[นิยายแปล] วีรบุรุษไร้อาชีพ ~ถึงจะไม่มีสกิลก็ไม่เห็นจะเป็นอะไร~ 72 มีคนพูดถึงฉันงั้นรึ?

Now you are reading [นิยายแปล] วีรบุรุษไร้อาชีพ ~ถึงจะไม่มีสกิลก็ไม่เห็นจะเป็นอะไร~ Chapter 72 มีคนพูดถึงฉันงั้นรึ? at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 

ทั้งหกสถาบันนั้นถูกสร้างขึ้นมาเรียงกันเป็นวงกลม ในเมืองแห่งเวทมนตร์อาร์สเบล

มีอาคารรูปทรงหอคอยตั้งตระหง่าดอยู่ตรงกลาง ที่นั่นคือศาลากลางที่ใช้ดำเนินการของเมือง

 

ณ ห้องประชุมชั้นบนสุดของหอคอย

มีเหล่าจอมเวทหกคนนั่งล้อมรอบโต๊ะกลมอยู่

พวกเขาทั้งหมดนั้นเป็นอาชีพระดับสูง

 

“ดูเหมือนว่าทุกคนจะมารวมตัวกันแล้วนะ” (เรด้า)

 

เสียงยืนยันนั้นมันมาจากผู้อำนวยการของสถาบันสีแดง ราชาจอมเวทเรด้า แองเคอร์แมน

เขาอายุสี่สิบสองปี เขาเป็นชายร่างใหญ่กำยำที่ดูไม่คล้ายจอมเวท และแน่นอนว่าเขาเป็นผู้ใช้เวทสีแดง

เขาเป็นที่รักของเหล่านักเรียน เพราะนิสัยใจใหญ่ของเขา นอกจากนั้นเขายังเป็นคนที่รักในการต่อสู้ จนเป็นบุคคลที่ต่อสู้มากที่สุดในบรรดาผู้อำนวยการทั้งหกคน

 

“แค่มองดูก็รู้แล้วนิ” (บลูน่า)

 

บลูน่าขมวดคิ้วเล็กน้อย และพูดออกมาอย่างเย็นชา เธอเป็นผู้อำนวยการของสถาบันสีน้ำเงิน ราชินีเวทมนตร์บลูน่า ออเรน

เธออายุสี่สิบปี เธอเป็นคนที่เข้มงวดที่สุด และเป็นจอมเวทหญิงที่ประหม่ามากที่สุดด้วย 

ในฐานะผู้ใช้เวทสีน้ำเงินแล้ว เธอเข้ากันไม่ค่อยได้กับเรด้า ทั้งในแง่ของบุคลิกและเวทมนตร์ ดั่งความสัมพันธ์ระหว่างลิงกับสุนัข

 

“นี่เป็นการประชุมของผู้อำนวยการ เกี่ยวกับอนาคตของเมือง พวกเธอทั้งสองคนอย่าเครียดกันเกินไปสิ” (กรินน์)

นั่นคือผู้อำนวยการของสถาบันสีเขียวราชาจอมเวทกรินน์ เอลมิโดริ เขาพูดขึ้นมาเพื่อหยุดทั้งสองคนที่กำลังจ้องมองกันอยู่

เขาอายุห้าสิบเอ็ดปี เขาเป็นชายสูงอายุที่มีหนวดเคราอยู่ที่ปาก

เขาเป็นผู้ใช้เวทสีเขียว และเขายังเป็นคนที่มีสามัญสำนึกมากที่สุดในผู้อำนวยการทั้งหกคน แต่ว่าเขามันจะต้องเสียเวลา ในการทำให้ทุกคนมารวมตัวกันในทุกๆครั้ง อย่างเลี่ยงไม่ได้

 

“โฮะๆๆๆ พวกคนหนุ่มสาวนี่เลือดร้อนกันจริง” (เยลโรอา)

 

