา ฉันว่าตัวเองพอจะรู้สึกอารมณ์เดือดดาลในน้ำเสียงได้นิดๆ นะ ดูเหมือนจะไม่ใช่แค่ฉันคนเดียวนะ นิ้วของโทริโกะที่อยู่ในโกร่งไกปืน AK เองก็กระตุกขึ้นมานิดนึงเหมือนกัน
รูนะยิ้มออกมาอีกทีนึง
“แต่ถ้าจะตามหาท่านซัทสึกิเหมือนอย่างเค้าล่ะก็ เค้ามีที่ว่างไว้ให้พวกเราร่วมงานกันเสมอเลยนะ? เค้าว่า ในฐานะผู้ได้รับประทานของขวัญมาเหมือนกัน เราต้องร่วมงานกันได้ดีแน่นอนเลย”
รูนะยื่นมือเข้าไปที่โต๊ะ ก่อนจะหยิบสมุดปกหนังสีดำขึ้นมา
“สมุดโน้ตของท่านซัทสึกินี่ เค้าอ่านเองไม่ได้ แต่ถ้ามีตาของคุณคามิโคชิที่อยู่ตรงนั้นมาช่วยพวกเราล่ะก็ เค้ามั่นใจเลยล่ะว่า-…”
“ปล่อยมือจากสมุดของซัทสึกิ เดี๋ยวนี้”
น้ำเสียงของโทริโกะ เย็นเฉียบเป็นน้ำแข็งเลย พอๆ กับตอนที่เธอขู่เตือนพวกนักเลงเมื่อตอนที่อยู่กันที่ชายหาดในโลกเบื้องหลังเลยล่ะมั้ง ฉันมองดูเธออยู่ พลางคิดว่าเธออาจจะลั่นไกยิงออกไปตอนไหนก็ได้เลย
รูนะปล่อยมือจากสมุดเล่มนั้น โดยที่รอยยิ้มบนหน้าก็ยังไม่จางหายไปไหน ป้าขอบคุณที่อยู่ข้างหลังก็มาหยิบไปจากเธออย่างระมัดระวัง
“ที่จริง เค้าจะยังไงก็ได้นั่นแหละ เพราะ ให้พูดจริงๆ มั้ย ต่อให้จะไม่มีตาของคุณคามิโคชิ พวกเราก็อาจจะยังอ่านมันได้อยู่ดี”
“หมายความว่ายังไง?”
รูนะชี้ไปที่ป้าขอบคุณคนนั้น
“เธอช่วยทดลองมาให้เค้าแล้วน่ะ ถ้าไปที่โลกสีฟ้า พวกเราก็อาจจะอ่านสมุดเล่มนั้นออกที่นั่นก็ได้”
บนโต๊ะเขียนหนังสือตอนนี้ มีแฟ้มเอกสารกางเอาไว้เยอะเลย ภาพถ่ายเอกสารที่ถ่ายมาจากหนังสือ กระดาษโพสต์อิทเขียนด้วยลายมือ รูปถ่าย แผนภาพ แล้วก็อะไรต่อมิอะไรกระจายอยู่เต็มโต๊ะไปหมด ทั้งหมดนั่นคือของที่อยู่ในกระเป๋าของป้าขอบคุณคนนั้นงั้นเหรอ?
“เค้าไม่รู้วิธีไปที่นั่นหรอก แต่พวกเธอรู้ใช่มั้ย? ที่บ้านคุณโคซากุระเองก็มีเกทอยู่ด้วยนี่นา ถูกมั้ย? ถ้าไปที่อีกฟากนึงจากทางนั้นได้ พวกเราก็อ่านสมุดได้ จากนั้น ก็จะเรียกท่านซัทสึกิได้”
“คิดยังไงถึงได้ฟังคนสติไม่สมประกอบอย่าง―”
พูดยังไม่ทันจบ รูนะก็พูดสวนฉันขึ้นมา
“อย่ามาว่าแม่เค้านะ!”
แม่?
พอลองดูที่ป้าขอบคุณคนนั้นอีกทีนึงแล้ว ก็ดูมีเค้าคล้ายๆ อยู่นะ… นี่แสดงว่า ยัยนี่สั่งให้แม่ของตัวเองเรียกตัวเองว่าท่านลูน่า คอยทำงานเป็นคนใช้เลย แต่ก็ยังโมโหอยู่ดีเวลามีใครไปว่าแม่ของตัวเองเหรอเนี่ย?
