[นิยายแปล] วีรบุรุษไร้อาชีพ ~ถึงจะไม่มีสกิลก็ไม่เห็นจะเป็นอะไร~ 22 เป็นลูกชายที่เย็นชาจริงๆ
“ศึกชิงถ้วยเทพแห่งดาบงั้นเหรอ?”
“ใช่แล้ว! มันเป็นการประลองที่ใหญ่ที่สุดในเมืองนี้ ตั้งชื่อตามอาชีพขั้นสุดยอด <เทพดาบ> การประลองนี้จัดขึ้นเพื่อหานักดาบที่แข็งแกร่งที่สุดทั้งในด้านชื่อเสียงและความเป็นจริง! แน่นอนว่าฉันต้องการให้คุณอาเรลลงแข่งด้วย”
นั่นเป็นเหตุผลที่ลิเลียยื่นใบสมัครมาให้
“หน้าตาแบบนี้มันทะเบียนสมรสไม่ใช่เหรอ?”
“ม-ไม่ใช่แน่นอน!?”
“’งั้นทำไมเธอถึงต้องตื่นตะหนกและคอยมองไปทางอื่นล่ะ?”
“คงคิดว่าถ้าตัวหนังสือเล็ก ผมก็คงมองไม่เห็นมัน!”
……..เธอคงคิดแบบนั้นสินะ?
มันเป็นเวลานานแล้วตั้งแต่การแข่งขันครั้งนั้น จนถึงตอนนี้ที่ผมเป็นสมาชิกกิลด์เขี้ยวมังกร
เร็วๆนี้ผมได้ฝึกกับไรนะ และฝึกกล้ามเนื้อเป็นประจำทุกวัน ดังนั้นผมจึงไม่จำเป็นต้องรีบไปที่กิลด์ใหญ่กิลด์อื่น
เหมือนที่ผมได้เรียนรู้จากการแข่งเมื่อวานนี้ มันเป็นการดีที่จะได้เจอกับคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่ง และได้พัฒนาประสบการณ์การต่อสู้จริง
แต่ว่าการต่อสู้ส่วนใหญ่นั้นมีเพียงแค่นักดาบแรงค์ B เท่านั้น ดังนั้นมันจึงไม่ค่อยน่าพอใจนัก
ถ้าหากผมสามารถเรียนรู้สกิลของนักดาบยักษ์ได้ กิลด์นี้ก็จะไม่จำเป็นกับผมอีกต่อไป
“ไม่ ไม่ มันไม่ใช่เรื่องของผม แม้ว่าพวกเราจะเคยช่วยกันปกป้องกิลด์นี้มาแล้วครั้งหนึ่ง หรือมีบางอย่างที่เราไม่ชอบ!? หรือเป็นเพราะว่ามีผู้หญิงสวยๆอยู่ที่นี้!
“ไม่”
“ผมรีบปฏิเสธทันที!?”
ลิเลียกรีดร้องออกมา ขณะที่กุมศีรษะ
“ในตอนแรกเธอพูดถึงเรื่องการต่อสู้ร่วมกัน แต่เธอไม่ได้ทำอะไรเลย? อย่ามาตกแต่งเรื่องในอดีตสิ”
“อึกก~”
ความจริงที่ผมพูดออกมามันได้เสียดแทงลิเลีย
“ต-แต่ว่า! กิลด์นี้เป็นกิลด์ที่แม่ของเธอเคยอยู่นะ!? ฉันคิดว่าเราสามารถนับเรื่องนี้ด้วยได้เช่นกัน!”
“แม่ก็คือแม่ ผมก็คือผม”
“ทำไมนายถึงเป็นลูกชายที่เย็นชาจริงๆ”
หลังจากที่พูดจากันเสียงดัง จากนั้นลิเลียก็ได้ถอนหายใจเฮือกใหญ่
“เมื่อฉันรู้ว่าแม่ของคุณอาเรลคือเจ้าหญิงแห่งดาบฟาร่า ฉันคิดว่ามันคงเป็นโชคชะตา… แต่ว่าทำไมคนที่ไม่มีทั้งเลือดและน้ำตาแบบคุณอาเรล ถึงได้เกิดมาจากผู้หญิงที่แสนอ่อนโยนและอดทนคนนั้น…”
“เธอพูดว่าอะไรนะ?”