เสียงหัวเราะอย่างร่าเริงคือผู้อำนวยการของสถาบันสีเหลือง ราชาจอมเวทเยลโรอา เคเลซี

เขาเป็นชายชราที่มีผมสั้นสีเทา อายุ 85 ปี และเป็นคนที่มีอายุมากที่สุดในนี้

เขาเป็นผู้ใช้เวทสีเหลือที่เก่งกาจ เขาเป็นหนึ่งในผู้นำของเมืองนี้มาหลายปีแล้ว เขานั้นเป็นคนเจ้าเล่ห์ที่พกอุปกรณ์ติดตัวเอาไว้หนึ่งถึงสองชิ้นเสมอ

 

“อรา งั้นท่านเยลโลอาก็ควรมองย้อนกลับไปที่อายุของพวกเขาสักหน่อยนะ? ท่านคิดว่าฉันไม่รู้งั้นเหรอ ที่ท่านพยายามติดต่อกับนักเรียนของฉันนะ?” (ฮไวท์)

 

คนที่หยุดท่านเยลโลอาเอาไว้ก็คือผู้อำนวยการของสถาบันสีขาว นักบุญฮไวท์ อัลชิรอน

เธอเป็นหญิงสาวผมบลอนด์แสนสาว และรอยยิ้มอันน่าดึดดูดของเธอนั้น ว่ากันว่ามีพลังในการเยียวยาอยู่ เธออายุประมาณ 34 ปี และเด็กที่สุดภายในนี้

เธอเป็นจอมเวทสีขาวที่ได้รับการกล่าวขานว่าสามารถฟื้นคืนสภาพผิดปกติของร่างการได้ ดังนั้นจึงมีผู้ป่วยจากทุกมุมโลกอยู่ภายใต้การดูแลของเธอ

 

“….หืม รีบๆหน่อย…เริ่มกันเลย…การประชุม…การวิจัย…ฉันจะสายแล้ว…” (แบร็ก)

 

มีเสียงพึมพำเล็ดลอดออกมาจากผู้อำนวยการของสถาบันสีดำ ราชาแห่งความมืดแบร็ก ลาคุโระ

ถึงแม้เขาจะสูงเกือบสองเมตรก็ตาม แต่เขาก็มีร่างกายบางอย่างกับลวด หน้าตาของเขานั้นไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก เนื่องจากมีผมสีดำสนิทบดปังใบหน้าของเขาเอาไว้อยู่ อายุของเขาจึงไม่เป็นที่แน่ชัด

ในปัจจุบันเขาเป็นผู้ใช้เวทสีดำเพียงคนเดียว แต่เขานั้นไม่ค่อยเป็นที่รู้จักนัก

 

“ถ้าอย่างนั้น เรามาเริ่มกันเลย!” (โนเอล)

 

ชายวัยกลางคนที่มาพร้อมกับรอยยิ้ม ได้ประกาศเริ่มการประชุม

ชื่อของเขาคือโนเอล

เขาเป็นเพียงคนเดียวที่ไม่ใช่ผู้อำนวยการของสถาบัน แต่ว่าเขานั้นเป็นนายกเทศมนตรีที่ดูแลเมืองเวทมนตร์ทั้งหมด

 

เขาเป็นผู้เริ่มประชุม และมักจะเป็นคนที่ไกล่เกลี่ยความขัดแย้งของผู้อำนวยการที่เกิดขึ้น

บางทีเขาอาจจะเป็นเพียงคนเดียวที่สามารถยืนอยู่ต่อหน้าจอมเวทระดับสูงที่รวมตัวกันได้ โดยที่ไม่สะทกสะท้าน

 

“อันดับแรก เกี่ยวกับเรื่องเงินช่วยเหลือ” (โนเอล)

 

ทันทีที่กล่าวออกมา บรรยากาศที่นั่นก็เริ่มเปลี่ยนไป

 

งานประชุมวันนี้นั้นใกล้กับสิ้นปี

นั่นหมายความว่าจำนวนเงินช่วยเหลือของแต่ละสถาบันนั้นจะมีการพูดคุยกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้อำนวยการของแต่ละสถาบันคาดหวังเอาไว้อยู่

นั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมบรรยากาศถึงหนักอึ้งมากขึ้น มากกว่าตอนก่อนเริ่มการประชุม

 