“จะยังไงก็ช่าง! เอาสมุดนั่นคืนมาซะ! เร็วเข้า!”
โทริโกะพูดอย่างเฉียบขาด ไม่มีทีท่าจะฟังอะไรที่รูนะพูดซักอย่าง
ซึ่งรูนะก็ขมวดคิ้ว
“หมายความว่าไงน่ะที่ว่าให้คืนมา? นี่ใช่ของเธอเหรอ? ก็ไม่ใช่ซักหน่อยหนิจริงมั้ย? นี่ของท่านซัทสึกิต่างหาก ทำยังกับว่าเค้าเป็นหัวขโมยตลอดเลยนะ คุณนิชินะ ทั้งที่จริง เธอไม่ใช่หรือไงที่พยายามจะมาเอาของของคนอื่นไปเป็นของตัวเองน่ะ? ชี้ปืนเข้ามาใส่เค้าแบบนั้นด้วย นี่เป็นการพยายามปล้นทรัพย์โดยใช้อาวุธด้วยหรือเปล่าน้า?”
“หุบปาก ไม่รู้เรื่องของซัทสึกิก็อย่ามาทำเป็นพูด”
“ดูเหมือนจะคิดว่าตัวเองน่ะพิเศษต่อท่านซัทสึกิสินะ แต่ก็รู้ใช่มั้ยว่าไม่ใช่? เค้าได้ฟังมาจากคุณโคซากุระแล้วนะ ท่านซัทสึกิเองก็หมายตาเด็กผู้หญิงคนอื่นด้วยเหมือนกันนี่ ก็จริงอยู่ที่ว่าเธอเป็นคนที่อยู่กับท่านก่อนที่ท่านจะหายตัวไป หรือบางทีก็อาจจะเป็นคนสุดท้ายที่ได้เห็นท่านเลยด้วยซ้ำ แต่เคยคิดบ้างมั้ย ว่าท่านซัทสึกิทำอะไรโดยที่เธอไม่รู้บ้างน่ะ?”
“หุบปาก…!”
“เอ๋ โมโหงั้นเหรอ? ว่าแล้วเชียว เค้าถูกสินะ? คุณโคซากุระกับคุณคามิโคชิน่ะเขาไม่พูดเรื่องนี้ขึ้นมาก็เพราะทั้ง 2 คนเขารู้สึกผิดกับเธอไง แต่ทุกคนก็รู้กันหมดนั่นแหละ เธอเองก็เหมือนกัน แล้วเธอก็ไม่อยากจะยอมรับใช่มั้ยล่ะ? ท่านซัทสึกิเขี่ยเธอทิ้งไปแล้ว เพราะเธอน่ะไม่ดีพอสำหรับท่านไง ถ้าไม่ได้เป็นแบบนั้นล่ะก็ ป่านนี้ท่านคงพาเธอไปด้วยแล้วล่ะว่ามั้ย?”
น้ำเสียงของเธอฟังดูเห็นใจนะ แต่ก็แค่น้ำเสียงนั่นแหละ
“ช่างน่าสงสารจริงๆ”
โทริโกะไม่พูดอะไรอีก เธอเหวี่ยงปืนลงด้วยท่าทางรุนแรงกว่าทุกที ก่อนจะกำหมัดแน่น ก้าวตรงเข้าไปหารูนะ
เอ๊ะ เดี๋ยว เธอปล่อยให้เลือดขึ้นหน้าเยอะเกินไปแล้ว
“โทริโกะ! อย่าเข้าไปใกล้นะ!”
ฉันเตือนเธอช้าไป
ผู้ติดต่อประเภท 4 ที่นอนแทบเท้ารูนะอยู่ทั้ง 2 คนลุกขึ้นมา คนที่มีมือเท้าเป็นเหมือนไม้กวาดคนนั้นก็ใช้นิ้วมือนิ้วเท้าจำนวนนับไม่ถ้วนนั่นเข้าพันโอบรอบส่วนขาของโทริโกะเอาไว้
“ปล่อย!”
โทริโกะเอาพานท้าย AK กระแทกใส่เขาคนนั้น มีเสียงดังตุบทื่อๆ พร้อมกับเสียงเหมือนกระดูกนิ้วหัก คนๆ นั้นร้องเสียงครวญครางที่น่าอนาถใจออกมาแต่ก็ยังไม่ยอมปล่อยอยู่ดี
ผู้ติดต่อประเภท 4 คนที่หัวโตคนนั้นก็เดินอุ้ยอ้ายไปหาโทริโกะ ส่วนที่งอกออกมาเหมือนขนตาที่อยู่รอบหัวบวมๆ ของเขาสว่างขึ้นมาจากแสงจันทร์ที่ลอดเข้ามาจากทางหน้าต่างสกายไลท์
ฉันหันลูกซองไปทางนั้นทันทีเลย
…ไม่ได้ ฉันยิงไม่ได้ แบบนี้โดนโทริโกะแน่ ต้องเข้าไปใกล้กว่านี้
ฉันทิ้งลูกซอง รีบวิ่งเข้าไปหาโทริโกะพร้อมกับชักมาคารอฟออกมา ตอนนี้มีนิ้วนับไม่ถ้วนเลยพันอยู่รอบแขนขวาของโทริโกะ AK ของเธอร่วงลงมาที่พื้นจนไถลออกไป ผู้ติดต่อประเภท 4 หัวโตคนนั้นก็เข้าไปใกล้เลย
“หนอย…”
โทริโกะดันหัวใหญ่ๆ ที่เดินเข้ามาใกล้นั่นด้วยมือโปร่งแสงของเธอ
แล้วเขาก็ร้องเสียงหลงเลย
บนหน้าที่ใหญ่โต รูปร่างไม่ชัดเจนของเขา มีรอยฝ่ามือสีเงินทิ้งเอาไว้ด้วย รอยมือที่สว่างขึ้นมาเหมือนบ่อน้ำทำให้ผู้ติดต่อประเภท 4 คนนั้นร้องลั่นได้เลย
เขาเดินกะเผลกถอยออกมา บางทีโทริโกะเองก็จะเห็นผลนั่นได้เหมือนกันล่ะมั้ง เพราะเธอรีบเอามือซ้ายลูบพวกนิ้วที่กำลังคว้าแขนของเธออยู่ด้วย เสียงร้องโหยหวญอย่างเจ็บปวดดังมาจากตรงเท้าของเธอ แล้วนิ้วนับไม่ถ้วนพวกนั้นก็ร่วงกราวลงมาที่พื้น ผู้ติดต่อประเภท 4 ที่นิ้วเยอะคนนั้นหดตัวคุดคู้ คลานหนีจากโทริโกะไปเหมือนเป็นไม้ถูพื้นที่ทำจากเนื้อคน
โทริโกะหอบหายใจแรง ก่อนจะหันหน้าไปหารูนะอีกครั้งนึง
“เห มือข้างนั้นของเธอสุดยอดไปเลยนี่นา?”
รูนะผละตัวออกมาจากโต๊ะที่เธอพิงอยู่ พุ่งเข้ามาหาตรงหน้าของโทริโกะ พอเจอแบบนี้แบบไม่ทันตั้งตัว โทริโกะเลยหยุดกึกไป แล้วฉันก็ได้ยินเสียงกระซิบของรูนะ
“ชู่ว ใจเย็นๆ นะ คุณนิชินะ ผ่อนคลายความเกร็งทั้งตัวซะก่อนสิ…”
ฉันเห็นเสียงของรูนะจากข้างหลังของโทริโกะ ค่อยๆ เลื้อยขึ้นไปตามคอของเธอเหมือนตัวอะไรซักอย่าง ก่อนจะเข้าไปในหูของเธออย่างรวดเร็ว
แค่นั้น เข่าของโทริโกะก็งอลงไป ตัวเริ่มจะโงนเงนแล้ว
คราวนี้ คนที่เลือดขึ้นหน้าก็เป็นฉันบ้าง
“โทริโกะ!!”
TN: โอ้ย… ทำไมมันถึงลำบากยากเย็นแบบนี้เนี่ย?
ขอแปะ Discord สำหรับแจ้งเตือนนิยาย กับมุมพูดคุยกันไว้ตรงนี้ด้วยนะครับ ใครสนใจก็แวะมาได้นะ ^^
https://discord.gg/Fm9NsqeH2r
Comments