ขอบอกเลยนะว่าผมก็มีทั้งเลือดและน้ำตา
ถ้าพูดถึงเรื่องนั้น เมื่อเร็วๆนี้ผมก็เลือดก็ไหลอยู่ทุกๆวัน แต่ผมไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับน้ำตา
“แต่อย่างน้อยก็สามารถทำอะไรได้บ้างจากวิกฤติในตอนนี้ แค่นั้นก็พอแล้ว”
“อย่างน้อยตอนนี้ได้โปรดเข้าร่วมศึกชิงถ้วยเทพแห่งดาบในฐานะสมาชิกของกิลด์เขี้ยวมังกรทีนะ!”
“พูดถึงเรื่องนั้นแล้ว ศึกชิงถ้วยเทพแห่งดาบจะจัดขึ้นเมื่อไหร่ล่ะ?”
“เอ่อ~”
ตามที่ลิเลียอธิบายให้ฟัง ศึกชิงถ้วยเทพแห่งดาบจะมีรอบคัดเลือกและรอบชิงชนะเลิศ
และมีเพียง 32 คนเท่านั้นที่สามารถเข้ารอบชิงชนะเลิศได้
โดย 20 คนในนั้นก็จะเป็นนักดาบแรงด์ A ทั้งหมด
นักดาบแรงค์ B และต่ำกว่านั้นจะแข่งขันกันเพื่อคัดเลือกอีก 12 คนที่เหลือ
“คุณอาเรลยังคงเป็นนักดาบแรงค์ D ดังนั้นเพื่อที่จะเข้ารอบชิงชนะเลิศ จะต้องเอาชนะรอบคัดเลือกรอบแรกและรอบคัดเลือกรอบที่สองก่อน”
ในรอบคัดเลือกรอบแรกส่วนใหญ่จะเป็นนักดาบแรงค์ C และแรงค์ D
โดยรวมแล้วมีนักดาบประมาณ 400 คนที่เข้าแข่งขัน และมีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่จะผ่านไปรอบคัดเลือกรอบที่สอง
ถ้าเธอชนะ ก็จะเข้าร่วมการแข่งขันรอบคัดเลือกรอบที่สองร่วมกันกับนักดาบแรงค์ B ได้
และอีกครั้ง จะมีเพียง 12 คนเท่านั้นที่จะได้เข้ารอบชิงชนะเลิศจากนักดาบประมาณ 100 คน
และรอบสุดท้ายจะตัดสินกันโดยผู้เข้าแข่งขัน 32 คน ประกอบด้วยนักดาบแรงค์ A 20 คน และอีก 12 คนที่ผ่านรอบคัดเลือกรอบที่สองมาได้
“เส้นทางมันช่างลำบากจริงๆ”
“ใช่แล้ว รอบคัดเลือกรอบแรกจะจัดขึ้นในอีกหนึ่งสัปดาห์นับจากนี้ หลังจากนั้นรอบคัดเลือกรอบที่สองและรอบชิงชนะเลิศจะจัดขึ้นอีกประมาณหนึ่งเดือนนับจากนี้”
หนึ่งเดือนนับจากนี้งั้นเหรอ
….งั้น ในช่วงนี้ผมยังสามารถเรียนรู้สกิลจากนักดาบยักษ์ได้อยู่
“ถ้าเธอต้องการจะได้รับประสบการณ์การต่อสู้ล่ะก็ ฉันมีสถานที่ดีๆอยู่นะ!”
“หืมม~?”
ตามคำแนะนำของลิเลีย พวกเรามาถึงอาคารแห่งหนึ่งทางทิศตะวันตกของเมือง
อาคารนี้ดูเหมือนคุก แต่กับมีผู้คนเดินเข้าเดินออกไปมา
“นี่คือดันเจี้ยนงั้นเหรอ?”
“ใช่แล้ว! ใต้เมืองแห่งดาบนี้มีดันเจี้ยนขนาดใหญ่ตั้งอยู่”
ดันเจี้ยน
ว่ากันว่าสถานที่แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นมาบนโลกโดยพระเจ้า มันเป็นเขาวงกตลึกลับที่มีอยู่ทั่วโลก
ในแต่ละดันเจี้ยนนั้นจะมีลักษณะที่แตกต่างกัน และมันยังมีโครงสร้างที่ซับซ้อนเหมือนกับเขาวงกต บางที่ก็มีกับดักติดตั้งเอาไว้อยู่ และสิ่งที่ทุกดันเจี้ยนมีเหมือนกันก็คือสัตว์เวท
ถึงอย่างนั้น ใครจะไปคิดกันว่าจะมีดันเจี้ยนอยู่ใต้เมือง
ดันเจี้ยนนี้นั้นได้ถูกค้นพบก่อนที่จะมีเมืองมาสร้างทับมัน เพราะว่าดันเจี้ยนเป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การฝึกดาบ
และลิเลีย
“เธอจะเข้าไปด้วยงั้นเหรอ?”
“ฟุฟุ แน่นอน ถ้าฉันเข้าไปด้วย ฉันจะแสดงมันให้เห็นเอง”
มันแย่มาก ตั้งแต่ที่เรามาถึงที่นี่เธอก็หยิ่งมาก แต่ว่ามันช่วยไม่ได้ ผมได้ตามลิเลียเข้าไปในอาคาร
อย่างไรก็ตาม ไรนะก็ได้มากับผมด้วย
เป็นเพราะว่าผมได้บอกเธอว่าพรุ่งนี้ผมกับลิเลียจะไปที่ดันเจี้ยนกัน เธอก็เลยบอกว่าจะมาด้วย
“ฉ-ฉันต้องการประสบการณ์การต่อสู้จริง เพื่อเตรียมตัวสำหรับศึกชิงถ้วยเทพแห่งดาบ”
เห็นได้ชัดเลยว่า เธออยากจะเข้าร่วมการแข่งขันด้วย
หรือก็คือ นักดาบมากกว่า 90% ในเมืองนี้จะเข้าร่วมทั้งหมด
“…….นี่เป็นโอกาสที่ดีที่จะได้อยู่ด้วยกันสองต่อสอง…แผนการคือใช้ดันเจี้ยนเพื่อสร้างสถานการณ์ และทำให้เกิดความรักขึ้นอย่างรวดเร็ว…”
ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ดีที่ไรนะมากับพวกเราด้วย เพราะว่าลิเลียได้พึมพำออกมาด้วยความผิดหวัง
Note : ถ้าใครต้องการสนับสนุนค่าไฟหรือค่ากาแฟสามารถโดเนทได้ตามด้านล่างครับ
Comments
[นิยายแปล] วีรบุรุษไร้อาชีพ ~ถึงจะไม่มีสกิลก็ไม่เห็นจะเป็นอะไร~ 22 เป็นลูกชายที่เย็นชาจริงๆ
“ศึกชิงถ้วยเทพแห่งดาบงั้นเหรอ?”
“ใช่แล้ว! มันเป็นการประลองที่ใหญ่ที่สุดในเมืองนี้ ตั้งชื่อตามอาชีพขั้นสุดยอด <เทพดาบ> การประลองนี้จัดขึ้นเพื่อหานักดาบที่แข็งแกร่งที่สุดทั้งในด้านชื่อเสียงและความเป็นจริง! แน่นอนว่าฉันต้องการให้คุณอาเรลลงแข่งด้วย”
นั่นเป็นเหตุผลที่ลิเลียยื่นใบสมัครมาให้
“หน้าตาแบบนี้มันทะเบียนสมรสไม่ใช่เหรอ?”
“ม-ไม่ใช่แน่นอน!?”
“’งั้นทำไมเธอถึงต้องตื่นตะหนกและคอยมองไปทางอื่นล่ะ?”
“คงคิดว่าถ้าตัวหนังสือเล็ก ผมก็คงมองไม่เห็นมัน!”
……..เธอคงคิดแบบนั้นสินะ?
มันเป็นเวลานานแล้วตั้งแต่การแข่งขันครั้งนั้น จนถึงตอนนี้ที่ผมเป็นสมาชิกกิลด์เขี้ยวมังกร
เร็วๆนี้ผมได้ฝึกกับไรนะ และฝึกกล้ามเนื้อเป็นประจำทุกวัน ดังนั้นผมจึงไม่จำเป็นต้องรีบไปที่กิลด์ใหญ่กิลด์อื่น
เหมือนที่ผมได้เรียนรู้จากการแข่งเมื่อวานนี้ มันเป็นการดีที่จะได้เจอกับคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่ง และได้พัฒนาประสบการณ์การต่อสู้จริง
แต่ว่าการต่อสู้ส่วนใหญ่นั้นมีเพียงแค่นักดาบแรงค์ B เท่านั้น ดังนั้นมันจึงไม่ค่อยน่าพอใจนัก
ถ้าหากผมสามารถเรียนรู้สกิลของนักดาบยักษ์ได้ กิลด์นี้ก็จะไม่จำเป็นกับผมอีกต่อไป
“ไม่ ไม่ มันไม่ใช่เรื่องของผม แม้ว่าพวกเราจะเคยช่วยกันปกป้องกิลด์นี้มาแล้วครั้งหนึ่ง หรือมีบางอย่างที่เราไม่ชอบ!? หรือเป็นเพราะว่ามีผู้หญิงสวยๆอยู่ที่นี้!
“ไม่”
“ผมรีบปฏิเสธทันที!?”
ลิเลียกรีดร้องออกมา ขณะที่กุมศีรษะ
“ในตอนแรกเธอพูดถึงเรื่องการต่อสู้ร่วมกัน แต่เธอไม่ได้ทำอะไรเลย? อย่ามาตกแต่งเรื่องในอดีตสิ”
“อึกก~”
ความจริงที่ผมพูดออกมามันได้เสียดแทงลิเลีย
“ต-แต่ว่า! กิลด์นี้เป็นกิลด์ที่แม่ของเธอเคยอยู่นะ!? ฉันคิดว่าเราสามารถนับเรื่องนี้ด้วยได้เช่นกัน!”
“แม่ก็คือแม่ ผมก็คือผม”
“ทำไมนายถึงเป็นลูกชายที่เย็นชาจริงๆ”
หลังจากที่พูดจากันเสียงดัง จากนั้นลิเลียก็ได้ถอนหายใจเฮือกใหญ่
“เมื่อฉันรู้ว่าแม่ของคุณอาเรลคือเจ้าหญิงแห่งดาบฟาร่า ฉันคิดว่ามันคงเป็นโชคชะตา… แต่ว่าทำไมคนที่ไม่มีทั้งเลือดและน้ำตาแบบคุณอาเรล ถึงได้เกิดมาจากผู้หญิงที่แสนอ่อนโยนและอดทนคนนั้น…”
“เธอพูดว่าอะไรนะ?”
ขอบอกเลยนะว่าผมก็มีทั้งเลือดและน้ำตา
ถ้าพูดถึงเรื่องนั้น เมื่อเร็วๆนี้ผมก็เลือดก็ไหลอยู่ทุกๆวัน แต่ผมไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับน้ำตา
“แต่อย่างน้อยก็สามารถทำอะไรได้บ้างจากวิกฤติในตอนนี้ แค่นั้นก็พอแล้ว”
“อย่างน้อยตอนนี้ได้โปรดเข้าร่วมศึกชิงถ้วยเทพแห่งดาบในฐานะสมาชิกของกิลด์เขี้ยวมังกรทีนะ!”
“พูดถึงเรื่องนั้นแล้ว ศึกชิงถ้วยเทพแห่งดาบจะจัดขึ้นเมื่อไหร่ล่ะ?”
“เอ่อ~”
ตามที่ลิเลียอธิบายให้ฟัง ศึกชิงถ้วยเทพแห่งดาบจะมีรอบคัดเลือกและรอบชิงชนะเลิศ
และมีเพียง 32 คนเท่านั้นที่สามารถเข้ารอบชิงชนะเลิศได้
โดย 20 คนในนั้นก็จะเป็นนักดาบแรงด์ A ทั้งหมด
นักดาบแรงค์ B และต่ำกว่านั้นจะแข่งขันกันเพื่อคัดเลือกอีก 12 คนที่เหลือ
“คุณอาเรลยังคงเป็นนักดาบแรงค์ D ดังนั้นเพื่อที่จะเข้ารอบชิงชนะเลิศ จะต้องเอาชนะรอบคัดเลือกรอบแรกและรอบคัดเลือกรอบที่สองก่อน”
ในรอบคัดเลือกรอบแรกส่วนใหญ่จะเป็นนักดาบแรงค์ C และแรงค์ D
โดยรวมแล้วมีนักดาบประมาณ 400 คนที่เข้าแข่งขัน และมีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่จะผ่านไปรอบคัดเลือกรอบที่สอง
ถ้าเธอชนะ ก็จะเข้าร่วมการแข่งขันรอบคัดเลือกรอบที่สองร่วมกันกับนักดาบแรงค์ B ได้
และอีกครั้ง จะมีเพียง 12 คนเท่านั้นที่จะได้เข้ารอบชิงชนะเลิศจากนักดาบประมาณ 100 คน
และรอบสุดท้ายจะตัดสินกันโดยผู้เข้าแข่งขัน 32 คน ประกอบด้วยนักดาบแรงค์ A 20 คน และอีก 12 คนที่ผ่านรอบคัดเลือกรอบที่สองมาได้
“เส้นทางมันช่างลำบากจริงๆ”
“ใช่แล้ว รอบคัดเลือกรอบแรกจะจัดขึ้นในอีกหนึ่งสัปดาห์นับจากนี้ หลังจากนั้นรอบคัดเลือกรอบที่สองและรอบชิงชนะเลิศจะจัดขึ้นอีกประมาณหนึ่งเดือนนับจากนี้”
หนึ่งเดือนนับจากนี้งั้นเหรอ
….งั้น ในช่วงนี้ผมยังสามารถเรียนรู้สกิลจากนักดาบยักษ์ได้อยู่
“ถ้าเธอต้องการจะได้รับประสบการณ์การต่อสู้ล่ะก็ ฉันมีสถานที่ดีๆอยู่นะ!”
“หืมม~?”
ตามคำแนะนำของลิเลีย พวกเรามาถึงอาคารแห่งหนึ่งทางทิศตะวันตกของเมือง
อาคารนี้ดูเหมือนคุก แต่กับมีผู้คนเดินเข้าเดินออกไปมา
“นี่คือดันเจี้ยนงั้นเหรอ?”
“ใช่แล้ว! ใต้เมืองแห่งดาบนี้มีดันเจี้ยนขนาดใหญ่ตั้งอยู่”
ดันเจี้ยน
ว่ากันว่าสถานที่แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นมาบนโลกโดยพระเจ้า มันเป็นเขาวงกตลึกลับที่มีอยู่ทั่วโลก
ในแต่ละดันเจี้ยนนั้นจะมีลักษณะที่แตกต่างกัน และมันยังมีโครงสร้างที่ซับซ้อนเหมือนกับเขาวงกต บางที่ก็มีกับดักติดตั้งเอาไว้อยู่ และสิ่งที่ทุกดันเจี้ยนมีเหมือนกันก็คือสัตว์เวท
ถึงอย่างนั้น ใครจะไปคิดกันว่าจะมีดันเจี้ยนอยู่ใต้เมือง
ดันเจี้ยนนี้นั้นได้ถูกค้นพบก่อนที่จะมีเมืองมาสร้างทับมัน เพราะว่าดันเจี้ยนเป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การฝึกดาบ
และลิเลีย
“เธอจะเข้าไปด้วยงั้นเหรอ?”
“ฟุฟุ แน่นอน ถ้าฉันเข้าไปด้วย ฉันจะแสดงมันให้เห็นเอง”
มันแย่มาก ตั้งแต่ที่เรามาถึงที่นี่เธอก็หยิ่งมาก แต่ว่ามันช่วยไม่ได้ ผมได้ตามลิเลียเข้าไปในอาคาร
อย่างไรก็ตาม ไรนะก็ได้มากับผมด้วย
เป็นเพราะว่าผมได้บอกเธอว่าพรุ่งนี้ผมกับลิเลียจะไปที่ดันเจี้ยนกัน เธอก็เลยบอกว่าจะมาด้วย
“ฉ-ฉันต้องการประสบการณ์การต่อสู้จริง เพื่อเตรียมตัวสำหรับศึกชิงถ้วยเทพแห่งดาบ”
เห็นได้ชัดเลยว่า เธออยากจะเข้าร่วมการแข่งขันด้วย
หรือก็คือ นักดาบมากกว่า 90% ในเมืองนี้จะเข้าร่วมทั้งหมด
“…….นี่เป็นโอกาสที่ดีที่จะได้อยู่ด้วยกันสองต่อสอง…แผนการคือใช้ดันเจี้ยนเพื่อสร้างสถานการณ์ และทำให้เกิดความรักขึ้นอย่างรวดเร็ว…”
ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ดีที่ไรนะมากับพวกเราด้วย เพราะว่าลิเลียได้พึมพำออกมาด้วยความผิดหวัง
Note : ถ้าใครต้องการสนับสนุนค่าไฟหรือค่ากาแฟสามารถโดเนทได้ตามด้านล่างครับ
Comments