ปัจจุบันนั้นเงินภาษีที่เก็บจากประชาชนมากกว่าครึ่งนั้น จะถูกแจกจ่ายให้กับสถาบัน

เนื่องจากเมืองเวทมนตร์นี้ เป็นเมืองเวทมนตร์แห่งเดียวในโลก ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่จะได้รับการปฏิบัติแบบเป็นพิเศษ แต่ปัญหาคืออัตราส่วนในการแบ่งให้แต่ละสถาบัน

 

ทั้งหกสถาบันนั้น ไม่ได้รับเงินช่วงเหลือเท่ากันทั้งหมด

ความแตกต่างของอาจารย์ นักเรียน และการมีส่วนร่วมในเมือง จึงทำให้มีความต่างเกิดขึ้นอย่างเลี่ยงไม่ได้

 

แน่นอนว่าผู้อำนวยการแต่ละคนต้องการได้รับเงินช่วยเหลือให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

ด้วยเหตุนี้ มันจึงเป็นธรรมเนียมในการการประชุม ที่ผู้อำนวยการจะพูดเกินจริงถึงความสำเร็จของสถาบัน และดูหมิ่นสถาบันอื่นๆ

 

“จริงๆแล้ว ปีนี้นั้นมีเด็กใหม่เข้ามา!” (เรด้า)

 

โนเอลถามเรด้าซึ่งพูดอย่างมีความสุขด้วยเสียงที่ดัง

ท่านเรด้า นักเรียนที่คุณให้ความสนใจนั้นเป็นใครกัน? ผมจะตั้งตารอเจอเขานะครับ (โนเอล)

“ใช่แล้ว! บางทีเขาอาจจะเป็นจอมเวทที่แซงหน้าข้า และเป็นผู้อำนวยการคนถัดไปได้เลย!” (เรด้า)

 

และบลูน่าก็พูดขัดขึ้นมา

 

“มันไม่น่ารำคาญไปหน่อยเหรอ นี่ฉันได้ยินเรื่องแบบนี้มาห้าครั้งแล้วนะ? แต่ว่าน่าเสียดายนะ เพราะว่าเราไม่ได้ยินว่าตอนนี้พวกเขากำลังทำอะไรอยู่กันแน่”

“เธอต้องการสื่ออะไรกันแน่?” (เรด้า)

 

เรด้าตะโกนออกมา แต่ว่าบลูน่าไม่สนใจเขาและพูดต่อ

 

“จริงๆแล้ว ที่สถาบันของฉันนั้น มีอัจฉริยะที่ในอนาคตนั้นเหมาะจะเป็นผู้อำนวยการอยู่ด้วยนะ” (บลูน่า)

“โอว~แม้แต่ที่สถาบันสีน้ำเงินก็ด้วยงั้นเหรอ? นั่นเป็นเรื่องที่ดีมากๆเลยครับ” (โนเอล)

 

หลังจากนั้นกรินน์ก็เริ่มพูดออกมาบ้าง

 

“อืม ความจริงแล้วที่สถาบันของพวกเรา ก็มีนักเรียนคนหนึ่งที่เก่งมากๆอยู่” (กรินน์)

“สถาบันสีเขียวก็ด้วยงั้นเหรอ?” (โนเอล)

 

มันเป็นเรื่องแปลกมาที่กรินน์จะพูดอย่างมั่นใจขนาดนี้ ดังนั้นโนเอลจึงดูประหลาดใจอย่างมาก

 

“โฮะๆๆๆ ความจริงแล้ว แม้แต่สถาบันของข้าก็” (เยลโลอา)

“อรา~ นี่มันเป็นอะไรที่ผิดปกติมาก แม้แต่ในสถาบันของฉันก็เช่นกัน” (ฮไวท์)

 

แม้แต่เยลโลอาและฮไวท์ก็มีข้อความที่คล้ายๆกัน

 

“โอ้วพระเจ้า นี่จะต้องไม่ใช่เรื่องธรรมดาอย่างแน่นอน” (โนเอล)

 

โนเอลพยักหน้าให้กับคำพูดของผู้อำนวยการของแต่ละสถาบัน ราวกับว่าเห็นด้วยกับพวกเขาเหล่านั้น

 

 

ฮัดชิ้ววว!! (อาเรล)

 

อยู่ๆผมก็จามขึ้นมา

หรือว่าจะมีใครบางคนพูดถึงผมอยู่กัน?

 

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด